ปีก่อน AIS ยังสงวนท่าทีเป็น premium brand เลยเล่นสงครามราคาไม่เต็มตัวนัก แต่กระนั้นเบอร์รองๆ ก็แทบกระอักแล้ว
ปีนี้ หัวโขนใหม่ซิงๆ (คะโปร์) ประกาศขอเป็นผู้นำสงครามราคาเต็มตัว (ถ้าใครตามโปรฯ ใหม่ๆ แล้วจะน้ำลายไหล) ยังสงสัยอยู่ว่าเบอร์รองๆ จะรับมือยังไง?
แล้วยังสงสัยต่อไปอีกว่า ถ้ารายได้ปัจจุบันบริษัทยังอยู่ได้ แล้วที่สมัยก่อนมันเก็บค่าโทร.แพงกว่านี้เป็น 10 เท่า มันกำไรมหาศาลกันขนาดไหนเนีย?
สงครามมือถือรอบใหม่ ปี 49
- หิ่งห้อย
- Verified User
- โพสต์: 69
- ผู้ติดตาม: 0
สงครามมือถือรอบใหม่ ปี 49
โพสต์ที่ 2
ตั้งแต่แรกๆ ที่ยังไม่ปลดล็อค อีมี่ เวลาโดนว่าเครื่องแพงมาก ถ้าซื้อจากเมืองนอกจะถูกกว่าหลายเท่าตัว AIS มักจะอ้างว่า ราคาค่าโทรของไทยถูกกว่า
ประเทศต่างๆ มาเป็นข้อแก้ตัว ตอนนี้เครื่องถูกลงอย่างมาก ค่าโทรเกือบจะ
ฟรีอยู่แล้ว แต่ดูก็ยังกำไรได้
อยากเกิดเป็นลูกเจ้าของแฮะ 8) 8)
ประเทศต่างๆ มาเป็นข้อแก้ตัว ตอนนี้เครื่องถูกลงอย่างมาก ค่าโทรเกือบจะ
ฟรีอยู่แล้ว แต่ดูก็ยังกำไรได้
อยากเกิดเป็นลูกเจ้าของแฮะ 8) 8)
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
สงครามมือถือรอบใหม่ ปี 49
โพสต์ที่ 4
จะบอกว่า กฏการตลาดเบอร์ 1 มักจะไม่ได้สร้างจริงอะไรใหม่ๆๆ หรือช่องตลาดใหม่ๆๆ
ต้องเบอร์ 2 และ 3 เป็นคนเปิดช่อง
ทำให้สนุกมากขึ้นไปเรื่อยๆๆ
ในเมื่อ AIS เป็นเบอร์หนึ่งที่กำลังจะสูญเสียแชมป์ให้กับเบอร์สอง คือ DTAC ตอนนี้เหมือนหลังชนฝาที่ต้องเล่นทุกวิถีทางสกัดเบอร์สอง
ซึ่งเมื่อก่อนยังมี GSM1800อยู่ แต่ยังสงสัยว่า ทำไมAISถึงได้ฆ่าแบรนด์ตัวนี้ทิ้ง เป็นการน่าเสียดายเพราะว่า มันคือ แบรนด์ไฟติ้งที่ดีที่สุดเลยอ่ะ
เนื่องมันเล่นได้ในสงครามราคา และไม่เสีย ภาพลักษณ์ของAISที่จับตลาดบนอยู่ตลอดเวลา
อาจจะเป็นเพราะ สัญญาที่ทำไว้กับกสท และทางด้านDTACหรือเปล่าล่ะ
น่าคิดไหมล่ะ
ต้องเบอร์ 2 และ 3 เป็นคนเปิดช่อง
ทำให้สนุกมากขึ้นไปเรื่อยๆๆ
ในเมื่อ AIS เป็นเบอร์หนึ่งที่กำลังจะสูญเสียแชมป์ให้กับเบอร์สอง คือ DTAC ตอนนี้เหมือนหลังชนฝาที่ต้องเล่นทุกวิถีทางสกัดเบอร์สอง
ซึ่งเมื่อก่อนยังมี GSM1800อยู่ แต่ยังสงสัยว่า ทำไมAISถึงได้ฆ่าแบรนด์ตัวนี้ทิ้ง เป็นการน่าเสียดายเพราะว่า มันคือ แบรนด์ไฟติ้งที่ดีที่สุดเลยอ่ะ
เนื่องมันเล่นได้ในสงครามราคา และไม่เสีย ภาพลักษณ์ของAISที่จับตลาดบนอยู่ตลอดเวลา
อาจจะเป็นเพราะ สัญญาที่ทำไว้กับกสท และทางด้านDTACหรือเปล่าล่ะ
น่าคิดไหมล่ะ