ผ่าชำแหละแนวการลงทุนของ"ทุนสิงคโปร์"แบบ reverse-en
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
ผ่าชำแหละแนวการลงทุนของ"ทุนสิงคโปร์"แบบ reverse-en
โพสต์ที่ 1
จากบทความ 'ทุนสิงคโปร์'ฮุบธุรกิจไทย ลงในหน้า A2 ของ BizWeek ฉบับ 20-26 ม.ค. 49 หากพวกเราชาว VI มาช่วยกันผ่าชำแหละแนวการลงทุนของกองทุนสิงคโปร์และช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์ออกความเห็นกัน ผมว่าพวกเราคงได้ความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์กันไม่มากก็น้อยครับ
เราลองมาวิเคราะห์วิธีการลงทุนว่าเขาใช้แนวไหน ผมว่ากองทุนนี้เขาใช้วิธี ของ Value Iืnvesting ชัดๆเลย หรืออีกนัยคือยึดหลักแนวคิดของเหล่า Value Investors ระดับแนวหน้าของโลกทั้งหลาย ได้แก่ Ben Graham, Warren Buffett, Philip Fisher, Bill Miller ฯลฯ เป็นต้น
เหตุผล: หลักของเขา คือ ลงทุนระยะยาวในบริษัทที่มีคุณภาพเพียงไม่กี่บริษัท ในที่นี้จะเห็นว่าเขาลงทุนในหุ้น ADAVANCE, LH, PTT และ KBANK 85,670.8 ล้านบาท จากยอดเงินทุนทั้งหมด 108,476.62 ล้านบาท (79% โดยประมาณ - หมายเหตุ เป็น % by market value , VI ท่านใดมีข้อมูล 5 ปีก่อนช่วยคิดเป็น % by cost ด้วยจะดีมากเลย เพราะผมไม่มีข้อมูลและเป็นมือใหม่มากๆในตลาดหุ้น) เท่ากับว่าเป็น Concentraed Portfolio ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นอื่นๆอีก 23 ตัวอย่างละเล็กอย่างละน้อย (เพื่อเอาไว้ศึกษาติดตาม ?)
ข้อสังเกตจังหวะที่เข้ามา: เขาเข้ามาในจังหวะที่ Mr Market อยู่ในอารมณ์เศร้าสร้อย หวาดกลัว เมื่อ 5 ปีก่อน จึงทำให้ได้ของดีราคาถูก จากนั้นเก็บถือยาวมาจนปัจจุบัน
ผลลัพธ์: ได้ทั้ง capital gain และ dividend ในจำนวนเยอะมาก สามารถเอามาซื้อกิจการ Shin ที่เป็น Holding ได้เกือบทั้งหมด -- ได้ของฟรี -- เพราะเอาอัฐยายซื้อขนมยาย
หากนำไปพิจารณาประกอบกับคำบรรยายของ ท่าน Buffett แก่นักศึกษา mba ของมหาวิทยาลัยฟลอริดา มันก็ตรงกับที่ท่านพูดจริงๆ
" But time is the friend of the wonderful business; it is the enenmy of the lousy business. If you are in a lousy business for a long time, you will get a lousy result even if you buy it cheap. If you are in a wonderful business for a long time, even if you pay a little bit too much going in you will get a wonder ful result if you stay in a long time."
