พี่ๆ มีความเห็นอย่างไร กับ PL คับ
- nanosec
- Verified User
- โพสต์: 148
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ๆ มีความเห็นอย่างไร กับ PL คับ
โพสต์ที่ 1
พี่ๆ มีความเห็นอย่างไร กับ PL คับ แล้ว ถ้าเทียบกับ Gl ละคับ
ดูในงบของ PL
สินทรัพย์รวม 4,943.77 5,077.12 4,356.61 3,637.95 2,338.01
หนี้สินรวม 3,539.06 3,662.53 3,357.10 2,754.98 1,550.05
ส่วนของผู้ถือหุ้น 1,404.72 1,414.59 999.51 882.98 787.96
มูลค่าหุ้นที่เรียกชำระแล้ว 447.37 447.37 300.00 300.00 300.00
รายได้รวม 839.43 1,567.98 1,412.52 1,086.68 886.06
กำไรสุทธิ 88.55 181.84 199.03 155.02 115.66
กำไรต่อหุ้น(บาท) 0.20 0.59 6.63 5.17 3.86
ROA(%)* 7.61 7.85 9.13 8.31 7.55
ROE(%)* 14.63 15.06 21.15 17.56 15.37
อัตรากำไรสุทธิ(%) 10.55 11.60 14.09 14.27 13.05
สิ้นทรัพย์รวมกับ หนี้สิ้นรวมดูใกล้เคียงกันจัง
พี่ช่วยเสอนแนะด้วยคับ
ดูในงบของ PL
สินทรัพย์รวม 4,943.77 5,077.12 4,356.61 3,637.95 2,338.01
หนี้สินรวม 3,539.06 3,662.53 3,357.10 2,754.98 1,550.05
ส่วนของผู้ถือหุ้น 1,404.72 1,414.59 999.51 882.98 787.96
มูลค่าหุ้นที่เรียกชำระแล้ว 447.37 447.37 300.00 300.00 300.00
รายได้รวม 839.43 1,567.98 1,412.52 1,086.68 886.06
กำไรสุทธิ 88.55 181.84 199.03 155.02 115.66
กำไรต่อหุ้น(บาท) 0.20 0.59 6.63 5.17 3.86
ROA(%)* 7.61 7.85 9.13 8.31 7.55
ROE(%)* 14.63 15.06 21.15 17.56 15.37
อัตรากำไรสุทธิ(%) 10.55 11.60 14.09 14.27 13.05
สิ้นทรัพย์รวมกับ หนี้สิ้นรวมดูใกล้เคียงกันจัง
พี่ช่วยเสอนแนะด้วยคับ
-
- Verified User
- โพสต์: 208
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ๆ มีความเห็นอย่างไร กับ PL คับ
โพสต์ที่ 2
PL เป็นบริษัทลิสสิ่งคนละแบบกับกับ tk gl ge spl นะครับ
pl เน้นลูกค้าองค์กรซึ่งครองอันดับ 1 ตอนนี้ ค่อนข้างผูกขาดทีเดียว ที่หนี้ pl เยอะเพราะเค้าออกหุ้นกู้ครับ
ปัจจัยที่ทำให้กำไรเพิ่มหรือลดคืออัตราดอกเบี้ยครับ เพราะ pl จะออกหุ้นกู้เพื่อลงทุนมาปล่อยลิสสิ่ง อัตราดอกเบี้ยยิ่งต่ำต้นทุนก็ต่ำ
กำไรก็เพิ่มขึ้น
ดังนั้นตอนนี้ pl จึงถือว่าเป็นขาลงครับ เมื่ออัตราดอกเบี้ยเริ่มลดลง PL ก็จะกำไรดีขึ้นซึ่งเป็น cyclic stock ที่อ่านง่ายทีเดียว
