ปิดแล้ว!ดาต้าไอที4สาขารวด +ปัจจัยลบเศรษฐกิจรุมเร้าฉุดกำลังซื้อดิ่ง/ไอทีซิตีงัดกลยุทธ์โปรโมชันสู้/เจมาร์ทย้ายช็อปเข้าห้าง
Source - ฐานเศรษฐกิจ (Th)
ธุรกิจค้าปลีกไอที-มือถือ ระส่ำหนัก ยักษ์ซูเปอร์สโตร์ไอที "ดาต้าไอที" ยอมเฉือนเนื้อปิด 4 สาขารวด จากปัจจัยลบรุมเร้ารอบด้านจากพิษเศรษฐกิจฉุดกำลังซื้อดิ่ง แบกขาดทุนไม่ไหว ด้านไอทีซิตี้ พลิกเกมตั้งรับขยายสาขาใกล้ชิดผู้บริโภคมากขึ้นพร้อมอัดโปรโมชั่นกระตุ้นแรงซื้อ ขณะที่เจมาร์ท ย้ายช้อปเข้าห้างสรรพสินค้า
นายนนทพัฒน์ ทวีทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัทดาต้าไอที จำกัด ผู้ประกอบการซูเปอร์สโตร์ไอทีรายใหญ่ของเมืองไทย เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่าบริษัทได้เริ่มทยอยปิดสาขาที่ไม่ทำกำไรลงไป 4 สาขา จากเดิมมีสาขาทั้งหมด 12 สาขา โดยสาขาที่ปิดดำเนินการไปแล้ว ประกอบด้วย สาขาพันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่, เซ็นทรัลแอร์พอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ , สาขาภูเก็ตและสาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว
ทั้งนี้เป็นผลมาจากผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้ทั้ง 4 สาขาประสบปัญหาขาดทุน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทต้องนำผลกำไรที่ได้จากสาขาอื่นเข้าไปล่อเลี้ยงธุรกิจ
"ที่เซ็นทรัลลาดพร้าวนั้นเราปิดไปเพราะพื้นที่เล็กทำให้ไม่สามารถขายสินค้าได้หลากหลาย ส่งผลให้ยอดขายน้อยไม่ทำกำไร อีกทั้งค่าเช่ายังสูงมาก เราจึงถือโอกาสในช่วงที่สัญญาเช่าหมดพอดี ปิดดำเนินการลงไป ส่วนที่ภูเก็ตนั้นได้รับผลกระทบมาตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สึนามิ สำหรับที่เชียงใหม่ 2 สาขานั้น ตลาดไม่โตมาก แต่มีร้านค้า และศูนย์ไอทีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมองแล้วโอกาสสร้างยอดขายให้ทำกำไรมีน้อยจึงได้ปิดดำเนินการไป"
นายนนท์พัฒน์ กล่าวต่อไปว่าการปิดสาขาลงไปมีผลต่อภาพลักษณ์แน่นอน แต่ในเชื่อว่า
นักธุรกิจมีความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว ซึ่งการทำธุรกิจนั้นเป้าหมายหรือผลสำเร็จก็คือกำไร หากทำแล้วขาดทุนก็ต้องตัดในส่วนที่ขาดทุนออกไปเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้ ซึ่งการปิดสาขา 4 สาขานั้นช่วยให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทใน 8 สาขาที่เหลือมีความคล่องตัว และมีความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น
สำหรับอีก 8 สาขาที่ดำเนินการอยู่นั้น ประกอบด้วย สาขาพันธุ์ทิพย์ ,ไอที มอลล์, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซียร์รังสิต , เดอะมอลล์บางกะปิ และงามวงศ์วาน ,เสรี เซ็นเตอร์ และสาขาระยอง นั้นยังสามารถทำกำไรได้อยู่ ซึ่งบริษัทจะลงทุนปรับรูปแบบสาขาที่เหลืออยู่ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ภายใต้แนวคิด "คอมพีช ดิจิตอล ไลท์สไตล์" ในขณะที่การนำเสนอหรือสาธิตสินค้าก็จะมุ่งนำเสนอภาพการทำงานร่วมของอุปกรณ์ต่างๆเป็นโซลูชั่นและจัดวางสินค้าให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้สะดวกสบายมากขึ้น โดยในสาขาที่มีเนื้อที่ 1,000 ตารางเมตรขึ้นไปใช้งบปรับปรุงทั้งหมด 10 ล้านบาท ส่วนสาขาขนาดเล็กใช้งบประมาณปรับปรุงราว 5-6 ล้านบาท
ส่วนเป้าหมายรายได้รวมนั้นมีการปรับลดจากต้นปีที่วางไว้ 2,200-2,300 ล้านบาท
แน่นอนตามจำนวนสาขาที่ลดลง ทั้งนี้คาดว่าจะมีตัวเลขยอดขายลดเหลือประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สรุปตัวเลขยอดขายใหม่ที่ชัดเจน แต่คาดว่าการปิดสาขาที่ไม่ทำกำไรจะทำให้ธุรกิจมีการเติบโตขึ้น 15-20%
นายนนท์พัฒน์ กล่าวต่อไปว่ากรณีที่คู่แข่งยังมีการขยายสาขา และจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่องนั้น มองว่าการขยายสาขานั้น เพราะเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งการขยายสาขามีผลต่อราคาของหุ้น ส่วนกิจกรรมในรูปแบบของการชิงโชคหรือจับรางวัลนั้น มองว่าเป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นภาพลักษณ์ แต่ในแง่ของยอดขายนั้นอาจได้ไม่มากเท่าไร โดยลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการรางวัล หรือของแถมหลังจากการซื้อสินค้าเลยมากกว่าการชิงโชค หรือจับรางวัล
