มีใครลุ้นผลประกอบการ SMM อยู่บ้างครับ

[Saran]

พอดีไม่ได้เปิดดูปอดตัวเองมานาน (เดือนกว่าๆ) เห็นอยู่ดีๆ ราคาก็ขยับขึ้นไปนะครับ เลยคิด bias ไปเองว่าสงสัยมีข่าวอะไรดีๆ ป่าวเอย  8) จากที่มันยังเป็น "แดงจังกู" กลายเป็น "เขียวจังเลย" นิดๆ แล้ว

ถ้าจะให้ทาย ผลประกอบการน่าจะดีขึ้นมากกว่าไตรมาศที่แล้ว แต่ไม่มากนักเนื่องจากต้องตั้งสำรองค่าเสียหายจากน้ำท่วมนะ แต่กระแส แดจังกึม น่าจะมาทดแทนได้ระดับหนึ่ง นะครับ อันนี้เป็นการเดามั่วๆ นะครับ ไม่มีหลักการอะไรเลย  :lol: ตอนนี้กำลังลุ้นอยู่ว่าเมื่อไร ลูกหนี้ที่มีจะกลายเป็นเงินสดซักทีเนี่ย กลัวไม่ได้เงินปันผลอะ

ใครมีความคิดเห็นอย่างไรกับตัวนี้อยู่ ก็โพสมาบอกด้วยนะครับ ขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลย พอดีเป็นมือใหม่ ประสบการณ์น้อย อยากขอคำชี้แนะจากทุกๆ ท่านครับ

[Suysak]

กลัวเรื่องของเสียจากนำท่วมเหมือนกันครับ ขอลุ้นด้วยคนนะครับ

[กระทิงแดง]

ผมก็เป็นอีกคนที่ลุ้นอยู่ครับ

จากประสบการณ์การอ่านการ์ตูนอันยาวนาน คิดว่ารายได้ต้องเพิ่มจากปีที่แล้วค่อนข้างแน่นอนครับ เพราะการ์ตูนหลายเรื่องมีคุณภาพครับ ไม่รู้ bias หรือเปล่านะครับ ถ้าไม่นับการ์ตูนยุคเก่าๆ ที่ดังมากของวิบูลย์กิจ ผมว่าตอนนี้ SMM มีการ์ตูนที่มีคุณภาพ เยอะกว่าครับ

ที่มีข่าวดี ก็คือ
1. ทางผู้บริหาร ออกมาบอกว่าจะเน้นเรื่องคุณภาพของการ์ตูนมากขึ้น ไม่ใช่เอาปริมาณเหมือนเดิม จะเน้นเฉพาะเรื่องที่น่าจะมียอดพิมพิ์ 10,000 เล่ม จากเดิม 5,000 เล่ม(อันนี้ดีใจมากๆครับ เพราะกะจะไปพูดในประชุมผู้ถือหุ้นเหมือนกัน)

2. ทางผู้บริหาร มีความคิดที่จะปิด magazine ที่ไม่ work ออกจากแผงครับ (เหมือนกับที่ผมคิดพูดอีกแล้ว)

3. ตั้งเป้า กำไรเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน

สู้ๆครับ ไม่รู้ในนี้มีใครลงทุนตัวนี้บ้างครับ

[buglife]

โอ ผมคงพ้นวัยการ์ตูนแล้ว
เลยไปมองตลาดหนังสืออ่านมากกว่า

smm เน้นหนังสือแนวเกาเหลา เอ้ย เกาหลี ฆาตกรรม ผี
ผมว่าตามเทรนด์ใช้ได้ครับ เลือกหนังสือที่ตีหัวเข้าบ้านได้ดี

พอๆ กับที่ควรมีหนังสือดีๆ ซึ่งจะเป็นน้ำซึมบ่อทราย
ขายไปได้เรื่อยๆ ไม่จำกัดเวลา

คุณภาพหนังสือที่จะออกดีที่สุดครับ
จะขายได้เรื่อยๆ

ส่วนร้านขายหนังสือ ก็ค่อยๆ เพิ่มไป
ตลาดยังค่อยๆ เติบโตไปได้เรื่อยๆ
ไม่ต้องกลัวซีเอ็ดหรอกครับ ร้านหนังสือไม่เน้นแบรนด์

เหลือแต่เรื่องเจ้าของกะลูกหนี้นี่แหละ
งบออกก็ คงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร

แดจังกึม สู้ๆ
แหะๆ มีหน่อยนึง ลุ้นอยู่แบบสบายๆ ฮับ

[Finect]

มีคนพยายามทำขึ้น (ไปแป๊บเดียว) มาหลายครั้งแล้วครับ
ผมก็ลุ้นอยู่เหมือนกัน ไม่เข้าใจจริงๆว่าเค้าจะไล่หุ้นไปอย่างนั้นทำไม

ส่วนเรื่องปันผลก็น่าจะได้ไม่น้อยกว่าเดิม ถ้าคิดเป็นเปอร์เซนต์ก็น่าสนใจนะครับ
 :)  :)  :)

[Saran]

พอตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา อีกมันก็ค่อยๆ ลงเลย  :lol: (ทุนผมอยู่ที่ 1.86) จะกลายร่างเป็นสีแดงๆ อีกแล้ว  :lol:  :lol:

เรื่องเงินปันผล สำหรับผมถ้าได้เท่าเดิมก็ยังโอเคครับ เพราะถ้าดูจากงบไตรมาศ 3 นี้เงินสดที่ได้เอาไปถลุงไปมากจิงๆ กำไรส่วนใหญ่ที่ได้มาก็ไปอยู่ในรูปของลูกหนี้ ถ้ายังเก็บเงินไม่ค่อยได้แล้วมาจ่ายเงินปันผล กลัวบริษัทจะเป็นพวกโลหิตจางนะสิเนี่ย  :?

