การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
-
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 2
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 3
ในอดีตช่วงแต่งงานใหม่ๆ
ภรรยาผมก็มีความคิดต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เสมือนการพนัน ไม่ไว้วางใจ
ดังนั้นจึงต้องลงกันว่าจะกันเงินออกมาส่วนหนึ่งเพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หมดแล้วก็หมดกัน
ภรรยาผมก็บอกว่า เธอทำใจว่าเงินก้อนนี้สูญไปแล้ว
หลังจากเห็นผมลงทุนอยู่นานพอควร เธอก็เข้าใจการลงทุนของผม
เงินและทรัพย์สินต่างๆ ผมให้ลงชื่อเธอหมดครับ ทั้ง พอร์ตการลงทุน พันธบัตรรัฐบาล บัญชีเงินฝาก บ้านและที่ดิน
สบายใจทั้งสองฝ่ายครับ
ภรรยาผมก็มีความคิดต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เสมือนการพนัน ไม่ไว้วางใจ
ดังนั้นจึงต้องลงกันว่าจะกันเงินออกมาส่วนหนึ่งเพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หมดแล้วก็หมดกัน
ภรรยาผมก็บอกว่า เธอทำใจว่าเงินก้อนนี้สูญไปแล้ว
หลังจากเห็นผมลงทุนอยู่นานพอควร เธอก็เข้าใจการลงทุนของผม
เงินและทรัพย์สินต่างๆ ผมให้ลงชื่อเธอหมดครับ ทั้ง พอร์ตการลงทุน พันธบัตรรัฐบาล บัญชีเงินฝาก บ้านและที่ดิน
สบายใจทั้งสองฝ่ายครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 4
องค์ประกอบแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกันครับ
แต่ผมว่าถ้าจะให้ดีต้องขึ้นกับองค์ประกอบ
1.การไว้ใจกัน
- ยังไม่รู้นิสัยกันอย่างแท้จริง คบกันมายังไม่เกิน5ปี
- รักกันจริงๆไม่ใช่หลง(สามารถอยู่ด้วยกันด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกันสามารถ รักกันเหมือนเดิมโดยที่ไม่มีเซกส์มาเกี่ยวข้อง)
2.ความสามารถในการบริหารเงิน
ส่วนตัวผมเองเงินรวมครับ ไว้วางใจซึ่งกันและกัน(รู้จักกันมา13ปีตั้งแต่เรียนป.ตรีด้วยกันแต่งงานมาแล้ว10ปี ลูก2) แต่แฟนไม่อยากยุ่งเรื่องพอร์ตจึงยกให้เป็นชื่อผมทั้งหมด แรกๆก็คัดค้านเหมือนพี่ฉัตรชัย แต่เดี๋ยวนี้หลับสบายดีครับ แถมมีความสุขมากขึ้นเวลาแม่บ้านอุดหนุนสินค้าของตัวเอง :lovl:
ก็ขอแนะนำในฐานะผู้จัดเจนเวทีกว่า
ว่า แรกๆควรแยกเงินที่จะมาลงทุนให้ชัดเจนจนกว่าเขาจะเห็นดีและมั่นใจในการลงทุนของเรา
ปล.ถ้ามีลูกแล้ว จะมีเจ้านายคนเดียวกัน ส่วนมากจะรวมเงินครับ ช่วยกันประหยัดเพื่อลูกๆ![Mr. Green :mrgreen:](./images/smilies/icon_mrgreen.gif)
แต่ผมว่าถ้าจะให้ดีต้องขึ้นกับองค์ประกอบ
1.การไว้ใจกัน
- ยังไม่รู้นิสัยกันอย่างแท้จริง คบกันมายังไม่เกิน5ปี
