กฎทองของ Tao Zhugong
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
กฎทองของ Tao Zhugong
โพสต์ที่ 1
พอดีเพิ่งได้อ่านหนังสือการ์ตูนจีนเรื่อง กฏทองของ Tao Zhugong คิดว่าน่าจะเอามาใช้กับหุ้นได้เลยเอามาฝาก
Zhugong นี่เป็นข้าราชการของแคว้น Yue ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของแคว้น Wu สมัยยุคก่อนจิ๋นซี Zhugong ช่วยเจ้าแคว้น Yue วางแผนจนได้เอกราชคืนจาก Wu แถมยังไปตี Wu จนได้ชัยชนะอีกด้วย
แต่พอ Yue เป็นเอกราชแล้ว Zhugong ก็รีบหนีออกจากราชสำนัก เพราะรู้ตัวว่าหมดประโยชน์แล้ว "เสร็จนา ฆ่าโคทึก" บรรดาเพื่อนข้าราชการของ Zhugong ที่ยังอยู่ต่อเพราะหวังจะได้บูนบำเน็ญ ก็ถูกเจ้าแคว้น Yue ผู้มีใจคับแคบประหารในเวลาต่อมา
Zhugong หนีไปอยู่แคว้น Qi เปลี่ยนชื่อแซ่เสียใหม่แล้วเริ่มยึดอาชีพเป็นพ่อค้า ความที่เป็นคนมีปัญญาทำให้ร่ำรวยอย่างรวดเร็ว เจ้าแคว้น Qi ได้ยินเกียรติศัพท์ เลยมาเชิญไปเป็นกุนซือ Zhugong ก็เลยหนีไปอยู่เมือง Dingtao เริ่มต้นชีวิตใหม่ ภายในเวลาไม่นาน Zhugong ก็กลายเป็นเศรษฐี (อีกแล้ว)
กฏข้อนึ่งบอกว่า don't work against business cycle เวลาสินค้าตัวไหนถึงจุดสูงสุดของวัฏจักรแล้วกำลังจะเริ่มลง เขาบอกว่าให้รีบขายทิ้งออกไปให้เร็วที่สุดโดยไม่ต้องสนใจว่ากำไรหรือขาดทุนเท่าไร อย่าเสียดาย ผมว่าเป็นข้อดีที่เอามาใช้กับการเล่นหุ้นวัฏจักรได้
กฏอีกข้อนึ่งบอกว่า don't give in to herd instinct คือให้ห้ามใจตัวเองไม่ให้กระโดดเข้าไปในธุรกิจที่ทุกคนกำลังแห่กันเข้าไปทำ (กฏข้อนี้ไม่ได้แย้งกับข้อข้างบนนะ ข้อข้างบนบอกว่าอย่าฝืน consumer demand แต่ข้อนี้บอกว่า อย่าแห่ตาม supply)
กฏอีกข้อบอกว่า don't overbuy on credit เพราะฐานะการเงินที่ไม่แข็งแกร่งเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งที่เรามองไม่เห็น
อีกข้อบอกว่า don't under save อีกนี้บอกว่าควรมีเงินสดส่วนหนึ่งไว้เสมอ เพราะเมื่อใดที่โอกาสมาถึง เราจะได้สามารถคว้าโอกาสนั้นได้
ไม่เลวครับ
Tao Zhugong ได้เขียนตำราชื่อกฏทองของการทำการค้า 18 ข้อ ซึ่งได้รับการสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน
Zhugong นี่เป็นข้าราชการของแคว้น Yue ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของแคว้น Wu สมัยยุคก่อนจิ๋นซี Zhugong ช่วยเจ้าแคว้น Yue วางแผนจนได้เอกราชคืนจาก Wu แถมยังไปตี Wu จนได้ชัยชนะอีกด้วย