ส่วนปีนี้ ก็ลุ้นต่อไปว่า กระแสบอลโลกน่าจะทำรายได้กับคลื่นวิทยุได้มากขึ้นนะ กะ สาขาที่ขยายเพิ่มไปต้องดูสิว่าจะทำเงินได้ขนาดไหน

[กระทิงแดง]

ดูท่าทาง ผู้บริหารจะเน้นการขายแบบรุก หลังจากได้เงินเพิ่มทุนมา แบบว่าปล่อยสินเชื่อกระจาย

ก็กำลังคอยงบของไตรมาตร 4/48 ว่าลูกหนี้กับ inventory เป็นยังงัยบ้าง

[Oatarm]

น้องศรันย์

ส่วนปีนี้ ก็ลุ้นต่อไปว่า กระแสบอลโลกน่าจะทำรายได้กับคลื่นวิทยุได้มากขึ้นนะ กะ สาขาที่ขยายเพิ่มไปต้องดูสิว่าจะทำเงินได้ขนาดไหน

  สปอร์ต เรดิโอ  ปีนี้ ไม่ได้ออกคลื่น  FM 94 แล้วนะครับ  ทำให้เหลืออยู่คลื่นเดียว FM 106.75 ....ไม่รู้โฆษณา  จะหดไปมากหรือเปล่า  เดิมทีปีที่แล้ว ช่วงถ่ายบอลวันเสาร์-อาทิตย์ ออกพร้อมกันสองช่อง

[lord]

sport radio ได้เวลาที่คลื่น 105 แล้วครับ

[worapong]

[quote="Saran"]พอตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา อีกมันก็ค่อยๆ ลงเลย

[buglife]

ซีเอ็ด ขอเอาเงินไปหมุนก่อน 3 เดือน  :evil:
นายอินทร์ B2S ไม่ทราบชัดเจน
น่าจะแล้วแต่ตกลง แต่คงใกล้ๆ กันครับ

[Saran]

น้องศรันย์

[buglife]

บอลโลกมีผลกับวิทยุน้อยครับ

เพราะเบียร์ช้าง ถ่ายทอดทุกนัด ฮา

[onemanshow]

ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมว่าการเลือกการ์ตูนมาตีพิมพ์ของบริษัทแย่ลงนะครับ

ในส่วนของการ์ตูนรายสัปดาห์
สังเกตจากผู้อ่าน BOOM (หนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์เครือเนชั่น) มีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่ผู้อ่าน C-KID กลับน้อยลง - ผมใช้การสังเกตจากตัวเอง (ผมซื้อทั้ง BOOM และ C-KID ตั้งแต่เล่ม 1 ทั้งคู่ แต่ผมเลิกซื้อ C-KID ไปแล้วประมาณ 6 -7 เดือนแล้วครับ) จากคนรอบข้าง (พอดีเมื่อก่อนอยู่ใน ม.เกษตร คนมาร้านการ์ตูนในม. จะถามหา BOOM ตลอด คนถือBOOM เดินไปเดินมาก็เยอะ

ในส่วนของการ์ตูนพ็อกเก็ตบุ๊ค
สยามอินเตอร์ฯ มีการ์ตูนหลายหัวมาก แต่มักเป็นเรื่องไม่ดัง และไม่สนุก ผมว่าประมาณครึ่งๆ ของการ์ตูนทั้งหมดเลยนะครับ พอนำมาขายแล้วไม่เวิอค ก็ไม่ตีพิมพ์ต่อซะอย่างนั้น ส่วนใหญ่จะตีพิมพ์เล่ม 1 -2 ติดๆ กันมาวางตลาด พอไม่เวอคก็หยุดพิมพ์ต่อ

ในส่วนของการเข้มงวดด้านสื่อลามกของรัฐบาลก็เป็นผลลบก็ยอดขายนะครับ
ผมมองว่า สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์ฯ รับผลกระทบมากหน่อย มีเรื่องที่ได้รับการกล่าวขวัญอย่าง GANTZ (ไม่กล้าบอกว่าขายดีเพราะไม่รู้ แต่กระแสดี) ก็ต้องหยุดวางขาย

ส่วนวิบูลย์กิจ ผมยังไม่เห็นเรื่องไหนที่โดนเซ็นเซอร์นะครับ ส่วนเนชั่นการ์ตูนส่วนใหญ่ไม่ค่อยติดเรท (ดูๆ จากหน้าปกเอา) ก็ไม่น่าได้ผลกระทบมาก

เรื่องการติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูน ผมทราบมาว่า
ในการขอซื้อลิขสิทธิ์การตูนเรื่องใหม่ เขาจะให้เกียรติสำนักพิมพ์ที่เคยซื้อลิขสิทธิ์การตูนเรื่องอืนของอาจารย์ผู้วาดคนเดียวกัน ติดต่อก่อน เข้าใจว่าเพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันด้านราคากันเองระหว่างสำนักพิมพ์ในไทย ตรงจุดนี้ทำให้วิบูลย์กิจยังค่อนข้างได้เปรียบ เนื่องจากติดต่อกับสำนักพิมพ์ญี่ปุ่นมานาน และมีเครือข่ายกว้าง

ส่วนเนชั่นก็ได้สิทธิ์ติดต่อกับผู้เขียน Dragonball, Slamdunk, JOJO, คนเขียนเรื่อง โกะ (ปัจจุบันเขียน Deathnote) - ส่วนใหญ่เป็นนักเขียนจากค่าย Shueisa (อาจเขียนผิด)

ด้านตลาดการ์ตูนชาติอื่น

การ์ตูนสายเกาหลี - สยามอินเตอร์ฯ ครอง แต่แนวโน้มจะเป็นยังไงไม่รู้

การ์ตูนสายจีน ฮ่องกง - มีแข่งกันจริงๆ 2 เจ้า สยามอินเตอร์ฯ เคยได้ลิขสิทธิ์การ์ตูนดังอย่าง ฟงจวิ๋น, เจาะเวลาหาจิ๋นซี ส่วนบุรพพัฒน์มีหัวการ์ตูนจีนมากกว่า ปัจจุบันสยามอินเตอร์ฯ อาจเพลี่ยงพล้ำให้บุรพพัฒน์ไปแล้ว(บุรพัฒน์มีหนังสือการตูนรายสัปดาห์ A-Week ซึ่งมีเฉพาะการ์ตูนจีน) หรือไม่ก็กอดคอร่วงทั้งคู่

นวนิยายจีนกำลังภายใน - น่าจะเป็นของสยามอินเตอร์ฯ แต่ผมไม่ชัวร์นะครับ ไม่ได้ติดตาม

