ถ้าผมเป็น กลต. จะเชือดรายนี้ให้แม้ว่าตายไปเป็นผีแล้วก็ไม่...

[freemindd]

ถ้าผมเป็น กลต. ผมจะใช้เพลงดาบที่โหดที่สุด เชือดนายคนนี้และพรรคพวกให้แม้ว่าตายไปเป็นผีแล้วก็ไม่กล้ากลับมาเกิดอีก

อ่านดูสิครับ


http://www.bangkokbizweek.com/20060904/ ... 27801.html

[jaychou]

ท่านฟรีไมนด์นี่ช่างโหดร้ายและเกรี้ยวกราดจริงๆ จะไปเชือดเค้าอย่างงั้น

เค้าก็ทำไปตามเกมเค้านะครับ  8)

ส่วนจะเป็นเพลงดาบอะไรนั้น เด๋วให้แฟนๆกิมย้งมาช่วยกันเสนอก็แล้วกัน

[Minesweeper]

อ่านที่สัมภาษณ์แล้วฮากลิ้งเลยครับ
แก้ง่วงยามบ่ายดีจริง ๆ
:lol:  :lol:  :lol:

[MarginofSafety]

เมืองไทยจะมี Berkshire Go Away แล้ว ฮ่าๆๆ
ผมว่าคนที่มีแนวความคิดคล้ายกัน ก็คงไหลมารวมกันครับ
คนที่คิดรวยเป็นร้อยเท่าพันเท่าในระยะเวลา 2-3 ปี ก็จะได้มีทางเลือกเหมือนกัน ...

ถามคุณ freemindd เป็นความรู้หน่อยนะครับ
จะใช้ข้อกฎหมายใน พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ หรือ พ.ร.บ. บริษัทมหาชน ข้อไหนไปลงดาบเค้าครับ ...

[น้ำครึ่งแก้ว]

ฮ่า ๆ ๆ   Berkshire  Go  So  Big   รึเปล่าครับเนี้ย

คนรวยขึ้น เป็นเท่าๆ นะมีแน่ครับ  แต่เป็นคุณ จเรรัฐ คนเดียวนะผมว่า

[MO101]

ฮา ดีนะครับ
ชื่อมันคล้ายๆ อะไรวันๆ ในยุคก่อนด้วย
มองอีกมุมก็คลาย วอเร็น เพราะมัพนักงานน้อย มากๆ

[Boring Stock Lover]

"โตเร็วต้องซื้อไม่ใช่สร้าง"

ผมเห็นด้วยแฮะ

[artvr4]

อ่าน แก้เครียดดีครับ เอาไว้ฝันหวาน  รายย่อยไม่ได้อะไร
เพิ่งรู้ว่าเป็นรุ่นพี่ผม สัก 14 ปีได้   :lol:

[freemindd]

ถามคุณ freemindd เป็นความรู้หน่อยนะครับ
จะใช้ข้อกฎหมายใน พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ หรือ พ.ร.บ. บริษัทมหาชน ข้อไหนไปลงดาบเค้าครับ

ผมก็ยังไม่รู้เลยครับ  น่าสนใจมาก  ขอเพิ่มประเด็นนี้เข้าไปในกระทู้ผมด้วยครับ ให้ทุกคนช่วยกันคิด ช่วยกันค้น  เสนอกันดู  รู้บ้างไม่รู้บ้างไม่เป้นไร

[adi]

555555555

[Belffet]

เอ่ออออ

ถามจริงๆ เอาแบบเป็นหลักการวิเคราะห์ตามแบบ VI หรือจะแบบใดก็แล้วแต่

มีทางเป็นไปได้มั๊ยครับ

คือผมยังไม่กล้าดูถูกความคิดใครน่ะครับ เพราะยังอ่อนหัดในโลกธุรกิจอยู่ เลยจะมาขอความเห็นแบบเจ๋งๆเพิ่มเติมครับ

ชักน่าสนใจ (ในการวิเคราะห์)

[Belffet]

ย้อนหลังไปซักสองปี ผมเคยคิดที่จะทำบริษัทแบบนี้เลยนะเนี่ย

ขอฟ้องเจ้าของว่าก๊อบความคิดผมไปได้ป่าวอะ

(ล้อเล่นนะค้าบบบบ) 8)

[สามัญชน]

"โตเร็วต้องซื้อไม่ใช่สร้าง"

ก็โตได้จริงครับ  แต่โตมาจากสองส่วนด้วยกัน

1. ต้องควักกระเป๋าใส่เงินเพิ่มเรื่อยๆ ถ้าไม่ควักจะเอาที่ไหนมาซื้อเพิ่ม  ตรงนี้ต่อให้โตถึงห้าพันล้าน แต่ก็โตมาจากกระเป๋าตัวเอง(และหุ้นส่วน) ถือว่าเป็นทุน ไม่ใช่กำไร

2.โตขึ้นจากกิจการดีๆที่ซื้อมาทำกำไรให้  อันนี้เป็นกำไร

ข้อดีก็คือ  การโตจากข้อ 1.นั้น  เป็นการโตจากเงินที่มีต้นทุนราคาถูกมากหรือแทบไม่มีเลย(ในแง่ต้นทุนของโฮลดิ้งคอมพานีนะครับ  ส่วนต้นทุนของหุ้นส่วนแต่ละคนจะกู้มาที่ดอกเบี้ยเท่าไหร่  โฮลดิ้งไม่เกี่ยว)  ของบัฟเฟตต์ได้ต้นทุนมาจากเงินประกันยังต้องเสียดอกเบี้ยอยู่นะ แม้จะน้อยมากก็ตาม

ข้อเสีย  D1 จะโตจากข้อ 2.ได้อย่างไร จะเลือกซื้อบริษัทชั้นเลิศที่จะทำกำไรให้มหาศาลได้จากที่ไหน  ถ้าเลิศจริงเจ้าของเขาจะขายให้หรือไม่  ถ้าขายจะถูกหรือแพงแค่ไหน

ข้อนี้ต่างหากที่เป็นเนื้อหาสาระที่คุณ"จเรรัฐ ปิงคลาศัย"จะต้องเผชิญและฝ่าฟันไปให้ได้ เพราะข้อ1. อาจจะใช้เทคนิคหรือมายากลเนรมิตทุนเพิ่มขึ้นได้ไม่จำกัด  แต่ก็ต้องตอบเจ้าของทุนอยู่ดีว่าทุนของเขาจะทำกำไรให้ไหม

แต่ในความคิดส่วนตัวผมนั้น  ค่อนข้างสงสัยมากๆว่าจะทำไม่ได้จริง  เพราะฟัง concept แล้วไม่ค่อยสอดคล้องกับแนวทาง VI

เช่น

1. จะซื้อบริษัทเพิ่มเดือนละหนึ่งบริษัท  อันนี้ขำเลยครับ  บัฟเฟตต์บางทีต้องรอถึงห้าปีบางทีสิบปีก็มีจึงจะเจอแค่บริษัทเดียวที่เหมาะสมทั้งคุณภาพและราคา  ทั้งๆที่อเมริกามีบริษัทให้เลือกมากกว่าเมืองไทยเป็นพันๆเท่า  และที่จริงมีให้เลือกทั่วโลก

2. เขาตั้งเป้าสามปีจะทำสำเร็จ  อันนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะตัวเลขมหัศจรรย์ของไอน์สไตน์นั้น  ต้องใช้การทบต้นทบดอกที่ยาวนานหลายสิบปี  ตัวเลขนี้จึงจะมหัศจรรย์ขึ้นมา  การทบต้นทบดอกแค่สามปีไม่ใช่ตัวเลขที่ประหลาดอะไรเลย

[jaychou]

น่าประหลาดใจที่ ตลท. ยังเก็บหุ้นพวกนี้ไว้ แต่ปล่อยให้ ThaiBev หลุดมือ

[MarginofSafety]

การโตจากข้อ 1.นั้น  เป็นการโตจากเงินที่มีต้นทุนราคาถูกมากหรือแทบไม่มีเลย

ขอแย้งพี่หมอนิดนึงนะครับ
ในทางการเงินแล้ว Cost of Equity มักจะสูงกว่า Cost of Debt
เนื่องจากมี Risk Premium เข้ามาเกี่ยวข้อง
ดังนั้นในการคำนวณ WACC เราจะพบว่า Cost of Equity มักจะสูงกว่า Cost of Debt เสมอ

