ผลตอบแทนจากการลงทุน(ROI) หายังไงเหรอครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนจากการลงทุน(ROI) หายังไงเหรอครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ถ้าเราอยากจะรู้ว่าในปีที่ผ่านๆ มาบริษัทนำเงินไปลงทุน ซื้อเครื่องจักร สร้างโรงงานต่างๆ แล้วจะรู้ได้อย่างไรครับว่าที่ทำไปให้ผลตอบแทนคุมค่า เราสามารถดูจากงบการเงินได้หรือไม่ครับ
อองตวน
Verified User
โพสต์: 320
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนจากการลงทุน(ROI) หายังไงเหรอครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

roi จัดเป็น return ratio แสดงในรูปเปอร์เซนต์
returon on investment -roi ใช้วัดมูลค่าเปรียบเทียบ ระหว่าง ผลประโยชน์สุทธิที่ได้รับจากการลงทุนในช่วงเวลาที่ศึกษา ต่อ มูลค่าลงทุน

สมมติ กู้เงินซื้อเครื่องจักรใหม่ 1 ตัว ลองหาผลตอบแทนการลงทุนแต่ละปี
(รายได้-ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเครื่องจักรใหม่+ผลประโยชน์ทางภาษีจากดอกเบี้ยจ่าย) / บุ๊คแวลูของเครื่องจักร
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนจากการลงทุน(ROI) หายังไงเหรอครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณครับ คุณอองตวน

เท่าที่ผมดูจากสูตร
รายได้-ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากเครื่องจักรใหม่+ผลประโยชน์ทางภาษีจากดอกเบี้ยจ่าย) / บุ๊คแวลูของเครื่องจักร
ผมมีปัญหาว่าเราสามารถหาค่าพวกนี้ได้ยังไงอะครับ เพราะเท่าที่ดูส่วนมากในงบการเงินมันจะรวมเครื่องจักรใหม่กะเก่าด้วยกัน รายได้ก็ไม่ได้แยกให้ดูด้วย พอดีผมกำลังดู SPPT อยู่อะครับ บริษัทบอกมีการลงทุนซื้อเครื่องจักร 100 ลบ. ยังงี้เราจะรู้ได้ยังไงว่าเค้าซื้อเครื่องจักรมาแล้วใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า หรือแบบ Hmpro ที่เค้าทำการเพิ่มทุนหุ้นละ 1 บาท ยังงี้เราจะดูยังไงเหรอครับว่าที่เค้าขอเงินเราไปลงทุนแล้วมันจะก่อดอกก่อผลยังไงบ้าง

ที่พูดมาก็คือ สำหรับนักลงทุนรายย่อยอยากเราๆ จะสามารถตรวจสอบได้อย่างไรนะครับว่าเงินที่เราให้เค้าไปลงทุนนั้น คุ้มค่าหรือเอาไปละลาย margin เล่นอะครับ

ขอบคุณครับ
อองตวน
Verified User
โพสต์: 320
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนจากการลงทุน(ROI) หายังไงเหรอครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

คิดว่ามันเป็นรายละเอียดเกินไปที่จะแสดงในงบ
คาดว่า บริษัทที่ดี ย่อมได้ศึกษาโครงการก่อนแล้ว และแน่ใจว่า โครงการใหม่ช่วยเพิ่ม economic value ให้องค์กรได้
เมื่อดำเนินการจริง ส่วน accounting management คงตามศึกษาตัวเลขต่อ เพื่อการบริหารหน่วยธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ

ทางอ้อมในการติดตามผลงาน อาจใช้การดูที่ยอดขาย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเริ่มต้น กระแสเงินสดรับ กับ เงินจ่ายลงทุนโครงการน่าจะมี 'lag time' และช่วงปีแรกการใช้กำลังการผลิตคงไม่ 100% เพราะการลงทุนแต่ละครั้งคงเผื่อดีมานด์ในอนาคตไว้ด้วย

ผมคิดว่า ช่วงเวลาที่เป็นรอบการลงทุนของบริษัท กำลังจะเป็นช่วงที่บริษัทแสดงผลงานทางบัญชีที่ชะลอตัวลง เพื่อกลับมาค่อยๆเติบโตอีกครั้งในระยะถัดไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนจากการลงทุน(ROI) หายังไงเหรอครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณ คุณอองตวนนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Coca-Cola
Verified User
โพสต์: 326
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนจากการลงทุน(ROI) หายังไงเหรอครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

อองตวน เขียน:คิดว่ามันเป็นรายละเอียดเกินไปที่จะแสดงในงบ
คาดว่า บริษัทที่ดี ย่อมได้ศึกษาโครงการก่อนแล้ว และแน่ใจว่า โครงการใหม่ช่วยเพิ่ม economic value ให้องค์กรได้
เมื่อดำเนินการจริง ส่วน accounting management คงตามศึกษาตัวเลขต่อ เพื่อการบริหารหน่วยธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ

ทางอ้อมในการติดตามผลงาน อาจใช้การดูที่ยอดขาย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเริ่มต้น กระแสเงินสดรับ กับ เงินจ่ายลงทุนโครงการน่าจะมี 'lag time' และช่วงปีแรกการใช้กำลังการผลิตคงไม่ 100% เพราะการลงทุนแต่ละครั้งคงเผื่อดีมานด์ในอนาคตไว้ด้วย
ผมคิดว่า ช่วงเวลาที่เป็นรอบการลงทุนของบริษัท กำลังจะเป็นช่วงที่บริษัทแสดงผลงานทางบัญชีที่ชะลอตัวลง เพื่อกลับมาค่อยๆเติบโตอีกครั้งในระยะถัดไป
เป็นคำตอบที่ดีมากเลยครับ ผมชอบมากๆ ยิ่งภายหลังการเพิ่มทุนแล้ว อัตราส่วนการทำกำไรลดลงก็ยิ่งชอบ เพราะบางคนก็ลืมตรวจสอบอดีตว่า เมื่อไม่นานพิ่งได้เพิ่มทุนไป และมีกำลังที่รอรับการผลิตในอนาคตอยู่...ยังไม่ถูกใช้เต็มกำลังการผลิต ดังนั้นบางคนที่ไม่รู้คงร่วมกันทำให้หุ้นมีราคาซื้อขายที่ต่ำลง และทำให้ผมได้จังหวะการซื้อเข้าเก็บในพอร์ต ก่อนที่มูลค่าแท้จริงจะแสดงออกมา
CI(Celebrity Investment) <----- oh! My GOD ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Coca-Cola
Verified User
โพสต์: 326
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนจากการลงทุน(ROI) หายังไงเหรอครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

แต่คราวนี้ ผมสงสัยหุ้น Hmpro ว่าการระดมทุน ในครั้งนี้ จะมีการพักเงินบางส่วนเพื่อรอลงทุนในอนาคตหรือไม่ เพราะว่า Hmpro คือธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายผ่านร้านค้า ไม่ใช่การผลิตผลิตภัณฑ์ ดังนั้นการขยายธุรกิจ จึงไม่ใช่การสร้างโรงงาน ซื้อเครื่องจักร แต่คือการเพิ่มสาขา และไม่ใช่ว่าการเพิ่มสาขา จะมีการก่อสร้างขึ้นพร้อมกัน ต้องทยอยสร้างที่ละสาขา อาจใช้เวลาใกล้กัน หรือห่างกันก็แล้วแต่

ผมมองว่าการสร้างสาขาขึ้นใหม่ ย่อมทำให้ต้องเกิดการทุ่มเทบริหาร หรือสร้างช่องทางการสื่อสารให้สาขาใหม่ในแต่ละพื้นที่นั้น และสาขาในแต่ละพื้นที่จะเกิดได้ ก็ต้องผ่านหนทางที่ยากลำบาก ดังนั้นหากสร้างสาขาพร้อมกัน การระดมมันสมองให้แต่ละสาขาเพื่อแจ้งเกิด คงรวนแน่ๆ เหมือนจับปลาสองมือในเวลาเดียวกัน