gl เป็นลิสสิ่งสำหรับจักรยานยนต์อย่างเดียว เน้นลูกค้าระดับล่างถึงกลาง การปล่อยสินเชื่อก็ถือว่าตามมาตรฐาน (ต้องมีสินทรัพย์หรือผู้ค้ำประกัน)
มีสาขาใน กทมและปริมณฑล ส่วนแบ่งเลยแค่ประมาณ 6% ซึ่งสามารถโตได้อีกเยอะ (ถ้าทำได้นะ)
เมื่อลูกค้าทำสินเชื่อสำเร็จ gl จะกู้เงินธนาคารมาซื้อมอเตอร์ไซด์ แล้วให้ลูกค้าผ่อน 6-36 เดือน โดย gl จะกินส่วนต่างประมาณ 30% (ตราบใดที่ไม่มีกฎหมายมาบังคับ)
ดังนั้นหนี้สินที่เพิ่มขึ้นหมายความว่าสินเชื่อเพิ่มขึ้นซึ่งไม่น่ากังวลอะไรตราบใดที่หนี้ยังไม่เน่าครับ
gl สำหรับผมน่าจะเป็น growth stock ซึ่งผมหวังว่าจะเป็นแบบนั้นเพราะผมมีหุ้นตัวนี้มากพอควร
สุดท้าย gl มี
pe ต่ำกว่า 5
กำไรต่อไตรมาสสม่ำเสมอ
กำไรโตมา 3 ปีซ้อน
ปันผลสูง
รับไว้พิจารณาแล้วกันครับ
pl เน้นลูกค้าองค์กรซึ่งครองอันดับ 1 ตอนนี้ ค่อนข้างผูกขาดทีเดียว ที่หนี้ pl เยอะเพราะเค้าออกหุ้นกู้ครับ
ปัจจัยที่ทำให้กำไรเพิ่มหรือลดคืออัตราดอกเบี้ยครับ เพราะ pl จะออกหุ้นกู้เพื่อลงทุนมาปล่อยลิสสิ่ง อัตราดอกเบี้ยยิ่งต่ำต้นทุนก็ต่ำ
กำไรก็เพิ่มขึ้น
ดังนั้นตอนนี้ pl จึงถือว่าเป็นขาลงครับ เมื่ออัตราดอกเบี้ยเริ่มลดลง PL ก็จะกำไรดีขึ้นซึ่งเป็น cyclic stock ที่อ่านง่ายทีเดียว
gl เป็นลิสสิ่งสำหรับจักรยานยนต์อย่างเดียว เน้นลูกค้าระดับล่างถึงกลาง การปล่อยสินเชื่อก็ถือว่าตามมาตรฐาน (ต้องมีสินทรัพย์หรือผู้ค้ำประกัน)
มีสาขาใน กทมและปริมณฑล ส่วนแบ่งเลยแค่ประมาณ 6% ซึ่งสามารถโตได้อีกเยอะ (ถ้าทำได้นะ)
เมื่อลูกค้าทำสินเชื่อสำเร็จ gl จะกู้เงินธนาคารมาซื้อมอเตอร์ไซด์ แล้วให้ลูกค้าผ่อน 6-36 เดือน โดย gl จะกินส่วนต่างประมาณ 30% (ตราบใดที่ไม่มีกฎหมายมาบังคับ)
ดังนั้นหนี้สินที่เพิ่มขึ้นหมายความว่าสินเชื่อเพิ่มขึ้นซึ่งไม่น่ากังวลอะไรตราบใดที่หนี้ยังไม่เน่าครับ
gl สำหรับผมน่าจะเป็น growth stock ซึ่งผมหวังว่าจะเป็นแบบนั้นเพราะผมมีหุ้นตัวนี้มากพอควร
สุดท้าย gl มี
pe ต่ำกว่า 5
กำไรต่อไตรมาสสม่ำเสมอ
กำไรโตมา 3 ปีซ้อน
ปันผลสูง
รับไว้พิจารณาแล้วกันครับ
ตลาดหุ้นให้โอกาสกับคนโง่ๆเสมอ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ๆ มีความเห็นอย่างไร กับ PL คับ
โพสต์ที่ 3
ผมไม่ได้ตาม pL มาซะนาน ไปดูตัวเลขพีอีแค่ 6.33 เองเหรอครับ
ดูแล้วก็ไม่แพง ปันผลก็ดูดี D/E ก็ลดลงมาหลังจากเพิ่มทุนเหลือประมาณ 2.5 เท่าแล้ว