อันนี้เสริมครับ
บริษัทที่คำนึงถึงจุดนี้ซึ่งมักจะเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาล
จึงมักจะโตโดยการใช้กำไรสะสม หรือไม่ก็ออกหุ้นกู้ หรือกู้ธนาคาร
ส่วนการเพิ่มทุนหรือออก Warrant นั้นจะเอาไว้ท้ายสุด บริษัทจะไม่ระดมทุนด้วยวิธีนี้หากไม่จำเป็น
ส่วนบริษัทที่ไม่ค่อยมีธรรมาภิบาลมักจะทำตรงกันข้าม
แต่ไม่ว่าบริษัทจะเลือกใช้วิธีไหน ต้องเป็นไปเพื่อ Maximize Shareholder 's wealth ไม่ใช่ Maximize Management 's wealth

(นอกนั้นเห็นด้วยทุกประการครับ)

ส่วน ThaiBev ผมว่าอย่างน้อยก็เป็นมาตรฐานที่ดีของ ตลท. ที่จะไม่สนับสนุนธุรกิจที่ขัดต่อศีลธรรม และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับสังคมเข้าตลาด
ถ้าจะเอาเข้าจริง ก็คงจะเกิดการต่อต้านอย่างที่ปรากฏขึ้นในอดีตนั่นแหละครับ
คงมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และเกิดความขัดแย้งกันขึ้น

(ว่าแล้วก็เปิดห้องการเมืองให้ถกกันต่อก็ดีนะท่านเจย์ อิอิ)

[สามัญชน]

ขอชี้แจงน้องหวีหน่อยครับ

1. คุณ"จเรรัฐ ปิงคลาศัย" เขาอยากให้บริษัทโตเป็นหมื่นล้าน  วิธีที่เร็วที่สุดก็คงจะเป็น ระดมทุน จากคนที่เชื่อถือเขาอ่ะครับ  เพราะรอกำไรสะสมมาต่อยอดคงจะไม่ทันใจเขาแน่

2. การระดมทุนจากผู้ถือหุ้นนั้น บริษัทได้เงินมาเปล่าๆ  แต่ถ้ากู้เงินบริษัทก็ต้องเสียดอก

3. ถ้าผู้ถือหุ้นมีเงินอยู่ในแบ็งค์แล้ว  ก็เท่ากับเขาเสียโอกาสจากดอกเบี้ยเงินฝากแค่ร้อยละ 1 กว่าๆนิดหน่อย แค่นั้นเอง

4. ถ้าผู้ถือหุ้นไม่มีเงิน  และต้องไปกู้มาก็เป็นเรื่องส่วนตัวของผู้ถือหุ้นเอง ไม่เกี่ยวกับบริษัทแต่อย่างไร

ทีนี้หันมาดูในภาพรวมต่อ

ผมว่าเขาคงไม่คิดแบบ VI นะครับ เพราะวิธีนี้มีโอกาสที่จะสำเร็จตามเป้าหมายของเขาน้อยเหลือเกิน การทำกำไรในข้อ 2. (เดิม) คงจะเป็นแนวปั่นน้ำให้เป็นฟองสบู่แล้วก็หาโอกาสทำกำไรจากฟองสบู่  กล่าวคือ เมื่อเขาไปซื้อบริษัทไหน ก็คงเข้าไปสร้างภาพให้ดูใหญ่โต  แล้วก็อาจจะแอบขายทำกำไร

และก็น่าจะเป็นบริษัทในตลาดเพราะปั่นง่ายและขายง่าย  นอกตลาดเขาก็อาจจะทำ  แต่ทำแล้วปั่นยากขายยาก  ครั้นจะรอให้ผลดำเนินงานดีขึ้นแล้วเก็บเกี่ยวผลกำไรอย่างเดียวคงจะไม่ทันใจเขาแน่

[สามัญชน]

แต่ไม่ว่าบริษัทจะเลือกใช้วิธีไหน ต้องเป็นไปเพื่อ Maximize Shareholder 's wealth ไม่ใช่ Maximize Management 's wealth

