หลังจากคู่แข่งวิ่งแซงไทยไปหลายราย...คู่แข่งรายใหม่คือ...
-
- Verified User
- โพสต์: 85
- ผู้ติดตาม: 0
หลังจากคู่แข่งวิ่งแซงไทยไปหลายราย...คู่แข่งรายใหม่คือ...
โพสต์ที่ 1
หลังจากคู่แข่งวิ่งแซงไทยไปหลายราย...คู่แข่งรายใหม่คือ...เวียดนาม
หวังว่าอย่าหนีเราไปอีกราย..
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สั่งบีโอไอ เรียกศรัทธาคืนหลังยอดขอรับส่งเสริมฯ 4 เดือนแรก หดกว่าแสนล้าน เสียหน้า 'อินเทล' เมินลงทุนชิพคอมพิวเตอร์ไทยหนีซบเวียดนาม ทำชวดเม็ดเงินลงทุนกว่า 2 หมื่นล้าน เหตุไม่สามารถหาวิศวกรรองรับความต้องการ 300-400 อัตรา และติดปัญหาถือครองที่ดิน สั่งตั้งทีมงานปรับสิทธิประโยชน์ทุกด้าน แรงงาน-ที่ดิน-นวัตกรรม หวังดึงไมโครซอฟท์ แข่งเวียดนาม
ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายส่งเสริมการลงทุน ที่มี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ได้มอบหมายให้บีโอไอ ไปปรับสิทธิประโยชน์การลงทุน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ให้แล้วเสร็จภายใน1 เดือน โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นแม่งาน
ตั้งแต่การปรับโครงสร้างสิทธิประโยชน์ด้านแรงงานและบุคลากร ที่ดิน และการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม หวังแก้เกม หลังตัวเลขคำขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ลดฮวบกว่า 1 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนคำขอ 397 โครงการ มูลค่า 105,000 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งมีจำนวนคำขอ 396 โครงการ เงินลงทุนสูงถึง 206,000 ล้านบาท โดยเป้าหมายทั้งปี บีโอไอ ยังคงกัดฟันบอกว่าจะทำยอดคำขอรับส่งเสริมการลงทุนให้ได้ 8 แสนล้านบาท ทั้งที่รู้ว่าแสนยาก
ไทยชวดเม็ดเงิน2หมื่นล้านจากอินเทล
โครงการที่บีโอไอทำหลุดมือ ที่เห็นชัดๆ จนทำให้ประธานบอร์ดบีโอไอ อย่าง ดร.สมคิด ขุ่นใจไม่น้อย คือ การย้ายฐานการผลิตของบริษัทอินเทล เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิพคอมพิวเตอร์ ไปยังในเวียดนาม แทนที่จะเป็นประเทศไทย ทำให้มูลค่าลงทุน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2 หมื่นล้านบาท หลุดมือจากไทย ทั้งที่ก่อนหน้าอินเทลแสดงความสนใจจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิต
การลงทุนของอินเทลในเวียดนาม ยังถือเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าลงทุนสูงสุดในเวียดนาม และอินเทลยังมีการจัดตั้งศูนย์ทดสอบและโรงงานบรรจุภัณฑ์วงจรไฟฟ้าขนาดเล็ก และจัดตั้งมูลนิธิเพื่อส่งเสริมการสื่อสารระหว่างกระทรวง จังหวัดและนครขึ้นมา แสดงให้เห็นชัดเจนถึงการร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมไอทีของสหรัฐและเวียดนาม
มะกันลงทุนเวียดนามสูงกว่าเป้า3.5เท่า
เนื่องจากทั้งสองประเทศได้ทำสัญญาการค้า (Bilateral Trade Agreement : BTA) ทำให้ภาวะการลงทุนของสหรัฐในเวียดนามคึกคัก เพราะการลงทุนรวมสูงกว่าที่กรมการลงทุนระหว่างประเทศของเวียดนาม (MPI) ตั้งเป้าหมายไว้ถึง 3.5 เท่า โดยสหรัฐลงทุนในเวียดนามไปแล้ว 531 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นมูลค่าลงทุนที่สูงกว่า ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลี และไต้หวัน