การ์ตูนมาร์แวล, ดิสนีย์- น่าจะเสร็จเนชั่น

แค่นี้ก่อนนะครับ

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่ได้จากการสังเกตล้วนๆ

[greenstock]

ในส่วนของการ์ตูนรายสัปดาห์
สังเกตจากผู้อ่าน BOOM (หนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์เครือเนชั่น) มีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่ผู้อ่าน C-KID กลับน้อยลง -

เห็นด้วยครับ

การ์ตูนสายเกาหลี - สยามอินเตอร์ฯ ครอง แต่แนวโน้มจะเป็นยังไงไม่รู้

การ์ตูนเกาหลี แปลได้แย่อะครับ

การ์ตูนสายจีน ฮ่องกง

นวนิยายจีนกำลังภายใน

อ่านมังกรคู่สู้สิบทิศอยู่  
แต่เรื่องอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะไม่สนุกเลยอะครับ  :(

[Saran]

พอได้อ่านความเห็นแต่ละคนแล้ว รู้สึกหวั่นๆ เหมือนกันนะเนี่ย  :lol:  แต่ดีแล้วครับ จะได้เห็นมุมมองหลายๆ แบบดี

สำหรับการ์ตูน ผมเห็นด้วยนะครับ ที่บริษัทยังมีปัญหาในการคัดเลือกมาตีพิมพ์ (เฉพาะแค่การ์ตูนผู้ชายนะครับ แนวผู้หญิงไม่รู้) เพราะส่วนมากบริษัทจะพิจารณาเอาการ์ตูนที่มีลายเส้นสวยงามมาแปลนะครับ (ไม่แน่ในว่าอ่านเจอในหนังสือชี้ชวนหรือในเวปของเค้าอะ) จนบางเรื่องอาจถึงขั้นติดเรท (เช่น GANTZ ทำให้เพื่อนผมต้องไปหาโหลดอ่านเอาทางเน็ตอย่างเอาเป็นเอาตาย  :lol: ) อีกทั้งปีที่ผ่านมายังเป็นปีที่บริษัทออกการ์ตูนมาหลายหัวมากกว่าเมื่อก่อน ผมว่าเป็นธรรมดาที่ทำให้มีหลายเล่มที่ไม่เข้าตา แต่เท่าที่ดูผมว่าผู้บริหารคงใช้วิธีการเหวี่ยงแหไปก่อนมากกว่า พอเรื่องไหนดังก็ทำการพิมพ์เพิ่ม เรื่องไหนไม่ดังก็เก็บไปซะ

ส่วนนวนิยายจีน เท่าที่ผมอ่านเจอในหนังสือชี้ชวน เห็นบอกว่าบริษัทแทบผูกขาดในตลาดส่วนนี้เลยนะครับ แต่เรื่องที่จะถูกใจคนอ่านก็ต้องอีกเรื่องหนึ่งอ่ะน่ะ

ส่วนเรื่องที่แปลการ์ตูนเกาหลีได้แย่ไว้สงสัยต้องเอาไปบอกผู้บริหารตอนประชุมผู้ถือหุ้นซะแล้ว  8)

[greenstock]

การ์ตูนเกาหลียังมีไม่เยอะ ไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่มั้งครับ

เรื่องแปลแย่นี่ ดูท่าทางคนแปลภาษาเกาหลีจะหายากน่ะครับ
และดูจะมีอายุด้วย
แปล "ไอ้.." เป็น "อ้าย.." เลยอะครับ  :lol:
และบางเรื่องเป็นเรื่องสมัยใหม่ (อย่างเกมออนไลน์) คนแปลมักจะไม่ค่อยทันกับเทคโนโลยี เลยแปลออกมามั่ว

เรื่องการ์ตูนนี่ คนอ่านเค้าจะบ่นเรื่องแปล (ญี่ปุ่น) หลายครั้งแปลเพี้ยน ๆ อ่านแล้วแหม่ง ๆ โดยเฉพาะชื่อของตัวละคร ซึ่งมันมาจากภาษาอังกฤษ แต่แปลออกมาเพี้ยน (อันนี้บางคนอาจเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับนักอ่าน เป็นเรื่องใหญ่)  :lol:
กับเรื่องหน้ากระดาษเลอะ มันจะเปื้อนหมึกเป็นปื้น ๆ แทบทุกหน้าน่ะครับ (อันนี้บอกว่าไม่เกี่ยวกับเค้า มันอยู่ที่โรงพิมพ์)
แค่สองเรื่องนี้ ถ้าเทียบกับเนชั่นแล้ว ภาษีแย่กว่าอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ

เดี๋ยวนี้พอการ์ตูนดัง ๆ SMM ได้ไป นักอ่านเค้าโวยวายกันใหญ่เลย (อยากให้เนชั่นได้ไปมากกว่า ส่วนวิบูลย์กิจชอบดอง)



ที่ผมพิมพ์นี่ไม่ค่อยจะเกี่ยวกับหุ้นเลยนะครับ  :lol:

[greenstock]

ส่วนเนชั่นก็ได้สิทธิ์ติดต่อกับผู้เขียน Dragonball, Slamdunk, JOJO, คนเขียนเรื่อง โกะ (ปัจจุบันเขียน Deathnote) - ส่วนใหญ่เป็นนักเขียนจากค่าย Shueisa (อาจเขียนผิด)

ขอขยายความหน่อยครับ
เนชั่นกับ SMM เอามาจากค่ายเดียวกันคือชูเอฉะ (ดังนั้นบางครั้งถ้ามีคนเขียนใหม่ เรื่องดัง ๆ ก็ต้องแย่งกันเอง)

แต่วิบูลย์กิจจะเอามาจากอีกค่ายนึง รู้สึกจะชื่อโคดันฉะ

[Saran]

พอดีเพิ่งไปอ่านเจอครับ จาก Bizweek วันที่ 24 ก.พ. - 2 มี.ค. 49

สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย ดึง 3 สาวคนดัง "หนิง กมลา - ปุ้ย พิมลวรรณ ศุภยางค์ - วราภรณ์ สมพงศ์" นั่งแท่นบริหาร 3 นิตยสารหัวนอก หวังปูเส้นทางลัดสู่ความสำเร็จในเวลาอันสั้นและสร้างฐานธุรกิจโต 700 ล้านในสิ้นปี