ตรงนี้เห็นด้วยครับ  ถ้าผมซื้อหุ้นตัวไหนก็คงอยากให้เขาโตโดยใช้กำไรสะสม  หรือไปกู้เงินก็ยังดี  ถ้าให้ผมเพิ่มทุนเรื่อยๆผมคงไม่ชอบใจแน่เพราะผมไม่มีเงินนอนเล่นสบายๆในแบ็งค์ที่จะมาเพิ่มทุนเลย

แต่คุณ"จเรรัฐ ปิงคลาศัย" เขาไม่คิดและไม่ทำอย่างนั้น เขาบอกว่า

การระดมทุนของ "ดีวัน" เมื่อเราเป็น "โฮลดิ้ง คอมปะนี" ก็จะระดมทุนไปเรื่อยๆ จะหาเงินจากไหนมา มันมีอยู่ 9 วิธี..วิธีที่หนึ่ง..เพิ่มทุนไปเรื่อยๆ การเพิ่มทุนแบ่งเป็น 2 แบบ คือ เพิ่มแบบ RO กับ PP วิธีที่สอง..ออกเป็นหุ้นกู้ วิธีที่สาม..ใช้วิธีการสวอปหุ้น ไม่ต้องใช้เงิน วิธีที่สี่..เอาเงินลูก (เอ-โฮสต์) ซื้อหลานต่อ

วิธีที่ห้า..ให้ลูกออกหุ้นกู้ วิธีที่หก..กู้เงินจากแบงก์ (วิธีนี้จะไม่ใช้) วิธีที่เจ็ด..เอาลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์ "ดีวัน" ถือหุ้นแค่ 75% ก็พอจะได้เงินกลับมามหาศาลเลย วิธีที่แปด..ตั้งกองทุนแมทชิ่ง ฟันด์ ลงทุนคนละ 50:50 กับต่างชาติ

วิธีสุดท้าย..วิธีนี้สุดยอด บ้านเรายังไม่มีใครทำ ผมจะทำเป็นคนแรก คือ การออกหุ้นกู้แปลงสภาพ เลือกแปลงเป็นหุ้นบริษัทไหนก็ได้ ซึ่งในอนาคตจะมีหุ้นให้เลือกเป็นสิบๆ บริษัท

[น้ำครึ่งแก้ว]

กาลครั้งหนึ่ง ไม่นานเท่าไหร่  เมื่อซัก 3-4 ปีก่อนนี้

มีชายคนหนึ่ง เจ้าของสวนสนุก ธรรมชาติ ได้เปิดสวนสนุกให้
เด็กๆ ทั้งหลายได้เข้าไปเล่นกันจนเพลิน  โดยบอกว่าเครื่องเล่นของ
สวนสนุกแห่งนี้ มีคุณภาพ เล่นแล้วมันส์  ไม่อันตราย  จนในที่สุด
ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในเครื่องเล่นหลายๆชนิด และมีคนเสียชีวิต ใน
อุบัติเหตุ ภายในสวนสนุก จำนวนมาก  

ท้ายที่สุดสวนสนุกแห่งนี้ก็เจ๊งและทำให้ต้องปิดตัวลงในที่สุดครับ

ยังจำกันได้มั้ยเอ่ย     ตำนาน Diamond Model ที่แสนจะน่าทึ่ง
จุดเริ่มต้นก็คล้ายๆกับที่ คุณ จเรรัฐ  เริ่มยังไงยังงั้นเลยครับ

[house]

อ่านแล้วฮาก๊ากเลย! :lol:  :lol:  :lol:

ไม่ยอมติดไซเลนต์ด้วย แปลว่าทิ้งหุ้นได้ตลอดเวลา ท่าทางตลาดจะมีดาวรุ่งรายใหม่ที่จะมาดับรัศมี EVER , BNT ซะแล้ว  :twisted:  :twisted:

กลัวท่านๆนักเก็งกำไรเหงาเกินไปมั้ง

[jaychou]

อูย...อย่าเพิ่งเปิดห้องการเมืองเลยครับท่าน รอให้สงบๆก่อน
เด๋วเงินทองหามาได้ จะไม่ได้ใช้ ยกไปเป็นค่าทนายหมด นะจ้ะ 8)

