ขอถามความหมายคำศัพท์ทางเศรษฐศาสตร์

[ForrestGump]

ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐศาสตร์บางตัว อาจจะมีประโยชน์ในการลงทุน แต่ปัดโธ่ ไม่เข้าใจความหมาย หรือว่า เดาเอาอาจธาตุไฟเข้าแทรกเข้าใจผิด  จึงขอรบกวนท่านผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ

โค้ด: เลือกทั้งหมด

1. กรุณาอธิบายความหมายของคำศัพท์ (ถ้าจะกรุณาแปลเป็นภาษาชาวบ้านเข้าใจได้ง่ายๆ สั้นๆ จะดีมากครับ เพราะ ForrestGump IQ ต่ำ แต่พยายามจะทำความเข้าใจเต็มที่ครับ)

2. ถ้าตัวเลขนั้น สูงหรือต่ำ หรืออยู่ในเกณฑ์ไหนดี ขอความกรุณาช่วยอธิบายด้วย

3. ควรดูตัวเลขไหนประกอบกันเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น

ขอถามเลยนะครับ
1. GDPแปลว่าอะไร ทำไมคนถึงให้ความสำคัญกับมันนัก แล้วมันเกี่ยวกับการทำมาหากินในชีวิตประจำวันเราแค่ไหนครับ

2. ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ LEI

ขอบพระคุณทุกท่านครับ

[akekarat]

GDP มันมาจาก

การบริโภค Consumption (C) +
การลงทุน Investment (I) +
ค่าใช้จ่ายภาครัฐ Government Purchase (G) +
ส่งออกสุทธิ Net Exports (NX)

รวม ๆ กันก็กลายเป็น GDP, ที่บอกว่า GDP โตกี่เปอร์เซ็นต์ อยากได้กี่เปอร์เซ็นต์ ก็คงเอามาเทียบกับตัวก่อน ๆ

ตัวเลขพวกนี้ ยิ่งมากมันก็ยิ่งดีใช่มั๊ยล่ะครับ เช่น

C - ยิ่งมากก็หมายถึงประชาชนมีเงินจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
I - ยิ่งมากก็หมายถึงมีการลงทุนในประเทศมากขึ้น มีการจ้างงานมากขึ้น
G - ยิ่งมากก็หมายถึงรัฐบาลกระเป๋าตุง รีดภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย (แต่ก็ไม่เสมอไป อาจจะกู้มาก็ได้ ยกตัวอย่างสมัยต้มยำกุ้ง)
NX - ยิ่งมากก็ดี แสดงว่าขายเค้าได้เยอะกว่าที่ซื้อมา

อธิบายแบบบ้าน ๆ ก็น่าจะตามนี้ครับ

[ayethebing]

Lei น่าจะย่อมาจาก leading indicator ครับ

ดัชนีตัววัดเศรษฐกิจมีสองแบบคือแบบ lagging กับ leading ซึ่งแตกต่างกันแค่เป็นตัวที่เกิดขึ้นแล้วหรือเป็นตัวชี้นำครับ

เช่น CPI - consumer price index คือดัชนีราคาผู้บริโภคอันนี้เป็น lagging indicator เพราะเอาราคาที่เป็นราคาปัจจุบัน (เกิดขึ้นแล้ว) มาประมวลผลออกมาเป็นค่าดัชนี

ถ้าเป็น Consumer Confidence หรือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเป็นดัชนีที่เป็น leading indicator ว่าผู้บริโภคจะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นเท่าไหร่ เพราะถ้าเชื่อมั่นมากก็จะใช้จ่ายมาก เป็นต้น

[ForrestGump]

LEI รู้สึกว่า จะย่อมากจาก Leading Economic Indicator เอาไว้ทำนายแนวโน้มเศรษฐกิจน่ะครับ ผมพบ chart แต่ดูไม่เป็น ไม่เข้าใจความหมายว่า แนวโน้มของอะไร

ส่วนตอนนี้กำลังกังวลเรื่อง G ในสมการ GDP เพราะเพิ่งไปคุยกับ ข้าราชการหน่วยงานหนึ่ง เค้าบอกว่า ตอนนี้ รอเงินอุดหนุนจากภาครัฐช้ามาก ต้องใช้เงินที่ทำกำไร(ผมยังงงอยู่ว่า หน่วยงานรัฐ มีการทำกำไรแล้วเหรอ) มาเลี้ยงองค์กรตัวเองไปก่อน  ซึ่งเค้าบอกอีกว่า เนื่องจากนโยบายรัฐบาลชุดนี้ ชอบนำเงินในอนาคต (ซึ่งมีภาระดอกเบี้ยและกำหนดชำระคืนที่แน่นอน ) ซึ่งผมก็คิดว่า คือพวกพันธบัตรต่างๆ ที่ระดมขึ้นดอกเบี้ย ล่อให้คนเอาเงินมาให้รัฐบาลตู๊ไปก่อน (อาจรวมถึงเงินออมสิน เงิน กบข.อีก)

พออัดฉีดในระบบแล้ว ระบบมันไม่หมุน หรือ อีกเหตุการณ์คือ เงินมันถูกใครโกงออกนอกระบบอัดฉีดหมุนเวียนไป เข้ากระเป๋า ไอ้ขี้โกงตัวไหน ทีนี้ รัฐบาลก็เงินเริ่มฝืด ในขณะที่ความสามารถการแข่งขันด้านส่งออกสู้จีน เวียดนาม และประเทศอื่นๆ ไม่ได้ เงินหาไม่เข้าประเทศ แต่เงินออกไปจากราคาน้ำมันแพง กดดันให้ดุลบัญชีเดินสะพัดติดลบ เหมือนคนป่วยที่เริ่มขาดออกซิเจน แต่อวัยวะภายในยัง เสื.... ทะเลาะกันเองอีก

ดังนั้นธุรกิจที่ทำกับภาครัฐอาจโดนหางเลขจ่ายเงินช้าถึงช้ามาก

I'm not a smart man (but I know what love is.) ผมเข้าใจแบบนี้ถูกหรือเปล่าครับท่าน

ปล.เห็นตัวเลขรถจักรยานยนต์ขายดีขึ้น แบบนี้ IRC ได้ประโยชน์หรือไม่ครับ

[สามัญชน]

สวัสดีครับ... ไม่ได้เจอท่าน ayethebing เสียนานทีเดียว........

[ayethebing]

สวัสดีครับ... ไม่ได้เจอท่าน ayethebing เสียนานทีเดียว........

หวัดดีด้วยคร้าบบบ

เอ่อ คุณ forrest gump LEI คือดัชนีที่แบงก์ชาติเค้าประกาศเป็นตัวเลขเดียวใช่ปะ ถ้าใช่มันเป็นดัชนีที่เอาหลายๆ ตัวเลขมายำกัน ถ้า LEI ขึ้น ท่านก็ว่า GDP ในอนาคตก็น่าจะขึ้นตามไปด้วยละครับ ไปหามารู้สึกว่าจะยำจากตัวเลขเช่น

1.  จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ  --> คิดว่าจะเป็น Leading indicator ไปยังดุลการค้าภาคบริการครับ
2.  เงินลงทุนของบริษัทจดทะเบียนใหม่ --> น่าจะเป็น lei สำหรับการลงทุน
3.  มูลค่าการส่งออก --> จริงๆ เป็นตัวที่บอกถึงปัจจุบันแต่เวลามาใช้ใน LEI เค้าจะไปใช้ชี้ว่าอนาคตจะมีการผลิตมากขึ้นมากน้อยยังไง
4.  ราคาน้ำมัน เป็นลักษณะกลับด้านครับ ยิ่งสูง LEI ยิ่งไม่ดี คงเป็น lei สำหรับ consumption มั้ง
5.  ดัชนีตลาดหลักทรัพย์  เอ่อ เข้าใจว่าจะเป็น LEI ของกำไรของบริษัทที่อยู๋ในไทย (ม่ายรู้ใช้ได้แค่ไหนเนาะ)
6.  ปริมาณเงินในความหมายกว้าง (M2A)  คือเงินในมือในระบบทั้งหมดของภาคเอกชนและผู้บริโภคทั่วไป เป็นตัวชี้ว่าสภาพคล่องในระบบเป็นไง สภาพคล่องดีใช้จ่ายและลงทุนก็สะดวกอะไรประมาณนั้น

แล้วเค้าก็เอามายำรวมกันโดยให้น้ำหนักของแต่ละเรื่องไม่เท่ากัน เพื่อใช้เป็นตัวชี้ (เพียงตัวนึงจากหลายๆ ตัว) ว่า LEI ถ้าดี เศรษฐกิจในอนาคตก็น่าจะดี  

จริงๆ มี CEI (Coincident Economic Indicator) ซึ่งผมมองว่าเหมือน lagging indicator ครับ