สมัยหนึ่งที่lh ราคาหุ้นตกต่ำแม้แต่คนไทยด้วยกัน
ก็ไม่ได้สนใจจะถือ หรือลงทุน แต่ ต่างชาติสน
ถ้าวันนี้ กิจการที่คนไทยพอใจขายเพราะเห็นได้ราคาดี
อนาคต จะว่า
คนไทยเสียโอกาส หรือเปล่า
กิจการที่ดีจำเป็นต้องเป็นคนไทยเสมอไปไหมคับ
- chansaiw
- Verified User
- โพสต์: 703
- ผู้ติดตาม: 0
กิจการที่ดีจำเป็นต้องเป็นคนไทยเสมอไปไหมคับ
โพสต์ที่ 2
จริงๆกิจการจะเป็นของใคร ก็เป็นเรื่องน่าคิด
แต่คนใช้ น่าจะคิดมากกว่านะครับ
ว่าเงินที่จ่ายนั้นต่างชาติได้ตังกลับไป
คือถ้าเค้าได้ตังแล้ว จ่ายภาษีคืนผมว่า ok นะ
ส่วนคนที่ขายไปแล้ว รวยไปแล้ว ก็เงินเค้านี่ครับ เราไม่ได้เอี่ยวด้วย
สุดท้ายพูดไปพูดมา shin ที่เป็นของแม้ว กับ shin ของเทมาเซค
คนไทยได้อะไร ก้ไม่เห็นต่างกันนี่ครับ
แต่คนใช้ น่าจะคิดมากกว่านะครับ
ว่าเงินที่จ่ายนั้นต่างชาติได้ตังกลับไป
คือถ้าเค้าได้ตังแล้ว จ่ายภาษีคืนผมว่า ok นะ
ส่วนคนที่ขายไปแล้ว รวยไปแล้ว ก็เงินเค้านี่ครับ เราไม่ได้เอี่ยวด้วย
สุดท้ายพูดไปพูดมา shin ที่เป็นของแม้ว กับ shin ของเทมาเซค
คนไทยได้อะไร ก้ไม่เห็นต่างกันนี่ครับ
"Failure is the only way to start again intelligently"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
กิจการที่ดีจำเป็นต้องเป็นคนไทยเสมอไปไหมคับ
โพสต์ที่ 3
เป็นของไทย เป็นของต่างชาติ น่าจะต่างกันในหลายประเด็นนะครับchansaiw เขียน:จริงๆกิจการจะเป็นของใคร ก็เป็นเรื่องน่าคิด
แต่คนใช้ น่าจะคิดมากกว่านะครับ
ว่าเงินที่จ่ายนั้นต่างชาติได้ตังกลับไป
คือถ้าเค้าได้ตังแล้ว จ่ายภาษีคืนผมว่า ok นะ
ส่วนคนที่ขายไปแล้ว รวยไปแล้ว ก็เงินเค้านี่ครับ เราไม่ได้เอี่ยวด้วย
สุดท้ายพูดไปพูดมา shin ที่เป็นของแม้ว กับ shin ของเทมาเซค
คนไทยได้อะไร ก้ไม่เห็นต่างกันนี่ครับ
1.กำไร-ปันผลที่ทำได้ ก็เป็นของต่างชาติ หากกิจการไม่ได้นำเงินกำไรลงทุนต่อ แต่จ่ายปันผล เงินปันผลก็จะไหลออกนอกประเทศครับ ทำให้ดุลการชำระเงินขาดดุล เงินสำรองระหว่างประเทศลดลง เหมือนเลือดที่ไหลออกจากร่างกายตลอดเวลา
2.การบริหารจัดการ เป็นของต่างชาติ ย่อมที่จะคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเค้ามากกว่า การจัดซื้อ ก็อาจจะสั่งซื้อจากต่างประเทศ ส่งผลให้ไทยขาดดุลการเค้าเข้าไปอีก การจัดซื้อ จัดจ้าง ก็มักจะว่าจ้างบริษัทที่เป็นชาติเดียวกัน
3.ผู้บริหาร ก็มักจะเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เป็นต่างชาติ ซึ่งได้รับผลตอบแทนสูง แทนที่จะเป็นคนไทยเหมือนในอดีต เปรียบเสมือนครอบครัวไหนที่มีลูกหลานทำงานเป็นระดับผู้บริหาร (ครอบครัวสิงคโปร์) ในขณะที่อีกครอบครัวทำงานเป็นเกษตรกร เป็นผู้ใช้แรงงาน (ครอบครัวไทย) เราคงไม่ต้องสงสัยว่าครอบครัวใดที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่ากัน

4.หากเงินที่ได้มา ครอบครัวชินวัตรใช้ไปกับธุรกิจใหม่ๆ ในประเทศ ผลดีก็ตกอยู่กับประเทศเหมือนเดิม แต่หากนำไปฝังตุ่มหรือใช้ในทางที่ไม่เข้าท่า ก็เป็นกรรมของประเทศครับ แต่ผมยังมองว่าคนที่พิสูจน์ความสำเร็จในทางธุรกิจมาแล้วอย่างครอบครัวชินวัตร คงเลือกใช้เงินกรณีแรกมากว่า
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว