นํามันแพง + ดอกเบี้ยขึ้น + กําลังซื้อหด ?????
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
นํามันแพง + ดอกเบี้ยขึ้น + กําลังซื้อหด ?????
โพสต์ที่ 3
จริงเราเคยผ่านเหตุการ์ณแบบนี้มาแล้วนะ
แต่ผมรู้สึกว่าแตกต่างกันอย่างไรอยู่
ตัวอย่าง
น้ำมันแพง ค่าครองชีพแพง ของแพงขึ้น
เราเคยผ่านมาแล้ว
โดยการประหยัด ลดค่าใช้จ่าย คาดเข็มขัด
หาความสุขน้อยลง
แต่เท่าที่ดูคนในสังคม
ไม่ได้ประหยัด ไม่ได้ลดค่าใช้จ่าย ไม่ได้คาดเข็มขัด
เพื่อใคร
การคาดหวังให้คนรุ่นใหม่ในสังคมปัจจุบันประหยัด
คงยากมากนะคับ และยิ่งยากกว่าการคาดหวัง
ให้คนปัจจุบัน รู้จักกับความยากลำบากในการดำเนิน
ชีวติยิ่งยากกว่า
แต่ผมรู้สึกว่าแตกต่างกันอย่างไรอยู่
ตัวอย่าง
น้ำมันแพง ค่าครองชีพแพง ของแพงขึ้น
เราเคยผ่านมาแล้ว
โดยการประหยัด ลดค่าใช้จ่าย คาดเข็มขัด
หาความสุขน้อยลง
แต่เท่าที่ดูคนในสังคม
ไม่ได้ประหยัด ไม่ได้ลดค่าใช้จ่าย ไม่ได้คาดเข็มขัด
เพื่อใคร
การคาดหวังให้คนรุ่นใหม่ในสังคมปัจจุบันประหยัด
คงยากมากนะคับ และยิ่งยากกว่าการคาดหวัง
ให้คนปัจจุบัน รู้จักกับความยากลำบากในการดำเนิน
ชีวติยิ่งยากกว่า
- Muffin
- Verified User
- โพสต์: 874
- ผู้ติดตาม: 0
เพิ่มอีกหนึ่ง
โพสต์ที่ 6
แถมเงินบาทแข็งโป๊กไปอีก 1 อย่างครับ
โจทย์นี้ ผมยังนึกไม่ออก จริงๆครับ
น้ำมันแพง + ดอกเบี้ยขึ้น + กำลังซื้อหด
คุณ Loso ถามหาบริษัทที่จะอยู่ยงคงกระพัน
ถามตอนนี้ผมยังนึกไม่ออกเลยคัรบ
ขอช่วยคิดง่ายๆดังๆ แชร์ปัญญาน้อยนิดหน่อยนะครับ ไม่รู้ถูกหรือผิด
ถ้ามองในส่วนของ consumer spending: ถ้าจะลดลง ก็น่าจะเป็นกระทบในเรื่องสินค้าฟุ่มเฟือย หรือ ว่าการชะลอการซื้อสินค้าจำเป็นออกไป หรือเปล่าครับ สินค้าอุปโภคบริโภค ถ้าจำเป้นจะต้องใช้จริงๆก็เห็นคงจะต้องผ่อนกันอ๊วกแหละงานนี้ สรุป
น้ำมันแพง--กระทบโดยตรงกับคนใช้รถใช้ถนน, กระทบโดยอ้อมกับต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้น)
ดอกเบี้ยขึ้น--กระทบดอกเบี้ยจ่ายเช่นผ่อนบ้าน ผ่อนรถ มีผลให้เหลือ รายรับส่วนเกินที่นับมาจับจ่ายใช้สอยน้อยลง
กำลังซื้อหด--ก็เพราะเงินได้เท่าเดิม รายจ่ายเพิ่มขึ้น
ถ้ามองในส่วนของทางด้านผู้ผลิต: หากไม่สามารถปรับราคาขายได้ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ก็คงจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร รวมทั้งหากลูกค้าซื้อน้อยลง ช้าลง ก็คงจะส่งผลต่อ volume ด้วย สำหรับบริษัทที่ขายให้กับประชาชนทั่วไป