ล่าสุดการอภิมหาเศรษฐี บิล เกตส์ เจ้าของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ไมโครซอฟท์ ก็กำลังศึกษาลู่ทางการลงทุนในเวียดนาม เห็นได้จากการเดินทางไปเยือนเวียดนาม หลังจากก่อนหน้านี้เขามีแผนเดินทางมาเยือนไทย เพราะเวียดนามมีค่าแรงถูก และเริ่มมีศักยภาพด้านไอที และยังได้รับแรงส่งเสริมจริงจังในการพัฒนาเทคโนโลยีจากรัฐบาลเวียดนาม
นายสุชาติ พิศิษฐวานิช ที่ปรึกษด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ กล่าวว่า บอร์ดบีโอไอกำลังหาแนวทางและมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อให้สิทธิประโยชน์สูงสุดในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง(ไฮเทค) เพื่อผลักดันให้ไทยเป็น "ฮับ อิเล็กทรอนิกส์" ซึ่งต้องแย่งชิงกันในภูมิภาค ระหว่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งมีการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีค่อนข้างสูง เพราะแต่ละประเทศต่างก็ต้องการดึงเม็ดเงินลงทุนด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงเข้าไปในประเทศของตัวเอง
เขายอมรับว่า เวียดนามเป็นประเทศหนึ่งที่ก้าวขึ้นมาเป็นทางเลือกในการย้ายฐานการผลิตจากต่างชาติ เพราะเวียดนามมียุทธศาสตร์เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในประเทศและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในประเทศ รัฐบาลจึงเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับนักลงทุนทั้งในด้านภาษี ที่ดิน จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงแรงงานที่ยังถูกกว่าไทย
ขาด'วิศวกร'มูลเหตุอินเทลเมินไทย
โครงการลงทุนผลิตชิพคอมพิวเตอร์ มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 20,000 ล้านบาทของอินเทล ต้องการวิศวกรป้อนให้กับโรงงานประมาณ 300-400 อัตรา ซึ่งวิศวกร ถือเป็นสาขาอาชีพที่ไม่มีอัตราการว่างงาน ในขณะที่เวียดนามมีวิศวกรว่างงานสูงพร้อมเข้าสู่โรงงานที่ลงทุนใหม่ทันที
"วิศวกรของไทยมีมากกว่าเวียดนาม แต่ต้องป้อนให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่เวียดนามกำลังเริ่มพัฒนาประเทศเหมือนไทยเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถดึงดูดการลงทุนได้มาก เพราะมีความโดดเด่นเรื่องค่าแรง และระยะหลังยังเพิ่มสิทธิพิเศษด้านภาษีและที่ดินซึ่งมีราคาที่ดินถูกกว่า และจัดให้เป็นนิคมอุตสาหกรรม จึงเป็นที่สนใจของนักลงทุน เมื่ออินเทลต้องการวิศวกร ก็มีวิศวกรเหลือเฟือที่ยังตกงานจึงเข้ามาทำงานได้รวดเร็ว ในขณะที่การเจรจากับไทยมีบางอย่างไม่ลงตัวและไม่พร้อม ที่ดินมีแต่คนไม่มีป้อนให้โรงงาน หรือไม่มีน้ำ" นายสุชาติ กล่าว
อย่างไรก็ตามเขายังมองว่าไทยยังคงน่าสนใจลงทุนมากกว่าเวียดนาม หากพิจารณาภาพรวมและอุตสาหกรรมไฮเทคไทยก็ยังมีความได้เปรียบ แม้เวียดนามจะมีค่าแรงและที่ดินถูกกว่าไทย แต่ไทยมีอุตสาหกรรมไฮเทคตั้งแต่กลางน้ำไปจนถึงปลายน้ำเกือบครบวงจร ยกเว้นอุตสาหกรรมต้นน้ำเท่านั้น
ต่างกับจีนและเวียดนาม ซึ่งการกระจายรายได้ไม่ทั่วถึง การขนส่งก็ยังไม่สะดวก แต่ปัจจุบันเวียดนามก็สามารถพัฒนาในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น ซึ่งขยับขึ้นมาเกือบเท่ากับไทย
ลงทุน'เทรนคน'สู้เวียดนาม
