การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
-
ztep
- Verified User
- โพสต์: 314
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
![Razz :P](./images/smilies/icon_razz.gif)
สงสัยมานานแล้วครับ แต่ไม่ได้ถามซักที ว่า
บัฟเฟตเขาวิเคราะห์เรื่องการเมืองในประเทศที่เขาจะลงทุนไหมครับ และหุ้นในเมืองไทยนี่ทำไมเขาจึงไม่สนใจเลยล่ะครับ หรือว่ามีความได้เปรียบเชิงยั่งยืนไม่เพียงพอ หรือ ราคายังไม่สมเหตุสมผล ครับ คิดว่าบัฟเฟตคิดยังไงบ้างครับกับหุ้นบ้านเรา ขอบคุณครับ :lol:
-
121
- Verified User
- โพสต์: 843
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ผมว่าเขาคงไม่อยากเสียเวลา
เหมือนผมที่พออายุมากขึ้น ต้องโฟกัส ในสิ่งที่คัดกรองมาเมื่ออายุน้อย
-
Jeng
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
เหมือนผมที่พออายุมากขึ้น ต้องโฟกัส ในสิ่งที่คัดกรองมาเมื่ออายุน้อย
คงจะหมายถึงทุกเรื่องยกเว้น เรื่องสาวๆ
-
M149
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
เท่าที่อ่านมาเลาๆ การที่บัพเฟตไม่ลงทุนนอกประเทศเป็นเพราะ ตัวเขาไม่สามารถเข้าใจธุรกิจบนพื้นฐานทางเศรษฐกิจและการเมืองที่แตกต่างกันได้ อย่าลืมนะครับบัฟเฟตแกเน้น"ขอบเขตแห่งความเข้าใจ"เป็นสำคัญ เสมือนการรบต่อให้เรามีกองทัพที่เข้มแข็งเพียงใดหากไม่ชำนาญภูมิศาสตร์โอกาสเพลี่ยงพล้ำย่อมสูงกว่าภูมิศาสตร์ที่ชำนาญ เหมือนกองทัพอเมริกาที่ติดหล่มในอิรัคตอนนี้ เอากองทัพออกก็ไม่ได้จะคงเอาไว้ก็ไม่ดี(โดนประชาชนด่าทุกวัน) กระอักครับ
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองกับหุ้น มันก็จะมีความสัมพันธ์ผ่านระบบเศรษฐกิจอีกที โดยเครื่องมือทางเศรษฐกิจของรัฐบาลก็จะมีอยู่ 2 ตัวหลักๆคือ นโยบายการคลัง กับ นโยบายการเงิน เจ้า2ตัวนี้แหละครับที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทางตรงเลยละครับ
โดยนโยบายการคลังก็ได้แก่ การใช้จ่ายงบประมาณ และ ภาษี เป็นตัวหลักๆ
ส่วนนโยบายการเงินก็ได้แก่ ดอกเบี้ย(โดยผ่านดอกเบี้ยRP-14อีกที) กับ การออกพันธบัตร เป็นต้น
นอกจากนี้ก็จะมีนโยบายกึ่งการคลัง โดยการออกนโยบายผ่านรัฐวิสาหกิจต่างๆเช่น SMEbank ปตท. การไฟฟ้า ฯลฯ
ซึ่งถ้าเราต้องการจะวิเคราะห์ผลกระทบทางการเมืองต่อเศรษฐกิจ ก็พิจารณาได้จากกลไกหลักๆพวกนี้แหละครับ
![:wink:](https://cdn.jsdelivr.net/gh/s9e/emoji-assets-twemoji@11.2/dist/svgz/1f609.svgz)