ข้อสำคัญ: เราต้องเรียนรู้ศึกษาเพื่อวิเคราะห์ให้รู้ว่าบริษัทใดเป็น Wonderful Business ซึ่งก็ไม่น่าจะง่ายและไม่น่าจะยาก :lol:
เราลองมาวิเคราะห์วิธีการลงทุนว่าเขาใช้แนวไหน ผมว่ากองทุนนี้เขาใช้วิธี ของ Value Iืnvesting ชัดๆเลย หรืออีกนัยคือยึดหลักแนวคิดของเหล่า Value Investors ระดับแนวหน้าของโลกทั้งหลาย ได้แก่ Ben Graham, Warren Buffett, Philip Fisher, Bill Miller ฯลฯ เป็นต้น
เหตุผล: หลักของเขา คือ ลงทุนระยะยาวในบริษัทที่มีคุณภาพเพียงไม่กี่บริษัท ในที่นี้จะเห็นว่าเขาลงทุนในหุ้น ADAVANCE, LH, PTT และ KBANK 85,670.8 ล้านบาท จากยอดเงินทุนทั้งหมด 108,476.62 ล้านบาท (79% โดยประมาณ - หมายเหตุ เป็น % by market value , VI ท่านใดมีข้อมูล 5 ปีก่อนช่วยคิดเป็น % by cost ด้วยจะดีมากเลย เพราะผมไม่มีข้อมูลและเป็นมือใหม่มากๆในตลาดหุ้น) เท่ากับว่าเป็น Concentraed Portfolio ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นอื่นๆอีก 23 ตัวอย่างละเล็กอย่างละน้อย (เพื่อเอาไว้ศึกษาติดตาม ?)
ข้อสังเกตจังหวะที่เข้ามา: เขาเข้ามาในจังหวะที่ Mr Market อยู่ในอารมณ์เศร้าสร้อย หวาดกลัว เมื่อ 5 ปีก่อน จึงทำให้ได้ของดีราคาถูก จากนั้นเก็บถือยาวมาจนปัจจุบัน
ผลลัพธ์: ได้ทั้ง capital gain และ dividend ในจำนวนเยอะมาก สามารถเอามาซื้อกิจการ Shin ที่เป็น Holding ได้เกือบทั้งหมด -- ได้ของฟรี -- เพราะเอาอัฐยายซื้อขนมยาย
หากนำไปพิจารณาประกอบกับคำบรรยายของ ท่าน Buffett แก่นักศึกษา mba ของมหาวิทยาลัยฟลอริดา มันก็ตรงกับที่ท่านพูดจริงๆ
" But time is the friend of the wonderful business; it is the enenmy of the lousy business. If you are in a lousy business for a long time, you will get a lousy result even if you buy it cheap. If you are in a wonderful business for a long time, even if you pay a little bit too much going in you will get a wonder ful result if you stay in a long time."
ข้อสำคัญ: เราต้องเรียนรู้ศึกษาเพื่อวิเคราะห์ให้รู้ว่าบริษัทใดเป็น Wonderful Business ซึ่งก็ไม่น่าจะง่ายและไม่น่าจะยาก :lol:
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ผ่าชำแหละแนวการลงทุนของ"ทุนสิงคโปร์"แบบ reverse-en
โพสต์ที่ 2
เห็นด้วยแน่นอนครับ
แต่เสียดายที่สุด ทำไมเราไม่มีหน่วยงานอย่างเทมาเส็คบ้างครับ เกิดเป็นคนไทยมันน่าน้อยใจจริงๆ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แต่ชีวิตปัจจุบัน เราต้องจ่ายไปกับอาศัยสินค้าเทคโนโลยีแทบทุกชนิด คิดเป็นสัดส่วนที่มากเหลือเกิน ในขณะที่จ่ายไปกับข้าวปลา แค่วันละไม่กี่บาท