ส่วนในกลุ่มสินค้าที่ขายให้กับผู้ผลิตด้วยกัน เช่นขายให้กับโรงงาน หากผู้ซื้อในกรณีนี้ มองว่าดอกเบี้ยและต้นทุนการผลิตอื่นๆยังมีแนวโน้มการขึ้นราคาต่อเนื่อง และไม่ควรที่จะชะลอการลงทุนออกไป ตรงนี้ เขาคงยังซื้ออยู่มั้ง เพื่อใช้ในการเพิ่ม capacity ของเขา ไม่รู้เหมือนกันไม่แน่ใจ สรุป
น้ำมันแพง--กระทบโดย ต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้น รวมทั้งต้นทุนในการขนส่งด้วย
ดอกเบี้ยขึ้น--กระทบดอกเบี้ยจ่ายซึ่งใช้ในการลงทุน
กำลังซื้อหด--ลูกค้าอาจซื้อน้อยลง ซื้อช้าลง
สำหรับในกลุ่มผู้ส่งออก: เงินบาทแข็งน้ำมันขึ้น ก็น่าจะส่งผลกระทบเยอะเหมือนกัน หากมิได้มีการทำการบริหารความเสี่ยงไว้ก่อนแล้ว เพราะว่า ราคาสินค้ารวมค่าขนส่งเมื่อเทียบกับผู้ผลิตรายอื่นทั่วโลกคงจะสูงขึ้น (หรือเปล่าครับ?) น่าจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของเราลดน้อยลง
สำหรับในกลุ่มท่องเที่ยว: ไม่แน่ใจว่าเงินบาทแข็ง น้ำมันแพงเนี่ย กระทบจริงๆมากๆแค่ไหนสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศครับ หรือว่า คนไทย เห็นเงินบาทแข็ง หนีไปเที่ยวเมืองนอกกันหมดแล้ว
เอ แล้วหุ้นตัวไหนน้าที่จะอยู่ยงคงกระพัน หรือว่าจะเป็นพวกที่มีรายได้สม่ำเสมอและมีการทำสัญญาซื้อขายไปล่วงหน้านานๆ หรือกลุ่มไหนกันแน่
ไม่มีปัญญาหา เดี๋ยวขออ่านความเห็นท่านอื่นๆก่อนดีกว่าครับ
โจทย์นี้ ผมยังนึกไม่ออก จริงๆครับ
น้ำมันแพง + ดอกเบี้ยขึ้น + กำลังซื้อหด
คุณ Loso ถามหาบริษัทที่จะอยู่ยงคงกระพัน
ถามตอนนี้ผมยังนึกไม่ออกเลยคัรบ
ขอช่วยคิดง่ายๆดังๆ แชร์ปัญญาน้อยนิดหน่อยนะครับ ไม่รู้ถูกหรือผิด
ถ้ามองในส่วนของ consumer spending: ถ้าจะลดลง ก็น่าจะเป็นกระทบในเรื่องสินค้าฟุ่มเฟือย หรือ ว่าการชะลอการซื้อสินค้าจำเป็นออกไป หรือเปล่าครับ สินค้าอุปโภคบริโภค ถ้าจำเป้นจะต้องใช้จริงๆก็เห็นคงจะต้องผ่อนกันอ๊วกแหละงานนี้ สรุป
น้ำมันแพง--กระทบโดยตรงกับคนใช้รถใช้ถนน, กระทบโดยอ้อมกับต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้น)
ดอกเบี้ยขึ้น--กระทบดอกเบี้ยจ่ายเช่นผ่อนบ้าน ผ่อนรถ มีผลให้เหลือ รายรับส่วนเกินที่นับมาจับจ่ายใช้สอยน้อยลง
กำลังซื้อหด--ก็เพราะเงินได้เท่าเดิม รายจ่ายเพิ่มขึ้น
ถ้ามองในส่วนของทางด้านผู้ผลิต: หากไม่สามารถปรับราคาขายได้ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ก็คงจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร รวมทั้งหากลูกค้าซื้อน้อยลง ช้าลง ก็คงจะส่งผลต่อ volume ด้วย สำหรับบริษัทที่ขายให้กับประชาชนทั่วไป
ส่วนในกลุ่มสินค้าที่ขายให้กับผู้ผลิตด้วยกัน เช่นขายให้กับโรงงาน หากผู้ซื้อในกรณีนี้ มองว่าดอกเบี้ยและต้นทุนการผลิตอื่นๆยังมีแนวโน้มการขึ้นราคาต่อเนื่อง และไม่ควรที่จะชะลอการลงทุนออกไป ตรงนี้ เขาคงยังซื้ออยู่มั้ง เพื่อใช้ในการเพิ่ม capacity ของเขา ไม่รู้เหมือนกันไม่แน่ใจ สรุป