สุทธิศักดิ์ โล่ห์สวัสดิ์ ประธานกรรมการ บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ SMM กล่าวว่า แม้นิตยสารเพื่อสุขภาพและครอบครัวปัจจุบันอยู่ในภาวะแข่งขันสูงและมีความใกล้เคียงกันในเชิงโปรดักท์ อีกทั้ง เจ้าตลาดรายเดิมยังครองมาร์เก็ตแชร์ไว้ได้เกือบ 50-60% แต่ก็ยังมีช่องว่างพอที่จะแทรกตัวเข้าไปได้

แนวทางที่จะรุกสู่ช่องว่างของตลาดดังกล่าวหากยังใช้กลยุทธ์รูปแบบเดิมๆ ที่เน้นโปรโมทผ่านสื่อและจัดกิจกรรมต่างๆ คงไม่เพียงพออีกต่อไป การพัฒนา Celebrity Marketing ด้วยการดึงคนดังเข้ามาเป็นบรรณาธิการบริหาร ตามยุทธวิธีที่ บริษัท อีแมป ประเทศอังกฤษ เจ้าของลิขสิทธิ์นิตยสารที่ทางบริษัทซื้อสิทธิเป็นผู้วางไว้จึงเป็นวิธีที่น่าจะส่งผลดีต่อสถานการณ์ตลาดในช่วงเวลานี้

สิ่งสำคัญอยู่ที่การคัดสรรคนดังมาสวมบทผู้นำในนิตยสารแต่ละเล่ม โดยจะเน้นเลือกจากคาแรคเตอร์และจุดขายที่ตรงกับคอนเซปต์ของนิตยสารแต่ละเล่ม เพื่อเป็นส่วนเสริมโยงให้แบรนด์อิมเมจของทั้งตัวบุคคลและโปรดักท์ไปในทิศทางเดียวกัน

โดยคนดังที่เข้ามารับหน้าที่บรรณาธิการบริหารทั้ง 3 เล่มของ SMM นั้นประกอบด้วย หนิง กมลา กำภู ณ อยุธยา ดูแลนิตยสารชื่อ Slimming ปุ้ย พิมลวรรณ ศุภยางค์ หนึ่งในพิธีกรผู้หญิงถึงผู้หญิง ดูแลในส่วน Mother&Baby และ กระเต็น วราภรณ์ สมพงศ์ ดูแล HealthPlus

"นิตยสารเป็นตลาดที่แข่งขันสูง เราเป็นน้องใหม่ต้องพยายามหาทางให้ติดตลาดเร็วที่สุด จึงใช้คนเหล่านี้มารับหน้าที่เสมือน Brand Ambassador ทั้งสร้างการรับรู้ให้กับนิตยสารและช่วยลดเวลาสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งแน่นอนจะส่งผลถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นด้วย" สุทธิศักดิ์ กล่าว

สำหรับภาพรวมของบริษัทในปี 2549 ประธานกรรมการ บอกว่าได้มีการปรับทิศทางใหม่จากเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาที่มักจะเน้นผลิตงานออกมาจำนวนมากเพื่อเร่งเติบโต มาเน้นให้ความสำคัญกับการเติบโตเชิงคุณภาพมากกว่า เพื่อควบคุมกระบวนการผลิต และทำกำไรในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น

เริ่มจากสิ่งพิมพ์ ธุรกิจที่ทำรายได้หลักให้บริษัทถึง 70%จากรายได้ทั้งหมด จะเน้นคัดสรรผลงานคุณภาพ และโดนใจผู้อ่าน เพื่อเพิ่มความสามารถให้แต่ละปกมียอดขายสูงที่สุด มากกว่าการออกผลงานสู่ท้องตลาดจำนวนมาก

สุทธิศักดิ์ บอกว่า แนวทางการเลือกคอนเทนท์มาตีพิมพ์ จะพยายามเลือกเรื่องที่โดนใจผู้บริโภค แล้วมากำหนดยอดของแต่ละเล่ม ซึ่งจะแบ่งออกเป็นเกรดเอ บี และซี เพื่อให้ทราบว่า ควรตีพิมพ์ในจำนวนเท่าไรให้เหมาะกับยอดขายที่จะสามารถทำได้ ทั้งนี้เพื่อลดเวลาในการพิมพ์ลง และมีเวลาในการไปคัดสรรเนื้อหาที่ตรงใจมากขึ้น

ตัวอย่างเช่น การ์ตูน ปกติจะพิมพ์ 100 เรื่องต่อเดือน และพอคเก็ตบุ๊ค พิมพ์ประมาณ 25-30 เรื่องต่อเดือน จากนี้ไปจะลดการพิมพ์ลงครึ่งหนึ่ง โดยเรื่องที่นำมาตีพิมพ์จะพิจารณาจากกระแสความต้องการของตลาดและผู้บริโภคเป็นหลัก

ขณะที่บางกลุ่มเติบโต แต่ก็มีบางนิตยสารที่ต้องปิดตัวลงจากที่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนักในเชิงยอดขาย อาทิ ZAP Magazine นิตยสารด้านบันเทิง และมูฟวี่ เอ็กซ์ตร้า นิตยสารเกี่ยวกับภาพยนต์

การหวนมาโฟกัสกับโปรดักท์ที่ "เข้าตา" ผู้อ่านและมีโอกาส "ทำเงิน" ในอนาคต บวกกับดึง "คนดัง" การันตียอดขายและการตลาด จะช่วยประบกำไรให้สูงขึ้นถึง 10% จากรายได้ที่ตั้งเป้าไว้ในปีนี้ 700 ลบ. โดย 70%มาจากสิ่งพิมพ์ วิทยุ 25% ที่เหลือ 5% เป็นอื่นๆ

มีความเห็นยังไงบ้างครับ กับการดึง คนดัง มาบริหารงาน 8)

[miracle]

นั่งคอยอยู่
งบไตรมาสสามนั้นเกี่ยวข้องกับSPORTมากๆๆ
ส่วนเรื่องการ์ตูนนั้น

ของพาดพิงวิบูลย์กิจได้จากCAMPด้วย
ค่ายนี้ทำหนังสือการ์ตูนแนวผู้หญิงด้วย
ทำให้ตลาดกว้างกว่า และชอบดองเป็นเรื่องปกติ
วันไหนการ์ตูนเรื่องที่ดังๆๆออกพร้อมกันวันนั้น
ไปดูได้ที่เฉลิมไทยว่ามีอะไรแปลกๆๆ


ส่วนราคาการ์ตูนเป็นตัวสะท้อนภาพเศรษฐกิจด้านเงินเฟ้อได้อย่างดี เพิ่มครั้งละ 5 บาท (พวกหนังสือลิขสิทธิ์ต่างๆๆ)  จากเริ่มแรกอ่านที่เล่มละ 25 บาท (แพงกว่าพวกไม่มี ที่ขายกัน 15 บาทในสมัยนั้น) เพิ่มมาเป็น 30 บาท 35 บาท 40 บาท และบ้างเล่ม ถึง 45 บาท
ถ้าไม่ใช้editionพิเศษ (บ้างเรื่องมีราคาแตกต่างกัน)

ส่วนเรื่องวิทยุ no comment

ปล ใครไปประชุมบ้างก็บอกกันด้วย จะได้เทคทีมกันว่าจะถามเรื่องไหนกันบ้าง จะได้ทำการบ้านไว้
เรื่องที่ต้องถาม คือ รายการที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหนี้รายใหญ่ในไตรมาสสามยังอยู่หรือเปล่า
การซื้อลิขสิทธิ์  มาเช่น แดจังกึม เห็นบอกว่าซื้อแล้วดองเพราะกระแสไม่มา แต่กระแสมาต้องรีบปล่อยหนังสือ งานนี้มีการพิมพ์ไว้ก่อนหรือเปล่า น่าคิด
แล้วเรื่องการเพิ่มของร้านค้าในเครือsmm ไม่เห็นอยู่ในแหล่งที่วัยรุ่นเดินเท่าไร (ใจกลางเมืองที่มีกำลังซื้อ)
การโปรโมชั่นของสินค้า ที่ลดราคา ทำกันอย่างไง (เรื่องนี้รวมถึงเรื่องการตัดสต๊อกสินค้าด้วย)

ดูรายละเอียดแล้วเพียบจริงๆๆ

หวังว่า มันคงจะออกมาแบบไม่ผิดหวัง

และสุดท้ายที่ลืมไม่ได้ ทำประกันภัย ที่เกี่ยวกับสินค้ากับบริษัทไหน และวงเงินเท่าไร ต้องถามด้วย เพราะว่า ภัยน้ำท่วมมันกระทบมาก ต้องถามเป็นการแถมด้วย
ขุดต้องขุดมันให้หมด

สุดท้ายจริงๆๆ nationเห็นว่าขาดทุนมันขาดทุนเพราะอะไรล่ะ เพราะทำหนังสือเหมือนกัน

[onemanshow]

Quote:
ส่วนเนชั่นก็ได้สิทธิ์ติดต่อกับผู้เขียน Dragonball, Slamdunk, JOJO, คนเขียนเรื่อง โกะ (ปัจจุบันเขียน Deathnote) - ส่วนใหญ่เป็นนักเขียนจากค่าย Shueisa (อาจเขียนผิด)


ขอขยายความหน่อยครับ
เนชั่นกับ SMM เอามาจากค่ายเดียวกันคือชูเอฉะ (ดังนั้นบางครั้งถ้ามีคนเขียนใหม่ เรื่องดัง ๆ ก็ต้องแย่งกันเอง)

แต่วิบูลย์กิจจะเอามาจากอีกค่ายนึง รู้สึกจะชื่อโคดันฉะ

ใช่ครับส่วนใหญ่แล้ว SMM กับเนชั่นจะการ์ตูนมาจาก ชูเอฉะ แต่ประเด็นที่ผมจะสื่อก็คือ

สมมติว่า เนชั่น เคยซื้อลิชสิทธิ์การ์ตูนเรื่อง A ของอาจารย์ ก. พออาจารย์ ก. เขียนเรื่องใหม่ เช่น การ์ตูน B เนชั่นจะได้สิทธิ์ในการขอซื้อลิชสิทธิ์การ์ตูน B จากอาจารย์ ก. ก่อน หากไม่สามารถตกลงกันได้ สำนักพิมพ์ไทยเจ้าอื่นๆ ถึงจะติดต่อเพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูน B ต่อไป

ส่วนสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ผมเคยได้อ่านมาว่า เป็นเพราะสำนักพิมพ์ไทยเจ้าต่างๆ ไม่อยากแข่งกันประมูล ซึ่งจะทำให้ค่าลิขสิทธิ์สูงขึ้น ไม่เป็นผลดีแก่ทุกฝ่าย

ลองสังเกตดูสิครับ ถ้าสำนักพิมพ์ไหนเคยได้พิมพ์การ์ตูนของอาจารย์(คนเขียนการ์ตูน) คนนั้นก่อน การ์ตูนเรื่องใหม่ของอาจารย์คนนั้นส่วนมากก็จะพิมพ์ที่สำนักพิมพ์เดิม เช่น วิบูลย์กิจได้ลิขสิทธิ์การ์ตูนเรื่อง H2 พออาจารย์คนเขียน H2 เขียนเรื่องใหม่ วิบูลย์กิจก็จะได้ลิขสิทธิ์เรื่องใหม่นั้นไปด้วย (ถ้าเจรจาตกลงซื้อลิขสิทธิ์กันได้)

ดังนั้นผมจึงคิดว่า

วิบูลย์กิจ ค่อนข้างได้เปรียบเนื่องจากมีสายสัมพันธ์กับอาจารย์ และสำนักพิมพ์ต่างๆ ของญี่ปุ่นมานาน (โคดันฉะ โชกากุคัง ฯลฯ)

ส่วนเนชั่น มาแรงในช่วงหลัง คัดเลือกเรื่องได้มีคุณภาพมาก และยังได้ลิขสิทธิ์การ์ตูนดีๆ จากนักเขียนรุ่นใหม่จากค่ายชูเอฉะเยอะ ซึ่งจะเป็นผลดีในอนาคตหากผู้เขียนการ์ตูนคนนั้นเขียนเรื่องใหม่

