เจอข้อมูลน่าสนใจครับ :)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
เจอข้อมูลน่าสนใจครับ :)
โพสต์ที่ 3
คือผมลองประมาณการการรับรู้รายได้ ไตรมาสแรกปี 2549 ดูนะครับ
โดยจะเอามาจาก
1. งานที่ครบกำหนดส่งมอบในไตรมาสแรกสิ้นสุดมีนาคมทั้งหมด เหลือยอดรับรู้อีก 439 ล้านเยน
2. งานที่เหลือคิดรับรู้รายได้ตามสัดส่วนระยะเวลาโดยเทียบบัญญัติไตรยางค์ โดยมีงานที่ต้องส่งมอภายใน กันยายน จำนวน 4,878 ล้านเยน ก็จะคิดแค่ 1/3 คือคิดถึงแค่มีนาคม ซึ่งจะต้องรับรู้อีก 1,626 ล้านเยน
3.งานที่เหลือส่งมอบภายใน พ.ค. จำนวน 592 ล้านเยน ก็จะคิด 3/5 ได้เท่ากับ 355 ล้านเยน
รวมทั้งหมด 2,420 ล้านเยน
ถ้าคิดที่ค่าเงิน 0.33 บาทต่อ 1 เยน (ค่าเงิน ณ สิ้นไตรมาสแรก) ก็ควรจะมียอดรับรู้ประมาณ 800 ล้านบาท คิด Net Margin 11% (ไตรมาส 4 ได้ 11.5%) จะได้กำไร 88 ล้านบาท หรือ 0.18 บาทต่อหุ้น
คิดอย่างนี้พอได้มั๊ยครับ ....
โดยจะเอามาจาก
1. งานที่ครบกำหนดส่งมอบในไตรมาสแรกสิ้นสุดมีนาคมทั้งหมด เหลือยอดรับรู้อีก 439 ล้านเยน
2. งานที่เหลือคิดรับรู้รายได้ตามสัดส่วนระยะเวลาโดยเทียบบัญญัติไตรยางค์ โดยมีงานที่ต้องส่งมอภายใน กันยายน จำนวน 4,878 ล้านเยน ก็จะคิดแค่ 1/3 คือคิดถึงแค่มีนาคม ซึ่งจะต้องรับรู้อีก 1,626 ล้านเยน
3.งานที่เหลือส่งมอบภายใน พ.ค. จำนวน 592 ล้านเยน ก็จะคิด 3/5 ได้เท่ากับ 355 ล้านเยน
รวมทั้งหมด 2,420 ล้านเยน
ถ้าคิดที่ค่าเงิน 0.33 บาทต่อ 1 เยน (ค่าเงิน ณ สิ้นไตรมาสแรก) ก็ควรจะมียอดรับรู้ประมาณ 800 ล้านบาท คิด Net Margin 11% (ไตรมาส 4 ได้ 11.5%) จะได้กำไร 88 ล้านบาท หรือ 0.18 บาทต่อหุ้น
คิดอย่างนี้พอได้มั๊ยครับ ....
It's earnings that count
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 0
เจอข้อมูลน่าสนใจครับ :)
โพสต์ที่ 6
ของผมก็มากที่สุดในพอร์ตเลยครับตัวนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
เจอข้อมูลน่าสนใจครับ :)
โพสต์ที่ 7
ผมว่าไม่แน่นะครับ ต้องดูเวลา cut off ด้วยครับว่าคิดเป็น revenue ได้เมื่อไหร่ ของลงเรือแล้วไปถึงหรือยัง คงไม่เหมือนธุรกิจพวกที่เป็น service บางอย่างที่จะใช้ straight line ได้ อย่างตอน Q3 ก็มีงานส่วนหนึ่งที่ทำให้ต้องมารับรู้ผลใน Q4 แทนมาแล้วBlueblood เขียน:คือผมลองประมาณการการรับรู้รายได้ ไตรมาสแรกปี 2549 ดูนะครับ
โดยจะเอามาจาก
1. งานที่ครบกำหนดส่งมอบในไตรมาสแรกสิ้นสุดมีนาคมทั้งหมด เหลือยอดรับรู้อีก 439 ล้านเยน
2. งานที่เหลือคิดรับรู้รายได้ตามสัดส่วนระยะเวลาโดยเทียบบัญญัติไตรยางค์ โดยมีงานที่ต้องส่งมอภายใน กันยายน จำนวน 4,878 ล้านเยน ก็จะคิดแค่ 1/3 คือคิดถึงแค่มีนาคม ซึ่งจะต้องรับรู้อีก 1,626 ล้านเยน
3.งานที่เหลือส่งมอบภายใน พ.ค. จำนวน 592 ล้านเยน ก็จะคิด 3/5 ได้เท่ากับ 355 ล้านเยน
รวมทั้งหมด 2,420 ล้านเยน
ถ้าคิดที่ค่าเงิน 0.33 บาทต่อ 1 เยน (ค่าเงิน ณ สิ้นไตรมาสแรก) ก็ควรจะมียอดรับรู้ประมาณ 800 ล้านบาท คิด Net Margin 11% (ไตรมาส 4 ได้ 11.5%) จะได้กำไร 88 ล้านบาท หรือ 0.18 บาทต่อหุ้น
คิดอย่างนี้พอได้มั๊ยครับ ....
Impossible is Nothing