MCS มาแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
MCS มาแล้ว
โพสต์ที่ 3
กลายเป็นว่า ไม่เกี่ยวกับญี่ปุ่นแฮะKyodo News เขียน: TOKYO, Dec. 15 Kyodo - The U.S. dollar hit a seven-week low at the lower 117 yen level Thursday morning in Tokyo after briefly falling to the upper 116 yen level in New York overnight on a record high U.S. trade deficit.
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
MCS มาแล้ว
โพสต์ที่ 4
แต่เยนเทียบกับไทยก็แข็งค่าขึ้นเยอะเหมือนกันนะครับ
และถ้าเป็นตามข่าวนี้จริงๆ ปีหน้าญี่ปุ่นมีสิทธิหลุดจากการการจ่ายดอกเบี้ยศูนย์ % ซะที ใครเล่นค่าเงินนี่สงสัยต้องเก่งมากๆเลยนะเนี่ย เมื่อไม่กี่วันก่อนยังว่าเยนจะอ่อนไปเรื่อยๆอยู่เลย บทจะแข็งก็แข็งเอาดื้อๆ
The yen gained more than 100 points on the dollar in Asia trade on Wednesday, as a dovish FOMC statement triggered carry trade liquidation sales. On Tuesday in New York, as expected, the Federal Reserve Bank of New York raised rates to 4.25%, but in the accompanying statement, US monetary officials noted that further tightening is likely to be needed but not assured leaving open the possibility that Fed may pause after another expected rate hike in January. With currency markets having priced in 4.5% US short term interest rates, many participants chose to lock in profits on their long standing long USD/JPY positions which have proven to be extremely lucrative in the past three months.
Yen bulls were also aided by strong readings from the quarterly Tankan business confidence survey which reached its highest value in 12 months hitting 21 versus 19 the quarter prior. Although most analysts expected an even higher increase to 23, the data confirmed the fact that Japanese industry is expanding at a steady pace providing the economic underpinning to allow the Bank of Japan to move away from its ultra accommodative Zero Interest Rate Policy sometime next year.
และถ้าเป็นตามข่าวนี้จริงๆ ปีหน้าญี่ปุ่นมีสิทธิหลุดจากการการจ่ายดอกเบี้ยศูนย์ % ซะที ใครเล่นค่าเงินนี่สงสัยต้องเก่งมากๆเลยนะเนี่ย เมื่อไม่กี่วันก่อนยังว่าเยนจะอ่อนไปเรื่อยๆอยู่เลย บทจะแข็งก็แข็งเอาดื้อๆ
The yen gained more than 100 points on the dollar in Asia trade on Wednesday, as a dovish FOMC statement triggered carry trade liquidation sales. On Tuesday in New York, as expected, the Federal Reserve Bank of New York raised rates to 4.25%, but in the accompanying statement, US monetary officials noted that further tightening is likely to be needed but not assured leaving open the possibility that Fed may pause after another expected rate hike in January. With currency markets having priced in 4.5% US short term interest rates, many participants chose to lock in profits on their long standing long USD/JPY positions which have proven to be extremely lucrative in the past three months.
Yen bulls were also aided by strong readings from the quarterly Tankan business confidence survey which reached its highest value in 12 months hitting 21 versus 19 the quarter prior. Although most analysts expected an even higher increase to 23, the data confirmed the fact that Japanese industry is expanding at a steady pace providing the economic underpinning to allow the Bank of Japan to move away from its ultra accommodative Zero Interest Rate Policy sometime next year.