แต่พอ Yue เป็นเอกราชแล้ว Zhugong ก็รีบหนีออกจากราชสำนัก เพราะรู้ตัวว่าหมดประโยชน์แล้ว "เสร็จนา ฆ่าโคทึก" บรรดาเพื่อนข้าราชการของ Zhugong ที่ยังอยู่ต่อเพราะหวังจะได้บูนบำเน็ญ ก็ถูกเจ้าแคว้น Yue ผู้มีใจคับแคบประหารในเวลาต่อมา
Zhugong หนีไปอยู่แคว้น Qi เปลี่ยนชื่อแซ่เสียใหม่แล้วเริ่มยึดอาชีพเป็นพ่อค้า ความที่เป็นคนมีปัญญาทำให้ร่ำรวยอย่างรวดเร็ว เจ้าแคว้น Qi ได้ยินเกียรติศัพท์ เลยมาเชิญไปเป็นกุนซือ Zhugong ก็เลยหนีไปอยู่เมือง Dingtao เริ่มต้นชีวิตใหม่ ภายในเวลาไม่นาน Zhugong ก็กลายเป็นเศรษฐี (อีกแล้ว)
กฏข้อนึ่งบอกว่า don't work against business cycle เวลาสินค้าตัวไหนถึงจุดสูงสุดของวัฏจักรแล้วกำลังจะเริ่มลง เขาบอกว่าให้รีบขายทิ้งออกไปให้เร็วที่สุดโดยไม่ต้องสนใจว่ากำไรหรือขาดทุนเท่าไร อย่าเสียดาย ผมว่าเป็นข้อดีที่เอามาใช้กับการเล่นหุ้นวัฏจักรได้
กฏอีกข้อนึ่งบอกว่า don't give in to herd instinct คือให้ห้ามใจตัวเองไม่ให้กระโดดเข้าไปในธุรกิจที่ทุกคนกำลังแห่กันเข้าไปทำ (กฏข้อนี้ไม่ได้แย้งกับข้อข้างบนนะ ข้อข้างบนบอกว่าอย่าฝืน consumer demand แต่ข้อนี้บอกว่า อย่าแห่ตาม supply)
กฏอีกข้อบอกว่า don't overbuy on credit เพราะฐานะการเงินที่ไม่แข็งแกร่งเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งที่เรามองไม่เห็น
อีกข้อบอกว่า don't under save อีกนี้บอกว่าควรมีเงินสดส่วนหนึ่งไว้เสมอ เพราะเมื่อใดที่โอกาสมาถึง เราจะได้สามารถคว้าโอกาสนั้นได้
ไม่เลวครับ
Tao Zhugong ได้เขียนตำราชื่อกฏทองของการทำการค้า 18 ข้อ ซึ่งได้รับการสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
กฎทองของ Tao Zhugong
โพสต์ที่ 5
[quote="สามัญชน"]น่าสงสาร Zhugong เหมือนกันนะครับต้องระหกระเหินตลอดชีวิต
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
กฎทองของ Tao Zhugong
โพสต์ที่ 8
คุณ CK wrote:
บัติมาสู่ตนเองก็ได้
แล้วอีกอย่างการได้ใช้ชีวิต โดยเราเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง อาจเป็นความ
สุข ที่สุดแล้วก็ได้
ตัวอย่างเช่น ซางหยาง เสนาบดีคนสำคัญที่ช่วยเจ้าแคว้นฉิน
สร้างระบบระเบียบในการปกครอง รัฐศาสตร์ รวมถึงการทหาร
ทำให้แคว้นฉินขึ้นมาเป็นมหาอำนาจในยุค เลียดก๊ก จนท้ายที่สุดก็
เป็นแคว้นฉินที่รวมทุกแคว้นจนสถาปนาราชวงศ์ฉินปกครองประเทศจีนได้
ในที่สุด ส่วนตัวซางหยางเองกลับต้องมาพบจุดจบที่น่าเศร้า
ถึงว่า ทุกข์ สุข ลาภ ยศ สรรเสริญ ผ่านมา แล้ว ผ่านไป
ทิ้งไว้เพียง ความอาลัย หรือ สาปแช่ง จากผู้คน
คนยุคก่อนบางคน อาจไม่ยึดติดกับลาภยศเพราะวันหนึ่งอาจนำมาซึ่งภัยเขาอาจจะชอบเร่ร่อนไปเรื่อยๆ ก็ได้ครับ
อาจจะคิดว่า คนที่อยู่แต่ที่เดิมตลอดชีวิต
ช่างน่าสงสารเสียจริง
บัติมาสู่ตนเองก็ได้
แล้วอีกอย่างการได้ใช้ชีวิต โดยเราเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง อาจเป็นความ
สุข ที่สุดแล้วก็ได้
ตัวอย่างเช่น ซางหยาง เสนาบดีคนสำคัญที่ช่วยเจ้าแคว้นฉิน
สร้างระบบระเบียบในการปกครอง รัฐศาสตร์ รวมถึงการทหาร
ทำให้แคว้นฉินขึ้นมาเป็นมหาอำนาจในยุค เลียดก๊ก จนท้ายที่สุดก็
เป็นแคว้นฉินที่รวมทุกแคว้นจนสถาปนาราชวงศ์ฉินปกครองประเทศจีนได้
ในที่สุด ส่วนตัวซางหยางเองกลับต้องมาพบจุดจบที่น่าเศร้า
ถึงว่า ทุกข์ สุข ลาภ ยศ สรรเสริญ ผ่านมา แล้ว ผ่านไป
ทิ้งไว้เพียง ความอาลัย หรือ สาปแช่ง จากผู้คน
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
กฎทองของ Tao Zhugong
โพสต์ที่ 9
เคยคิดเหมือนกันเวลาดูหนังจีนว่าการเป็นขุนนางในราชสำนักนี่ความเสี่ยงสูงมาก เพราะวันดีคืนดีในท้องพระโรงฮ่องเต้เกิดอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาพูดไม่เข้าหูอาจโดนจับตัดหัวได้ง่ายๆ เลย เป็นชาวบ้านธรรมดาน่าจะปลอดภัยกว่า
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
กฎทองของ Tao Zhugong
โพสต์ที่ 10
กฏข้ออื่นๆ ก็ไม่มีอะไรครับเป็นหลักการพื้นฐานทั่วไป ผมซื้อหนังสือเล่มนี้มาจากศูนย์หนังสือจุฬา เป็นหนังสือนำเข้าBelffet เขียน:อยากศึกษากฎ 18 ข้อของเขาครับ
ไม่ทราบว่าจะหาอ่านที่ไหนได้ครับท่านสุมาอี้
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
กฎทองของ Tao Zhugong
โพสต์ที่ 11
ผมมีแผ่นพิมพ์บัญญัติการค้าอยู่ จำไม่ได้ว่าเป็นเถาจูกง หรือเปล่า แต่คิดว่าน่าจะใช่
แต่เก็บไว้อีกที่หนึ่ง ถ้ามีโอกาสจะเอามาให้ดูครับ
ค้นเรื่องเถาจูกง เจอเรื่องน่าสนใจ
เมื่อ 2,500 ปีก่อน ในยุค "ชุนชิว" แห่งประวัติศาสตร์จีน มีนักธุรกิจและนักการเมืองจีนคนดังชื่อ เถาจูกง ซึ่งคนรุ่นหลังยกย่องว่าเป็น "บรรพบุรุษแห่งนักธุรกิจจีน"
ครั้งหนึ่งบุตรชายคนที่สองของเถาจูกงถูกจับติดคุกอยู่ที่รัฐฉู่ในข้อหาฆ่าคนตาย เถาจูกงผู้เป็นบิดา จึงตัดสินใจส่งบุตรชายคนที่สาม ไปเจรจาเพื่อขอชีวิตไว้ เมื่อบุตรชายคนโตได้ยินว่าพ่อสั่งน้องคนเล็ก ไปทำหน้าที่จึงเรียกร้องกับเถาจูกงว่า หน้าที่ดังกล่าวควรตกเป็นของตนเพื่อศักดิ์ศรี พร้อมกับขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย หากบิดาไม่ยินยอม เถาจูกงจึงสั่งให้บุตรคนโตนำเงินจำนวนหนึ่งไปให้เพื่อนตนที่รัฐฉู่ ชื่อ จวง เซิง พร้อมทั้งกำชับว่าให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของขุนนางผู้นี้อย่างเคร่งครัด