ส่วน SMM ผมว่าตอนแรกได้ลิขสิทธิ์จากคนเขียนเก่งๆ หลายคน แต่ตอนหลังคงไม่สู้ราคาค่าลิขสิทธิ์จึงทำให้เนชั่นเข้ามาฉกลิขสิทธิ์การ์ตูนดีๆ เรื่องใหม่จากนักเขียนเหล่านั้นไป เช่น คนเขียนเรื่อง คนเก่งฟ้าประทาน (Yuyuhakusho) เรื่องใหม่ (Hunter*Huenter) ตอนนี้ก็เป็นของเนชั่น

เข้าใจว่า SMM คงอยากเพิ่ม Margin ถึงไม่สู้ค่าลิขสิทธิ์ แต่ผมมองว่ากำลังเสียความสามารถในการแข่งขันด้านตลาดการ์ตูนในระยะยาว

ส่วนอีกประเด็น การที่มีร้านเช่าการ์ตูนเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และไปยึดแหล่งใกล้มหาวิทยาลัย หมู่บ้าน ชุมชน มีผลกระทบต่อสำนักพิมพ์ต่างๆ อย่างไร อย่างมีนัยสำคัญหรือเปล่า

ร้านรับซื้อ และขายการ์ตูนมือสอง ส่งผลอย่างไร อย่างมีในนัยสำคัญหรือเปล่า

ในขณะที่ราคาหนังสือการ์ตูนได้รับผลกระทบจากราคากระดาษจนมีการปรับราคาอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดจาก 35 บ. เป็น 40 บ. เพิ่มขึ้น 14% ค่าเช่าการ์ตูน ปก 35 เช่า 4 บ. ปก 40 เช่า 4 บ. ปก 45 เช่า 5 บ.

[onemanshow]

ต้องขอโทษด้วยครับที่ต้องPost ซ๊ำ อันที่แล้วผมลองใช้ "Quote" ดู แต่มันได้ทำให้ข้อความที่ผมพิมพ์เพิ่มเป็นแบบ "Qoute" ไปด้วย เลยลองดูใหม่ครับ

Quote:
ส่วนเนชั่นก็ได้สิทธิ์ติดต่อกับผู้เขียน Dragonball, Slamdunk, JOJO, คนเขียนเรื่อง โกะ (ปัจจุบันเขียน Deathnote) - ส่วนใหญ่เป็นนักเขียนจากค่าย Shueisa (อาจเขียนผิด)

ขอขยายความหน่อยครับ
เนชั่นกับ SMM เอามาจากค่ายเดียวกันคือชูเอฉะ (ดังนั้นบางครั้งถ้ามีคนเขียนใหม่ เรื่องดัง ๆ ก็ต้องแย่งกันเอง)

แต่วิบูลย์กิจจะเอามาจากอีกค่ายนึง รู้สึกจะชื่อโคดันฉะ

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

ใช่ครับส่วนใหญ่แล้ว SMM กับเนชั่นจะการ์ตูนมาจาก ชูเอฉะ แต่ประเด็นที่ผมจะสื่อก็คือ

สมมติว่า เนชั่น เคยซื้อลิชสิทธิ์การ์ตูนเรื่อง A ของอาจารย์ ก. พออาจารย์ ก. เขียนเรื่องใหม่ เช่น การ์ตูน B เนชั่นจะได้สิทธิ์ในการขอซื้อลิชสิทธิ์การ์ตูน B จากอาจารย์ ก. ก่อน หากไม่สามารถตกลงกันได้ สำนักพิมพ์ไทยเจ้าอื่นๆ ถึงจะติดต่อเพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูน B ต่อไป

ส่วนสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ผมเคยได้อ่านมาว่า เป็นเพราะสำนักพิมพ์ไทยเจ้าต่างๆ ไม่อยากแข่งกันประมูล ซึ่งจะทำให้ค่าลิขสิทธิ์สูงขึ้น ไม่เป็นผลดีแก่ทุกฝ่าย

ลองสังเกตดูสิครับ ถ้าสำนักพิมพ์ไหนเคยได้พิมพ์การ์ตูนของอาจารย์(คนเขียนการ์ตูน) คนนั้นก่อน การ์ตูนเรื่องใหม่ของอาจารย์คนนั้นส่วนมากก็จะพิมพ์ที่สำนักพิมพ์เดิม เช่น วิบูลย์กิจได้ลิขสิทธิ์การ์ตูนเรื่อง H2 พออาจารย์คนเขียน H2 เขียนเรื่องใหม่ วิบูลย์กิจก็จะได้ลิขสิทธิ์เรื่องใหม่นั้นไปด้วย (ถ้าเจรจาตกลงซื้อลิขสิทธิ์กันได้)

ดังนั้นผมจึงคิดว่า

วิบูลย์กิจ ค่อนข้างได้เปรียบเนื่องจากมีสายสัมพันธ์กับอาจารย์ และสำนักพิมพ์ต่างๆ ของญี่ปุ่นมานาน (โคดันฉะ โชกากุคัง ฯลฯ)

ส่วนเนชั่น มาแรงในช่วงหลัง คัดเลือกเรื่องได้มีคุณภาพมาก และยังได้ลิขสิทธิ์การ์ตูนดีๆ จากนักเขียนรุ่นใหม่จากค่ายชูเอฉะเยอะ ซึ่งจะเป็นผลดีในอนาคตหากผู้เขียนการ์ตูนคนนั้นเขียนเรื่องใหม่

ส่วน SMM ผมว่าตอนแรกได้ลิขสิทธิ์จากคนเขียนเก่งๆ หลายคน แต่ตอนหลังคงไม่สู้ราคาค่าลิขสิทธิ์จึงทำให้เนชั่นเข้ามาฉกลิขสิทธิ์การ์ตูนดีๆ เรื่องใหม่จากนักเขียนเหล่านั้นไป เช่น คนเขียนเรื่อง คนเก่งฟ้าประทาน (Yuyuhakusho) เรื่องใหม่ (Hunter*Huenter) ตอนนี้ก็เป็นของเนชั่น