ที่เปรียบกับ ThaiBev เพราะ ThaiBev นี่แหละ Holding ของจริงครับ ไม่ได้ hold โน่น hold นี่ซี้ซั้ว และเจ้าของก็ไม่ได้หิวเงินเหมือน D1 แบบนี้ครับ

[MarginofSafety]

2. การระดมทุนจากผู้ถือหุ้นนั้น บริษัทได้เงินมาเปล่าๆ  แต่ถ้ากู้เงินบริษัทก็ต้องเสียดอก

3. ถ้าผู้ถือหุ้นมีเงินอยู่ในแบ็งค์แล้ว  ก็เท่ากับเขาเสียโอกาสจากดอกเบี้ยเงินฝากแค่ร้อยละ 1 กว่าๆนิดหน่อย แค่นั้นเอง

ผมแย้งในจุดนี้ครับ (โดยใช้ทฤษฎีทางด้านการเงินมาแย้ง)
ส่วนหลักการอื่นๆที่พี่หมออธิบายมาผมเห็นด้วยทั้งหมด
ต้นทุนของเงินหรือ Cost of Capital นั้นประกอบไปด้วยสองส่วนนั่นคือ

1. Cost of Equity
2. Cost of Debt

ส่วนใหญ่แล้วจะเข้าใจกันว่า Equity ไม่มีต้นทุนแต่ในทางการเงินเขาถือว่า
Cost of Equity ส่วนใหญ่แล้วสูงกว่า Cost of Debt

ยกตัวอย่างเช่น สมมติผมเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทนี้
แทนที่ผมจะเอาเงินไปซื้อหุ้นผมอาจจะเอาส่วนนี้ไปซื้อพันธบัตร
ที่ไม่มีความเสี่ยงและได้ผลตอบแทนประมาณ 5% (Risk Free Rate)
นอกจากนี้ผมยังต้องการส่วนชดเชยความเสี่ยงอีก (Risk Premium)
เนื่องจากการลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยงที่ผมจะขาดทุน
ต้นทุนของเงินทุนของผมจึงเท่ากับ Risk Free + Risk Premium
ซึ่งถ้าคำนวณออกมาแล้ว Cost of Equity ของ D1 น่าจะมากกว่า 10%
ตรงนี้เป็นเหตุผลที่บริษัทส่วนใหญ่แล้วจะไม่เพิ่มทุนหากไม่จำเป็น
เนื่องจากต้นทุนของการเพิ่มทุนมันสูงกว่าการเป็นหนี้

ลองอ่านบทความนี้ประกอบครับ

However, even though the cost of equity does not show up on a company's income statement, it is not free. Investors expect a rate of return on equity that is in line with the S&P 500 and that also takes into account the specific risks of the company in question.

we would demand a rate of return on equity of about 1.2 times the S&P 500's historical return to compensate for the extra risk. That means that the equity being used by this business will cost it 13.2%. A lower return on equity will hurt the valuation of the company's equity...

Equity Isn't Free

[hot]

ถ้าระดมทุนเพื่อไปซื้อบริษัท

ผมอยากให้ซื้อบริษัทหรือกิจการดีดีจัง

ที่เห็นประสบความสำเร็จจริงจริง

ผมว่าบ้านปู

การบริหารมาถูกทาง

[MarginofSafety]

อูย...อย่าเพิ่งเปิดห้องการเมืองเลยครับท่าน รอให้สงบๆก่อน
เด๋วเงินทองหามาได้ จะไม่ได้ใช้ ยกไปเป็นค่าทนายหมด นะจ้ะ 8)

เรากำลังจะมีรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) แล้วครับ
แล้วรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) ฉบับนี้ก็ให้สิทธิเสรีภาพกับประชาชน (มาตรา 3)
ถ้าจะโดนฟ้องนะครับ ผมว่าโดนตั้งแต่สมัยคนที่เราก็รู้ว่าใครมีอำนาจแล้วครับ
ฟ้องที 500 ล้าน พันล้าน ด้วย
ค.ป.ค. ชุดนี้ท่านรับฟังเสียงประชาชนครับ
นักวิชาการก็ยังสามารถออกมาแสดงความคิดเห็นได้ค่อนข้างเสรีตั้งแต่มีการปฏิรูป
วันนี้ยังเห็นมาวิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วยในบางประเด็นสำหรับการได้มาซึ่งคณะร่างรัฐธรรมนูญเลยครับ
ถ้าเป็นสมัยคนที่เราก็รู้ว่าใคร มีทีวีช่องไหนหาญกล้ามาวิพากษ์วิจารณ์บ้าง
ถ้าไม่ใช่ช่องขาประจำที่เราก็รู้ว่าใคร ....
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสมัยไหนประชาชนมีสิทธิเสรีภาพมากกว่ากัน
ถ้าเรามีนายกและมีประกาศยกเลิกกฎห้ามชุมนุมเกิน 5 คนแล้ว
มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) แล้ว
ผมขอเสนอให้เปิดเถอะครับ "ห้องการเมือง"
ผมว่าเป็นห้องการเมืองที่คุยกันด้วยเหตุผลที่สุดแล้วครับ
มีคนที่เสียสละนำบทความดีๆ มา Post ให้เราได้อ่านกันง่ายๆ
เห็นไม่ตรงกัน ก็ยังเคารพในความคิดเห็นของอีกฝ่าย
ส่วนใครที่จูนไม่ติดเลย ความถี่คนละคลื่นก็หลีกเลี่ยงที่จะคุยด้วย
ที่สำคัญประชาธิปไตยที่เข้มแข็งมาจากความตื่นตัวของภาคประชน
และเราเห็นการตื่นตัวทางการเมืองขึ้นอย่างมากของภาคประชน
ผลการตรวจสอบทุจริตคอรัปชันอีกหลายโครงการก็กำลังจะทยอยออกมา
น่าเสียดาย หากผู้ที่ติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิดหลายๆท่าน
ไม่มีที่ให้แสดงความคิดเห็น หรือเผยแพร่บทความ...
ต้นทุนที่สูงอย่างหนึ่งของประเทศไทย
ก็คือการทุจริตคอรัปชันของนักการเมืองนี่แหละครับ
ผมก็ทำได้แค่เสนอนะครับ ไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไรครับ
เพราะ Concept หลักของ Web คือการพูดคุยเรื่อง Value Investment
แต่ก็อยากฝากไว้ให้พิจารณาครับ

ทิ้งระเบิดไว้ในกระทู้คุณ freemindd นี่แหละ ...  :twisted:

[pawiga]

ต่อไปก็โต จากเงิน คนอื่น เป็นส่วนใหญ่  
พอมี pp  มา ก็มีข่าว ดันราคา คนซื้อ pp ก็เอามา ขายให้แมงเม่า ในตลาด  บวกกำไร  เล่นวนไปวนมา จริงๆทั้งหมดก็คือ ยุทธวิธี ดูดเงิน จากตลาด

[pawiga]

ไม่เห็นจำเป็น เลยต้องเปิดห้องการเมือง
คุณๆท่านๆ ก็ รับข้อมูลต่างๆ ได้อยู่แล้ว ใครทำผิดอะไร อ่านข่าวก็รู้กันหมด

แสดงความคิดเห็นแล้ว ทุกท่าน ก็มี ความคิดของตัวเองอยู่ในใจแล้ว

[Mr. Boo]

บริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด
APPLICATION HOSTING SERVICES CO.,LTD.    

--------------------------------------------------------------------------------

ข้อมูลทั่วไปและกรรมการ


ประเภท:  บริษัทจำกัด
วันเดือนปีที่จดทะเบียน: 20 สิงหาคม 2542
เลขทะเบียนนิติบุคคล: 0105542062104  
เลขทะเบียนนิติบุคคล (เดิม) : (5)1143/2542  
ทุนจดทะเบียน: 11,000,000 บาท  
ประเภทธุรกิจ: จำหน่ายโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ให้บริการเกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์  
ที่ตั้ง(กระทรวง): 979/53-55 อาคาร เอส เอ็ม ทาวเวอร์ ชั้น 21 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
ที่ตั้ง (สบช.3) 979/53-55 ถ.พหลโยธิน แขวง สามเสนใน เขต พญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
โทรศัพท์ 0-2298-0625-32
ผู้มีอำนาจทำการแทนกิจการ นายณรงค์ จารุวจนะ
บุญประสิทธิ์ ตั้งชัยสุข  
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ควรทราบ     ---
ผู้มีอำนาจ นายบุญประสิทธิ์ ตั้งชัยสุข กรรมการผู้จัดการลงลายมือชื่อร่วมกับกรรมการอื่นอีกหนึ่งคนรวมเป็นสองคน และประทับตราสำคัญของบริษัท
กรรมการ นายบุญประสิทธิ์ ตั้งชัยสุข
นายอนันต์ ลี้ตระกูล
นายวรเศรษฐ์ อุนยโกวิท
นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล  


ข้อมูล ณ 26 กันยายน 2549
แหล่งที่มาของข้อมูล - กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สังกัดกระทรวงพาณิชย์



บริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด
APPLICATION HOSTING SERVICES CO.,LTD.    

--------------------------------------------------------------------------------

เปรียบเทียบงบดุล  หน่วย : บาท
31 ธ.ค. 47 31 ธ.ค. 46 31 ธ.ค. 45
สินทรัพย์
 ลูกหนี้การค้าและตั๋วเงินรับสุทธิ 63,778,367.90  60,516,335.92  34,887,607.48  
 สินค้าคงเหลือ 196,528.23  81,000.00  4,856,212.20  
   รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 86,110,263.27  79,654,064.17  68,344,801.04  
 ที่ดินอาคารและอุปกรณ์(สุทธิ) 9,162,756.39  9,881,497.54  9,503,258.29  
 รวมสินทรัพย์ 115,346,286.00  117,714,020.66  78,430,674.90  
หนี้สินและทุน
 เจ้าหนี้การค้าและตั๋วเงินจ่าย 56,432,560.87  59,771,013.03  39,515,716.68  
   รวมหนี้สินหมุนเวียน 69,153,156.16  75,598,174.07  49,896,694.42  
 รวมหนี้สิน 69,153,156.16  75,598,174.07  49,896,694.42  
 รวมส่วนของผู้ถือหุ้น 46,193,129.84  42,115,846.59  28,533,980.48  
ทุนจดทะเบียน 11,000,000.00  11,000,000.00  11,000,000.00  
ทุนชำระแล้ว 11,000,000.00  11,000,000.00  11,000,000.00  
จำนวนหุ้น 110,000 หุ้น  110,000 หุ้น  110,000 หุ้น  

บริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด
APPLICATION HOSTING SERVICES CO.,LTD.    

--------------------------------------------------------------------------------

เปรียบเทียบงบกำไรขาดทุน  หน่วย : บาท
31 ธ.ค. 47 31 ธ.ค. 46 31 ธ.ค. 45
รายได้หลัก 256,773,884.02  205,498,875.18  169,685,196.48  
 รวมรายได้ * 258,454,122.80  206,785,764.30  170,499,775.14  
ต้นทุนขาย 206,945,387.33  157,608,387.71  132,952,447.41  
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ 39,109,966.68  28,414,597.54  23,083,067.52  
ดอกเบี้ยจ่าย 12,657.54        
ภาษีเงินได้ 6,468,828.00  5,500,912.94  3,989,899.10  
 รวมรายจ่าย * 254,376,839.55  193,203,898.19  161,465,414.03  
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 4,077,283.25  13,581,866.11  9,034,361.11  
กำไรต่อหุ้น (บาท) 37.07  123.47  82.13  


บริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด
APPLICATION HOSTING SERVICES CO.,LTD.    

--------------------------------------------------------------------------------

รายชื่อผู้ถือหุ้นหลัก ผู้ถือหุ้น %
เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 51.0000  
นาย บุญประสิทธิ์ ตั้งชัยสุข 29.9973  
อินโนเวทีฟ บิสซิเนส เวนเจอร์ จำกัด 10.0000  
นาย สุชัย เย็นฤดี 5.0000  
นาย ประสงค์ เอื้อสุริยนันท์ 3.0000  
นาย ขจรชัย ตั้งชัยสุข 1.0000  
นาย อนันต์ ลี้ตระกูล .0009  
นาย ธวิช จารุวจนะ .0009  
นาย ณรงค์ จารุวจนะ .0009  
ผลรวม 100.000


บริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด
APPLICATION HOSTING SERVICES CO.,LTD.    