- tummeng
- Verified User
- โพสต์: 3665
- ผู้ติดตาม: 0
MCS มาแล้ว
โพสต์ที่ 6
วันนี้กลุ่มเหล็กมากันหมด น่าจะเพราะข่าวนี้มากกว่าครับ
SCC เผย บ.ในเครือตกลงขายหุ้นMS 40% มูลค่า3พันลบ.ให้ Tata Steel Limited
(Tata Steel ) ประเทศอินเดีย
นายชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
(SCC) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2548 เครือซิเมนต์ไทยโดยบริษัทซิเมนต์ไทยโฮลดิ้ง
จำกัด (CHC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้น ร้อยละ 100 ได้บรรลุข้อตกลงในการขายหุ้น
ที่ถือในบริษัทมิลเลนเนียม สตีล จำกัด (มหาชน) (MS) ทั้งหมดประมาณร้อยละ 40
ให้แก่บริษัท Tata Steel Limited (Tata Steel ) ประเทศอินเดีย โดยจะมีมูลค่าประมาณ
3,000 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นครั้งนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น MS จะต้องพิจารณาเพิ่มทุนและเสนอขายหุ้นเพิ่ม
ทุนจำนวนร้อยละ 24.99 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเพิ่มทุนแล้วเสร็จ
ให้แก่ Tata Steel ในราคาหุ้นละ 1.15 บาทและแก้ไขข้อบังคับเกี่ยวกับข้อจำกัดการถือหุ้นของ
คนต่างด้าวให้สอดคล้องกันและให้ MS ยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ในด้านการส่งเสริมการลงทุน
(BOI)หลังจากบรรลุเงื่อนไขต่างๆ เรียบร้อยแล้ว Tata Steel จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ
MS ที่ราคาหุ้นละ 1.15 บาท ซึ่งเมื่อกระบวนการต่างๆ เสร็จเรียบร้อยจะทำให้Tata Steel ถือ
หุ้นใน MS ไม่น้อยกว่าร้อยละ 51
การขายหุ้นของ MS ในครั้งนี้เป็นนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการจะออกจากธุรกิจที่ไม่ใช่
ธุรกิจหลักของบริษัทฯ และเป็นผลดีกับ MS ในการส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันโดย
รวมผ่านทางเครือข่ายการตลาดและการจัดหาวัตถุดิบ รวมทั้งความรู้ทางเทคโนโลยีในธุรกิจ
เหล็กของ Tata Steel ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดียและเป็นผู้
ผลิตเหล็กชั้นนำระดับโลก ปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 7 ล้านตันต่อปี
ในขณะที่ MS เป็นผู้ผลิตเหล็กก่อสร้างรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีกำลังการผลิต
ทั้งสิ้น 1.2 ล้านตันต่อปี ทั้งนี้ในเก้าเดือนแรกของปี 2548 MS มียอดขาย 14,500 ล้านบาท โดย
มีกำไรสุทธิ 450 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 22,740 ล้านบาท
SCC เผย บ.ในเครือตกลงขายหุ้นMS 40% มูลค่า3พันลบ.ให้ Tata Steel Limited
(Tata Steel ) ประเทศอินเดีย
นายชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
(SCC) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2548 เครือซิเมนต์ไทยโดยบริษัทซิเมนต์ไทยโฮลดิ้ง
จำกัด (CHC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้น ร้อยละ 100 ได้บรรลุข้อตกลงในการขายหุ้น
ที่ถือในบริษัทมิลเลนเนียม สตีล จำกัด (มหาชน) (MS) ทั้งหมดประมาณร้อยละ 40
ให้แก่บริษัท Tata Steel Limited (Tata Steel ) ประเทศอินเดีย โดยจะมีมูลค่าประมาณ
3,000 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นครั้งนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น MS จะต้องพิจารณาเพิ่มทุนและเสนอขายหุ้นเพิ่ม
ทุนจำนวนร้อยละ 24.99 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเพิ่มทุนแล้วเสร็จ
ให้แก่ Tata Steel ในราคาหุ้นละ 1.15 บาทและแก้ไขข้อบังคับเกี่ยวกับข้อจำกัดการถือหุ้นของ
คนต่างด้าวให้สอดคล้องกันและให้ MS ยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ในด้านการส่งเสริมการลงทุน
(BOI)หลังจากบรรลุเงื่อนไขต่างๆ เรียบร้อยแล้ว Tata Steel จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ
MS ที่ราคาหุ้นละ 1.15 บาท ซึ่งเมื่อกระบวนการต่างๆ เสร็จเรียบร้อยจะทำให้Tata Steel ถือ
หุ้นใน MS ไม่น้อยกว่าร้อยละ 51
การขายหุ้นของ MS ในครั้งนี้เป็นนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการจะออกจากธุรกิจที่ไม่ใช่
ธุรกิจหลักของบริษัทฯ และเป็นผลดีกับ MS ในการส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันโดย
รวมผ่านทางเครือข่ายการตลาดและการจัดหาวัตถุดิบ รวมทั้งความรู้ทางเทคโนโลยีในธุรกิจ
เหล็กของ Tata Steel ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดียและเป็นผู้
ผลิตเหล็กชั้นนำระดับโลก ปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 7 ล้านตันต่อปี
ในขณะที่ MS เป็นผู้ผลิตเหล็กก่อสร้างรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีกำลังการผลิต
ทั้งสิ้น 1.2 ล้านตันต่อปี ทั้งนี้ในเก้าเดือนแรกของปี 2548 MS มียอดขาย 14,500 ล้านบาท โดย
มีกำไรสุทธิ 450 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 22,740 ล้านบาท