ดังนั้นเพื่อให้ไทยรักษาขีดความสามารถการแข่งขันด้านไฮเทค และการดึงดูดการลงทุนด้านดังกล่าว ไทยจะต้องเตรียมปรับโครงสร้างการให้สิทธิประโยชน์ในอุตสาหกรรมไฮเทค ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ สิทธิประโยชน์แรงงาน ที่ดิน และการวิจัยพัฒนานวัตกรรม
"การดึงดูดการลงทุนตอนนี้เวียดนาม ขยับเข้ามาหายใจรดต้นคอไทย จากเดิมที่ช่องว่างค่อนข้างห่างกัน แต่การกระจายรายได้ยังไม่เท่ากับไทย และอุตสาหกรรมต่อเนื่องก็ยังมีไม่พร้อมเท่ากับไทย ดังนั้นไทยก็ยังมีความน่าสนใจและโดดเด่น ซึ่งตอนนี้ไทยก็ขยับขึ้นไปสู่ประเทศที่มีการลงทุนด้านไฮเทคในอีกระดับเพื่อหนีเวียดนาม "
สิ่งที่ภาครัฐต้องดำเนินการเตรียมพร้อมรองรับการลงทุนเบื้องต้น คือ แรงงาน ต้องมีการลงทุนจัดฝึกอบรมบุคลากรในต่างประเทศเพื่อให้มีความรู้พร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรมไฮเทค จากเดิมที่บริษัทที่เข้ามาลงทุนต้องลงทุนด้านฝึกอบรมบุคลากรเองประมาณ 2-3 ล้านบาทต่อคน
ฝึกคนออกแบบแผงวงจร-เขียนโปรแกรม
"ในอดีตกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจัดอบรมเฉพาะผู้ใช้แรงงานให้มีทักษะ ตั้งแต่การเย็บผ้า ซ่อมแซม หรือประกอบ แต่ปัจจุบันไม่เพียงพอ เพราะหากไทยจะเป็นประเทศที่เป็นศูนย์กลางอิเล็กทรอนิกส์ต้องลงทุนฝึกอบรมบุคลากรให้พร้อม อาทิ อบรมคนให้มีความรู้ด้านออกแบบแผงวงจรไฟฟ้า ซึ่งเป็นการยกระดับอีกขั้นหนึ่ง หรือเขียนโปรแกรม จึงจะทำให้ประเทศก้าวขึ้นอีกระดับได้
ขณะเดียวกันต้องประสานงานกับสถาบันการศึกษาผลิตวิศวกรให้พร้อมรองรับกับอุตสาหกรรม เพราะปัจจุบันแม้วิศวกรในไทยมีเยอะ แต่เป็นแบบกระจัดกระจายไม่มีการจัดระบบ แม้จะมีงานทำกันทุกคน แต่มีอัตราการเปลี่ยนงานบ่อย" เขากล่าว
เทสิทธิประโยชน์หากลงทุนเกิน3หมื่นล้าน
ด้านนายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสบริษัทอมตะคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาครัฐต้องให้สิทธิประโยชน์การลงทุนเป็นกรณีพิเศษ กับโครงการที่มีมูลค่าลงทุนมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยยกให้เป็นกรณีพิเศษที่พิจารณาการให้สิทธิประโยชน์การลงทุนในทุกด้านที่นักลงทุนต้องการ หากสามารถดำเนินการได้ จึงจะแย่งชิงเม็ดเงินลงทุนในภูมิภาคนี้ โดยต้องทบทวนตั้งแต่การยกเว้นภาษีต้องให้มากกว่าประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย
"บีโอไอต้องมาดูเป็นเคสพิเศษ ว่าจะเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านใดให้กับเม็ดเงินที่มาลงทุนบ้าง และเทียบกับประเทศคู่แข่งซึ่งเราต้องให้มากกว่าเขา จากปัจจุบันที่ให้ยกเว้นภาษี 8 ปี แต่หากลงทุนต่อเนื่องอีก 5 ปี ก็มีการจัดเก็บภาษีเพียง 50% เพราะประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการลงทุนนั้นมีมาก ในกรณีของอินเทลที่ไปเวียดนามเพราะสิทธิประโยชน์ต่างๆและผลตอบแทนด้านการถือครองที่ดิน " เขาระบุ
เขา กล่าวว่า ไทยต้องสร้างจุดขายให้เห็นว่ามีดีกว่าเวียดนาม เพราะเป็นประเทศประชาธิปไตย มีความแน่นอนทางการเมือง และมีสิทธิประโยชน์มากกว่า ต้องชูจุดแข็งดึงดูดการลงทุนจากสหรัฐ ซึ่งเป็นนักลงทุนล่าสุดที่กำลังมองหาพื้นที่ย้ายฐานการลงทุนในอุตสาหกรรมไฮเทคมาในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าอินเทลมาก
http://www.bangkokbizweek.com/
หวังว่าอย่าหนีเราไปอีกราย..
