tt&t ทำไมราคาip ตอนเข้าตลาด141 บาทละคับ

[hot]

ตอนนั้นพาร์กอะไรหรือ

[น้ำครึ่งแก้ว]

   
 Stock    
 

Name :  บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน)  

Detail
Address : อาคารเมืองไทย-ภัทรคอมเพล็กซ์ 1 ชั้น 24, 252/30 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม.  10320
Telephone : 0-2693-2100
Fax : 0-2693-2124
URL : www.ttt.co.th
Established date :  29 June 1992
Company Type : Listed  
Account Form : Industrial and Service  
Financeial Advisor : บริษัทหลักทรัพย์ แอสเซท พลัส จำกัด (มหาชน)
Form 56-1 : 21/03/2006 | 25/03/2005 | 30/03/2004 | 21/08/2003 | 25/03/2002 | 04/04/2001 | 04/04/2000 | 21/04/1999 | 09/04/1998 | 20/10/1997 |  
Dividend Policy : ร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี (โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติม)
Listing Condition :  

 
Captial(Baht) Audit
Authorized : 70,000,000,000.00  
Paid-up :
  Common 32,424,245,150.00
  Prefered  0.00
 
Audit date : 31 Dec 2006  
Company : บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชี จำกัด  
Auditor : นาย สุพจน์ สิงห์เสน่ห์,
นางสาว สมบูรณ์ ศุภศิริภิญโญ,
นาย เทอดทอง เทพมังกร,
นาย เอกสิทธิ์ ชูธรรมสถิตย์,


I-SIN Number
Local :  TH040205G907
Foreign :  TH0402010019
NVDR :  TH040205G9R3

Security  TT&T TT&T-F TT&T-W1 TT&T-WB TT&T-WC TT&T-WD TT&T-WE TT&T@1  
 
Name :  บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน)
Sector :  เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
Market :  SET
Security Type :  Common Stock
Status :  Listed On SET
Listed Date :  31/05/1994
Fiscal year end : 31 - December  
IPO Price :  145.00 Baht
Listed Share :  3,242,421,015 Shrs
Par :  10.00 Baht
Foreign : As of 06 Sep 2006  

   Limit* :  1,296,968,406 Shrs 40.00%
   Available* :  769,384,093 Shares 23.73%
   Queue* :  0 Shares 0.00%
   Limit for Exercise* :  1,588,786,297 Shrs 49.00%
 
Silent Period :  
   Period : 31 May 1994 - 29 Nov 1994  
   Listed Share : 397,500,000 Shares
Detail :  

 

[น้ำครึ่งแก้ว]

[quote]

เริ่มเข้าตลาด ปี 1996    
ทุนจดทะเบียน 5000 ล้านบาท   มีหุ้น 500 ล้านหุ้น    par  10 บาท

ปัจจุบัน
ทุนจดทะเบียน 32424 ล้านบาท  มีหุ้น   3242 ล้านหุ้น  par  10 บาท

ไม่เคย แตก พาร์ เลยครับ

สำหรับ คนถือตั้งแต่ IPO นี่     คงไม่ต้องพูดอะไรแล้วครับ ถือยาวอย่างเดียว

[hot]

งงแฮะแบบนี้
500ล้านหุ้น*141 บาท
เท่ากับมูลค่าตอนเข้าตลาด70500ล้านเลยหรือคับ

สมัยนั้นเงินทุนที่เข้าในตลาดมีค่ามากกว่าตลาดปัจจุบัน
หรือคับ

[chatchai]

แล้วคุณ hot รู้ไหมครับว่า  TRUE (สมัยก่อนชื่อ TA) SAMART JAS มีราคา IPO เท่าไร  และราคาสูงสุดที่เคยซื้อขายกันที่เท่าไร

สมัยนั้นหุ้นสื่อสารเป็นเทพเจ้าครับ  โดยมีนักวิเคราะห์ชื่อดังเป็นคนเชียร์ครับ

[hot]

หุ้นสื่อสารเป็นเทพเจ้า

ผมว่ากลุ่มสื่อสารเป็นกลุ่มยังไงต้องเป็นหนี้
อยู่แล้ว เพราะเงินที่ใช้ลงทุนเครือข่ายมาไม่ได้
มากจากเงินลงทุนก้อนแรกล้วนล้วน  ต้องมาจาก
การกู้อย่างเดียว