เมื่อบุตรชายคนโตไปพบจวง เซิง ก็สังเกตว่า "เพื่อน" ของบิดาผู้นี้ไม่ส่อเค้าเลยว่าจะเป็นผู้ทรงอิทธิพล หรือมีตำแหน่งใหญ่โตแต่ประการใด จึงสงสัยแต่เริ่มแรกในความสามารถที่จะช่วยน้องรองได้ ดังนั้นแทนที่จะทำตามสิ่งที่จวง เซิง เสนอแนะ คือให้กลับไปรอฟังข่าวที่โรงเตี๊ยม บุตรคนโตผู้นี้กลับตัดสินใจไปติดต่อขอความช่วยเหลือจากขุนนางผู้ใหญ่คนอื่นด้วย โดยหารู้ไม่ว่าแม้จวง เซิง จะดูเสมือนไม่มีฐานะทางการเงิน หรือตำแหน่งใหญ่โตแต่ประการใด แต่โดยที่เขามีกิตติศัพท์เป็นคนซื่อตรง เจ้าเมืองรัฐฉู่จึงให้ความเคารพ และยกย่องเป็นพิเศษ ฉะนั้น จวง เซิง จึงอยู่ในฐานะที่จะเจรจาโน้มน้าวเจ้าเมืองได้
จวง เซิง ทูลต่อเจ้าเมืองว่า "ระยะนี้ดาวพระเสาร์เข้าแทรกทำให้ชะตาเมืองของรัฐฉู่ไม่แจ่มใส ดังนั้นเจ้าเมืองจึงควรแก้เคล็ด โดยแสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ เพื่อช่วยให้รัฐ และประชาชนของพระองค์รอดพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ" เจ้าเมืองรัฐฉู่จึงประกาศนิรโทษกรรมทั่วไปครั้งใหญ่
เมื่อพี่ชายคนโตทราบข่าว ซึ่งน้องรองที่ติดอยู่ในแดนประหาร ก็คงจะได้อานิสงส์ถูกปล่อยออกจากคุกด้วย จึงเกิดนึกเสียดายเงินที่บิดาได้ให้เขานำไปกำนัลกับจวง เซิง เลยรีบไปหาจวง เซิง เพื่อขอทวงเงินก้อนนั้นคืน
จวง เซิง รู้สึกเสมือนถูกลบหลู่ จึงโกรธแค้นและไปทูลเจ้าเมืองรัฐฉู่ว่า "ข้าฯทราบมาว่าลูกชายของเถาจูกงติดคุกอยู่ และขณะนี้ข้างนอกมีการเล่าลือกันว่า เถาจูกงได้ติดสินบนขุนนางผู้ใหญ่ ซึ่งเกรงว่าข่าวลือนี้จะกระทบต่อชื่อเสียงของท่าน"
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจ้าเมืองรัฐฉู่จึงรับข้อเสนอแนะของจวง เซิง โดยประหารลูกชายเถาจูกงก่อน แล้วจึงประกาศนิรโทษกรรม
ในที่สุดบุตรชายคนโตจึงได้แค่ร่างอันไร้วิญญาณของน้องชายกลับไปฝังที่บ้านเกิด เมื่อเถาจูกงทราบเรื่อง จึงเศร้าสลดเสียใจอย่างสุดซึ้ง พร้อมกับสารภาพว่า "ตระหนักแต่แรกแล้วว่า ลูกชายคนโตมีสิทธิฆ่าน้องเขาทั้งๆ ที่รักน้องมาก แต่ทว่าตั้งแต่เล็กลูกชายคนโตคนนี้ ช่วยข้าฯทำธุรกิจ รู้ว่าเงินทองไม่ใช่หามาง่ายๆ จึงเกิดเสียดายเงินทองขึ้นมา ตรงกันข้ามลูกคนเล็กเติบโตในกองเงินกองทองแต่เยาว์วัย จึงไม่ตื่นเต้นกับทรัพย์สมบัติจนเกินไป เดิมทีข้าฯ ตั้งใจจะส่งลูกคนเล็ก ไปทำเรื่องนี้ เนื่องจากตระหนักได้ว่าเขากล้าได้กล้าเสีย แต่สุดท้ายก็จำต้องยอมให้ลูกคนโตไปแทน เพราะทนการวิงวอนไม่ไหว ซึ่งเท่ากับส่งคนไม่ถูกประเภทไปทำงาน จึงเกิดความเสียหาย..."
เรื่องนี้จึงมีคติสอนใจว่า "ผู้ฉลาดย่อมรู้จักคนและใช้คนเป็น" แม้แต่นักธุรกิจที่เคยประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างเถาจูกง ก็ยังมิวายทำผิดพลาดใหญ่หลวงเช่นนี้
แต่เก็บไว้อีกที่หนึ่ง ถ้ามีโอกาสจะเอามาให้ดูครับ
ค้นเรื่องเถาจูกง เจอเรื่องน่าสนใจ
เมื่อ 2,500 ปีก่อน ในยุค "ชุนชิว" แห่งประวัติศาสตร์จีน มีนักธุรกิจและนักการเมืองจีนคนดังชื่อ เถาจูกง ซึ่งคนรุ่นหลังยกย่องว่าเป็น "บรรพบุรุษแห่งนักธุรกิจจีน"
ครั้งหนึ่งบุตรชายคนที่สองของเถาจูกงถูกจับติดคุกอยู่ที่รัฐฉู่ในข้อหาฆ่าคนตาย เถาจูกงผู้เป็นบิดา จึงตัดสินใจส่งบุตรชายคนที่สาม ไปเจรจาเพื่อขอชีวิตไว้ เมื่อบุตรชายคนโตได้ยินว่าพ่อสั่งน้องคนเล็ก ไปทำหน้าที่จึงเรียกร้องกับเถาจูกงว่า หน้าที่ดังกล่าวควรตกเป็นของตนเพื่อศักดิ์ศรี พร้อมกับขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย หากบิดาไม่ยินยอม เถาจูกงจึงสั่งให้บุตรคนโตนำเงินจำนวนหนึ่งไปให้เพื่อนตนที่รัฐฉู่ ชื่อ จวง เซิง พร้อมทั้งกำชับว่าให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของขุนนางผู้นี้อย่างเคร่งครัด
เมื่อบุตรชายคนโตไปพบจวง เซิง ก็สังเกตว่า "เพื่อน" ของบิดาผู้นี้ไม่ส่อเค้าเลยว่าจะเป็นผู้ทรงอิทธิพล หรือมีตำแหน่งใหญ่โตแต่ประการใด จึงสงสัยแต่เริ่มแรกในความสามารถที่จะช่วยน้องรองได้ ดังนั้นแทนที่จะทำตามสิ่งที่จวง เซิง เสนอแนะ คือให้กลับไปรอฟังข่าวที่โรงเตี๊ยม บุตรคนโตผู้นี้กลับตัดสินใจไปติดต่อขอความช่วยเหลือจากขุนนางผู้ใหญ่คนอื่นด้วย โดยหารู้ไม่ว่าแม้จวง เซิง จะดูเสมือนไม่มีฐานะทางการเงิน หรือตำแหน่งใหญ่โตแต่ประการใด แต่โดยที่เขามีกิตติศัพท์เป็นคนซื่อตรง เจ้าเมืองรัฐฉู่จึงให้ความเคารพ และยกย่องเป็นพิเศษ ฉะนั้น จวง เซิง จึงอยู่ในฐานะที่จะเจรจาโน้มน้าวเจ้าเมืองได้
จวง เซิง ทูลต่อเจ้าเมืองว่า "ระยะนี้ดาวพระเสาร์เข้าแทรกทำให้ชะตาเมืองของรัฐฉู่ไม่แจ่มใส ดังนั้นเจ้าเมืองจึงควรแก้เคล็ด โดยแสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ เพื่อช่วยให้รัฐ และประชาชนของพระองค์รอดพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ" เจ้าเมืองรัฐฉู่จึงประกาศนิรโทษกรรมทั่วไปครั้งใหญ่
เมื่อพี่ชายคนโตทราบข่าว ซึ่งน้องรองที่ติดอยู่ในแดนประหาร ก็คงจะได้อานิสงส์ถูกปล่อยออกจากคุกด้วย จึงเกิดนึกเสียดายเงินที่บิดาได้ให้เขานำไปกำนัลกับจวง เซิง เลยรีบไปหาจวง เซิง เพื่อขอทวงเงินก้อนนั้นคืน
จวง เซิง รู้สึกเสมือนถูกลบหลู่ จึงโกรธแค้นและไปทูลเจ้าเมืองรัฐฉู่ว่า "ข้าฯทราบมาว่าลูกชายของเถาจูกงติดคุกอยู่ และขณะนี้ข้างนอกมีการเล่าลือกันว่า เถาจูกงได้ติดสินบนขุนนางผู้ใหญ่ ซึ่งเกรงว่าข่าวลือนี้จะกระทบต่อชื่อเสียงของท่าน"
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจ้าเมืองรัฐฉู่จึงรับข้อเสนอแนะของจวง เซิง โดยประหารลูกชายเถาจูกงก่อน แล้วจึงประกาศนิรโทษกรรม