- รักกันจริงๆไม่ใช่หลง(สามารถอยู่ด้วยกันด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกันสามารถ รักกันเหมือนเดิมโดยที่ไม่มีเซกส์มาเกี่ยวข้อง)
2.ความสามารถในการบริหารเงิน
ส่วนตัวผมเองเงินรวมครับ ไว้วางใจซึ่งกันและกัน(รู้จักกันมา13ปีตั้งแต่เรียนป.ตรีด้วยกันแต่งงานมาแล้ว10ปี ลูก2) แต่แฟนไม่อยากยุ่งเรื่องพอร์ตจึงยกให้เป็นชื่อผมทั้งหมด แรกๆก็คัดค้านเหมือนพี่ฉัตรชัย แต่เดี๋ยวนี้หลับสบายดีครับ แถมมีความสุขมากขึ้นเวลาแม่บ้านอุดหนุนสินค้าของตัวเอง :lovl:
ก็ขอแนะนำในฐานะผู้จัดเจนเวทีกว่า
![big smile :B](./images/smilies/icon_bigsmile.gif)
ปล.ถ้ามีลูกแล้ว จะมีเจ้านายคนเดียวกัน ส่วนมากจะรวมเงินครับ ช่วยกันประหยัดเพื่อลูกๆ
![Mr. Green :mrgreen:](./images/smilies/icon_mrgreen.gif)
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 5
กระเป๋าเดียวกันครับ
ทรัพย์สินจะอยู่ที่ชื่อผมหรือภรรยาก็ได้
![Very Happy :D](./images/smilies/icon_biggrin.gif)
ทรัพย์สินจะอยู่ที่ชื่อผมหรือภรรยาก็ได้
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
- worapong
- Verified User
- โพสต์: 929
- ผู้ติดตาม: 0
แล้วแต่กรณีครับ
โพสต์ที่ 6
ผมไม่มีประสบการณ์ แต่มีความเห็นครับ คงต้องแยกเป็นสองกรณี
1. เป็นวีไอ ก่อนแต่ง อันนี้ก็คงไม่มีปัญหามาก เค้าคงรู้ก่อนแล้วว่าเราบ้าหุ้น แต่ก็มั่นใจพอสมควรว่าเราไมเจ๊งแน่ เลยยอมแต่งด้วย อันนี้ก็แล้วแต่ภรรเมียครับว่าเค้าอยากเอาเงินมารวมกันลงทุนมั๊ย
2. แต่งก่อน แล้วค่อยเป็นวีไอ อันนี้สิคุยยากหน่อย เพราะคนส่วนใหญ่ กลัวหุ้นมันกัดเอา เพราะถ้าถามคนเล่นหุ้นสิบคนนี่ ขาดทุน8คนนะครับ แล้วยิ่งช่วงนี้ตลาดก็ดูไม่ค่อยดี (ซึ่งที่จริงเหมาะที่จะซื้อหุ้นมากๆ) เลยทำให้ภรรเมียไม่อยากให้เราเล่นหุ้นเข้าไปอีก อันนี้คงต้องกันเงินก้อนหนึ่งมาลองลงทุนดู ถ้าคุณทำได้ดีค่อยๆเพิ่มขึ้นตามความมั่นใจครับ
แล้วก็อย่าลืมซื้อประกันชีวิตไว้บ้างนะครับ โดยเฉพาะถ้าคุณยังมีเงินไม่พอสำหรับค่าใช้จ่ายใน 5-10 ปีข้างหน้า โดยไม่ต้องทำงาน เพราะการมีชีวิตคู่คือการรับผิดชอบแล้ว เกิดคุณจากไปอย่างไม่คาดคิด ภรรเมีย และลูกจะได้ไม่ลำบาก คงไม่มีใครอยากให้ภรรยาไปทำอาชีพน่ารังเกียจ หรือต้องดิ้นรนมากๆใช่มั๊ยครับ ให้เวลาเค้าตั้งหลักสัก 5 ปี เพื่อว่าเค้าจะได้มีเวลาดูแลลูกด้วย
ผมไม่แน่ใจว่าคุณเคยลงทุนแล้วยัง ถ้าคุณอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาแล้วอยากลงทุนนี่ ต้องคิดให้ดี และค่อยๆลองทำดูเริ่มจากเงินน้อยๆก่อนนะครับ เพราะว่าถึงแม้หลักการแบบวีไอ จะใช้ได้ผลจริง ก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนที่ใช้หลักการนี้จะได้ผลตอบแทนที่น่าจดจำทุกคนนะครับ มันขึ้นอยู่กับว่าการประยุกต์ใช้หลักการนี้มีประสิทธิภาพมั๊ย ไม่งั้นทุกคนก็เป็นวอเรนกันไปหมดแล้ว