ความเสี่ยงที่เคยเจอคือ
- กำไรขายรถมือสองลดลงมากเพราะภาษี และตลาดรถมือสองที่อาจจะชะลอตัวลงตามภาวะเศรษกิจ
- ดอกเบี้ยขาขึ้น แม้จะออกหุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน เพื่อตรึงต้นทุนเอาไว้แล้ว แต่ก็ด้วยกที่สูงขึ้น
-ไม่มี entry of barrier ในการทำธุรกิจนี้หรือมีก็น้อยมาก คู่แข่งก็มีพอสมควร เช่น
-kcar>>รายใหญ่
-พรีเมียร์
-โตโยต้าพารา
-โอริคส์>> รายใหญ่
- budget
โดยที่กรุงไทยคาร์เรน มีกำไรดีมาก กำไรไตรมาสแรกพอๆกับ pl แต่ยอดขายน้อยกว่าครึ่ง ปีผ่านๆมาก็เป็นอย่างนี้ ไม่ทราบว่าเพราะอะไร เข้าใจว่า kcar ทำครบวงจรกว่า แต่พีอีก็สูงกว่าประมาณ 7.8 เท่า pb ก็สูงกว่า
ดูแล้วก็ไม่แพง ปันผลก็ดูดี D/E ก็ลดลงมาหลังจากเพิ่มทุนเหลือประมาณ 2.5 เท่าแล้ว
ความเสี่ยงที่เคยเจอคือ
- กำไรขายรถมือสองลดลงมากเพราะภาษี และตลาดรถมือสองที่อาจจะชะลอตัวลงตามภาวะเศรษกิจ
- ดอกเบี้ยขาขึ้น แม้จะออกหุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน เพื่อตรึงต้นทุนเอาไว้แล้ว แต่ก็ด้วยกที่สูงขึ้น
-ไม่มี entry of barrier ในการทำธุรกิจนี้หรือมีก็น้อยมาก คู่แข่งก็มีพอสมควร เช่น
-kcar>>รายใหญ่
-พรีเมียร์
-โตโยต้าพารา
-โอริคส์>> รายใหญ่
- budget
โดยที่กรุงไทยคาร์เรน มีกำไรดีมาก กำไรไตรมาสแรกพอๆกับ pl แต่ยอดขายน้อยกว่าครึ่ง ปีผ่านๆมาก็เป็นอย่างนี้ ไม่ทราบว่าเพราะอะไร เข้าใจว่า kcar ทำครบวงจรกว่า แต่พีอีก็สูงกว่าประมาณ 7.8 เท่า pb ก็สูงกว่า
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ๆ มีความเห็นอย่างไร กับ PL คับ
โพสต์ที่ 4
ส่วน gl ดูดีเกือบทุกอย่างจริงๆครับ ไม่ว่าจะเป็น
1.กำไรที่เพิ่มขึ้นมาก รายได้เพิ่มขึ้นทุกไตรมาสติดต่อกันอย่างน้อย 8 ไตรมา ส เพิ่งมาสะดุดไตรมาสล่าสุด
2.หนี้สูญน้อยมากประมาณ 2-3 % เท่านั้น แต่ 2-3 ไตรมาสล่าสุดเพิ่มขึ้น
3.ปันผลหนักปีที่แล้ว 1.2 บาท ราคาหุ้น 9 บาท แถมเครดิตภาษีได้อีก
4.มาร์จินดีมาก ดอกเบี้ยรับ 38% ดอกเบี้ยจ่าย 8% effected interest 30%
5. D/E ไม่สูงประมาณ2 เท่า
6.pe ต่ำมากประมาณ 4.5 เท่า
แต่ด้วยข้อดีเหล่านี้ ก็มีประเด็นที่น่าจะติดตามใกล้ชิด
1.ดอกเบี้ยรับสุทธิมีแนวโน้มลดลงในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น เพราะรายได้ fix ไว้แล้ว แต่รายจ่ายสูงขึ้น