ในที่สุดบุตรชายคนโตจึงได้แค่ร่างอันไร้วิญญาณของน้องชายกลับไปฝังที่บ้านเกิด เมื่อเถาจูกงทราบเรื่อง จึงเศร้าสลดเสียใจอย่างสุดซึ้ง พร้อมกับสารภาพว่า "ตระหนักแต่แรกแล้วว่า ลูกชายคนโตมีสิทธิฆ่าน้องเขาทั้งๆ ที่รักน้องมาก แต่ทว่าตั้งแต่เล็กลูกชายคนโตคนนี้ ช่วยข้าฯทำธุรกิจ รู้ว่าเงินทองไม่ใช่หามาง่ายๆ จึงเกิดเสียดายเงินทองขึ้นมา ตรงกันข้ามลูกคนเล็กเติบโตในกองเงินกองทองแต่เยาว์วัย จึงไม่ตื่นเต้นกับทรัพย์สมบัติจนเกินไป เดิมทีข้าฯ ตั้งใจจะส่งลูกคนเล็ก ไปทำเรื่องนี้ เนื่องจากตระหนักได้ว่าเขากล้าได้กล้าเสีย แต่สุดท้ายก็จำต้องยอมให้ลูกคนโตไปแทน เพราะทนการวิงวอนไม่ไหว ซึ่งเท่ากับส่งคนไม่ถูกประเภทไปทำงาน จึงเกิดความเสียหาย..."
เรื่องนี้จึงมีคติสอนใจว่า "ผู้ฉลาดย่อมรู้จักคนและใช้คนเป็น" แม้แต่นักธุรกิจที่เคยประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างเถาจูกง ก็ยังมิวายทำผิดพลาดใหญ่หลวงเช่นนี้
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
กฎทองของ Tao Zhugong
โพสต์ที่ 12
ลืมบอก link
http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2005q ... y02p11.htm
คอลัมน์ คลื่นความคิด โดย สารสิน วีระผล มติชนรายวัน วันที่ 02 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 28 ฉบับที่ 9914
http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2005q ... y02p11.htm
คอลัมน์ คลื่นความคิด โดย สารสิน วีระผล มติชนรายวัน วันที่ 02 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 28 ฉบับที่ 9914
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
กฎทองของ Tao Zhugong
โพสต์ที่ 13
http://en.wikipedia.org/wiki/Fan_Li
"Golden Rules of Business Success"
Twelve Golden Rules and Twelve Golden Safeguards
The Twelve Golden Rules are as follows:
Be a good judge of character.
Be customer-oriented.
Be single-minded.
Be captivating in your sales promotion.
Be quick to respond.
Be vigilant in credit control.
Be selective to recruit only the best.
Be bold in marketing your product.
Be smart in product acquisition.
Be adept in analyzing market opportunities.
Be a coroporate model.
Be farsighted in developing a total business plan.
The Twelve Golden Safeguards are:
Don't be stingy.
Don't be wishy-washy.
Don't be ostentatious.
Don't be dishonest.
Don't be slow in debt collection.
Don't slash prices arbitrarily.
Don't give in to herd instinct.
Don't work against the business cycle.
Don't be a stick-in-the-mud.
Don't overbuy on credit.
Don't under-save (keep reserve funds strong).
Don't blindly endorse a product.
"Golden Rules of Business Success"
Twelve Golden Rules and Twelve Golden Safeguards
The Twelve Golden Rules are as follows:
Be a good judge of character.