แต่ปัญหา  เวลาปัจจุบัน ถึงยุคเก็บเกี่ยวกับ

เงินที่ลงไปเครือข่ายหรือยังคับ หรือต้องคอยต่อไป

[thawattt]

ตัวนี้ต้องลงทุนระยะยาวครับ ยังต้องเหนื่อยกับการต่อยอดธุรกิจว่าจะดีขึ้นหรือไม่ครับ

ช่วงนี้ผลการดำเนินงานยังขาดทุนอยู่

มีหนี้สินที่ต้องใช้คืนประมาณ 18000  ล้านบาท

ขาดทุนสะสมอีกประมาณ 19000 ล้านบาท

จะเก็บเกี่ยวได้ ต้องหาทางคืนหนี้ให้เร็วสุด พร้อมกับต้องมีกำไรจากการดำเนินงานเพื่อล้างขาดทุนสะสม ซึ่งมีเวลาเก็บเกี่ยวสัมปทานที่เหลืออยู่อีก 12 ปี คือลงทุนมาแล้ว 13 ปียังไม่คืนทุนแถมยังขาดทุนอยู่ครับ เพราะต้องจ่ายค่าสัมปทานให้กับองค์การโทรศัพท์สูงถึง 43.5% ซึ่งเทียบกับ TA ที่จ่ายอยู่เพียง 20 กว่าเปอร์เซ็นต์

ปัญหาใหญ่ของเขาอยู่ที่

1. ธุรกิจหลัก Fixed Line รายได้ต่อสาย ลดลงโดยตลอด เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันกับมือถือที่เติบโตสูงกว่าได้ แถมปริมาณสายที่มีอยู่ ใช้ไปได้ 1.2 ล้านสาย เทียบกับ Full Capacity 1.5 ล้านสาย การเติบโตที่ผ่านมาก็เติบโตน้อยมาก

2. ความที่ยังอยู่ในช่วงของการฟื้นฟูกิจการ เวลาจะลงทุนเพิ่มต้องขออนุญาตเจ้าหนี้ด้วย ทำให้การดำเนินงานในการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจทำได้ไม่คล่องตัว แถม Ebitda กว่า ครึ่งหนึ่งต้องเอาไปใช้หนี้เงินต้น และดอกเบี้ยจ่ายที่ขึ้นลงตามภาวะตลาด

อนาคตของตัวนี้ อยู่ที่ธุรกิจ Non Voice ทั้งหลาย และที่ตอนนี้เติบโตสูงมากคือ Boardband ซึ่งมี Full Capacity สูงถึง 400000 เลขหลาย ในขณะที่ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการประมาณ 120000 รายครับ กับการลดต้นทุน Fixed Line ผ่านบริษัทลูก ที่ได้รับอนุญาตจากกทช. ซึ่งน่าจะเกิดผลในปีหน้าครับ ปัญหาคือ ธุรกิจใหม่เขาจะเติบโตได้ทันกับธุรกิจเดิมที่นับวันรายได้ต่อสายมันลดลงต่อเนื่องได้อย่างไร

สำหรับหนี้สินมีหนี้ต่างประเทศอยู่ 260 ล้านเหรียญ ได้ประโยชน์ตรงที่ถ้าค่าเงินบาทลดลง ก็ทำให้หนี้ลดลง แต่ไม่ถาวร ตราบใดที่ยังชำระหนี้ไม่หมด ก็มีโอกาสที่เมื่อเงินบาทอ่อนตัวก็กลับมาขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ เว้นแต่เมื่อเวลาเงินบาทแข็ง ๆ แล้วเขาสามารถไปกู้ยืมเงินในประเทศมาชำระได้ ก็จะทำให้ความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนหมดไปครับ

[hot]

ผมว่าปัญหาการหาแหล่งเงินทุน มาเพิ่มสำหรับ
การต่อยอดธุรกิจ  รายได้เพียง6-7 พันล้านผมรู้สึกว่า
น้อยเกินกว่าจะเป็นกระแสเงินสดที่น่าสนใจ
น่าจะมีรายได้ระดับ 5หมื่นล้าน ถึงจะกลับจากขาดทุน
มากำไรได้  หรือจุดอ่อนเขาไม่มีมือถือในเครือ