:twisted: :twisted: สำหรับคนที่ยังไม่มีภรรยา ถ้าคุณบ้าหุ้นควรเลือกภรรยาที่ชอบแนวทางเดียวกับคุณ มันคงง่ายที่คุณจะเทียมม้า2ตัวเข้ากับรถม้า แต่ว่ามันคงจะขลุกขลักสักหน่อย ถ้าคุณเทียมม้าเข้ากับวัวหรือแพะเข้าด้วยกัน คุณคงต้องดิ้นรนไปอีกสักพักใหญ่ๆเลย ว่าแต่ในเวบนี้มีสาวน้อยหน้าใสคนไหนสนใจจะมารวมกระเป๋ากับผมบ้างมั๊ยครับ
1. เป็นวีไอ ก่อนแต่ง อันนี้ก็คงไม่มีปัญหามาก เค้าคงรู้ก่อนแล้วว่าเราบ้าหุ้น แต่ก็มั่นใจพอสมควรว่าเราไมเจ๊งแน่ เลยยอมแต่งด้วย อันนี้ก็แล้วแต่ภรรเมียครับว่าเค้าอยากเอาเงินมารวมกันลงทุนมั๊ย
2. แต่งก่อน แล้วค่อยเป็นวีไอ อันนี้สิคุยยากหน่อย เพราะคนส่วนใหญ่ กลัวหุ้นมันกัดเอา เพราะถ้าถามคนเล่นหุ้นสิบคนนี่ ขาดทุน8คนนะครับ แล้วยิ่งช่วงนี้ตลาดก็ดูไม่ค่อยดี (ซึ่งที่จริงเหมาะที่จะซื้อหุ้นมากๆ) เลยทำให้ภรรเมียไม่อยากให้เราเล่นหุ้นเข้าไปอีก อันนี้คงต้องกันเงินก้อนหนึ่งมาลองลงทุนดู ถ้าคุณทำได้ดีค่อยๆเพิ่มขึ้นตามความมั่นใจครับ
แล้วก็อย่าลืมซื้อประกันชีวิตไว้บ้างนะครับ โดยเฉพาะถ้าคุณยังมีเงินไม่พอสำหรับค่าใช้จ่ายใน 5-10 ปีข้างหน้า โดยไม่ต้องทำงาน เพราะการมีชีวิตคู่คือการรับผิดชอบแล้ว เกิดคุณจากไปอย่างไม่คาดคิด ภรรเมีย และลูกจะได้ไม่ลำบาก คงไม่มีใครอยากให้ภรรยาไปทำอาชีพน่ารังเกียจ หรือต้องดิ้นรนมากๆใช่มั๊ยครับ ให้เวลาเค้าตั้งหลักสัก 5 ปี เพื่อว่าเค้าจะได้มีเวลาดูแลลูกด้วย
ผมไม่แน่ใจว่าคุณเคยลงทุนแล้วยัง ถ้าคุณอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาแล้วอยากลงทุนนี่ ต้องคิดให้ดี และค่อยๆลองทำดูเริ่มจากเงินน้อยๆก่อนนะครับ เพราะว่าถึงแม้หลักการแบบวีไอ จะใช้ได้ผลจริง ก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนที่ใช้หลักการนี้จะได้ผลตอบแทนที่น่าจดจำทุกคนนะครับ มันขึ้นอยู่กับว่าการประยุกต์ใช้หลักการนี้มีประสิทธิภาพมั๊ย ไม่งั้นทุกคนก็เป็นวอเรนกันไปหมดแล้ว
![Twisted Evil :twisted:](./images/smilies/icon_twisted.gif)
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 7
ถ้าทั้งสองฝ่ายมีอิทธิในการตัดสินใจเรื่งการเงินต่อกัน ให้ทำการรวมกระเป๋ากันเลยครับ แต่ถ้าต่างคนต่างยุ่งกันไม่ได้ให้แยกครับ จะได้ไม่มีปัญหา
สำหรับเรา ผู้ชายต้องคิดถึงครอบครัวให้มากๆ เขาไม่เก็บไม่เป็นไร แต่เราต้องเก็บ
ขนาดผมแยกบัญชีกันนะเนี่ย ผมยังโดนเมียดาบเงินไปทีละหลายตังส์เลย เงินเดือนก็ตั้งแยอะ เอาไปทำอะไรหมดก็ไม่รู้![Rolling Eyes :roll:](./images/smilies/icon_rolleyes.gif)
สำหรับเรา ผู้ชายต้องคิดถึงครอบครัวให้มากๆ เขาไม่เก็บไม่เป็นไร แต่เราต้องเก็บ
ขนาดผมแยกบัญชีกันนะเนี่ย ผมยังโดนเมียดาบเงินไปทีละหลายตังส์เลย เงินเดือนก็ตั้งแยอะ เอาไปทำอะไรหมดก็ไม่รู้
![Rolling Eyes :roll:](./images/smilies/icon_rolleyes.gif)
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 11
คงจะเหมือนกับแฟนผมหล่ะครับ แต่ทางจิตวิทยาถือเป็นเรื่องปกติครับ
คนที่แต่งงานใหม่ๆจะเกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่ที่สุดแล้ว1เรื่อง(โดยเฉพาะผู้หญิง) เขาก็จะระแวดระวังตัวมากขึ้นโดยจะกลัวในสิ่งที่ตนเองไม่รู้ และไม่อยากมีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก วิธีแก้ไขก็คือ ร่วมกันวางแผนอนาคต เช่น
เราจะมีลูกกี่คน เมื่อไหร่ เลี้ยงลูกจนจบ ใช้เงินเท่าไหร่
เราจะมีบ้านพักผ่อนตอนเกษียณหรือเปล่า งบประมาณเท่าไหร่
เราทำงานแบบปัจจุบันนี้ ถ้าต้องมีปัญหาฉุกเฉินสามารถหยุดทำงานได้เลยหรือไม่(โดยให้เงินทำงานให้เรา)
เราจะเกษียณอายุเมื่ออายุเท่าไหร่
หลังจากเกษียณแล้วจะใช้เงินโดยที่ไม่ต้องทำงานประมาณเท่าไหร่
เราจะมีทรัพย์สมบัติให้ลูกเมื่อเราตายไปคืออะไร
พอร่วมวางแผน เป้าหมายในชีวิตร่วมกันได้ ช่วงแรกๆก็ตั้งใจเลือกหุ้นที่มั่นคงที่สุด เช่นมาม่าอาจได้กำไรปีละ8-10%ก็ช่าง ใส่เป็นเชื่อภรรยาเป็นใบหุ้นไว้ที่บ้าน ซักระยะหนึ่งก็คงจะรู้ว่าเป้าหมายและจุดมุ่งหมายของการลงทุนคืออะไร
ปล.แต่ที่สำคัญที่สุดคือตัวคุณpoppoต้องไม่หลอกตัวเองว่าเป็นVIนะครับ ต้องเป็นให้ได้จริงๆ เพราะชีวิตครอบครัวสำคัญกว่าเงิน ถ้าจะเอาครอบครัวมาเสี่ยงกับความไม่รู้ของเรา เดี๋ยวจะทะเลาะกันปล่าวๆ
คนที่แต่งงานใหม่ๆจะเกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่ที่สุดแล้ว1เรื่อง(โดยเฉพาะผู้หญิง) เขาก็จะระแวดระวังตัวมากขึ้นโดยจะกลัวในสิ่งที่ตนเองไม่รู้ และไม่อยากมีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก วิธีแก้ไขก็คือ ร่วมกันวางแผนอนาคต เช่น
เราจะมีลูกกี่คน เมื่อไหร่ เลี้ยงลูกจนจบ ใช้เงินเท่าไหร่
เราจะมีบ้านพักผ่อนตอนเกษียณหรือเปล่า งบประมาณเท่าไหร่
เราทำงานแบบปัจจุบันนี้ ถ้าต้องมีปัญหาฉุกเฉินสามารถหยุดทำงานได้เลยหรือไม่(โดยให้เงินทำงานให้เรา)
เราจะเกษียณอายุเมื่ออายุเท่าไหร่
หลังจากเกษียณแล้วจะใช้เงินโดยที่ไม่ต้องทำงานประมาณเท่าไหร่
เราจะมีทรัพย์สมบัติให้ลูกเมื่อเราตายไปคืออะไร