Be customer-oriented.
Be single-minded.
Be captivating in your sales promotion.
Be quick to respond.
Be vigilant in credit control.
Be selective to recruit only the best.
Be bold in marketing your product.
Be smart in product acquisition.
Be adept in analyzing market opportunities.
Be a coroporate model.
Be farsighted in developing a total business plan.
The Twelve Golden Safeguards are:
Don't be stingy.
Don't be wishy-washy.
Don't be ostentatious.
Don't be dishonest.
Don't be slow in debt collection.
Don't slash prices arbitrarily.
Don't give in to herd instinct.
Don't work against the business cycle.
Don't be a stick-in-the-mud.
Don't overbuy on credit.
Don't under-save (keep reserve funds strong).
Don't blindly endorse a product.
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
กฎทองของ Tao Zhugong
โพสต์ที่ 14
ดูๆ ชะตาชีวิตของ zhugong คนนี้ค่อนข้างลำบากนะครับ วิบากกรรมในชีวิตเยอะมาก แม้จะร่ำรวยก็ตาม :roll:
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
กฎทองของ Tao Zhugong
โพสต์ที่ 15
ต้องหลบหนีบ่อยๆเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่กลัวคนจำได้
ต้องระแวงตลอดเวลา ไม่รู้นอนหลับเต็มตาหรือไม่
ไม่กล้าคบกับใครแบบจริงใจเพราะระแวงว่าความลับจะถูกเปิดเผยหรือตัวเองจะเป็นฝ่ายเผยความลับเสียเอง
ต้องคบคนแบบผิวเผิน เมื่อส่งความผิวเผินออกไป จะหวังความจริงใจกลับมาได้อย่างไร
ไม่รู้ว่าตามประวัติเขามีลูกมีเมียหรือไม่ ถ้าไม่มีชีวิตคงแห้งแล้งน่าดู
ชีวิตเขาเหมือนอยู่กับคนแปลกหน้าทุกวัน หันไปทางไหนก็เจอแต่สังคมของคนแปลกหน้า
ความต้องการขั้นที่ 3 , 4 และ 5 ของมนุษย์ไม่ได้รับการตอบสนอง
แต่เขาอาจจะไม่ทุกข์ถ้าเขาเป็นออทิสติค(ไม่รู้เป็นหรือเปล่า เพราะความทุกข์แบบนี้เกินทนเหมือนกันสำหรับคนทั่วไปที่ไม่มีความจำเป็นรุนแรงบีบบังคับ)
อัจฉริยะที่เป็นแบบนี้ก็มีเยอะเหมือนกัน และอัจฉริยะมักจะชอบที่จะลิขิตชีวิตตัวเอง
ต้องระแวงตลอดเวลา ไม่รู้นอนหลับเต็มตาหรือไม่
ไม่กล้าคบกับใครแบบจริงใจเพราะระแวงว่าความลับจะถูกเปิดเผยหรือตัวเองจะเป็นฝ่ายเผยความลับเสียเอง
ต้องคบคนแบบผิวเผิน เมื่อส่งความผิวเผินออกไป จะหวังความจริงใจกลับมาได้อย่างไร
ไม่รู้ว่าตามประวัติเขามีลูกมีเมียหรือไม่ ถ้าไม่มีชีวิตคงแห้งแล้งน่าดู
ชีวิตเขาเหมือนอยู่กับคนแปลกหน้าทุกวัน หันไปทางไหนก็เจอแต่สังคมของคนแปลกหน้า
ความต้องการขั้นที่ 3 , 4 และ 5 ของมนุษย์ไม่ได้รับการตอบสนอง
แต่เขาอาจจะไม่ทุกข์ถ้าเขาเป็นออทิสติค(ไม่รู้เป็นหรือเปล่า เพราะความทุกข์แบบนี้เกินทนเหมือนกันสำหรับคนทั่วไปที่ไม่มีความจำเป็นรุนแรงบีบบังคับ)
อัจฉริยะที่เป็นแบบนี้ก็มีเยอะเหมือนกัน และอัจฉริยะมักจะชอบที่จะลิขิตชีวิตตัวเอง
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด