LH ยืนอยู่ได้อย่างไร
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
LH ยืนอยู่ได้อย่างไร
โพสต์ที่ 1
6 เดือนแรกกำไรไป 1400 ล้าน
ครึ่งปีหลังตลาดน่าจะทรงๆ ฉะนั้น ทั้งปีคง 2800 ล้าน
ตอนนี้ Mkt Cap 59000 ล้าน
PE (2549) เท่ากับ 21 เท่า เชียวนะ แล้วไหนจะมีวอร์อีกล่ะ
หรือว่าเดี๋ยวนี้นักลงทุนหันมามองระยะยาวกันหมดแล้ว :roll:
ครึ่งปีหลังตลาดน่าจะทรงๆ ฉะนั้น ทั้งปีคง 2800 ล้าน
ตอนนี้ Mkt Cap 59000 ล้าน
PE (2549) เท่ากับ 21 เท่า เชียวนะ แล้วไหนจะมีวอร์อีกล่ะ
หรือว่าเดี๋ยวนี้นักลงทุนหันมามองระยะยาวกันหมดแล้ว :roll:
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
LH ยืนอยู่ได้อย่างไร
โพสต์ที่ 2
น่ากลัวครับ..........
ไหนดอกเบี้ยจะขึ้นไปเรื่อยๆอีก ตอนนี้แค่หยุดชั่วคราว แต่แนวโน้มระยะยาวยังเป็นขาขึ้น
ไหนกำลังซื้อจะหดลงเรื่อยๆอีก
ไหนคู่แข่งจะมีออกเยอะแยะ
ไหนต้นทุนก็สูงขึ้นลิบๆ
ประชากรก็ไม่ได้เพิ่มมากมาย ร้อยละ 2 ต่อปีเท่านั้นเอง
น่าจะเป็นวัฏจักรขาลง ส่วนขาขึ้นน่าจะอยู่ไกลออกไปเป็นสิบปี
ที่ยืนอยู่ได้ แบรนด์เนมและผู้บริหารคงเป็นปัจจัยหลัก
ไหนดอกเบี้ยจะขึ้นไปเรื่อยๆอีก ตอนนี้แค่หยุดชั่วคราว แต่แนวโน้มระยะยาวยังเป็นขาขึ้น
ไหนกำลังซื้อจะหดลงเรื่อยๆอีก
ไหนคู่แข่งจะมีออกเยอะแยะ
ไหนต้นทุนก็สูงขึ้นลิบๆ
ประชากรก็ไม่ได้เพิ่มมากมาย ร้อยละ 2 ต่อปีเท่านั้นเอง
น่าจะเป็นวัฏจักรขาลง ส่วนขาขึ้นน่าจะอยู่ไกลออกไปเป็นสิบปี
ที่ยืนอยู่ได้ แบรนด์เนมและผู้บริหารคงเป็นปัจจัยหลัก
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
LH ยืนอยู่ได้อย่างไร
โพสต์ที่ 3
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดย ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
อสังหาริมทรัพย์เป็นหุ้นกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่มีวันที่นักลงทุนจะหมดความสนใจ มันเป็นหุ้นที่มีวันที่สดใสและทำกำไรมหาศาลให้กับคนที่ถือและวันที่เลวร้ายที่ทำให้คนขาดทุนได้มหาศาลและคน เลิกเล่น ได้ แต่ก็มักจะเป็นการเลิกชั่วคราว ในฐานะของ Value Investor เราควรทำความเข้าใจกับธุรกิจนี้เพื่อที่จะไม่ตกหลุมพรางที่มักจะเกิดขึ้นในธุรกิจที่ เล่นยากนี้
หุ้นในกลุ่มอสังหาฯ นั้นที่จริงประกอบด้วยบริษัทที่ทำธุรกิจที่ต่างกันในสาระสำคัญประมาณ 4-5 กลุ่มด้วยกันโดยมีกลุ่มแรกที่เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดก็คือ กลุ่มที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่อยู่อาศัยเพื่อขาย กลุ่มที่สองคือกลุ่มที่เป็นอาคารสำนักงานหรือศูนย์การค้าให้เช่า กลุ่มที่สามคือกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มที่สี่คือกลุ่มผู้รับเหมาทั้งหลาย กลุ่มที่ห้านั้นก็อาจจะถือว่าเป็นอนุพันธ์ของกลุ่มที่สองนั่นก็คือกลุ่มกองทุนรวมอสังหาฯซึ่งก็คือเป็นเจ้าของทรัพย์สินให้เช่านั่นเอง
เรามาดูธรรมชาติของแต่ละกลุ่มกัน
กลุ่มสร้างบ้านหรือคอนโดขายเป็นหุ้นที่มีความคึกคักและเป็นหุ้นที่เก็งกำไรกันมากที่สุด ธุรกิจในกลุ่มนี้ถ้ามองโดยภาพรวมรวมแล้วก็เป็นธุรกิจที่มีความต้องการที่มีเสถียรภาพพอใช้ได้แม้ว่าอาจจะมีความไวต่อภาวะการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่บ้างนั่นคือถ้าเศรษฐกิจตกต่ำ ปริมาณการซื้อบ้านอาจจะชะลอตัวลงบ้าง แต่โดยทั่วไป การซื้อบ้านก็เป็นสิ่งจำเป็นและมักเติบโตไปกับลักษณะของประชากรศาสตร์ที่ค่อนข้างเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ แต่ถ้ามองถึงบริษัทแต่ละแห่งแล้ว ยอดขายบ้านหรือคอนโดของแต่ละบริษัทอาจจะผันแปรไปได้มากซึ่งอาจจะส่งผลต่อผลการดำเนินงานและราคาหุ้นของบริษัทได้มากด้วยเหตุผลต่อไปนี้
ประการแรกก็คือ ธุรกิจขายบ้านหรือคอนโดนั้นก็มีลักษณะสำคัญของอสังหาฯอย่างที่มีการพูดกันนั่นก็คือขึ้นอยู่กับ ทำเล ทำเล และทำเล ดังนั้นถ้าปีไหนบริษัทมีโครงการที่อยู่ในทำเลดี บริษัทก็อาจจะขายได้มาก แต่ถ้าปีไหนทำเลสู้คู่แข่งไม่ได้ก็อาจจะแย่ ประการต่อมาก็คือ ธุรกิจนี้ คนซื้อมักจะไม่ซื้อซ้ำ ซื้อครั้งเดียวแล้วอาจจะไม่ซื้อไปอีก 20-30 ปี ไม่ต้องพูดว่าจะซื้อจากบริษัทเดิมหรือไม่ ดังนั้นเป็นเรื่องยากมากที่จะคาดการณ์ว่ายอดขายจะเป็นเท่าไร เพราะยอดขายปีก่อนไม่สามารถจะเป็นฐานที่แน่นอนสำหรับปีนี้ ประการสุดท้ายที่จะพูดก็คือ เรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่มักจะมีผลต่อธุรกิจเนื่องจากดอกเบี้ยจะเป็นตัวกำหนดว่าบ้านราคาเท่าไรที่จะขายได้มาก ถ้าดอกเบี้ยสูงราคาบ้านที่ขายได้จะมีแนวโน้มต่ำลงเพื่อให้คนสามารถผ่อนได้ ดังนั้นยอดขายและกำไรของบริษัทในกลุ่มนี้จึงผันผวนและคาดการณ์ได้ยาก และนี่ทำให้การลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่สำหรับผมแล้ว เป็นเรื่องของการเก็งกำไร มากกว่าจะเป็นการลงทุนระยะยาว
กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมเป็นกลุ่มที่มีความมั่นคงกว่าในด้านของยอดขายและกำไร แต่ก็ยังถือว่าค่อนข้างผันผวนเมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นอีกหลายอุตสาหกรรม เหตุผลก็คือนิคมอุตสาหกรรมนั้นมีผู้เล่นจำนวนน้อยกว่า และการเข้ามาแข่งของคู่แข่งหน้าใหม่นั้นก็ยากกว่ากลุ่มสร้างบ้านขายมาก อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมนั้นมีความผันแปรค่อนข้างสูงขึ้นอยู่กับภาวะการลงทุนทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ ดังนั้น การประมาณการยอดขายของปีต่อ ๆ ไปจึงค่อนข้างจะทำได้ยาก
กลุ่มผู้รับเหมาเป็นธุรกิจที่คาดการณ็ได้ยากที่สุดเนื่องจากต้องแข่งขันประมูลงานซึ่งต้องแข่งขันด้วยราคาเป็นหลัก ที่แย่ยิ่งกว่าก็คือการประมาณการณ์กำไร เพราะงานรับเหมานั้นมีมาร์จินหรือผลกำไรขั้นต้นต่อยอดขายต่ำ ถ้ามีการผิดพลาดในการคำนวณหรือราคาวัสดุเพิ่มขึ้น กำไรที่คาดไว้อาจจะลดลงได้มาก นอกจากนั้น ธุรกิจรับเหมาจำนวนมากรับงานจากหน่วยงานรัฐซึ่งเป็นที่เข้าใจว่าต้องมีเงินนอกระบบเพื่อ หล่อลื่น จึงเป็นธุรกิจที่ผมเรียกว่า สีเทา ซึ่งทำให้การลงทุนซื้อหุ้นเหล่านี้จะต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษและต้องมี Margin of Safety มากเป็นพิเศษ
ธุรกิจกลุ่มที่มีความแน่นอนในด้านของผลการดำเนินงานมากก็คือกลุ่มผู้ให้เช่าอสังหาฯ ซึ่งสามารถคาดการณ์ผลการดำเนินงานได้ค่อนข้างใกล้เคียงเนื่องจากการเช่ามักจะมีความต่อเนื่องค่อนข้างยาว และการเปลี่ยนแปลงของผู้เช่าก็มักมีน้อย ที่จริงกำไรมักมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการปรับค่าเช่าที่มักเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา เช่นเดียวกัน การขยายตัวของพื้นที่เช่าก็มักจะมีแผนการล่วงหน้าและความสำเร็จก็มักจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะถ้าเป็นผู้พัฒนาที่มีผลงานที่เป็นที่ยอมรับแล้ว และนี่เป็นกลุ่มเดียวในธุรกิจอสังหาฯ ที่ผมเห็นว่าเป็นหุ้น Value ที่สามารถลงทุนระยะยาวได้ถ้ามีราคาหุ้นที่สมเหตุผล
กลุ่มสุดท้ายก็คือกองทุนอสังหาต่าง ๆ ซึ่งก็คือธุรกิจให้เช่าอสังหาฯ เหมือนกัน แต่ผมคิดว่ากลุ่มนี้จะมีข้อจำกัดกว่าบริษัทที่พัฒนาเพื่อให้เช่าในแง่ที่ว่าโอกาสในการที่จะเติบโตจะมีน้อยกว่านั่นก็คือโตได้เฉพาะจากราคาค่าเช่าที่จะเพิ่มขึ้น แต่ความเสี่ยงของกลุ่มจะมากกว่าเนื่องจากเรายังไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีปัจจัยอะไรที่จะมากระทบกับกิจการ เพราะเรื่องกองทุนนี้ยังเป็นเรื่องใหม่ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะมีอะไรที่เรายังไม่เห็นเกิดขึ้นและกระทบผลการดำเนินงานอย่างร้ายแรงและทำให้มูลค่าของหน่วยลงทุนหดหายไปได้มากมาย
ทั้งหมดนี้ก็คือการบรรยายธรรมชาติของธุรกิจแต่ละกลุ่มในกลุ่มอสังหาฯ อย่างคร่าวที่สุด ข้อสรุปของผมก็คือ หุ้นอสังหาส่วนใหญ่มักไม่มีความแน่นอน การลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ ยกเว้นกลุ่มให้เช่าจะต้องศึกษาอย่างลึกซึ้งเพราะโอกาสได้เสียนั้นสูง
อสังหาริมทรัพย์เป็นหุ้นกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่มีวันที่นักลงทุนจะหมดความสนใจ มันเป็นหุ้นที่มีวันที่สดใสและทำกำไรมหาศาลให้กับคนที่ถือและวันที่เลวร้ายที่ทำให้คนขาดทุนได้มหาศาลและคน เลิกเล่น ได้ แต่ก็มักจะเป็นการเลิกชั่วคราว ในฐานะของ Value Investor เราควรทำความเข้าใจกับธุรกิจนี้เพื่อที่จะไม่ตกหลุมพรางที่มักจะเกิดขึ้นในธุรกิจที่ เล่นยากนี้
หุ้นในกลุ่มอสังหาฯ นั้นที่จริงประกอบด้วยบริษัทที่ทำธุรกิจที่ต่างกันในสาระสำคัญประมาณ 4-5 กลุ่มด้วยกันโดยมีกลุ่มแรกที่เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดก็คือ กลุ่มที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่อยู่อาศัยเพื่อขาย กลุ่มที่สองคือกลุ่มที่เป็นอาคารสำนักงานหรือศูนย์การค้าให้เช่า กลุ่มที่สามคือกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มที่สี่คือกลุ่มผู้รับเหมาทั้งหลาย กลุ่มที่ห้านั้นก็อาจจะถือว่าเป็นอนุพันธ์ของกลุ่มที่สองนั่นก็คือกลุ่มกองทุนรวมอสังหาฯซึ่งก็คือเป็นเจ้าของทรัพย์สินให้เช่านั่นเอง
เรามาดูธรรมชาติของแต่ละกลุ่มกัน
กลุ่มสร้างบ้านหรือคอนโดขายเป็นหุ้นที่มีความคึกคักและเป็นหุ้นที่เก็งกำไรกันมากที่สุด ธุรกิจในกลุ่มนี้ถ้ามองโดยภาพรวมรวมแล้วก็เป็นธุรกิจที่มีความต้องการที่มีเสถียรภาพพอใช้ได้แม้ว่าอาจจะมีความไวต่อภาวะการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่บ้างนั่นคือถ้าเศรษฐกิจตกต่ำ ปริมาณการซื้อบ้านอาจจะชะลอตัวลงบ้าง แต่โดยทั่วไป การซื้อบ้านก็เป็นสิ่งจำเป็นและมักเติบโตไปกับลักษณะของประชากรศาสตร์ที่ค่อนข้างเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ แต่ถ้ามองถึงบริษัทแต่ละแห่งแล้ว ยอดขายบ้านหรือคอนโดของแต่ละบริษัทอาจจะผันแปรไปได้มากซึ่งอาจจะส่งผลต่อผลการดำเนินงานและราคาหุ้นของบริษัทได้มากด้วยเหตุผลต่อไปนี้
ประการแรกก็คือ ธุรกิจขายบ้านหรือคอนโดนั้นก็มีลักษณะสำคัญของอสังหาฯอย่างที่มีการพูดกันนั่นก็คือขึ้นอยู่กับ ทำเล ทำเล และทำเล ดังนั้นถ้าปีไหนบริษัทมีโครงการที่อยู่ในทำเลดี บริษัทก็อาจจะขายได้มาก แต่ถ้าปีไหนทำเลสู้คู่แข่งไม่ได้ก็อาจจะแย่ ประการต่อมาก็คือ ธุรกิจนี้ คนซื้อมักจะไม่ซื้อซ้ำ ซื้อครั้งเดียวแล้วอาจจะไม่ซื้อไปอีก 20-30 ปี ไม่ต้องพูดว่าจะซื้อจากบริษัทเดิมหรือไม่ ดังนั้นเป็นเรื่องยากมากที่จะคาดการณ์ว่ายอดขายจะเป็นเท่าไร เพราะยอดขายปีก่อนไม่สามารถจะเป็นฐานที่แน่นอนสำหรับปีนี้ ประการสุดท้ายที่จะพูดก็คือ เรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่มักจะมีผลต่อธุรกิจเนื่องจากดอกเบี้ยจะเป็นตัวกำหนดว่าบ้านราคาเท่าไรที่จะขายได้มาก ถ้าดอกเบี้ยสูงราคาบ้านที่ขายได้จะมีแนวโน้มต่ำลงเพื่อให้คนสามารถผ่อนได้ ดังนั้นยอดขายและกำไรของบริษัทในกลุ่มนี้จึงผันผวนและคาดการณ์ได้ยาก และนี่ทำให้การลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่สำหรับผมแล้ว เป็นเรื่องของการเก็งกำไร มากกว่าจะเป็นการลงทุนระยะยาว
กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมเป็นกลุ่มที่มีความมั่นคงกว่าในด้านของยอดขายและกำไร แต่ก็ยังถือว่าค่อนข้างผันผวนเมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นอีกหลายอุตสาหกรรม เหตุผลก็คือนิคมอุตสาหกรรมนั้นมีผู้เล่นจำนวนน้อยกว่า และการเข้ามาแข่งของคู่แข่งหน้าใหม่นั้นก็ยากกว่ากลุ่มสร้างบ้านขายมาก อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมนั้นมีความผันแปรค่อนข้างสูงขึ้นอยู่กับภาวะการลงทุนทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ ดังนั้น การประมาณการยอดขายของปีต่อ ๆ ไปจึงค่อนข้างจะทำได้ยาก
กลุ่มผู้รับเหมาเป็นธุรกิจที่คาดการณ็ได้ยากที่สุดเนื่องจากต้องแข่งขันประมูลงานซึ่งต้องแข่งขันด้วยราคาเป็นหลัก ที่แย่ยิ่งกว่าก็คือการประมาณการณ์กำไร เพราะงานรับเหมานั้นมีมาร์จินหรือผลกำไรขั้นต้นต่อยอดขายต่ำ ถ้ามีการผิดพลาดในการคำนวณหรือราคาวัสดุเพิ่มขึ้น กำไรที่คาดไว้อาจจะลดลงได้มาก นอกจากนั้น ธุรกิจรับเหมาจำนวนมากรับงานจากหน่วยงานรัฐซึ่งเป็นที่เข้าใจว่าต้องมีเงินนอกระบบเพื่อ หล่อลื่น จึงเป็นธุรกิจที่ผมเรียกว่า สีเทา ซึ่งทำให้การลงทุนซื้อหุ้นเหล่านี้จะต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษและต้องมี Margin of Safety มากเป็นพิเศษ
ธุรกิจกลุ่มที่มีความแน่นอนในด้านของผลการดำเนินงานมากก็คือกลุ่มผู้ให้เช่าอสังหาฯ ซึ่งสามารถคาดการณ์ผลการดำเนินงานได้ค่อนข้างใกล้เคียงเนื่องจากการเช่ามักจะมีความต่อเนื่องค่อนข้างยาว และการเปลี่ยนแปลงของผู้เช่าก็มักมีน้อย ที่จริงกำไรมักมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการปรับค่าเช่าที่มักเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา เช่นเดียวกัน การขยายตัวของพื้นที่เช่าก็มักจะมีแผนการล่วงหน้าและความสำเร็จก็มักจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะถ้าเป็นผู้พัฒนาที่มีผลงานที่เป็นที่ยอมรับแล้ว และนี่เป็นกลุ่มเดียวในธุรกิจอสังหาฯ ที่ผมเห็นว่าเป็นหุ้น Value ที่สามารถลงทุนระยะยาวได้ถ้ามีราคาหุ้นที่สมเหตุผล
กลุ่มสุดท้ายก็คือกองทุนอสังหาต่าง ๆ ซึ่งก็คือธุรกิจให้เช่าอสังหาฯ เหมือนกัน แต่ผมคิดว่ากลุ่มนี้จะมีข้อจำกัดกว่าบริษัทที่พัฒนาเพื่อให้เช่าในแง่ที่ว่าโอกาสในการที่จะเติบโตจะมีน้อยกว่านั่นก็คือโตได้เฉพาะจากราคาค่าเช่าที่จะเพิ่มขึ้น แต่ความเสี่ยงของกลุ่มจะมากกว่าเนื่องจากเรายังไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีปัจจัยอะไรที่จะมากระทบกับกิจการ เพราะเรื่องกองทุนนี้ยังเป็นเรื่องใหม่ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะมีอะไรที่เรายังไม่เห็นเกิดขึ้นและกระทบผลการดำเนินงานอย่างร้ายแรงและทำให้มูลค่าของหน่วยลงทุนหดหายไปได้มากมาย
ทั้งหมดนี้ก็คือการบรรยายธรรมชาติของธุรกิจแต่ละกลุ่มในกลุ่มอสังหาฯ อย่างคร่าวที่สุด ข้อสรุปของผมก็คือ หุ้นอสังหาส่วนใหญ่มักไม่มีความแน่นอน การลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ ยกเว้นกลุ่มให้เช่าจะต้องศึกษาอย่างลึกซึ้งเพราะโอกาสได้เสียนั้นสูง
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
LH ยืนอยู่ได้อย่างไร
โพสต์ที่ 4
กลุ่ม LH ก่อหนี้ขึ้นอย่างน่ากลัวครับ
ไม่รู้ว่าผู้บริหารคิดอย่างไร
ดอกเบี้ยยิ่งขึ้น พี่แกยิ่งก่อหนี้ แต่จ่ายปันผลดี
ผิดกับอสังหารายอื่นๆที่พยายามปันผลน้อยหรือไม่จ่าย แต่เอาไปจ่ายคืนหนี้
ผมงงกับความคิดเขาจริงๆ คล้ายๆกับ tta ตอนราคาดอยก่อนที่ตระกูลไทเก้นจะทิ้งบริษัทไป
ไม่รู้ว่าผู้บริหารคิดอย่างไร
ดอกเบี้ยยิ่งขึ้น พี่แกยิ่งก่อหนี้ แต่จ่ายปันผลดี
ผิดกับอสังหารายอื่นๆที่พยายามปันผลน้อยหรือไม่จ่าย แต่เอาไปจ่ายคืนหนี้
ผมงงกับความคิดเขาจริงๆ คล้ายๆกับ tta ตอนราคาดอยก่อนที่ตระกูลไทเก้นจะทิ้งบริษัทไป
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
-
- Verified User
- โพสต์: 331
- ผู้ติดตาม: 0
LH ยืนอยู่ได้อย่างไร
โพสต์ที่ 5
โดยทั่ว ๆ ๆปแล้ว ...
ราคาที่เห็น ณ ปัจจุบัน ไม่ใช่ ราคาของพื้นฐาน
แต่เป็น ...
ราคาที่สะท้อนถึงความคาดหวังของพื้นฐานอนาคต
กำไรครึ่งปีแรกแย่จริง แต่ถือได้ว่าปีนี้เป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติไปจากค่าเฉลี่ยที่ควรจะเป็นของหุ้นตัวนี้
เรื่องดอกเบี้ย บางคนมองว่าใกล้ Peak แล้ว
และกำลังเริ่มจะเป็นขาลง
จำนวนประชากรเติบโตช้าลงจริง
แต่สังคมไทยอดีตเป็นครอบครัวใหญ่ อยู่กันหลายคน
จะเริ่มกลายเป็น "ครอบครัวเดี่ยว" อยู่กันแค่พ่อแม่ลูก
เพราะฉะนั้น แนวโน้มความต้องการบ้านยังสูงอยู่
หุ้นตัวนี้วิ่งจากปี 2000 ที่ราคา 1 บาท
ไปปี 03 หุ้นสูงสุดที 13.50 บาท ใช้เวลาประมาณ 3 ปี
มาปีนี้ 06 ราคาต่ำสุดประมาณ 6 บาท ม่ส่วนลดลงมามากกว่า 50% ใช้เวลาประมาณ 3 ปีเช่นกัน
คู่แข่งเยอะจริง ... แต่อย่าลืม สโลแกน
"อย่าวาดวิมานบนอากาศ ซื้อบ้านอาจไม่ได้บ้าน"
ถ้าจะซื้อบ้านสักหลัง ซื้อของผู้ประกอบการที่ไม่มีชื่อเสีย
จะดีกว่าครับ ... เชื่อว่าหลายคนที่เคยซื้อบ้าน น่าจะรู้ซึ้งเรื่องนี้ดี
อีกอย่างกำไร margin ในวงการนี้ยังสูงพอสมควร
20 - 30% ยังมี room ให้แข่งกันได้อีกนาน
ราคาที่เห็น ณ ปัจจุบัน ไม่ใช่ ราคาของพื้นฐาน
แต่เป็น ...
ราคาที่สะท้อนถึงความคาดหวังของพื้นฐานอนาคต
กำไรครึ่งปีแรกแย่จริง แต่ถือได้ว่าปีนี้เป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติไปจากค่าเฉลี่ยที่ควรจะเป็นของหุ้นตัวนี้
เรื่องดอกเบี้ย บางคนมองว่าใกล้ Peak แล้ว
และกำลังเริ่มจะเป็นขาลง
จำนวนประชากรเติบโตช้าลงจริง
แต่สังคมไทยอดีตเป็นครอบครัวใหญ่ อยู่กันหลายคน
จะเริ่มกลายเป็น "ครอบครัวเดี่ยว" อยู่กันแค่พ่อแม่ลูก
เพราะฉะนั้น แนวโน้มความต้องการบ้านยังสูงอยู่
หุ้นตัวนี้วิ่งจากปี 2000 ที่ราคา 1 บาท
ไปปี 03 หุ้นสูงสุดที 13.50 บาท ใช้เวลาประมาณ 3 ปี
มาปีนี้ 06 ราคาต่ำสุดประมาณ 6 บาท ม่ส่วนลดลงมามากกว่า 50% ใช้เวลาประมาณ 3 ปีเช่นกัน
คู่แข่งเยอะจริง ... แต่อย่าลืม สโลแกน
"อย่าวาดวิมานบนอากาศ ซื้อบ้านอาจไม่ได้บ้าน"
ถ้าจะซื้อบ้านสักหลัง ซื้อของผู้ประกอบการที่ไม่มีชื่อเสีย
จะดีกว่าครับ ... เชื่อว่าหลายคนที่เคยซื้อบ้าน น่าจะรู้ซึ้งเรื่องนี้ดี
อีกอย่างกำไร margin ในวงการนี้ยังสูงพอสมควร
20 - 30% ยังมี room ให้แข่งกันได้อีกนาน
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
LH ยืนอยู่ได้อย่างไร
โพสต์ที่ 7
โดยทั่ว ๆ ๆปแล้ว ...
ราคาที่เห็น ณ ปัจจุบัน ไม่ใช่ ราคาของพื้นฐาน
แต่เป็น ...
ราคาที่สะท้อนถึงความคาดหวังของพื้นฐานอนาคต
ยิ่งพวกอสังหา รับเหมา เรือ เหล็ก ...ยิ่งพวกไซเคิ่ลทั้งหลาย ...
ดูตัวเลขวัดความถูกแพงนี่ยากจริงๆ ,ต้องเข้าใจในวงจรกำไรของธุรกิจ และพอที่จะคาดการณ์ภาพวันหน้าได้
ไอ้อย่างดิฉันก็พูดได้ว่ายาก แต่ถ้าคนที่เข้าใจจริงๆ เขาคงว่าง๊ายง่าย นิ
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
LH ยืนอยู่ได้อย่างไร
โพสต์ที่ 8
LH เป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจ
ยากที่จะล้มหายตายจาก
วันหนึ่ง ถ้าอสังหา ฟื้น
เจ้าตลาด ยังได้เปรียบ
ยากที่จะล้มหายตายจาก
วันหนึ่ง ถ้าอสังหา ฟื้น
เจ้าตลาด ยังได้เปรียบ
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
LH ยืนอยู่ได้อย่างไร
โพสต์ที่ 11
วันนี้ไป 7.7 เลย