ด้านนายเอกชัย ศิริจิระพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการซูเปอร์สโตร์ไอทีรายใหญ่อีกรายหนึ่ง กล่าวว่าสภาพเศรษฐกิจราคาน้ำมันมีผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าไอทีของตลาด โดยบริษัทวิจัยตลาดไอดีซี ได้ปรับลดตัวเลขประมาณการเติบโตจาก 15% เหลือเพียง 10% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขลดลงไม่น้อย อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าตลาดยังมีการเติบโตอยู่
อย่างไรก็ดีทางบริษัทยังคงมุ่งลงทุนขยายสาขาตามแผนที่ตั้งเอาไว้ในปีนี้ โดยที่ผ่านมาได้ขยายสาขาไปแล้ว 3 แห่ง คือที่ราชบุรี เชียงใหม่ และขอนแก่น และจากนี้ถึงสิ้นเดือนตุลาคม จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 4 แห่ง ซึ่งการขยายสาขาเพิ่มนั้นทำให้บริษัทมีพื้นที่ใกล้ชิดผู้บริโภคมากขึ้น ช่วยสร้างให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) เป็นช่องทางจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ผลิตให้การสนับสนุนทั้งในการด้านราคา การจัดโปรโมชั่นพิเศษ และการสาธิตสินค้า
นอกจากนี้กลยุทธ์กระตุ้นการซื้อของผู้บริโภค ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Everyday Exhibition" โดยการจัดงานแสดงสินค้าไอที ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอสินค้าไอทีที่ทันสมัย พร้อมโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นการบริโภค ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสใกล้ชิดกับเทคโนโลยี รวมถึงการนำเสนอข้อมูลข่าวสารด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสของจริง พร้อมยึดหลักการให้บริการมุ่งตอบสนองลูกค้าให้ครบถ้วน ทั้งสินค้าที่มีให้เลือกหลากหลาย สามารถเปรียบเทียบดูได้ทั้งคุณภาพและราคา
ส่วนนายกิติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและผลิตภัณฑ์ บริษัท เจ มาร์ท จำกัด ช้อปค้าปลีกมือถือรายใหญ่ กล่าวว่า สำหรับช้อปของ เจมาร์ท ที่เปิดให้บริการในปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 184 ช้อปในจำนวนช้อปดังกล่าวมีการทยอยปิดและเปิดบ้าง เนื่องจากในบางพื้นที่ที่เช่าสถานที่ไม่เหมาะสมจำนวนคนที่เดินผ่านหน้าร้านค่อนข้างน้อยก็จะปิดและย้ายสถานที่ไปเปิดพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าที่มีจำนวนคนเดินผ่านเป็นจำนวนมาก
อนึ่งก่อนหน้านี้ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) ได้ทยอยปิดร้านค้าที่จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยนำสินค้าขายผ่านช่องทางของเทสโก้-โลตัสเอ็กเพรสไปแล้ว เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุน--จบ--
--ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 3 - 5 ส.ค. 2549--
ปิดแล้ว!ดาต้าไอที4สาขารวด
-
- ผู้ติดตาม: 0
ปิดแล้ว!ดาต้าไอที4สาขารวด
โพสต์ที่ 2
อ้าว แล้ว IT ไม่เฉือนมั่งเหรอครับด้านนายเอกชัย ศิริจิระพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการซูเปอร์สโตร์ไอทีรายใหญ่อีกรายหนึ่ง กล่าวว่าสภาพเศรษฐกิจราคาน้ำมันมีผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าไอทีของตลาด โดยบริษัทวิจัยตลาดไอดีซี ได้ปรับลดตัวเลขประมาณการเติบโตจาก 15% เหลือเพียง 10% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขลดลงไม่น้อย อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าตลาดยังมีการเติบโตอยู่
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ปิดแล้ว!ดาต้าไอที4สาขารวด
โพสต์ที่ 3
แล้วข่าวนี้เราจะแปลความว่ามันดีหรือมันแย่กับ IT ดีล่ะ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