น้ำมันแพง--กระทบโดย ต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้น รวมทั้งต้นทุนในการขนส่งด้วย
ดอกเบี้ยขึ้น--กระทบดอกเบี้ยจ่ายซึ่งใช้ในการลงทุน
กำลังซื้อหด--ลูกค้าอาจซื้อน้อยลง ซื้อช้าลง
สำหรับในกลุ่มผู้ส่งออก: เงินบาทแข็งน้ำมันขึ้น ก็น่าจะส่งผลกระทบเยอะเหมือนกัน หากมิได้มีการทำการบริหารความเสี่ยงไว้ก่อนแล้ว เพราะว่า ราคาสินค้ารวมค่าขนส่งเมื่อเทียบกับผู้ผลิตรายอื่นทั่วโลกคงจะสูงขึ้น (หรือเปล่าครับ?) น่าจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของเราลดน้อยลง
สำหรับในกลุ่มท่องเที่ยว: ไม่แน่ใจว่าเงินบาทแข็ง น้ำมันแพงเนี่ย กระทบจริงๆมากๆแค่ไหนสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศครับ หรือว่า คนไทย เห็นเงินบาทแข็ง หนีไปเที่ยวเมืองนอกกันหมดแล้ว
เอ แล้วหุ้นตัวไหนน้าที่จะอยู่ยงคงกระพัน หรือว่าจะเป็นพวกที่มีรายได้สม่ำเสมอและมีการทำสัญญาซื้อขายไปล่วงหน้านานๆ หรือกลุ่มไหนกันแน่
ไม่มีปัญญาหา เดี๋ยวขออ่านความเห็นท่านอื่นๆก่อนดีกว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1231
- ผู้ติดตาม: 0
นํามันแพง + ดอกเบี้ยขึ้น + กําลังซื้อหด ?????
โพสต์ที่ 7
น้ำมันแพง + ดอกเบี้ยขึ้น + กำลังซื้อหด + เงินคงคลังร่อยหรอ รัฐบาลขาดสภาพคล่องด้วยครับน้ำมันแพง + ดอกเบี้ยขึ้น + กำลังซื้อหด
ตอนนี้ เงินสำหรับงบลงทุน เงียบมากเลยครับ
ถ้า GDP โต มาจาก 4 ตัว
1.การใช้จ่ายภาครัฐ
2.การบริโภคภายใน
3.การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
4.การส่งออก
ตอนนี้ที่รายงานตัวเลขว่าดี มีเพียงการส่งออก แต่เงินบาทแข็งได้ยังไง ไม่เข้าใจ มีใครเล่นกลอยู่
ต้องเข้าโรงตึ๊ง อีกหรือเปล่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
นํามันแพง + ดอกเบี้ยขึ้น + กําลังซื้อหด ?????
โพสต์ที่ 8
พลังงานทดทน + ฝากเงิน + ของจำเป็นต้องซื้อ :lol:
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- Verified User
- โพสต์: 857
- ผู้ติดตาม: 0
นํามันแพง + ดอกเบี้ยขึ้น + กําลังซื้อหด ?????
โพสต์ที่ 9
น้ำมันแพง -> บริษัทที่ใช้พลังงานน้อย หรือขายพลังงาน
ดอกเบี้ยขึ้น -> บริษัทที่หนี้น้อย มีเงินสดในมือเยอะ
กำลังซื้อหด -> บริษัทที่ขายของราคาถูก และของจำเป็น
แต่รวมสามข้อแล้วจะมีซักกี่บริษัทนะนี่
ดอกเบี้ยขึ้น -> บริษัทที่หนี้น้อย มีเงินสดในมือเยอะ
กำลังซื้อหด -> บริษัทที่ขายของราคาถูก และของจำเป็น
แต่รวมสามข้อแล้วจะมีซักกี่บริษัทนะนี่