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สั่งบีโอไอ เรียกศรัทธาคืนหลังยอดขอรับส่งเสริมฯ 4 เดือนแรก หดกว่าแสนล้าน เสียหน้า 'อินเทล' เมินลงทุนชิพคอมพิวเตอร์ไทยหนีซบเวียดนาม ทำชวดเม็ดเงินลงทุนกว่า 2 หมื่นล้าน เหตุไม่สามารถหาวิศวกรรองรับความต้องการ 300-400 อัตรา และติดปัญหาถือครองที่ดิน สั่งตั้งทีมงานปรับสิทธิประโยชน์ทุกด้าน แรงงาน-ที่ดิน-นวัตกรรม หวังดึงไมโครซอฟท์ แข่งเวียดนาม
ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายส่งเสริมการลงทุน ที่มี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ได้มอบหมายให้บีโอไอ ไปปรับสิทธิประโยชน์การลงทุน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ให้แล้วเสร็จภายใน1 เดือน โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นแม่งาน
ตั้งแต่การปรับโครงสร้างสิทธิประโยชน์ด้านแรงงานและบุคลากร ที่ดิน และการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม หวังแก้เกม หลังตัวเลขคำขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ลดฮวบกว่า 1 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนคำขอ 397 โครงการ มูลค่า 105,000 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งมีจำนวนคำขอ 396 โครงการ เงินลงทุนสูงถึง 206,000 ล้านบาท โดยเป้าหมายทั้งปี บีโอไอ ยังคงกัดฟันบอกว่าจะทำยอดคำขอรับส่งเสริมการลงทุนให้ได้ 8 แสนล้านบาท ทั้งที่รู้ว่าแสนยาก
ไทยชวดเม็ดเงิน2หมื่นล้านจากอินเทล
โครงการที่บีโอไอทำหลุดมือ ที่เห็นชัดๆ จนทำให้ประธานบอร์ดบีโอไอ อย่าง ดร.สมคิด ขุ่นใจไม่น้อย คือ การย้ายฐานการผลิตของบริษัทอินเทล เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิพคอมพิวเตอร์ ไปยังในเวียดนาม แทนที่จะเป็นประเทศไทย ทำให้มูลค่าลงทุน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2 หมื่นล้านบาท หลุดมือจากไทย ทั้งที่ก่อนหน้าอินเทลแสดงความสนใจจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิต
การลงทุนของอินเทลในเวียดนาม ยังถือเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าลงทุนสูงสุดในเวียดนาม และอินเทลยังมีการจัดตั้งศูนย์ทดสอบและโรงงานบรรจุภัณฑ์วงจรไฟฟ้าขนาดเล็ก และจัดตั้งมูลนิธิเพื่อส่งเสริมการสื่อสารระหว่างกระทรวง จังหวัดและนครขึ้นมา แสดงให้เห็นชัดเจนถึงการร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมไอทีของสหรัฐและเวียดนาม
มะกันลงทุนเวียดนามสูงกว่าเป้า3.5เท่า
เนื่องจากทั้งสองประเทศได้ทำสัญญาการค้า (Bilateral Trade Agreement : BTA) ทำให้ภาวะการลงทุนของสหรัฐในเวียดนามคึกคัก เพราะการลงทุนรวมสูงกว่าที่กรมการลงทุนระหว่างประเทศของเวียดนาม (MPI) ตั้งเป้าหมายไว้ถึง 3.5 เท่า โดยสหรัฐลงทุนในเวียดนามไปแล้ว 531 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นมูลค่าลงทุนที่สูงกว่า ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลี และไต้หวัน