เข้าใจว่า SMM คงอยากเพิ่ม Margin ถึงไม่สู้ค่าลิขสิทธิ์ แต่ผมมองว่ากำลังเสียความสามารถในการแข่งขันด้านตลาดการ์ตูนในระยะยาว

ส่วนอีกประเด็น การที่มีร้านเช่าการ์ตูนเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และไปยึดแหล่งใกล้มหาวิทยาลัย หมู่บ้าน ชุมชน มีผลกระทบต่อสำนักพิมพ์ต่างๆ อย่างไร อย่างมีนัยสำคัญหรือเปล่า

ร้านรับซื้อ และขายการ์ตูนมือสอง ส่งผลอย่างไร อย่างมีในนัยสำคัญหรือเปล่า

ในขณะที่ราคาหนังสือการ์ตูนได้รับผลกระทบจากราคากระดาษจนมีการปรับราคาอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดจาก 35 บ. เป็น 40 บ. เพิ่มขึ้น 14% ค่าเช่าการ์ตูน ปก 35 เช่า 4 บ. ปก 40 เช่า 4 บ. ปก 45 เช่า 5 บ.

ต้องขอโทษด้วยครับที่ต้องPost ซ๊ำ อันที่แล้วผมลองใช้ "Quote" ดู แต่มันได้ทำให้ข้อความที่ผมพิมพ์เพิ่มเป็นแบบ "Qoute" ไปด้วย เลยลองดูใหม่ครับ

[miracle]

การเช่าการ์ตูนนั้นส่วนหนึ่งคนเช่าดูว่าประหยัดการซื้อหนังสือการ์ตูนไปได้มาก ทำให้บ้างครั้ง การ์ตูนที่ขายนั้นคนซื้อคือที่รักการ์ตูนจริงๆๆ

ทางสำนักพิมพ์ก็เลยต้องแก้เกมว่าต้องลดราคาช่วยในการกระตุ้นยอดขาย (ไม่ค่อยเห็นวิบูลย์กิจลดราคาเท่าไรเลย แถมจัดงานการ์ตูนเองอีกต่างหาก แย่งกันซื้อแบบของฟรีเลย)

สิ่งที่เห็นได้คือ ทางSMMเริ่มพิมพ์การ์ตูนซ้ำในบ้างเรื่อง
เช่น my godness โรงเรียนลูกผู้ชาย คนเก่งฟ้าประทาน และอีกหลายเรื่อง

แสดงว่า พวกนี้ต้องขายในระยะเวลาที่ยาวพอควร

ซึ่งตอนประชุมน่าจะถามเรื่องจำนวนเล่มที่พิมพ์ต่อเรื่องต่อครั้ง ว่ามีจำนวนเท่าไร
ยอดขายเฉลี่ย ว่าหมดภายในกี่ปี กี่เดือน จุดนี้น่าจะถามด้วย  เพราะการพิมพ์ซ้ำแต่ละครั้ง ต้องอยู่ในลิขสิทธิ์ที่ได้จากผู้เขียนและทางสำนักพิมพ์ จุดนี้ทางญี่ปุ่นจะให้สิทธิ์สำนักพิมพ์ที่พิมพ์ครั้งแรกก่อนเสมอ เหมือนต่อลิขสิทธิ์ไปเรื่อยๆๆ

ถ้าจะคุยกันต่อสงสัยเรื่องนี้คงจะได้ความรู้อีกเพียบเลยอ่ะ
ตอนนี้รองบออกแล้วจะแกะ เกลา และแงะดูว่ามีอะไรผิดปกติกับงบไตรมาสสามหรือเปล่า

[Oatarm]

sport radio ได้เวลาที่คลื่น 105 แล้วครับ

   ลองฟังดู  เมื่อคืนครับ  คู่ ลิเวอร์พูล-แมน ฯ ซิตี้
 ผมว่าตัดช่วงข่าว  นานกว่า FM 99  แล้ว Sport Radio ก็ยังถ่ายออกช่องหลัก เฉพาะ ช่วงถ่ายบอล เสาร์-อาทิตย์ ส่วนความถี่ 106.75 รับไม่ค่อยชัด
 ธุรกิจวิทยุเหนื่อยแน่ครับ  ผมเกรงบุคคลากรนักพากย์บอล จะถูกซื้อตัวไปด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง  คงเหมือน สโมสรใหญ่ กว้านนักเตะชั้นดีเข้าร่วมสโมสร ไปหมด

[buglife]

[greenstock]

ใช่ครับส่วนใหญ่แล้ว SMM กับเนชั่นจะการ์ตูนมาจาก ชูเอฉะ แต่ประเด็นที่ผมจะสื่อก็คือ

สมมติว่า เนชั่น เคยซื้อลิชสิทธิ์การ์ตูนเรื่อง A ของอาจารย์ ก. พออาจารย์ ก. เขียนเรื่องใหม่ เช่น การ์ตูน B เนชั่นจะได้สิทธิ์ในการขอซื้อลิชสิทธิ์การ์ตูน B จากอาจารย์ ก. ก่อน หากไม่สามารถตกลงกันได้ สำนักพิมพ์ไทยเจ้าอื่นๆ ถึงจะติดต่อเพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูน B ต่อไป

ผมก็จะเขียนอย่างนั้นแหละครับ อย่างเนชั่นก็ได้สตีลบอลรัน หรือ SMM ได้ waq waq ไป

ถ้าเกิดมีนักเขียนคนใหม่ เรื่องดัง ๆ  แล้วสนพ.ทั้งสองอยากได้เหมือนกัน จะทำอย่างไร?