ผมจึงคิดว่า การระดมทุนครั้งนี้
++คงมีเงินส่วนหนึ่งทึ่ถูกนำไปใช้ลงทุนทันทีในสาขาที่กำลังจะสร้าง หรือลงทุนในองค์กรที่บริหารสาขาเหล่านั้น
++อีกส่วนหนึ่งอาจนำไปใช้หนี้(แต่ของ Hmpro คงไม่มี)
++และอีกส่วนหนึ่งถูกพักไว้เพื่อรอการลงทุนในสาขาที่กำลังรอสำรวจในอนาคต... ซึ่งเงินที่พักไว้ จะถูกพักไว้ที่ไหน.....  พักไว้ใน ธนาคาร ธุรกรรมทางบการเงิน หรือหุ้น

อีกคำถามครับ สัดส่วนการลงทุนของที่ดินกับตัวอาคาร เป็นเท่าไรครับ สำหรับพื้นที่นอกกรุงเทพในแต่ละสาขา และ Hmpro ไปตั้งที่ไหน จะมีโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินนั้นมั๊ยครับ หมายถึงว่า จะคล้ายกับ มาบุญครอง เดอะมอลล์ หรือเซ็นทรัล ที่เมื่อไปก่อสร้างที่ใดแล้ว จะเป็นตัวขับเคลื่อนมูลค่าเพิ่มของที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์ให้กับพื้นที่ในรอบรัศมีนั้นๆ และเป็นตัวก่อเกิดชุมชนที่อยู่อาศัย หรือเขตเศรษฐกิจ อย่างมีนัยสำคัญ

อีกคำถามครับ Hours Brand ของ Hmpro เป็นสินค้าที่จ้างผลิตใช่ไหมครับ ไม่ได้ว่ามีบริษัทลูกใดๆ เป็นผู้ผลิตให้ใช่ไหมครับ

หากจ้างผลิต แล้วทาง Hmpro น่าจะมีนโยบายการผลิตเอง โดยการสร้างไลน์มาเป็นบริษัทลูกให้ผลิตให้แทนไหมครับ เพราะจากข่าว ก็เห็นว่ามีนโยบายการเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ในอนาคต ซึ่งหากมีบริษัทลูก และในอนาตคตยอดขายเติบโตขึ้น ก็น่าจะควบคุมต้นทุนได้ดีกว่า
CI(Celebrity Investment) <----- oh! My GOD ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
อองตวน
Verified User
โพสต์: 320
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนจากการลงทุน(ROI) หายังไงเหรอครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

จาก ROI ไหงกลายเป็น hmpro

ผมไม่ได้ติดตามอย่างละเอียด คงตอบได้แค่ภาพใหญ่นะครับ

สืบเนื่องจากบริษัทได้ขยายสาขาครอบคลุม กทม. และ ปริมณฑล ทั่วพื้นที่แล้ว จึงบังคับกลายๆให้เน้าเป้าหมายตลาดต่างจังหวัด รูปแบบเป็นการขอแบ่งเช่าพื้นที่จาก discount store เดิม หรือจังหวัดไหนไม่มีก็ลงทุนสร้างเอง
ซึ่งแบบหลังมีผลให้ขยายได้ช้า ขยายได้น้อย และขาดเงินทุน

การที discount store ถูกยับยั้งการขยายสาขาใหม่จึงเป็นอุปสรรคโดยอ้อมต่อ growth stock ที่อาศํยการเพิ่มจำนวนสาขาอย่าง hmpro เช่นกัน

ด้านการตลาด คนตจว.มีแนวโน้มการใช้ชีวิตทันสมัยเช่นคนกรุง ตลาดซื้อผ่อนใหญ่กว่าซื้อสด พวกสินเชื่อบุคคลก็บุกกระจายในหัวเมืองใหญ่อยู่แล้ว ระดับความมั่นใจผู้บริโภคเป็นตัวแปรการตัดสินใจซื้อ

คุณ cola ลองชั่งน้ำหนักข้อดี ข้อเสีย ดูเองนะครับ และพยายามเช็คผลดำเนินงาน ว่าบริษัทจะยังรักษาระดับเติบโตได้เท่ากับที่ตลาดได้คาดหวังหรือเปล่า
โพสต์โพสต์