ล่าสุดการอภิมหาเศรษฐี บิล เกตส์ เจ้าของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ไมโครซอฟท์ ก็กำลังศึกษาลู่ทางการลงทุนในเวียดนาม เห็นได้จากการเดินทางไปเยือนเวียดนาม หลังจากก่อนหน้านี้เขามีแผนเดินทางมาเยือนไทย เพราะเวียดนามมีค่าแรงถูก และเริ่มมีศักยภาพด้านไอที และยังได้รับแรงส่งเสริมจริงจังในการพัฒนาเทคโนโลยีจากรัฐบาลเวียดนาม
นายสุชาติ พิศิษฐวานิช ที่ปรึกษด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ กล่าวว่า บอร์ดบีโอไอกำลังหาแนวทางและมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อให้สิทธิประโยชน์สูงสุดในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง(ไฮเทค) เพื่อผลักดันให้ไทยเป็น "ฮับ อิเล็กทรอนิกส์" ซึ่งต้องแย่งชิงกันในภูมิภาค ระหว่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งมีการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีค่อนข้างสูง เพราะแต่ละประเทศต่างก็ต้องการดึงเม็ดเงินลงทุนด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงเข้าไปในประเทศของตัวเอง
เขายอมรับว่า เวียดนามเป็นประเทศหนึ่งที่ก้าวขึ้นมาเป็นทางเลือกในการย้ายฐานการผลิตจากต่างชาติ เพราะเวียดนามมียุทธศาสตร์เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในประเทศและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในประเทศ รัฐบาลจึงเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับนักลงทุนทั้งในด้านภาษี ที่ดิน จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงแรงงานที่ยังถูกกว่าไทย
ขาด'วิศวกร'มูลเหตุอินเทลเมินไทย
โครงการลงทุนผลิตชิพคอมพิวเตอร์ มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 20,000 ล้านบาทของอินเทล ต้องการวิศวกรป้อนให้กับโรงงานประมาณ 300-400 อัตรา ซึ่งวิศวกร ถือเป็นสาขาอาชีพที่ไม่มีอัตราการว่างงาน ในขณะที่เวียดนามมีวิศวกรว่างงานสูงพร้อมเข้าสู่โรงงานที่ลงทุนใหม่ทันที
"วิศวกรของไทยมีมากกว่าเวียดนาม แต่ต้องป้อนให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่เวียดนามกำลังเริ่มพัฒนาประเทศเหมือนไทยเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถดึงดูดการลงทุนได้มาก เพราะมีความโดดเด่นเรื่องค่าแรง และระยะหลังยังเพิ่มสิทธิพิเศษด้านภาษีและที่ดินซึ่งมีราคาที่ดินถูกกว่า และจัดให้เป็นนิคมอุตสาหกรรม จึงเป็นที่สนใจของนักลงทุน เมื่ออินเทลต้องการวิศวกร ก็มีวิศวกรเหลือเฟือที่ยังตกงานจึงเข้ามาทำงานได้รวดเร็ว ในขณะที่การเจรจากับไทยมีบางอย่างไม่ลงตัวและไม่พร้อม ที่ดินมีแต่คนไม่มีป้อนให้โรงงาน หรือไม่มีน้ำ" นายสุชาติ กล่าว
