คุณเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ชอบดูหุ้น Most Active, Top Gain, Top Lose หรือไม่?
นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะตอบว่า "ใช่" ซึ่งนั่นแหละเป็นที่มาของการเก็งกำไร
นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะถามว่า "เกิดอะไรขึ้นกับหุ้น...?" "ทำไมหุ้น...ถึงขึ้น?" "ทำไมหุ้น...ถึงลง?" คำถามเหล่านี้แหละที่เป็นที่มาของการเก็งกำไร
นักวิเคราะห์หรือโบรกเกอร์จำเป็นต้องหาคำตอบมาให้แก่นักลงทุน ทั้งๆ ที่หุ้นในตลาดประเทศเกิดใหม่ซึ่งถือว่ายังมีขนาดเล็กและมีนักลงทุนจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับฐานเงินออมหรือประชากรนั้น มีหุ้นจำนวนมากที่ราคาขึ้นลงโดยไม่จำเป็นต้องมีปัจจัยรองรับ โดยเฉพาะหุ้นที่มีสภาพคล่องไม่มากนัก หรือมีสภาพคล่องมากระดับหนึ่งแต่เผอิญมี "ผู้ดูแลตัวใหญ่" พอที่จะดูแลราคาหุ้นนั้นได้
บางครั้งนักวิเคราะห์หรือโบรกเกอร์ก็รู้ทั้งรู้ว่า สิ่งที่อธิบายไปนั้นเป็นการทำย้อนกลับจาก "คำตอบไปหาโจทย์" หรือ "จากผลย้อนมาหาเหตุ" ซึ่งจะอธิบายยังไงก็ได้ เช่น หาปัจจัยบวกมาสนับสนุนหุ้นที่ราคาขึ้นไปแล้ว หรือหาปัจจัยลบมาสนับสนุนหุ้นที่ราคาลดลงมาแล้ว แต่นักลงทุนส่วนมากก็ยินดีที่จะรับฟังและเชื่อเหตุผลเหล่านั้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ตนเองให้กล้าที่จะเข้าไปซื้อหรือขายหุ้นดังกล่าว (โดยเฉพาะกรณีการซื้อหุ้นเก็งกำไร)
ที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้น คือ การปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับราคาเป้าหมาย ทำให้นักลงทุนประเภท "หน่วยกล้าตาย" ทั้งหลาย พร้อมที่จะกระโจนเข้าสู่สมรภูมิทันทีที่ราคาในกระดานขณะนั้นยังต่ำว่าราคาเป้าหมายที่ถูก "ใครบางคน" สร้างขึ้นมา ทั้งๆ ที่บางครั้งยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า หุ้นที่ซื้อตามเป้าหมายนั้น เป็นหุ้นกิจการอะไร หรืออยู่ในหมวดอะไร (VI อาจบอกว่า ไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ สามารถหาดูได้ตามห้องค้าทั่วไป)
ยิ่งถ้าเคยทำกำไรสำเร็จด้วยวิธีนี้ครั้งหนึ่งแล้ว ยิ่งยากที่จะเลิก มันคล้ายกับการพนัน ตอนแรกเล่นมักจะได้ พอเพิ่มเงินพนันขึ้นเรื่อยๆ มักจะเริ่มเสีย พอเสียมักจะทุ่มเข้าไปอีกเพื่อเอาคืน (คนเรามีนิสัยชอบเอาชนะ ไม่ชอบยอมแพ้) แต่ร้อยทั้งร้อยครับ "การพนันไม่เคยทำให้ใครรวย" ฉันใดก็ฉันนั้น "การเก็งกำไรก็เช่นกัน"
ลองตรวจสอบดูสิว่า ตัวคุณเองเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ว่านี้รึเปล่า?
คำเฉลย "ทำไมคนเราถึงชอบเก็งกำไรกันนัก?"
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 0