--------------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลบริษัทที่เกี่ยวข้อง
ลำดับ บริษัท นายบุญประสิทธิ์ ตั้งชัยสุข นายวรเศรษฐ์ อุนยโกวิท นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล นายอนันต์ ลี้ตระกูล
1 บริษัท มังคลารัตน์ จำกัด       /
2 บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)       /
3 บริษัท คอมพิวเตอร์เซอร์วิส แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด       /
4 บริษัท เครือข่ายธนไทย จำกัด     /  
5 บริษัท ทราเวิลลิงค์ ซิสเต็ม (ไทยแลนด์) จำกัด     /  
6 บริษัท โทมาฮ็อค จำกัด /      
7 บริษัท นอร์ดมัน จำกัด       /
8 บริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ จำกัด (มหาชน)       /
9 บริษัท เพนทัส จำกัด /      
10 บริษัท เรด ไนน์ จำกัด   /    
11 บริษัท ศูนย์บริการการศึกษารามสแควร์ จำกัด     /  
12 บริษัท สยาม เอ็ม แอนด์ บี พับลิชชิ่ง จำกัด       /
13 บริษัท อินเทลลิเจนท์ ไอที จำกัด /      
14 บริษัท อินฟอร์เมชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด     /  
15 บริษัท อี.เอช. จำกัด     /  
16 บริษัท เอ็มพีซี - ท็อป จำกัด     /  
17 บริษัท แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี เซอร์วิส จำกัด     /  
18 บริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด / / / /
19 บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)       /

[Mr. Boo]

บริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด
APPLICATION HOSTING SERVICES CO.,LTD.    

--------------------------------------------------------------------------------

ข่าวบริษัท
     ลำดับที่ หัวข้อข่าว จากหนังสือพิมพ์ ประจำวันที่
1 D1 โกอินเตอร์ผุดดราก้อนดูไบ เริ่มดึงเงินอาหรับเข้าไทยปีนี้  ผู้จัดการรายวัน  27 กันยายน 2549
2 "จเรรัฐ"โวยตลาดผ่อนกฎไซเลนต์ D1 มติชน  15 กันยายน 2549
3 บิ๊ก D1 ท้าตลาดเช็กบิลหุ้นชี้ราคาเปลี่ยนตามพื้นฐาน โพสต์ทูเดย์  14 กันยายน 2549
4 โบรกเกอร์แนะจับตาเพิ่มทุน "ดีวัน"  กรุงเทพธุรกิจ  11 กันยายน 2549
5 กุนซือดราก้อนฯ ดิ้นหาสารพัดวิธี อัดทุน A-HOST  โพสต์ทูเดย์  7 กันยายน 2549
6 ตลท.ขู่ถอด D1 ไร้ธุรกิจหลัก  ผู้จัดการรายวัน  6 กันยายน 2549
7 ดราก้อนวันดิ้นหนีตกชั้นเทรดเอ็มเอไอ  โพสต์ทูเดย์  4 กันยายน 2549
8 ตลท.ไล่บี้ D1 แจงขายหุ้นเฉพาะเจาะจง ผู้จัดการรายวัน  31 สิงหาคม 2549
9 ไออีซีรับกำไรขาย "เอ-โฮส" 40 ล้าน ดีวันยอมซื้อราคาสูงกว่าต้นทุน 50% กรุงเทพธุรกิจ  19 สิงหาคม 2549
10 ดราก้อนวันมุ่งแปรสภาพเป็นโฮลดิ้ง ผู้จัดการรายวัน  17 สิงหาคม 2549
11 "ไออีซี" สนลงทุนธุรกิจพลังงาน ตลาดสั่งแจงเพิ่มซื้อหุ้น A-HOST  มติชน  13 มกราคม 2549
12 "เมโทรซิสเต็มส์" ตัดขายธุรกิจไม่ชำนาญ  กรุงเทพธุรกิจ  28 ธันวาคม 2548
13 MSC ขายทิ้งหุ้น 3 บ.ย่อยรับเงิน 106 ล. ผู้จัดการรายวัน  27 ธันวาคม 2548
14 สั่งไออีซีแจงสัมพันธ์ 8 นักลงทุนซื้อหุ้น  กรุงเทพธุรกิจ  27 ธันวาคม 2548