ผ่านแบบคาบเส้น (มากกว่าเส้นที่ประเมินไว้นิดเดียว)
คือประมาณ 7.1คะแนน(เส้นที่ผ่านคือ 7) จาก 10 คะแนน
ภาพรวมประธานที่ประชุมนั้นอ่อนประสบการณ์ในการคุมเกมการประชุมผู้ถือหุ้นจริงๆๆ เนื่องจาก ว่าไม่ได้เตรียมข้อมูลมาก่อนหรืออย่างไงไม่ทราบ ถึงได้มีอาการหัวเสียให้เห็น บนเวที ซึ่งคำถามที่ถามนั้น มีอยู่ในกระทู้ของTVIนี้แล้วด้วย ซึ่งจุดนี้น่าคิด เพราะว่า ในอีกด้านหนึ่ง แสดงถึงธรรมภิบาล ก้มหน้าก้มตาทำงานในส่วนตัวอย่างเดียว
ของตบมือให้ในจุดนี้ แต่ว่าในส่วนการเดินเกม สอบตกแบบอย่างมาก
เริ่มประชุมประมาณบ่ายสองครึ่งเห็นจะได้ (รีบไปแทบตาย เพราะว่าบ้างบริษัทประชุมตรงเวลา งานนี้นั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างเลยอ่ะ เซ็งเลย)
ตอนเริ่มก็นับองค์ประชุมยังไม่เสร็จเลย จำนวนคน และจำนวนหุ้นที่เข้าประชุม (แบบนี้มันแสดงถึงความไม่พร้อมของคนทางบริษัทเองในจุดนี้ ปีหน้าปรับปรุงใหม่ เพราะบริษัทนี้ใหม่มากๆๆ ประชุมมหาชนครั้งแรก)
ประเด็นแรก โดนตั้งแต่แรกเลย
คือ เกี่ยวกับโรงงานที่จะสร้างใหม่ งบประมาณ 110 ล้านบาท อาจจะเป็นเงินสด หรือ เป็นเงินสดและกู้บ้าง
สถานที่ยังไม่แน่ชัด แต่ กรรมการที่ตอบบอกว่า อีกสองเดือนเห็นกันว่า ได้ที่ดินที่ไหน และ ก่อสร้างเสร็จปีหน้า และเริ่มรับรู้รายได้ปีหน้า คือ 2550 แน่นอน
ประเด็นต่อไปในงบดุลคือ เงินที่ฝากสถาบันการเงินไว้ บอกเพียงแค่เป็นเงินฝากประจำ ไว้เป็นเงินประกันโครงการ ดอกเบี้ยไม่ได้บอกแบบชัดเจนเท่าไร งานนี้ต้องไปถามต่อกันเอาเอง
ส่วนเรื่องตั้งสำรองหนี้เสีย 16 ล้านบาท ผู้สอบบัญชีชี้แจงว่า เงินกองนี้คือหนี้เสียตั้งแต่เปิดบริษัทมา จริงๆๆ ปี2548 นั้นมีหนี้เสียประมาณ 9 ล้านบาท จากลูกค้ารายหนึ่ง (ดูได้จากงบกระแสเงินสด) ซึ่งลูกหนี้รายนี้ได้ ผ่อนชำระมาสองเดือนแล้ว เดือนละล้านบาท (ขอให้มันครบและกัน)
ส่วนทำไม ลูกหนี้ 3-6 เดือนพุ่งนั้น ทางผู้สอบบัญชี อธิบายถึงการคิดลูกหนี้ว่า เป็นการจัดลูกหนี้ใหม่ซึ่งต่างจากงบดุลของเดิม (อันนี้ต้องรอคนอื่นที่ไปขยายความเพิ่มเติมด้วยล่ะกัน) และในส่วนนี้มีเงินประกันรวมอยู่ด้วย เพราะว่า งานเสร็จก็จริงแต่มีงานต่อเนื่องให้ทำด้วย ซึ่งเงินประกันนี้จะอยู่ประมาณ 5-10%
ส่วนในเรื่อง การป้องกันอัตราแลกเปลี่ยน วิสัยทัศน์ของผู้บริหารไม่ดี เนื่องจาก แกไม่ได้จบทางด้านนี้มา เลยอธิบายว่า เปิดบัญชีเป็นเงินสกุลต่างประเทศก็พอ แต่ท่านลืมคิดไปว่า เงินมันต้องแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทด้วย (จุดนี้ไม่ได้สวนไปถือว่าหักหน้ากัน ในกลางที่ประชุมมันไม่ดี ขอให้รับรู้ไว้ด้วยล่ะกัน เพราะในตอนวิกฤติเศรษฐกิจ มีบริษัทเดียวที่รอดมาได้ ส่วนบริษัทอื่นๆๆเจ็งระนาว ไม่เว้นมากระทั่งPTTด้วย โปรดคิดดูเสียใหม่ด้วย มีประว้ติศาสตร์ให้ศึกษาแล้วไม่ยอมทำตาม จุดนี้ของเป็นเหตุผลส่วนตัวล่ะกัน)
ถึงในส่วนกรรมการ คือค่าตอบแทนกรรมการ ได้พักให้คิดนานเพราะว่า บริษัทนี้ของให้ 200% ในการได้ใจผู้ถือหุ้น เพราะว่า ผู้ถือหุ้นนั้นเป็นคนตั้งค่าตอบแทน และค่าตอบแทนนี้กรรมการไปจัดสรรกันเอง โดยสามเดือนจ่ายที (ขอตบมือให้ โปร่งแสงจริงๆๆบริษัทนี้) ปีหน้า จ่ายทั้งหมด 6.6ล้านบาท ต่อกรรมการ 11 ท่าน (น่าจะบอกด้วยว่า ใครได้มากน้อยขนาดไหน จะได้เปรียบเทียบเอาไว้ น่าจะมีเปรียบเทียบประมาณ 2-3 ด้วยเพื่อให้พิจารณารอบหน้าได้เร็วกว่านี้) ละมีค่าน้ำมันรถยนต์ครั้งละ 5 000บาท
ส่วนสุดท้าย นั้น สำคัญที่สุดคือ
margin ไม่ยอมบอกว่า เท่าไร แต่บอกเรียงลำดับ
ว่าในส่วนของถังอัดความดันมากที่สุด และส่วนโครงสร้างโรงงานที่ทำด้วยเหล็กมีน้อยที่สุด เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ ลงทุนสูงทำให้marginต่ำ พอรับได้
และในที่ประชุมมีการเสนอให้บริษัทจัด visit company ทางบริษัทตอบรับแต่ไม่ได้กำหนดวันvisit company ซึ่งจุดนี้ถ้าไป คำถามหลายตัวน่าจะclearได้เพราะว่า อุตสาหกรรมนี้มันไกลตัวไปหน่อย อยู่ในแต่โรงงานและห้องแล็บต่างๆๆ
ส่วนที่สำคัญอีกตัวคือ Q3/2548 ปีนี้จะเริ่มลุยตลาดหม้อความดันที่มีความดัน สูงกว่า 100 ถึง 400 บาร์ (คำว่า บาร์คือ 1 หน่วยความดันบรรยากาศปกติ แต่จำค่าไม่ได้แล้ว ลืมไปถามพวกที่เรื่องอยู่น่าจะรู้ดี มันเป็นค่าทางฟิสิกส์)
จบด้วยบรรยากาศที่ดี
แต่หลังประชุมได้นั่งคุยกับคุณกระทิงแดงกับใครอีกคนหน่อ คุยแล้วได้ความรู้ดีไปอีกแบบ

สุดท้าย ขอบคุณUEC ที่จัดประชุมผู้ถือหุ้น
และขอบคุณทุกๆคำถาม ที่ถามเพราะมันคือความรู้
ที่พวกเรานักลงทุน นั่งอุตสาหะในการแกะแงะและเกลามันออกมา เพื่อที่จะได้รู้ว่าบริษัทนั้นแข็งแรงจริงไหม
ขอบคุณมากๆๆครับ