ธุรกิจรายย่อยร้องลั่นสรรพากรไล่บี้ภาษี มาแปลกแนะไปบวกราคาสินค้าเอาเอง
มาตรการรีดภาษีผู้ประกอบการของกรมสรรพากรเพื่อนำมา "โปะ" รายได้ส่วนที่ขาดหายไปจากกรมสรรพสามิต/กรมศุลกากร พ่นพิษแล้ว ทั้งอสังหาริมทรัพย์-ธุรกิจสปา-รถมือสอง-ไอที-บริษัททัวร์ ร้องกันระงม แถมเจ้าหน้าที่สรรพากรกลับพูดแปลกๆ ขอเก็บภาษีเพิ่มอีก 10% แล้วให้ผู้ประกอบการไปบวกขึ้นราคาสินค้า/บริการกับผู้บริโภคเอาเอง ด้านสภาอุตสาหกรรมฯออกโรงควรขยายฐานเก็บภาษีจากผู้ประกอบการรายใหม่ดีกว่าไล่บี้เอากับผู้ประกอบการรายเก่า
จากการที่กระทรวงการคลังสั่งให้กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีในปีนี้เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 1.009 ล้านล้านบาท เป็น 1.065 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นทันทีอีก 56,000 ล้านบาท เนื่องจากในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 ปรากฏกรมสรรพสามิต กับกรมศุลกากร มีการจัดเก็บภาษีได้ต่ำกว่าประมาณการถึง 36,000 ล้านบาท ส่งผลให้กรมสรรพากรต้องกระทำทุกวิถีทางที่จะจัดเก็บภาษีให้ได้ตามเป้าหมายใหม่เพื่อชดเชยกับภาษีในส่วนที่หายไป
อาทิ การสั่งการให้สรรพากรเขต ติดต่อบริษัทเอกชนขอปรับตัวเลขการเสียภาษีเพิ่ม รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบว่ามีการจัดทำบัญชีและเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายบางส่วนของบริษัทเอกชนที่จ่ายให้พนักงาน อาทิ ค่าคอมมิสชั่น ค่ารถ ค่าเบี้ยเลี้ยงในการทำงานบางช่วง ฯลฯ แม้แต่ทุนการศึกษาให้กับบุตรก็ไม่เว้น ได้สร้างความหวาดวิตกให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชนในการที่จะต้องถูก "รีด" ภาษีเพิ่มขึ้น
นายเกียรติพงษ์ น้อยใจบุญ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กลาวว่า การไปเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากผู้ประกอบการรายเก่าจะเป็นการสร้างภาระให้ผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น ความจริงกรมสรรพากรควรจะไปดำเนินการหาผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะไม่เคยเสียภาษี ไม่ใช่มาไล่เบี้ยเอากับผู้ประกอบการรายเก่า
อสังหาริมทรัพย์เสียงอ่อยจ่ายเพิ่ม
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ได้สอบถามไปยังผู้ประกอบการหลายรายในรายธุรกิจ โดยนายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคต่างต้องเสียภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ขณะเดียวกันภายในองค์กรของแต่ละบริษัทก็ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ โดยมีการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายที่ชัดเจน และหากมีส่วนไหนที่ต้องเสียภาษีก็จะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด
เช่นเดียวกับความเห็นของนายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาตรการที่ออกมาใหม่จะไม่กระทบกับบริษัทอสังหาฯ เพราะเงื่อนไขกฎเกณฑ์เกี่ยวกับเรื่องรายได้ที่ต้องหักจ่ายภาษีเพื่อส่งให้กับกรมสรรพากรนั้น เป็นกฎเกณฑ์ที่ทุกฝ่ายทราบกันดีและยึดถือปฏิบัติมานานแล้ว
ผู้ค้าไอที "พันธุ์ทิพย์ฯ" โอด
แหล่งข่าวจากบริษัทไอที เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้เข้ามาตรวจสอบบัญชีบริษัทไอทีเกือบทุกร้านค้าที่ขายของอยู่ในศูนย์สรรพสินค้าพันธุ์ทิพย์ พลาซา สำหรับบริษัทเองมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบบัญชีของบริษัทอย่างละเอียด โดยสรรพากรได้ยื่นข้อเสนอขอขยายฐานการจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นกว่าที่เคยจ่ายอยู่เดิมด้วย เนื่องจากเห็นว่ามียอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
แต่บริษัทแจ้งกลับไปว่า เพิ่งโดนขยายฐานภาษีเพิ่มไปเมื่อปีที่ผ่านมาจึงไม่น่ามีการขยายฐานเพิ่มในระยะเวลาติดกัน เพราะแม้รายได้จะเพิ่มสูงขึ้น แต่ผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคาสูงขึ้นด้วยทำให้บริษัทมีกำไรที่น้อยลงจึงอยากให้กรมสรรพากรให้ความเป็นธรรมกับบริษัท อีกทั้งยังมีบางบริษัทได้รับการยกเว้นการขยายฐานภาษีทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในตลาด
สปา-รถยนต์ ถูกจ้องรีดภาษีอ่วม
ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจสปา กล่าวว่า ปัญหาเวลานี้คือ ภาษีสรรพสามิต ที่ทางกรมสรรพสามิตไล่บี้ให้ผู้ประกอบการต้องจ่ายอยู่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกันแล้วว่า ผู้ประกอบการสปา ที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง ไม่ได้แฝงธุรกิจอาบอบนวดตามที่เข้าใจนั้น จะได้รับการยกเว้นไม่เสียภาษีสรรพสามิต 10%
"เจ้าหน้าที่สรรพสามิตบอกกับเราว่า คุณจะต้องไปกังวลหรือร้องเรียนทำไม รัฐเก็บ 10% คุณก็บวกเพิ่มไปในราคาค่าบริการอีก 10% ให้ผู้บริโภคเป็นผู้รับแทนสิ ซึ่งแบบนี้รัฐพูดง่าย แต่การปฏิบัติทำได้ยาก เพราะอยู่ๆ เราจะไปบวกราคาเพื่อผลักภาระให้ผู้บริโภคได้อย่างไร ดังนั้นกับเรื่องภาษีนี้ ในการประชุมของสมาคมสปาไทยในรอบหน้า คงจะได้มีการหารือกันอย่างเป็นทางการอีกครั้งว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร" แหล่งข่าวกล่าว
ด้านแหล่งข่าวจากวงการผู้ค้ารถยนต์มือสอง เปิดเผยว่า การรีดภาษีกับผู้ประกอบการในระยะหลังเริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ทางกรมสรรพากรใช้วิธีขอเพิ่มกันดื้อๆ เลย ตอนนี้เท่าที่ถูกเก็บเพิ่มเติมก็ประมาณ 15-20% จากที่เคยเสียอยู่เดิม ซึ่งทางผู้ประกอบการพยายามถามหาเหตุผล แต่ก็ไม่มีคำตอบให้
ส่วนผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ทั้งยุโรป และญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ให้คำตอบว่า ยังไม่ได้รับผลกระทบเพราะหลักปฏิบัติที่ดำเนินการอย่างไร กรมสรรพากรก็ยังคงดำเนินการเหมือนเดิม
ธุรกิจทัวร์มึน สรรพากรบีบหนัก
นางเสาวลักษณ์ ชิมาด้า รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซาริก้าทัวร์ จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการธุรกิจทัวร์หลายแห่งทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้เริ่มเจอมาตรการที่เข้มงวดขึ้นของกรมสรรพากร
โดยปกติการเสียภาษีของบริษัททัวร์ต่างก็ดำเนินการถูกต้องอยู่แล้วในฐานะเป็นนิติบุคคล โดยจะใช้ฐานของรายได้หรือผลประกอบการในแต่ละปีเป็นเกณฑ์การเสียภาษี แต่ขณะนี้พบว่าการตรวจสอบของสรรพากรเข้มงวดและละเอียดมากขึ้นในการดำเนินของบริษัททัวร์เกือบทุกขั้นตอน เช่น การตรวจสอบระบบบัญชี และเริ่มมีการตรวจสอบบ่อยครั้งขึ้น บริษัทยอมรับว่าหากพิจารณาทุกรายละเอียดของการดำเนินการคงเป็นเรื่องที่ลำบากมากของผู้ประกอบการ เนื่องจากธุรกิจทัวร์มีค่าดำเนินการและบริการจัดการสูงมาก ล่าสุดได้เริ่มมีการเก็บภาษีในส่วนของมัคคุเทศก์ด้วย
ด้านแหล่งข่าวจาก หจก.เชียงใหม่พับลิครีเลชั่นส์ ซึ่งดำเนินธุรกิจรับวางแผนประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการธุรกิจรายเล็กเริ่มได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีของสรรพากร โดยตรวจสอบการดำเนินการค่อนข้างละเอียดเกือบทุกขั้นตอน เมื่อเร็วๆ นี้กลับถูกสรรพากรเรียกตรวจสอบบัญชีย้อนหลัง โดยตรวจสอบละเอียดทั้งใบเสร็จรับเงิน บัญชีรายรับ-รายจ่าย และผลประกอบการ เพื่อเรียกเก็บภาษีคืนย้อนหลัง โดยสรรพากรอ้างว่าการทำบัญชีไม่ถูกต้องและไม่ได้หักภาษี ณ ที่จ่าย ทั้งๆ ที่ธุรกิจของตนทำทุกอย่างถูกต้องจึงต่อสู้จนถึงที่สุดและไม่ต้องเสียภาษีคืนย้อนหลัง
:( :( :( :(
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
บันทึกไม่สำเร็จกรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว
บันทึกสำเร็จแล้ว