ผมเคยคิดเล่นๆ หากเราคัดเลือก value investor ตั้งแต่อายุน้อยๆ และให้ไปศึกษาทางนี้ ในต่างประเทศ จบแล้ว ให้วงเงินลงทุนในตลาดหุ้นเมกา สัก 10-20 คน คงจะมีหลายคนที่น่าจะประสบความสำเร็จ พอร์ตอาจจะใหญ่มากกว่างบประมาณทั้งปีของไทยก็ได้ โดยพอร์ตที่เปิดจะต้องเป็นของรัฐบาลไทย และให้ผู้ลงทุนมีสัดส่วนเล็กน้อย เพื่อจูงใจ คิดไปแล้วไม่รู้ฝันกลางวันหรือเปล่า :lol:
แต่เสียดายที่สุด ทำไมเราไม่มีหน่วยงานอย่างเทมาเส็คบ้างครับ เกิดเป็นคนไทยมันน่าน้อยใจจริงๆ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แต่ชีวิตปัจจุบัน เราต้องจ่ายไปกับอาศัยสินค้าเทคโนโลยีแทบทุกชนิด คิดเป็นสัดส่วนที่มากเหลือเกิน ในขณะที่จ่ายไปกับข้าวปลา แค่วันละไม่กี่บาท
ผมเคยคิดเล่นๆ หากเราคัดเลือก value investor ตั้งแต่อายุน้อยๆ และให้ไปศึกษาทางนี้ ในต่างประเทศ จบแล้ว ให้วงเงินลงทุนในตลาดหุ้นเมกา สัก 10-20 คน คงจะมีหลายคนที่น่าจะประสบความสำเร็จ พอร์ตอาจจะใหญ่มากกว่างบประมาณทั้งปีของไทยก็ได้ โดยพอร์ตที่เปิดจะต้องเป็นของรัฐบาลไทย และให้ผู้ลงทุนมีสัดส่วนเล็กน้อย เพื่อจูงใจ คิดไปแล้วไม่รู้ฝันกลางวันหรือเปล่า :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
ผ่าชำแหละแนวการลงทุนของ"ทุนสิงคโปร์"แบบ reverse-en
โพสต์ที่ 3
ผมว่า ลี กวน ยู เป็นผู้มีความรู้ประสบการณ์มองการณ์ไกลมาก สิงคโปร์ไม่มีทรัพยากรอะไรเลยเป็นเกาะเปล่าๆ แต่คุณภาพของคนในประเทศเขาทำให้ประเทศเขายืนอยู่ในระดับแนวหน้าของเอเซียลูกอิสาน เขียน:เห็นด้วยแน่นอนครับ
แต่เสียดายที่สุด ทำไมเราไม่มีหน่วยงานอย่างเทมาเส็คบ้างครับ .................
.........................................................................................................
.......................................
ผมเคยคิดเล่นๆ หากเราคัดเลือก value investor ตั้งแต่อายุน้อยๆ และให้ไปศึกษาทางนี้ ในต่างประเทศ จบแล้ว ให้วงเงินลงทุนในตลาดหุ้นเมกา สัก 10-20 คน คงจะมีหลายคนที่น่าจะประสบความสำเร็จ พอร์ตอาจจะใหญ่มากกว่างบประมาณทั้งปีของไทยก็ได้ โดยพอร์ตที่เปิดจะต้องเป็นของรัฐบาลไทย และให้ผู้ลงทุนมีสัดส่วนเล็กน้อย เพื่อจูงใจ คิดไปแล้วไม่รู้ฝันกลางวันหรือเปล่า :lol:
เราน่าจะชักชวนจูงใจคนในชาติเรา โดยเฉพาะเด็กวัยเอ๊าะๆแบ่งให้มาสนใจเรื่องนี้บ้าง เว็บ TVI นี้ทำได้แน่นอน ทั้งนี้เอาแค่ฝึกคิดฝึกลงทุนในประเทศเราก่อน โดยศึกษาแนวคิดทางอินเตอร์เน็ต (ไปท่องในเมกา)ก็ได้ยังไม่ต้องส่งไปศึกษาจากต่างประเทศ เพราะต้องใช้ทุนสูง
ตัวอย่างเรื่องของการพินิจพิเคราะห์แบบ Reverse - engineering ลองมาดูแนวคิดของคนรุ่นใหม่ในเมกาตามลิงค์นี้นะครับ หากเราศึกษาดูอย่างจริงจังจะพบว่าจะได้แนวคิดที่ลึกซึ้งน่าจะนำประยุกต์ใช้ในบ้านเราได้ดีทีเดียว
http://superinvestors.blogspot.com/
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ผ่าชำแหละแนวการลงทุนของ"ทุนสิงคโปร์"แบบ reverse-en
โพสต์ที่ 5
สิงค์โปร์เคยเสนอให้สามีภรรยาคนไทย
ที่มีอายุในราว 25 ปี และจบป.โททั้งคู่
หากมีบุตร และย้ายสัญชาติไปเป็นชาวสงค์โปร์
จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้หลายรายการ
เป็นวิธีการสร้าง "พลเมืองคุณภาพ" อย่างรวดเร็ว
น่าเศร้าที่คนไทยที่มีปัญญาเลี้ยงลูกให้ดี
กลับมีลูกน้อยคน หรือไม่มีเลย
ในขณะที่คนที่ไม่สามารถเลี้ยงให้มีคุณภาพได้
มีครอบครัวละ 6 - 8 คน
ที่มีอายุในราว 25 ปี และจบป.โททั้งคู่
หากมีบุตร และย้ายสัญชาติไปเป็นชาวสงค์โปร์
จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้หลายรายการ
เป็นวิธีการสร้าง "พลเมืองคุณภาพ" อย่างรวดเร็ว
น่าเศร้าที่คนไทยที่มีปัญญาเลี้ยงลูกให้ดี
กลับมีลูกน้อยคน หรือไม่มีเลย
ในขณะที่คนที่ไม่สามารถเลี้ยงให้มีคุณภาพได้
มีครอบครัวละ 6 - 8 คน
-
- Verified User
- โพสต์: 1647
- ผู้ติดตาม: 0
ผ่าชำแหละแนวการลงทุนของ"ทุนสิงคโปร์"แบบ reverse-en
โพสต์ที่ 6
นึกถึงอาจารย์ที่มหาลัยผมเคยพูดบอกให้ ลูกศิษย์ มีลูกกันเยอะๆ เพราะดูแล้วมีปัญญาเลี้ยง จะได้มีพลเมืองคุณภาพในสัดส่วนที่เยอะขึ้นน่าเศร้าที่คนไทยที่มีปัญญาเลี้ยงลูกให้ดี
กลับมีลูกน้อยคน หรือไม่มีเลย
อืมมมม....จะให้คนมีรายได้น้อยมีลูกน้อย ผมว่าไม่ลำบากนะ แต่จะให้คนมีรายได้น้อยมีลูกช้าเนี่ย ลำบากกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
ผ่าชำแหละแนวการลงทุนของ"ทุนสิงคโปร์"แบบ reverse-en
โพสต์ที่ 7
ราคาโดยประมาณครับ ทุกราคาตามราคาพาร์วันนี้(79% โดยประมาณ - หมายเหตุ เป็น % by market value , VI ท่านใดมีข้อมูล 5 ปีก่อนช่วยคิดเป็น % by cost ด้วยจะดีมากเลย เพราะผมไม่มีข้อมูลและเป็นมือใหม่มากๆในตลาดหุ้น)
LH 1.4
Advanc 50
Kbank 14
PTT IPO 35
-
- Verified User
- โพสต์: 487
- ผู้ติดตาม: 0
ผ่าชำแหละแนวการลงทุนของ"ทุนสิงคโปร์"แบบ reverse-en
โพสต์ที่ 8
ถ้าจะมีลูกเยอะต้องมีเมียเยอะก่อน ให้คนเดียวท้องมันงานหนักไปสำหรับคนยุคนี้คนเรือ VI เขียน: นึกถึงอาจารย์ที่มหาลัยผมเคยพูดบอกให้ ลูกศิษย์ มีลูกกันเยอะๆ เพราะดูแล้วมีปัญญาเลี้ยง จะได้มีพลเมืองคุณภาพในสัดส่วนที่เยอะขึ้น
อืมมมม....จะให้คนมีรายได้น้อยมีลูกน้อย ผมว่าไม่ลำบากนะ แต่จะให้คนมีรายได้น้อยมีลูกช้าเนี่ย ลำบากกว่า
对不起,请问一下.
存货是什么意思 ?
存货是什么意思 ?