อย่างไรก็ตามเขายังมองว่าไทยยังคงน่าสนใจลงทุนมากกว่าเวียดนาม หากพิจารณาภาพรวมและอุตสาหกรรมไฮเทคไทยก็ยังมีความได้เปรียบ แม้เวียดนามจะมีค่าแรงและที่ดินถูกกว่าไทย แต่ไทยมีอุตสาหกรรมไฮเทคตั้งแต่กลางน้ำไปจนถึงปลายน้ำเกือบครบวงจร ยกเว้นอุตสาหกรรมต้นน้ำเท่านั้น
ต่างกับจีนและเวียดนาม ซึ่งการกระจายรายได้ไม่ทั่วถึง การขนส่งก็ยังไม่สะดวก แต่ปัจจุบันเวียดนามก็สามารถพัฒนาในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น ซึ่งขยับขึ้นมาเกือบเท่ากับไทย
ลงทุน'เทรนคน'สู้เวียดนาม
ดังนั้นเพื่อให้ไทยรักษาขีดความสามารถการแข่งขันด้านไฮเทค และการดึงดูดการลงทุนด้านดังกล่าว ไทยจะต้องเตรียมปรับโครงสร้างการให้สิทธิประโยชน์ในอุตสาหกรรมไฮเทค ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ สิทธิประโยชน์แรงงาน ที่ดิน และการวิจัยพัฒนานวัตกรรม
"การดึงดูดการลงทุนตอนนี้เวียดนาม ขยับเข้ามาหายใจรดต้นคอไทย จากเดิมที่ช่องว่างค่อนข้างห่างกัน แต่การกระจายรายได้ยังไม่เท่ากับไทย และอุตสาหกรรมต่อเนื่องก็ยังมีไม่พร้อมเท่ากับไทย ดังนั้นไทยก็ยังมีความน่าสนใจและโดดเด่น ซึ่งตอนนี้ไทยก็ขยับขึ้นไปสู่ประเทศที่มีการลงทุนด้านไฮเทคในอีกระดับเพื่อหนีเวียดนาม "
สิ่งที่ภาครัฐต้องดำเนินการเตรียมพร้อมรองรับการลงทุนเบื้องต้น คือ แรงงาน ต้องมีการลงทุนจัดฝึกอบรมบุคลากรในต่างประเทศเพื่อให้มีความรู้พร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรมไฮเทค จากเดิมที่บริษัทที่เข้ามาลงทุนต้องลงทุนด้านฝึกอบรมบุคลากรเองประมาณ 2-3 ล้านบาทต่อคน
ฝึกคนออกแบบแผงวงจร-เขียนโปรแกรม
"ในอดีตกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจัดอบรมเฉพาะผู้ใช้แรงงานให้มีทักษะ ตั้งแต่การเย็บผ้า ซ่อมแซม หรือประกอบ แต่ปัจจุบันไม่เพียงพอ เพราะหากไทยจะเป็นประเทศที่เป็นศูนย์กลางอิเล็กทรอนิกส์ต้องลงทุนฝึกอบรมบุคลากรให้พร้อม อาทิ อบรมคนให้มีความรู้ด้านออกแบบแผงวงจรไฟฟ้า ซึ่งเป็นการยกระดับอีกขั้นหนึ่ง หรือเขียนโปรแกรม จึงจะทำให้ประเทศก้าวขึ้นอีกระดับได้
ขณะเดียวกันต้องประสานงานกับสถาบันการศึกษาผลิตวิศวกรให้พร้อมรองรับกับอุตสาหกรรม เพราะปัจจุบันแม้วิศวกรในไทยมีเยอะ แต่เป็นแบบกระจัดกระจายไม่มีการจัดระบบ แม้จะมีงานทำกันทุกคน แต่มีอัตราการเปลี่ยนงานบ่อย" เขากล่าว
เทสิทธิประโยชน์หากลงทุนเกิน3หมื่นล้าน
ด้านนายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสบริษัทอมตะคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาครัฐต้องให้สิทธิประโยชน์การลงทุนเป็นกรณีพิเศษ กับโครงการที่มีมูลค่าลงทุนมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยยกให้เป็นกรณีพิเศษที่พิจารณาการให้สิทธิประโยชน์การลงทุนในทุกด้านที่นักลงทุนต้องการ หากสามารถดำเนินการได้ จึงจะแย่งชิงเม็ดเงินลงทุนในภูมิภาคนี้ โดยต้องทบทวนตั้งแต่การยกเว้นภาษีต้องให้มากกว่าประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย
"บีโอไอต้องมาดูเป็นเคสพิเศษ ว่าจะเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านใดให้กับเม็ดเงินที่มาลงทุนบ้าง และเทียบกับประเทศคู่แข่งซึ่งเราต้องให้มากกว่าเขา จากปัจจุบันที่ให้ยกเว้นภาษี 8 ปี แต่หากลงทุนต่อเนื่องอีก 5 ปี ก็มีการจัดเก็บภาษีเพียง 50% เพราะประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการลงทุนนั้นมีมาก ในกรณีของอินเทลที่ไปเวียดนามเพราะสิทธิประโยชน์ต่างๆและผลตอบแทนด้านการถือครองที่ดิน " เขาระบุ
เขา กล่าวว่า ไทยต้องสร้างจุดขายให้เห็นว่ามีดีกว่าเวียดนาม เพราะเป็นประเทศประชาธิปไตย มีความแน่นอนทางการเมือง และมีสิทธิประโยชน์มากกว่า ต้องชูจุดแข็งดึงดูดการลงทุนจากสหรัฐ ซึ่งเป็นนักลงทุนล่าสุดที่กำลังมองหาพื้นที่ย้ายฐานการลงทุนในอุตสาหกรรมไฮเทคมาในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าอินเทลมาก
http://www.bangkokbizweek.com/
- nanakorn
- Verified User
- โพสต์: 636
- ผู้ติดตาม: 0
หลังจากคู่แข่งวิ่งแซงไทยไปหลายราย...คู่แข่งรายใหม่คือ...
โพสต์ที่ 5
เมื่อไม่กี่อาทิตย์มานี้ ผมได้มีโอกาสพบและคุยกับ Professor ทางวิศวกรรมโยธา จากประเทศเวียดนาม ได้คุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่อง Mega Projects ในประเทศเวียดนาม อาจารย์ท่านนี้เล่าให้ฟังว่า รัฐบาลเวียดนามจะให้คนในประเทศมีส่วนรับผิดชอบทำโครงการเหล่านี้ ตั้งแต่เริ่มออกแบบ ถึงแม้ว่าคนเหล่านี้อาจจะไม่มีประสบการณ์ในการทำงานในระดับนี้มาก่อน แต่มีความรู้พื้นฐานที่เพียงพอ รัฐบาลก็จะให้ทำโดยจะมีบริษัทต่างประเทศที่จะถูกจ้างมาช่วยให้ความรู้ในการทำ
ในประเทศไทย ในระดับออกแบบ ถ้าโครงสร้างใหญ่และยุ่งยากมากจะใช้บริษัทต่างประเทศไปเลย ตอนก่อสร้างจะใช้บริษัทต่างประเทศและไทยร่วมกัน คนไทยมีความสามารถพอที่จะออกแบบและก่อสร้างได้เอง (โดยให้บริษัทต่างประเทศ มาช่วยเป็นพี่เลี้ยงในโครงการแรกๆ) ถึงแม้ว่าอาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องหลายๆเรื่องเพิ่มขึ้น แต่ประเทศก็จะสร้างความสามารถในส่วนนี้ขึ้นมา และจะสามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนาม
ในประเทศไทย ในระดับออกแบบ ถ้าโครงสร้างใหญ่และยุ่งยากมากจะใช้บริษัทต่างประเทศไปเลย ตอนก่อสร้างจะใช้บริษัทต่างประเทศและไทยร่วมกัน คนไทยมีความสามารถพอที่จะออกแบบและก่อสร้างได้เอง (โดยให้บริษัทต่างประเทศ มาช่วยเป็นพี่เลี้ยงในโครงการแรกๆ) ถึงแม้ว่าอาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องหลายๆเรื่องเพิ่มขึ้น แต่ประเทศก็จะสร้างความสามารถในส่วนนี้ขึ้นมา และจะสามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนาม
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
หลังจากคู่แข่งวิ่งแซงไทยไปหลายราย...คู่แข่งรายใหม่คือ...
โพสต์ที่ 6
ผมว่า เวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพมากประเทศหนึ่ง
เพราะเขาผ่านความยากลำบากมามาก
เป็นประเทศที่สามารถต่อสู้กับมหาอำนาจถึงสองครั้งโดยไม่ยอมแพ้ แม้จะสะบักสะบอมก็ตามที
เพราะเขาผ่านความยากลำบากมามาก
เป็นประเทศที่สามารถต่อสู้กับมหาอำนาจถึงสองครั้งโดยไม่ยอมแพ้ แม้จะสะบักสะบอมก็ตามที
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
-
- Verified User
- โพสต์: 85
- ผู้ติดตาม: 0
หลังจากคู่แข่งวิ่งแซงไทยไปหลายราย...คู่แข่งรายใหม่คือ...
โพสต์ที่ 8
จริงๆก็อยากชื่นชมเวียดนามที่พัฒนาได้ดี เช่น การพัฒนาการศึกษาและคน ผมคิดว่าอาจจะแซงเราไปแล้วก็ได้... ถึงแม้ความเจริญของบ้านเมืองและวัตถุยังสู้เราไม่ได้..และต่อไปในหลายๆด้านก็คงแพ้เวียดนามตามระเบียบ..ถ้าเราพยายามแข่งสิ่งที่เราไม่ถนัด
นี่ก็เป็นความสวยงามของเวียดนามสำหรับคนชอบคนชอบกล้องและการถ่ายรูป
http://www.rpst-digital.org/forum/showt ... hp?t=10391
http://www.rpst-digital.org/forum/showt ... hp?t=10556
....อิอิ..เว็ปนี้เป็นอีกเว็ปหนึ่งที่ผมเข้าเกือบทุกวันนอกจากเรื่องหุ้น
นี่ก็เป็นความสวยงามของเวียดนามสำหรับคนชอบคนชอบกล้องและการถ่ายรูป
http://www.rpst-digital.org/forum/showt ... hp?t=10391
http://www.rpst-digital.org/forum/showt ... hp?t=10556
....อิอิ..เว็ปนี้เป็นอีกเว็ปหนึ่งที่ผมเข้าเกือบทุกวันนอกจากเรื่องหุ้น
-
- ผู้ติดตาม: 0
หลังจากคู่แข่งวิ่งแซงไทยไปหลายราย...คู่แข่งรายใหม่คือ...
โพสต์ที่ 9
วิศวกรส่วนมากเรียนต่อ MBA คับ เลยขาดแคลน
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
หลังจากคู่แข่งวิ่งแซงไทยไปหลายราย...คู่แข่งรายใหม่คือ...
โพสต์ที่ 10
วิศวะกร + หมอ มักจะมาเล่นหุ้น
-
- ผู้ติดตาม: 0
หลังจากคู่แข่งวิ่งแซงไทยไปหลายราย...คู่แข่งรายใหม่คือ...
โพสต์ที่ 11
เวียดนามนำไทย ....เขมร พม่า ลาว นำไทย
วันหนึ่งไทยก็จะล้าหลังที่สุดในโลก
เป็นเมืองโบราณแห่งเดียวในโลก
"ดีหรือเลว ยากจะบอก"
วันหนึ่งไทยก็จะล้าหลังที่สุดในโลก
เป็นเมืองโบราณแห่งเดียวในโลก
"ดีหรือเลว ยากจะบอก"
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
หลังจากคู่แข่งวิ่งแซงไทยไปหลายราย...คู่แข่งรายใหม่คือ...
โพสต์ที่ 12
งั้นซื้อหุ้นท่องเที่ยวละกัน :Djaychou เขียน: เป็นเมืองโบราณแห่งเดียวในโลก
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- Coca-Cola
- Verified User
- โพสต์: 326
- ผู้ติดตาม: 0
หลังจากคู่แข่งวิ่งแซงไทยไปหลายราย...คู่แข่งรายใหม่คือ...
โพสต์ที่ 13
[quote="jaychou"]เวียดนามนำไทย ....เขมร พม่า ลาว นำไทย
วันหนึ่งไทยก็จะล้าหลังที่สุดในโลก
เป็นเมืองโบราณแห่งเดียวในโลก quote]
ขำไม่ออกเลย
:la:
วันหนึ่งไทยก็จะล้าหลังที่สุดในโลก
เป็นเมืองโบราณแห่งเดียวในโลก quote]
ขำไม่ออกเลย

CI(Celebrity Investment) <----- oh! My GOD ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้