2.คู่แข่งประมาณ 10 บริษัท gl เป็นอันดับ 5 คงที่ ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่า gl มีจุดเด่นที่ชัดเจน เปรียบเทียบกับคู่แข่ง
3.กำไรที่เพิ่ม เกิดจาก (พอร์ตที่เพิ่ม * ดอกเบี้ยรับสุทธิ) - หนี้สูญ
3.1 พอร์ตอาจจะขยายได้ไม่มากแล้ว เพราะเงิน ipo หมดแล้ว เศรษกิจก็มีแนวโน้มไม่ดี
3.2ดอกเบี้ยรับสุทธิ มีแนวโน้มลดลง
3.3 หนี้สูญมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ดังนั้นต้องจับตาว่ากำไรสุทธิในอนาคตจะเพิ่มหรือลดครับ6

1.กำไรที่เพิ่มขึ้นมาก รายได้เพิ่มขึ้นทุกไตรมาสติดต่อกันอย่างน้อย 8 ไตรมา ส เพิ่งมาสะดุดไตรมาสล่าสุด
2.หนี้สูญน้อยมากประมาณ 2-3 % เท่านั้น แต่ 2-3 ไตรมาสล่าสุดเพิ่มขึ้น
3.ปันผลหนักปีที่แล้ว 1.2 บาท ราคาหุ้น 9 บาท แถมเครดิตภาษีได้อีก
4.มาร์จินดีมาก ดอกเบี้ยรับ 38% ดอกเบี้ยจ่าย 8% effected interest 30%
5. D/E ไม่สูงประมาณ2 เท่า
6.pe ต่ำมากประมาณ 4.5 เท่า
แต่ด้วยข้อดีเหล่านี้ ก็มีประเด็นที่น่าจะติดตามใกล้ชิด
1.ดอกเบี้ยรับสุทธิมีแนวโน้มลดลงในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น เพราะรายได้ fix ไว้แล้ว แต่รายจ่ายสูงขึ้น
2.คู่แข่งประมาณ 10 บริษัท gl เป็นอันดับ 5 คงที่ ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่า gl มีจุดเด่นที่ชัดเจน เปรียบเทียบกับคู่แข่ง
3.กำไรที่เพิ่ม เกิดจาก (พอร์ตที่เพิ่ม * ดอกเบี้ยรับสุทธิ) - หนี้สูญ
3.1 พอร์ตอาจจะขยายได้ไม่มากแล้ว เพราะเงิน ipo หมดแล้ว เศรษกิจก็มีแนวโน้มไม่ดี
3.2ดอกเบี้ยรับสุทธิ มีแนวโน้มลดลง
3.3 หนี้สูญมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ดังนั้นต้องจับตาว่ากำไรสุทธิในอนาคตจะเพิ่มหรือลดครับ6

การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 208
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ๆ มีความเห็นอย่างไร กับ PL คับ
โพสต์ที่ 5
อย่างที่คุณลูกอิสานพูด
ข้อ 3.1 ผมเฉยๆเพราะ gl ทำธุรกิจนี้มา 20 ปีแล้ว
ข้อ 3.2 ดอกเบี้ยลดนี่ยังพอรับได้เพราะ margin ยังเยอะ
ข้อ 3.3 ถ้าหนี้สูญพุ่งผมก็ต้องขอ cut loss ล่ะครับ
ข้อ 3.1 ผมเฉยๆเพราะ gl ทำธุรกิจนี้มา 20 ปีแล้ว
ข้อ 3.2 ดอกเบี้ยลดนี่ยังพอรับได้เพราะ margin ยังเยอะ
ข้อ 3.3 ถ้าหนี้สูญพุ่งผมก็ต้องขอ cut loss ล่ะครับ
ตลาดหุ้นให้โอกาสกับคนโง่ๆเสมอ