การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
PP
Verified User
โพสต์: 435
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ พ.ย. 18, 2006 10:34 am | 0 คอมเมนต์
ท่านใดพอทราบแหล่งซื้อหนังสือของ Ben Graham's Security Analysis 1940 edition ในบ้านเราบ้าง โปรดช่วยชี้แนะ เห็นท่าน Warren Buffett พูดว่าเป็น edition ที่ดีที่สุด เคยลองเข้าไปหาใน Amazon.com พบว่ามีเป็นหนังสือมือสอง แต่ปรากฏThailand ไม่อยู่ใน list ที่เขาจัดส่งให้เลยอดสั่ง
ผมมีแต่ classic edition 1934 ที่กำลังพยายามแกะทำความเข้าใจอยู่ ทั้งที่ซื้อมาปีกว่ามีแต่ว่าจะว่าจะอ่าน ไม่ได้อ่านซักที
แรงจูงใจที่ทำให้ผมปัดฝุ่นเอาเล่ม classic นี้มาอ่าน คือ ท่าน Warren บอกว่า Ben Graham เป็นผู้มีอิทธิพลต่อชีวิตของเขาเป็นอันดับ 2 รองจาก คุณพ่อของท่าน อีกประการ คือ คำพูดของ Ben Graham เองที่บอกว่า
Benjamin Graham wrote that he wished every day to do something foolish, something creative, and something generous. Warren Buffett said that Graham excelled most at the last . Undoubtedly, Graham's generosity in sharing his investment philosophy has benefitted generations of stock market participants.
หรือแปลเป็นไทยแบบเข้าใจง่ายๆ คือ เขาปรารถนาจะใช้ชีวิตแต่ละวันโดยทำเรื่องโง่ๆบ้าง ทำสิ่งสร้างสรรบ้าง และบำเพ็ญตนเป็นคนเอิ้อเฟื้อเผื่อแผ่บ้างคละเคล้ากันไป และท่าน Warren บอกว่าทำได้ยอดเยี่ยมในข้อสุดท้าย คือ ความเป็นผู้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read. " Mark Twain
WEB
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1139
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ พ.ย. 18, 2006 1:43 pm | 0 คอมเมนต์
ผมเคยเห็นที่ ASIA BOOK ครับ ไม่แน่ใจว่ายังมีขายหรือเปล่า ตอนหลังเห็นแต่ edition ปี 1951 ครับ พี่ PP ครับ ผมดูใน Amazon เห็นยังมีขายอยู่เลยนี่ครับ
Buffett อาจคิดว่า edition ปี 1940 ดีที่สุดจริงๆครับ เพราะในงาน Annual Meeting มีฉบับปี 1940 ขายเท่านั้น ฉบับปี 1934 และ 1951 ไม่มีขายครับ
แต่ Paul Sonkin อาจารย์ที่ Columbia บอกว่า ฉบับปี 1951 ดีที่สุดครับ
worapong
Verified User
โพสต์: 929
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ พ.ย. 18, 2006 2:01 pm | 0 คอมเมนต์
ถ้าใครอ่านจบทั้งสอง edition แล้วก็เอามาเล่าให้ฟังกันบ้างนะครับ ว่าแต่ละเล่มต่างกันอย่างไรบ้าง เคยอ่านเจอเหมือนกันว่าพวกเซียนนะ เค้าหาเก็บ third edition กัน เค้าบอกว่าเจอแล้วก็ซื้อเก็บได้เลย ไม่ต้องคิดมาก เข้าใจว่าเล่มที่ดีมากๆนั้น แต่งตอนที่ภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่มาก แล้วมุมมองที่แกรแฮมมีต่อตลาดในตอนนั้นแหละที่เค้าลงความเห็นว่าทำให้หนังสือมันมีคุณค่า เอ แล้วคุณเวบจะแปลมาขายบ้างไหมครับเนี่ย แต่อาจไม่คุ้มก็ได้ เพราะหนาเตอะเลย คนซื้อคงน้อยนะครับ นอกจากจะทำเป็นตอนๆ มีภาคหนึ่งภาคสอง แบบแฮรี่ พอตเตอร์นะครับ
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
BHT
Verified User
โพสต์: 1822
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ พ.ย. 18, 2006 2:56 pm | 0 คอมเมนต์
จำไม่ได้ว่าเวอร์ชั่นไหน แต่เห็นที่เอเชีย บุ๊คส์ บางสาขา แล้วก็ บีทูเอส บางสาขา เช่นกัน
ส่วนอ่านฟรี ก็มีไปอ่านได้ที่ห้องสมุดตลาดหลักทรัพย์ เห้นว่างนิ่งๆอยู่ทุกครั้งที่ไป คงหาคนยืมไปอ่านได้น้อยคนมั้ง 55
PP
Verified User
โพสต์: 435
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ พ.ย. 18, 2006 6:35 pm | 0 คอมเมนต์
ba_2l เขียน: Edition นี้ผมเคยเห็นB2Sเอามาลดราคาเหลือเล่มละประมาณ2500บาท ตอนนี้น่าจะยังเหลือครับแต่คงขายราคาเต็ม
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ คุณ ba_2l เดี๋ยวจะให้คนรู้จักที่อยู่กทม ไปหาซื้อมาแกะหาความรู้สักหน่อย
เอ ....ไม่ทราบมีท่านใดที่อ่าน Security Analysis กันบ้างครับ อยากให้มาแชร์ความเข้าใจกันบ้างก็จะดี
edition 1934 ผมอ่านแกะมาค่อนทางแล้ว พอจับทางได้และเพิ่งตาสว่างเกี่ยวกับกับเรื่องการวิเคราะห์งบการเงินและประเมินมูลค่าหุ้นเป็นเรื่องเป็นราวจากหนังสือเล่มนี้นี่เองครับ (เรียกว่า ใกล้เกลือกินด่างแท้ๆ) หลังจากแต่เดิมไปหาอ่านเรื่องการวิเคราะห์งบการเงินจากหนังสือที่เป็นงานแต่งของ pure accountant ทั้งไทย หรือเทศ ทำเอาผมมึนไปหมด จับต้นชนปลายไม่ค่อยจะได้ซักที เพราะเน้นแต่เนื้อๆของเรื่องบัญน้ำบัญชีแบบสุดๆ ไม่ค่อยเห็นภาพ ......แต่ของท่าน Ben Graham ท่านได้นำเอาทฤษฎีมาพูดประกอบกับภาคปฏิบัติที่ท่านคลุกคลีกับ "Wall Street" มาตั้งแต่ปี 1914 เป็นต้นมา เป็นมุมมองการวิเคราะห์งบแบบนักลงทุนจริงๆ ท่านเข้าใจดึงเอาตัวอย่างของบริษัทจริงๆมีตัวมีตนในอเมริกามาพูดแจงประเด็นเป็นระบบที่ดีมากๆ ดึงเอางบดุล งบกำไรขาดทุน ของบริษัทจริงๆมีตัวมีตนในสมัยนั้นมาพูดเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้เห็นภาพคิดตามได้ ถึงว่า ..... สมกับที่ท่าน Warren Buffett บอกว่าอาจารย์ของท่านมีอิทธิพลต่อตัวท่าน และอาจารย์ท่านทำดีที่สุดในเรื่องของความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ปรัชาญาของการลงทุนแก่ผู้คนที่สนใจเรื่องการลงทุนแนว Value investing แบบไม่เลือกชั้นวรรณะจริงๆ ที่ชอบมากๆ คือ ท่านไม่เคยสอนแบบฟันธงต้องเป็นอย่างโน้น อย่างนี้ ท่านเน้นสอนให้ฝึกคิดอย่างมีหลักเกณฑ์ พูดง่ายๆว่าต้องใช้สมองพินิจพิเคราะห์มากหน่อย หลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์ ถ้ารักจะอยู่ใน Wall Street แบบงอกงาม
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read. " Mark Twain
PP
Verified User
โพสต์: 435
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ พ.ย. 18, 2006 6:52 pm | 0 คอมเมนต์
WEB เขียน: ผมเคยเห็นที่ ASIA BOOK ครับ ไม่แน่ใจว่ายังมีขายหรือเปล่า ตอนหลังเห็นแต่ edition ปี 1951 ครับ พี่ PP ครับ ผมดูใน Amazon เห็นยังมีขายอยู่เลยนี่ครับ
Buffett อาจคิดว่า edition ปี 1940 ดีที่สุดจริงๆครับ เพราะในงาน Annual Meeting มีฉบับปี 1940 ขายเท่านั้น ฉบับปี 1934 และ 1951 ไม่มีขายครับ
แต่ Paul Sonkin อาจารย์ที่ Columbia บอกว่า ฉบับปี 1951 ดีที่สุดครับ
ขอบคุณคุณ WEB ที่ชี้ทางครับ เดี๋ยวจะให้คนรู้จักที่ กทม ไปหาดูจาก ASIA book เท่าที่จำได้เลาๆ edition 1940 ท่าน Waren บอกว่ามีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเรื่องการประเมินมูลค่าหุ้นครับ ซึ่งตามแนวทางของท่าน Ben Graham ไม่นิยมการใช้สูตรยุ่งยากยั้วเยี้ย ท่านเน้นแค่อ่านอกเขียนได้ บวก ลบ คูณ หาร ทางคณิตาศาสตร์แบบพื้นๆเป็นพอ เพราะถ้าเข้าสูตรอย่างว่า ท่านลงความเห็นว่าเป็นการแสแสร้งทำเป็นประเมินมูลค่าหุ้นอันจะนำไปสู่การลงทุนแบบคาดเดาเก็งกำไร ไม่เชื่อลองไปอ่าน
THE REDISCOVERED SELECTED WRITINGS OF THE WALL STREET LEGEND
http://www.wiley.com/legacy/products/su ... e/bgraham/
ซึ่งเป็น lecture โดยท่าน Ben Graham เมื่อ September 1946 to February 1947
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read. " Mark Twain
กระทิงแดง
Verified User
โพสต์: 952
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ พ.ย. 18, 2006 7:01 pm | 0 คอมเมนต์
เค้าว่า ถ้าใครอ่าน Security Analysis จบ 3 รอบ...ต้องคบให้ได้ครับ...
:B :B
"The enemy is a very good teacher" Dalai Lama
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
pongo
Verified User
โพสต์: 1075
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ พ.ย. 19, 2006 11:16 pm | 0 คอมเมนต์
วันนี้แวะไปห้องสมุดมารวยมาครับ
มีทั้ง edition 1940 และ 1951 ครับ หนาพอกัน
ลองแวะไปเปิดอ่านดูประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อได้ครับ
Rocker
Verified User
โพสต์: 4526
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 20, 2006 2:54 am | 0 คอมเมนต์
การอ่านหนังสือเยอะๆไม่ได้ประกันความสําเร็จนะครับ
ผมขอถามกลับว่า คุณเคยอ่าน พระไตรปิฎก กันใหม
ส่วนใหญ่จะตอบไม่เคย แล้วทําไมเราถึงเข้าใจ ธรรมะกัน หรือ บางคน อ่านกี่รอบก็ทําไม่ได้
ผมเคยเจอ VI บางคนเก่งมากๆแต่อ่านแค่หนังสือไม่เกิน 7 เล่ม
ซึ่งไม่ใช่หนังสือลงทุนทั้งหมด มีแนวอื่นผสมๆกันไป แต่ อ่านลงทุน
แค่ ตีแตก one up beating essential buffet แต่ลงทุนเก่งมากๆ
สรุปคือ วัดกันที่การประยุกต์ครับ ในหนังจีน เซียนบางคนอ่านตํารา
1-2 ครั้งก็เข้าใจแล้ว บางคนมอง 100 ครั้งก็ยังไม่เข้าใจ :D
PP
Verified User
โพสต์: 435
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 20, 2006 1:36 pm | 0 คอมเมนต์
Rocker เขียน: การอ่านหนังสือเยอะๆไม่ได้ประกันความสําเร็จนะครับ
ผมขอถามกลับว่า คุณเคยอ่าน พระไตรปิฎก กันใหม
ส่วนใหญ่จะตอบไม่เคย แล้วทําไมเราถึงเข้าใจ ธรรมะกัน หรือ บางคน อ่านกี่รอบก็ทําไม่ได้
ผมเคยเจอ VI บางคนเก่งมากๆแต่อ่านแค่หนังสือไม่เกิน 7 เล่ม
ซึ่งไม่ใช่หนังสือลงทุนทั้งหมด มีแนวอื่นผสมๆกันไป แต่ อ่านลงทุน
แค่ ตีแตก one up beating essential buffet แต่ลงทุนเก่งมากๆ
สรุปคือ วัดกันที่การประยุกต์ครับ ในหนังจีน เซียนบางคนอ่านตํารา
1-2 ครั้งก็เข้าใจแล้ว บางคนมอง 100 ครั้งก็ยังไม่เข้าใจ :D
เห็นด้วยและถูกต้องที่สุดครับคุณ Rocker :) ....ที่ว่าอ่านหนังสือเยอะๆไม่ได้รับประกันความสำเร็จในการลงทุนในตลาดหุ้นแก่ทุกคน ถ้าหากไม่ลงมือปฏิบัติลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆโดยมีหลักการเป็นตัวชี้นำ อย่างที่ท่าน Ben Graham บอกไว้ว่า learn to invest by investing จะมานั่งกอดตำราอย่างเดียวไปไม่ถึงไหนแน่ ถ้าไม่อย่างนั้นคนอ่านพระไตรปิฏกจบก็บรรลุอรหันต์กันหมดแล้วทุกคน ในตลาดหุ้นถ้ามันง่ายอย่างในตำราทุกคนก็รวยกันหมด
สำหรับผมอายุค่อนข้างจะมากและหัวช้าหน่อย เลยศึกษามากและลงมือปฏิบัติบ้างพอประมาณ ก็เพื่อความั่นใจแค่นั้นเอง และอย่างน้อยถ้าเลือกหุ้นผิดทั้งที่เเดินตามหลักการก็ยังได้ชื่อว่า ผิดพลาดอย่างชาญฉลาด แค่นี้ก็พอใจแล้วครับ .......จะได้ไม่ต้องฟูมฟาย เคียดแค้นกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เท่ากับว่าศึกษาเพื่อเตรียมใจไว้เผื่อสำหรับความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read. " Mark Twain
BHT
Verified User
โพสต์: 1822
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 20, 2006 1:44 pm | 0 คอมเมนต์
จำได้ว่า นักลงทุนชันนำของโลกคนหนึ่งบอกว่าการลงทุนเป็นเรื่องที่ง่ายแบบว่า พูดอะไรออกไปก็อ๋อได้เลย ถ้าฟังแล้วไม่เข้าใจหรือชัดเจน ก็อย่าไปลงทุน และการคำนวนราคาหุ้น ก็ใช้บวกลบคุณหารง่ายๆ ไม่ต้องเอาไปยกกำลัง ถอดรูท ให้งงเล่น
artvr4
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ พ.ย. 20, 2006 2:19 pm | 0 คอมเมนต์
ขอบคุณคุณ WEB ที่ชี้ทางครับ เดี๋ยวจะให้คนรู้จักที่ กทม ไปหาดูจาก ASIA book เท่าที่จำได้เลาๆ edition 1940 ท่าน Waren บอกว่ามีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเรื่องการประเมินมูลค่าหุ้นครับ ซึ่งตามแนวทางของท่าน Ben Graham ไม่นิยมการใช้สูตรยุ่งยากยั้วเยี้ย ท่านเน้นแค่อ่านอกเขียนได้ บวก ลบ คูณ หาร ทางคณิตาศาสตร์แบบพื้นๆเป็นพอ เพราะถ้าเข้าสูตรอย่างว่า ท่านลงความเห็นว่าเป็นการแสแสร้งทำเป็นประเมินมูลค่าหุ้นอันจะนำไปสู่การลงทุนแบบคาดเดาเก็งกำไร ไม่เชื่อลองไปอ่าน
ตรงนี้ทำซะผมอย่าง ไปหาอ่านดูเหมือนกันครับ เดี๋ยงลองไปที่ห้องสมุดมารวย มาดูผ่านๆก่อน หากว่าดี อาจจะซื้อเก็บไว้สักเล่มนึง
ในมุมมองของผม ผมว่า การคำนวณ เรื่องหลักทรัพย์ ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากซับซ้อนอะไรมากครับ แค่ บวก ลบ คูณ หาร กับ การประยุกต์ อีกเล็กน้อย ความเข้าใจในระบบบัญชี อีกหน่อย ก็เพียงพอแล้วครับ
นักวิเคราะห์สมัยนี้ พยายาม ทำให้มัน ดูยุ่งยากซับซ้อน ผมว่าเพื่อ เป็นการ ทำให้ ตัวเค้ามีราคานะครับ บางที ผมก็ เข้าไม่ถึงความคิดของนักวิเคราะห์เหมือนกัน ว่า ทำไมต้องทำให้มันยุ่งยาก ด้วย
ว่าแล้ว ต้องแวบไปอ่าน หนังสือเล่มใหม่คุณ WEB ต่อ อ่านไปได้ถึงบทที่ 8 แล้ว
kspnwwn
Verified User
โพสต์: 78
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร พ.ย. 21, 2006 9:50 am | 0 คอมเมนต์
[quote="Rocker"]ผมเคยเจอ VI บางคนเก่งมากๆแต่อ่านแค่หนังสือไม่เกิน 7 เล่ม
ซึ่งไม่ใช่หนังสือลงทุนทั้งหมด มีแนวอื่นผสมๆกันไป แต่ อ่านลงทุน
แค่ ตีแตก one up beating
Simply
Verified User
โพสต์: 150
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 9:22 am | 0 คอมเมนต์
พี่PPครับ...ไม่ทราบว่าหนังสือsecurity analysisที่พี่ได้อ่านมาแล้วนั้น...ระดับความยากของภาษาระดับไหนครับ....ผมอยากอ่านแต่กลัวเรื่องความยากของภาษาครับ แต่ที่ข้อความที่พี่บอกว่าอ่านแล้วเห็นภาพได้ชัด โดยไม่ต้องวุ่นวายกับเรื่องบัญชีมากนัก ผมสนใจตรงนี้มากครับ....ความจริงอยากไปหาซื้อมาอ่านเหมือนกัน แต่เห็นราคาแล้ว...ต้องเก็บตังค์ก่อน
.....สำหรับการอ่านมากอ่านน้อยนั้น คงจะวัดอะไรไม่ได้ เพราะปัญญาของคนอ่านต่างกัน พื้นฐานความรู้ก็ต่างกัน ดังนั้นอ่านเล่มเดียวกัน ได้ความรู้มุมมองไม่เหมือนกัน....บางทีอ่านรอบแรกได้มุมมองแบบหนึ่งหลังอ่านรอบสองก็ได้มุมมองเพิ่มมาอีก เหมือนกับที่ว่า อ่านสามก๊กครบสามจบแล้วคบไม่ได้
....คนเราต่างกันครับ พื้นฐานต่างกันโดยเฉพาะนิสัยบุคคลิก...ผมเคยอ่านหนังสือคุณตัน คุณตันบอกว่า เอาแค่มีความมั่นใจสัก80%เขาก็ลุยทำแล้วครับ...ดังนั้นการอ่านมากหรือน้อย ก็เพียงเพื่อมีข้อมูลตัดสินใจ ให้ได้ความมั่นใจมากกว่า เกณฑ์แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน คนที่ชอบเสี่ยงชอบผจญภัยก็อาจต้องการข้อมูลเพียง60-70%ก็ลงมือทำ แต่คนที่เป็นกลุ่มไม่ชอบเสี่ยง-หลีกเลี่ยงความเสียหาย ก็ต้องการข้อมูลถึง90-95%ถึงจะตัดสินใจลงมือทำ...แต่ที่สำคัญ เวลานำไปปฎิบัติ มันเป็นเงินเราอย่างแน่นอน จะขาดทุนก็เงินเรา จะกำไรก็เงินเรา...ก็คงเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอกครับว่า คนอ่านมากหรือน้อยพอทำแล้วใครจะได้ผลตอบแทนดีกว่ากัน....ผลตอบแทนของคนอื่นก็เป็นเพียงมาตรวัดเทียบเคียบเท่านั้น แต่การเทียบวัดกับผลตอบแทนของตัวเองจะทำให้เรามองตัวเองได้ชัดขึ้น....