[onemanshow]

ใช่ครับส่วนใหญ่แล้ว SMM กับเนชั่นจะการ์ตูนมาจาก ชูเอฉะ แต่ประเด็นที่ผมจะสื่อก็คือ

สมมติว่า เนชั่น เคยซื้อลิชสิทธิ์การ์ตูนเรื่อง A ของอาจารย์ ก. พออาจารย์ ก. เขียนเรื่องใหม่ เช่น การ์ตูน B เนชั่นจะได้สิทธิ์ในการขอซื้อลิชสิทธิ์การ์ตูน B จากอาจารย์ ก. ก่อน หากไม่สามารถตกลงกันได้ สำนักพิมพ์ไทยเจ้าอื่นๆ ถึงจะติดต่อเพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูน B ต่อไป  


ผมก็จะเขียนอย่างนั้นแหละครับ อย่างเนชั่นก็ได้สตีลบอลรัน หรือ SMM ได้ waq waq ไป

ถ้าเกิดมีนักเขียนคนใหม่ เรื่องดัง ๆ  แล้วสนพ.ทั้งสองอยากได้เหมือนกัน จะทำอย่างไร?

ผมก็เป็นห่วงตรงนี้แหละครับ ช่วงหลังSMM คงไม่ค่อยลงทุนเรื่องลิขสิทธิ์ หรือทีมงานคัดเลือกการ์ตูนด้อยลง ซึ่งสะท้อนออกมาในความนิยมของ C-KID และ BOOM ค่อนข้างชัดเจนในช่วงหลัง

ดูอย่างผลงานเรื่องใหม่(Hunter * Hunter) ของนักเขียนเรื่องคนเก่งฟ้าประทาน ยังถูกNation แย่งไปเลย แต่น่าเสียดายที่นักเขียนลาหยุดบ่อยไม่งั้นเรื่องนี้คงทำยอดขายให้เนชั่นได้ดีกว่านี้

ผมกลัวว่า SMM จะทุ่มเงินค่าซื้อลิขสิทธิ์ไปให้กับหลายๆ เรื่องในราคาต่อเรื่องถูก (เน้นMargin ต่อเรื่องสูง) แล้วใช้กลยุทธ์พิมพ์ๆ ไปแบบหว่านเอา ถ้าเรื่องไหนไม่นิยมก็หยุดพิมพ์ดื้อๆ มันจะทำให้นักอ่านการ์ตูนเข็ดนะครับ
1. เรื่องที่ออกมาส่วนใหญ่ หน้าปกสวย เนื้อในไม่สนุก
2. อ่านอยู่ดีๆ หยุดพิมพ์ไปดื้อๆ

เจอบ่อยๆ คงต้องคิดหนักเวลาจะซื้อการ์ตูนของค่ายนั้นๆ

หวังว่าผู๔บริหาร SMM จะเข้าใจตรงจุดนี้ และกำลังปรับปรุงอยู่นะครับ[/code]

[Saran]

เซ็งจัง เมื่อไรงบจะมาซะทีเนี่ย  :wall:

ตอนนี้ก็คงได้แต่รอ..รอ..รอ

ถ้าใครมีเรื่องอยากถามเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้ ลองโพสไว้ก็ได้ครับ ผมจะได้ลองรวมๆ ดูว่ามีคำถามอะไรน่าสนใจบ้าง ถ้าวันที่บริษัทนัดประชุมผู้ถือหุ้นว่าง เดี๋ยวจะได้ไปถามให้ครับ

ขอถามหน่อยดิ ท่านประธานกรรมการเนี่ยเป็นคนยังไงครับ เห็นหนังสือพิมพ์บอกว่าท่านเป็นนักปันหุ้นตัวยงอะ (ไม่กล้าโพสตอบ ก็ PM มาก็ได้นะครับ)

[miracle]

คิดดูเอาเองล่ะกัน
พรุ่งนี้วันสุดท้ายจะออกงบวันนี้เลยหรือ

ปลตอนสองทุ่มครึ่ง (28/02/2549) ยังมีคนส่งงบอีก
เอากับมันซิ

[ขงเบ้ง]

ผมเคยอ่านงบการเงินเมื่อปีที่แล้วครับ ที่ต้องอ่านเพราะมือบอนราคาลงมาเลยช้อนซื้อ  อิ อิ ซื้อได้ก้นด้วย 1.7กว่ากว่า
อ่านงบเสร็จผมขายทิ้งเลยครับใน 2 วัน
เป็นแค่ความคิดเห็นแลกเปลี่ยน ไม่เห็นด้วยก็ได้ครับ
ผมอาจผิดก็ได้ครับ
ดูงบการเงินแล้วสงสัย
ความคิดผมนะรู้สึกแปลกแปลก
1.รายการหนังสือคืนประเมินจากประสบการณ์ผู้บริหาร
2.ปี254..ปรับโครงสร้างหนี้ให้เงินบริษัทนึง 15 ล้านบาทบอกตอบแทนค่าเจรจาหนี้แต่บริษัทเจรจามีกรรมการร่วมตอนนี้ลาออกไปแล้ว
3.กรรมการที่ลาออกไปมีบริษัท.....
4.บริษัท...นี้ได้ส่วนลดพิเศษ    smmอ้างลดเพราะขายขาดไม่รับคืน
ต่อมายอดค้างลูกหนี้สูงจึงเปลี่ยนนโยบายใหม่ต่อไปเป็นรับคืน
5.บริษัทนี้มีทําสัญญาขายนิตยสารของบริษัทให้smmได้โดยขายขาดได้ smmบอกคุ้มได้ค่าโฆษณา????ถ้าขาดทุนsmmจะคืนมั่งได้ไหม??????
6.ออกหุ้นเพิ่มทุนต่อมาไม่นานมาปันผล
ทำไมเงินสดน้อย ถ้างดปันผลคงจะมีเงินสด
7.smmบอกsportไม่เกี่ยวข้องกันเพราะsportขายหุ้นsmmแล้ว แต่smmมีหุ้นsport
เจ้าของsportมีหุ้นsmm
8.ผู้ถือหุ้นบางคนติดข่าวลือปั่นหุ้นแต่กลต.ไม่กล้าทำอะไร
ใบ้นิดนายพา             ย                 ชิ            วัด

อาจเป็นหุ้นที่ขึ้นหลายเท่าก็ได้นะครับ  เพราะ
1.หนังสือติดอันดับขายดี
2.ขึ้นราคาหนังสือ
3.ถ้าเก็บเงินลูกหนี้การค้าได้
แต่ไม่ใช่styleผมครับ ขอbye

เป็นแค่ความคิดเห็นแลกเปลี่ยน ไม่เห็นด้วยก็ได้ครับ