พอร่วมวางแผน เป้าหมายในชีวิตร่วมกันได้ ช่วงแรกๆก็ตั้งใจเลือกหุ้นที่มั่นคงที่สุด เช่นมาม่าอาจได้กำไรปีละ8-10%ก็ช่าง ใส่เป็นเชื่อภรรยาเป็นใบหุ้นไว้ที่บ้าน ซักระยะหนึ่งก็คงจะรู้ว่าเป้าหมายและจุดมุ่งหมายของการลงทุนคืออะไร
ปล.แต่ที่สำคัญที่สุดคือตัวคุณpoppoต้องไม่หลอกตัวเองว่าเป็นVIนะครับ ต้องเป็นให้ได้จริงๆ เพราะชีวิตครอบครัวสำคัญกว่าเงิน ถ้าจะเอาครอบครัวมาเสี่ยงกับความไม่รู้ของเรา เดี๋ยวจะทะเลาะกันปล่าวๆ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1734
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 12
จนป่านนี้
ผมยังไม่รู้เลยว่า ภรรยาผมมีทรัพย์สินอะไร
และภรรยาผมก็ไม่รู้ว่าผมมีทรัพย์สินอะไร
และไม่เคยสนใจจะรู้ด้วย
ผมพึ่งจะตัดสินใจบอกภรรยาไปว่า
ผมมีทรัพย์สินอะไรบ้าง เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา
ซึ่งเธอมีท่าทางแปลกใจมากว่า
บอกทำไม มีอะไรลับลมคมในหรือเปล่า
เป็นงั้นไป
ขอยืนยันอีกครั้งว่า
หุ้นที่สำคัญที่สุดในชีวิตตอนนี้ก็คือ
หุ้นส่วนชีวิตครับ
เป็นหุ้นส่วนชีวิตที่ไม่ต้องคอยดู
อี บีวี ดิวิเดนท์
แต่หุ้นตัวนี้ติดไซเรนท์พีเรียดตลอดชีวิต
:twisted: :twisted: :twisted:
มีข้อห้าม ทีไม่ต้องให้ กลต.กำหนดว่า
ห้ามแตกพาร์ เพิ่มทุน หรือแจกวอร์แรนท์
อีสอปก็ห้ามออก
ไม่งั้น ........................
:?: :?: :?: :?: :?: :?: :?:
ผมยังไม่รู้เลยว่า ภรรยาผมมีทรัพย์สินอะไร
และภรรยาผมก็ไม่รู้ว่าผมมีทรัพย์สินอะไร
และไม่เคยสนใจจะรู้ด้วย
ผมพึ่งจะตัดสินใจบอกภรรยาไปว่า
ผมมีทรัพย์สินอะไรบ้าง เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา
ซึ่งเธอมีท่าทางแปลกใจมากว่า
บอกทำไม มีอะไรลับลมคมในหรือเปล่า
เป็นงั้นไป
ขอยืนยันอีกครั้งว่า
หุ้นที่สำคัญที่สุดในชีวิตตอนนี้ก็คือ
หุ้นส่วนชีวิตครับ
เป็นหุ้นส่วนชีวิตที่ไม่ต้องคอยดู
อี บีวี ดิวิเดนท์
แต่หุ้นตัวนี้ติดไซเรนท์พีเรียดตลอดชีวิต
![Twisted Evil :twisted:](./images/smilies/icon_twisted.gif)
มีข้อห้าม ทีไม่ต้องให้ กลต.กำหนดว่า
ห้ามแตกพาร์ เพิ่มทุน หรือแจกวอร์แรนท์
อีสอปก็ห้ามออก
ไม่งั้น ........................
![Question :?:](./images/smilies/icon_question.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
![do not do that :\/:](./images/smilies/icon_donottdothat.gif)
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 13
มีข้อห้าม ทีไม่ต้องให้ กลต.กำหนดว่า
ห้ามแตกพาร์ เพิ่มทุน หรือแจกวอร์แรนท์
อีสอปก็ห้ามออก
ไม่งั้น .......................มึงตาย!!!!!
ห้ามแตกพาร์ ซื้อหุ้นคืนได้ไหมเฮีย? :lovl:
ห้ามแตกพาร์ เพิ่มทุน หรือแจกวอร์แรนท์
อีสอปก็ห้ามออก
ไม่งั้น .......................มึงตาย!!!!!
ห้ามแตกพาร์ ซื้อหุ้นคืนได้ไหมเฮีย? :lovl:
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
-
- Verified User
- โพสต์: 1734
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 14
ห้ามแตกพาร์ ซื้อหุ้นคืนได้ไหมเฮีย?
เอ น่าจะได้นะ
แต่ห้ามขายกลับคืนตลาดนะ
ต้องลดทุนจดทะเบียนเท่านั้น
บุ๊คแวลู่จะได้สูงขึ้น
เอ น่าจะได้นะ
แต่ห้ามขายกลับคืนตลาดนะ
ต้องลดทุนจดทะเบียนเท่านั้น
บุ๊คแวลู่จะได้สูงขึ้น
![ขำกลิ้ง :rofl:](./images/smilies/icon_rofl.gif)
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 15
ขอแตกพาร์ แล้วก็ไปครอบงำกิจการบริษัทลูกอื่น ๆ ด้วยครับ
:lol:
:lol:
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 16
ทั้งสองฝ่ายตกลงกันอย่างไรได้ครับ เพราะถ้าข้อตกลงผิดพลาด ก็สามารถแก้ไขข้อตกลงได้
รวมทั้งการไม่ตกลงอะไรเลยก็ถือเป็นข้อตกลง
ยกเว้น 2 กรณี คือ คู่กรณี ตั้งใจหลอกหรือบิดเบือนตั้งแต่แรก และ อีกกรณี คือ คู่กรณี เป็นโรคจิตครับ
2 กรณีหลัง ตกลงอะไรไปก็เละทั้งนั้นครับ
รวมทั้งการไม่ตกลงอะไรเลยก็ถือเป็นข้อตกลง
ยกเว้น 2 กรณี คือ คู่กรณี ตั้งใจหลอกหรือบิดเบือนตั้งแต่แรก และ อีกกรณี คือ คู่กรณี เป็นโรคจิตครับ
2 กรณีหลัง ตกลงอะไรไปก็เละทั้งนั้นครับ
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 18
ทำรายการอะไรระหว่างกัน..บ่อยๆ บอกให้เคลียร์ๆหน่อยซิคุณวราพงศ์พี่ๆที่แต่งงานแล้วคิดว่าการทำรายการระหว่างกันบ่อยๆจะมีปัญหาหรือไม่ครับ
มีคำว่า"ทำ" คำว่า"หว่าง"นี่พวกที่มีเมียแล้วก็คิดมากนะครับ
![look around :la:](./images/smilies/icon_look.gif)
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 19
[quote="naris"] ทำรายการอะไรระหว่างกัน..บ่อยๆ บอกให้เคลียร์ๆหน่อยซิคุณวราพงศ์
มีคำว่า"ทำ" คำว่า"หว่าง"นี่พวกที่มีเมียแล้วก็คิดมากนะครับ![look around :la:](./images/smilies/icon_look.gif)
มีคำว่า"ทำ" คำว่า"หว่าง"นี่พวกที่มีเมียแล้วก็คิดมากนะครับ
![look around :la:](./images/smilies/icon_look.gif)
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
- poppo
- Verified User
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 20
ต้องขอขอบคุณทั้งคำตอบและอารมณืขันของพวกพี่ ๆ มากครับ ผมเองตั้งใจว่าจะลงทุนด้วยเงินของผมคนเดียว แต่จะตกลงกันว่ากันกองกลางไว้ส่วนหนึ่งโดยใส่เงินเท่ากันทั้งคู่ทุกเดือน ที่เหลือต่างคนต่างเก็บ อย่างนี้นับเป็นทางสายกลางได้หรือไม่ครับ
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
การจัดการการเงินหลังแต่งงาน
โพสต์ที่ 22
แล้วถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งซุกหุ้นไว้ก่อนแต่ง คงจะวุ่นวายพิลึกนะครับ ถ้าเกิดมีการจับได้หลังจากแต่งไปนานแล้วหรือเมื่อมีการหย่าเกิดขึ้น
ยิ่งซุกไว้กับสาวใช้ในบ้าน หรือคนขับรถเนี่ย คงไม่ต้องบรรยายเลย
:lovl:
ยิ่งซุกไว้กับสาวใช้ในบ้าน หรือคนขับรถเนี่ย คงไม่ต้องบรรยายเลย
:lovl:
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..