Margin Of Safety+Intrinsic Value+Mr.Market
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
PP
Verified User
โพสต์: 435
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 10:36 am | 0 คอมเมนต์
Simply เขียน: พี่PPครับ...ไม่ทราบว่าหนังสือsecurity analysisที่พี่ได้อ่านมาแล้วนั้น...ระดับความยากของภาษาระดับไหนครับ....ผมอยากอ่านแต่กลัวเรื่องความยากของภาษาครับ แต่ที่ข้อความที่พี่บอกว่าอ่านแล้วเห็นภาพได้ชัด โดยไม่ต้องวุ่นวายกับเรื่องบัญชีมากนัก ผมสนใจตรงนี้มากครับ....ความจริงอยากไปหาซื้อมาอ่านเหมือนกัน แต่เห็นราคาแล้ว...ต้องเก็บตังค์ก่อน
ถ้ามีพื้นความรู้ภาษาอังกฤษดีระดับหนึ่งก็พอแล้ว .....ผมว่าความยากง่ายของภาษาไม่น่าจะเป็นอุปสรรค ผมเองเจบสัตวแพทย์มาครับ(จบตั้งแต่ปี 2521 โน้น ...นานมากๆ) ไม่มีพื้นความรุ้เรื่องการเงิน บัญชี การลงทุน มาโดยตรงเลยครับ ...แต่เพราะความอยากรู้เลยขวนขวายอาศัยความอึดเป็นเกณฑ์เลยอ่านเข้าใจภาษาอังกฤษได้ จริงๆแล้วผมเปิดดูปีที่ซื้อ Security Analysis 1934 ที่ผมเขียนไว้หลังปก คือปี 2003 (เริ่มสนใจเรื่องหุ้น)....พอได้มาก็ลองตลุยอ่านมาแล้วเกือบครบรอบ(แบบไม่รู่เรื่องบัญชีมาก่อนเลย)เข้าใจพอประมาณ เสร็จแล้วก็พับเก็บไว้ ...ฝุ่นเริ่มเกาะ
จากนั้นเมื่อไม่นานมานี้หลังจาก.. อ่านโน่นอ่านนี่เรื่อยๆไปและพบคำพูดของ Warren Buffett ที่บอกว่าอาจารย์ Ben Graham ของท่านเป็นคนเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ที่สุดเลยที่เปิดเผยกลยุทธวิธีการวิเคราะห์หุ้นเพื่อลงทุนแบบเสี่ยงน้อยที่สุด เพราะความอยากรู้ว่าความเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ของ Ben Graham มันเป็นอย่างไง.....จึงเป็นแรงจูงใจให้ผมกลับมาอ่านรอบที่สองเมื่อไม่นานมานี้อีก การอ่านรอบนี้พกความตั้งใจมาเต็มร้อย อาจเกินร้อยด้วยซ้ำ (ประกอบกับพอรู้งูๆปลาๆเรื่องบัญชีจากหนังสือไทยที่พูดกันในเวบนี้แหละ และเทศบ้างจากเวบต่างประเทศ) ...........สรุปแล้วตามความเห็นของผมนะ Warren Buffett พูดถูก เพราะ Ben Graham ละเอียดละออมากในเรื่องของการวิเคราะห์งบการเงินของบริษัทต่างๆในปี พ.ศ. ช่วงนั้น หลักการต่างๆในการวิเคราะห์งบการเงินบริษัทต่างๆที่ท่าน Ben ยกขึ้นมาพูด ข้อดี ข้อด้อย จุดอ่อน จุดแข็ง ท่านยกตัวอย่างงบการเงินที่เกิดขึ้นจริงๆของบริษัทเหล่านั้นมาเป็นตัวอ้างอิงอย่างมีเหตุมีผล ปราศจากการหยิบเอาก้อนเมฆบนท้องฟ้ามาพูดโดยเด็ดขาด ผมถึงบอกว่าทำให้เห็นภาพดีตามที่ท่านอธิบาย (หนังสือบัญชีในบ้านเรามีแต่ยกเอาบริษัทตุ๊กตา(dummy)เป็นที่ตั้ง พูดลวกๆวกไปวนมา ...ที่สำคัญมุมมองต่องบการเงินของนักบัญชีล้วนๆ ..แตกต่างจากมุมมองของท่าน Ben Graham ซึ่งเป็นนักลงทุนในหลายประเด็นครับ .... ต้องลองไปศึกษาดูครับ...แล้วจะเห็นความแตกต่างๆดังกล่าว) ท่านเก็บข้อมูลงบการเงินของบริษัทต่างๆที่ยกมาอ้างอิง เรียกว่า เป็น 5 ปี บ้าง 10 ปีบ้าง แล้วมาแจงเป็นฉากๆ ผมว่ามันไม่ล้าสมัย ..... อยู่ที่ใจของเรามันอยากรู้หรือเปล่า ....ถ้าอยากจริงๆนะ(หรือที่เขาเรียกว่า passion นั่นแหละ) ...อะไรๆก็ไม่ยากหรอกครับคุณ Simply
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read. " Mark Twain
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 11:36 am | 0 คอมเมนต์
เค้าว่า ถ้าใครอ่าน Security Analysis จบ 3 รอบ...ต้องคบให้ได้ครับ...
สามก๊กหรือเปล่าครับหนังือ
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 9:28 am | 0 คอมเมนต์
ใน ebay กับ amazon มีเพียบเลยนีครับ ทำไมไม่ส่งเมืองไทยหว่า...
ebay หนังสือ 50-70 USD รวมค่าส่ง เกือบๆ 100 USD
amazon ถูกกว่า หนังสือสัก 40 USD เอง ยังไม่รวมค่าส่ง