เอทานอลในต่างประเทศถูกกว่าไทยเราผลิตเองแค่ไหนคับ
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
เอทานอลในต่างประเทศถูกกว่าไทยเราผลิตเองแค่ไหนคับ
โพสต์ที่ 2
คุณ hot ครับ ผมเปิดอ่านกระทู้ต่างๆ ผ่านๆ
มาเจอกระทู้นี้ของคุณก็เห็นว่างๆ ไม่มีอะไรเลย
ก็เรื่องนี้ผมอยากให้ความเห็นอย่างนี้ครับ
โดยอาชีพผม เป็นวิศวกร และพอมีความรู้ทางด้านนี้อยู่บ้าง
เรื่อง เอทานอล ที่จะเอาไปผสมกับนำมัน แล้วได้ ก๊าสโซฮอล มานั้นนะ มันเป็นเรื่องการตลาดของบริษัท นำมันมากกว่าครับ
คื่อ ขอตั้งประเด็นต่อว่า ก๊าสโซฮอลมันช่วยชาติลดการขาดดุลการค้าได้จริงหรือ?
เอทานอล ผลิต มาจากวัตถุดิบเช่น
1. หัวมันสำปะหลัง
2. โมลาส
3. กากมันสำปะหลัง (ตัวนี้ ค่าวัตถุดิบจะมีราคาถูก แต่ต้นทุนค่า process แพง และ ค่าเคมีที่ต้องนำเข้าก็แพงค่อนข้างมาก จนทำให้การผลิตได้ผลไม่คุ้มค่า)
ระดับกำลังการผลิตที่คุ่มค่าต่อการลงทุนนั้น ก็ ประมาณ 150 000 l/dd(24hr)
ต้นทุนต่อ ลิตร เมื่อก่อนโน้นตอนวัตถุดิบราคาถูกนั้นก็ประมาณ 18 บาท แล้วครับ (ราคานำมันตอนนั้น 15-16 บาทครับ) ตอนนี้ผมคิดว่า ต้นทุนคงประมาณ 20 ต้นๆ แล้วครับ
ราคา plant ก็ประมาณ 2000 - 3000 ล้านบาทครับ
เอาหละทีนี้ ถามว่า เอทานอลทำไมมันแพงกว่าต่างประเทศเค้าหละ
1. ประเทศไทย มีพืนที่ ขนาดเล็กกว่า บราชิล เพราะงั้น พื้นที่เพาะปลูกตัววัตถุดิบ ต่อตันจะมีราคาสูงกว่า อีกอย่าง เช่นโมลาส เทคโนโลยีโรงงานหีบอ้อยเราพัตนาทันสมัยมากขึ้น ทำให้เหลือโมลาสน้อยลงจากการหีบออ้ยครับ
2. เรานำเข้าเทคโนโลยี เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต โดยเฉพาะตัวหอกลั่นจะมีราคาแพงมากๆ ส่วนตัวเครื่องจักรที่เราผลิตได้ในประเทศบางส่วนนั้นนะ มีมูลค่าเพียงเล็กน้อยครับ
ครับ, เมื่อเป็นอย่างนี้ ราคาสุดท้ายของเอทานอลมันก็ต้องแพงกว่าครับ
และคำถามที่ว่า ก๊าสโซฮอลมันช่วยชาติลดการขาดดุลการค้าได้จริงหรือ
ผมก็อยากบอกว่า เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจครับ
คืออย่างนี้ครับ เราเอาผลผลิตทางการเกษตร มาผลิตแล้วเอาไปผสมนำมัน ทำให้เกษตรกร มีผู้มาแย่งซื้อวัตถุดิบเป็นการถ่วงดุล ไม่ให้ผู้ผลิตสินค้าตัวอื่นที่นำวัตถุดิบตัวเดียวกันนั้นใช้กดราคาอย่างที่เคยเคยครับ แต่อย่างไรก็ตามเกษตรกรยังได้ราคาไม่ต่างจากเดิมอย่างมีความหมายมากนัก เราะถ้าแพงไปผู้ผลิตเอทานอลเองก็จะไม่คุ้มค่าในการผลิตครับ
ครับ ดูเหมือนเราจะลดการนำเข้านำมันได้ แต่ เรานำเข้าเครื่องจักรแทน(และมีราคาแพงครับ)
ถ้านำมันยังคงแพงต่อไปอย่างนี้หลายสิบปีก็พอไหวครับ แต่ถ้านำมันถูกลงระดับ 30-40 USD/BAR ในไม่กี่ปีหลังจากนี้ มันเกิดผลด้านลบต่อการลงทุนเรื่องนี้มากกว่าครับ
มาเจอกระทู้นี้ของคุณก็เห็นว่างๆ ไม่มีอะไรเลย
ก็เรื่องนี้ผมอยากให้ความเห็นอย่างนี้ครับ
โดยอาชีพผม เป็นวิศวกร และพอมีความรู้ทางด้านนี้อยู่บ้าง
เรื่อง เอทานอล ที่จะเอาไปผสมกับนำมัน แล้วได้ ก๊าสโซฮอล มานั้นนะ มันเป็นเรื่องการตลาดของบริษัท นำมันมากกว่าครับ
คื่อ ขอตั้งประเด็นต่อว่า ก๊าสโซฮอลมันช่วยชาติลดการขาดดุลการค้าได้จริงหรือ?
เอทานอล ผลิต มาจากวัตถุดิบเช่น
1. หัวมันสำปะหลัง
2. โมลาส
3. กากมันสำปะหลัง (ตัวนี้ ค่าวัตถุดิบจะมีราคาถูก แต่ต้นทุนค่า process แพง และ ค่าเคมีที่ต้องนำเข้าก็แพงค่อนข้างมาก จนทำให้การผลิตได้ผลไม่คุ้มค่า)
ระดับกำลังการผลิตที่คุ่มค่าต่อการลงทุนนั้น ก็ ประมาณ 150 000 l/dd(24hr)
ต้นทุนต่อ ลิตร เมื่อก่อนโน้นตอนวัตถุดิบราคาถูกนั้นก็ประมาณ 18 บาท แล้วครับ (ราคานำมันตอนนั้น 15-16 บาทครับ) ตอนนี้ผมคิดว่า ต้นทุนคงประมาณ 20 ต้นๆ แล้วครับ
ราคา plant ก็ประมาณ 2000 - 3000 ล้านบาทครับ
เอาหละทีนี้ ถามว่า เอทานอลทำไมมันแพงกว่าต่างประเทศเค้าหละ
1. ประเทศไทย มีพืนที่ ขนาดเล็กกว่า บราชิล เพราะงั้น พื้นที่เพาะปลูกตัววัตถุดิบ ต่อตันจะมีราคาสูงกว่า อีกอย่าง เช่นโมลาส เทคโนโลยีโรงงานหีบอ้อยเราพัตนาทันสมัยมากขึ้น ทำให้เหลือโมลาสน้อยลงจากการหีบออ้ยครับ
2. เรานำเข้าเทคโนโลยี เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต โดยเฉพาะตัวหอกลั่นจะมีราคาแพงมากๆ ส่วนตัวเครื่องจักรที่เราผลิตได้ในประเทศบางส่วนนั้นนะ มีมูลค่าเพียงเล็กน้อยครับ
ครับ, เมื่อเป็นอย่างนี้ ราคาสุดท้ายของเอทานอลมันก็ต้องแพงกว่าครับ
และคำถามที่ว่า ก๊าสโซฮอลมันช่วยชาติลดการขาดดุลการค้าได้จริงหรือ
ผมก็อยากบอกว่า เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจครับ
คืออย่างนี้ครับ เราเอาผลผลิตทางการเกษตร มาผลิตแล้วเอาไปผสมนำมัน ทำให้เกษตรกร มีผู้มาแย่งซื้อวัตถุดิบเป็นการถ่วงดุล ไม่ให้ผู้ผลิตสินค้าตัวอื่นที่นำวัตถุดิบตัวเดียวกันนั้นใช้กดราคาอย่างที่เคยเคยครับ แต่อย่างไรก็ตามเกษตรกรยังได้ราคาไม่ต่างจากเดิมอย่างมีความหมายมากนัก เราะถ้าแพงไปผู้ผลิตเอทานอลเองก็จะไม่คุ้มค่าในการผลิตครับ
ครับ ดูเหมือนเราจะลดการนำเข้านำมันได้ แต่ เรานำเข้าเครื่องจักรแทน(และมีราคาแพงครับ)
ถ้านำมันยังคงแพงต่อไปอย่างนี้หลายสิบปีก็พอไหวครับ แต่ถ้านำมันถูกลงระดับ 30-40 USD/BAR ในไม่กี่ปีหลังจากนี้ มันเกิดผลด้านลบต่อการลงทุนเรื่องนี้มากกว่าครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
เอทานอลในต่างประเทศถูกกว่าไทยเราผลิตเองแค่ไหนคับ
โพสต์ที่ 3
เป็นอย่างคุณ jho jho ว่าไว้ครับ
นักวิชาการหลายท่านในต่างประเทศ พยายามต่อต้านการใช้เอธาน่อลครับ
เพราะในภาพรวม ทั้งระดับประเทศและระดับโลก
การใช้เอธาน่อลมาเผาเป็นพลังงานให้รถยนต์ มันไม่คุ้ม
พลังงานที่เสียไปจาก process เองก็มากกว่าพลังงานที่ได้คืนมา
นักวิชาการหลายท่านในต่างประเทศ พยายามต่อต้านการใช้เอธาน่อลครับ
เพราะในภาพรวม ทั้งระดับประเทศและระดับโลก
การใช้เอธาน่อลมาเผาเป็นพลังงานให้รถยนต์ มันไม่คุ้ม
พลังงานที่เสียไปจาก process เองก็มากกว่าพลังงานที่ได้คืนมา
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
เอทานอลในต่างประเทศถูกกว่าไทยเราผลิตเองแค่ไหนคับ
โพสต์ที่ 4
ผมกำลังคิดอยู่ว่า
การใช้เอทานอลในไทย ในที่สุด คงต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
มากกว่าการใช้เอทานอลในไทยเพราะต้นทุนถูกว่าและมีจำกัดปริมาณ
ปัญหาเจ้าที่เอทานอล ที่สร้างโรงงานไปแล้วจะทำอย่างไร ถ้าเป็นอย่างนั้น
การใช้เอทานอลในไทย ในที่สุด คงต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
มากกว่าการใช้เอทานอลในไทยเพราะต้นทุนถูกว่าและมีจำกัดปริมาณ
ปัญหาเจ้าที่เอทานอล ที่สร้างโรงงานไปแล้วจะทำอย่างไร ถ้าเป็นอย่างนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
เอทานอลในต่างประเทศถูกกว่าไทยเราผลิตเองแค่ไหนคับ
โพสต์ที่ 5
วันนี้ วันหยุด ไม่ค่อยมีกระทู้อะไรอ่าน เลยมาคุยในกระทู้คุณ hot ต่อ
ประเด็นการนำเข้า เอทานอลครับที่ถูกกว่าจากต่างประเทศ จริงๆผมคิดว่ามันจะไม่ถูกกว่าตลอดไปตลอดเวลาครับ คืออย่างนี้ครับ ราคาวัตถุดิบจากการเกษตรนั้นนะ มันมีปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่แน่นอนสูง เช่น ภัยแล้ง นำท่วม โรคระบาดของพืชต่างๆ ครับ
อย่างตอนนี้ของเรานอกจากต้นทุนสูงกว่าจากผลิตปกติแล้วก็ยังเพิ่มเรื่องภัยแล้งเข้ามาอีกเลยไปกันใหญ่เลยครับ
ปัญหาก็มีอยู่ว่า ปริมาณและราคาจากต่างประเทศไม่แน่นอนหละ แล้วบริษัทนำมันในประเทศเราจะตั้งราคาอย่างไร? แล้วจุดประสงค์ของเราที่ต้องการลดดุลการค้าต่างประเทศแต่ดันไปนำเข้าเอทานอลแทนนำมัน มันแทบไม่เหลือส่วนต่างอะไรมากนัก
ผมว่าถ้าเรายังต้องการที่จะผลิตเอทาลนอล ก็ควรหาทางลดต้นทุน โดยการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเอง อันนี้จะต้องแลกด้วย "เวลา" ครับ
อย่างที่สองเรื่องวัตถุดิบ เราไม่ควรที่จะไปทำลายโครงสร้างเดิมครับ คือเวลานี้ จริงๆ แล้ววัตถุดิบเหล่านั้น เราส่งออกไปต่างประเทศอยู่แล้วครับ เช่น ผลผลิตมันสำปะหลัง เราส่งออกถึง 50% ของที่เราผลิตได้เลยทีเดียว
เราควรจะหาแหล่งใหม่ครับ เช่น ปลูกมันสำปะหลัง ในพื้นที่ทำนา ที่ทำนาเพียงครั้งเดียวในหนึ่งปี อันนี้จะทำให้การใช้พื้นที่ทางการเกษตรคุ้มค่ามากขึ้น และผลประโยชน์ก็จะได้ถึงมือเกษตรครับ
ส่วนโรงงานที่มีอยู่แล้วนะ คุณ hot ไม่ต้องห่วงครับ เพราะ เอทาลนอลมัน สามารถ applies ไปใช้ได้ในหลายๆ industry ครับ
ประเด็นการนำเข้า เอทานอลครับที่ถูกกว่าจากต่างประเทศ จริงๆผมคิดว่ามันจะไม่ถูกกว่าตลอดไปตลอดเวลาครับ คืออย่างนี้ครับ ราคาวัตถุดิบจากการเกษตรนั้นนะ มันมีปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่แน่นอนสูง เช่น ภัยแล้ง นำท่วม โรคระบาดของพืชต่างๆ ครับ
อย่างตอนนี้ของเรานอกจากต้นทุนสูงกว่าจากผลิตปกติแล้วก็ยังเพิ่มเรื่องภัยแล้งเข้ามาอีกเลยไปกันใหญ่เลยครับ
ปัญหาก็มีอยู่ว่า ปริมาณและราคาจากต่างประเทศไม่แน่นอนหละ แล้วบริษัทนำมันในประเทศเราจะตั้งราคาอย่างไร? แล้วจุดประสงค์ของเราที่ต้องการลดดุลการค้าต่างประเทศแต่ดันไปนำเข้าเอทานอลแทนนำมัน มันแทบไม่เหลือส่วนต่างอะไรมากนัก
ผมว่าถ้าเรายังต้องการที่จะผลิตเอทาลนอล ก็ควรหาทางลดต้นทุน โดยการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเอง อันนี้จะต้องแลกด้วย "เวลา" ครับ
อย่างที่สองเรื่องวัตถุดิบ เราไม่ควรที่จะไปทำลายโครงสร้างเดิมครับ คือเวลานี้ จริงๆ แล้ววัตถุดิบเหล่านั้น เราส่งออกไปต่างประเทศอยู่แล้วครับ เช่น ผลผลิตมันสำปะหลัง เราส่งออกถึง 50% ของที่เราผลิตได้เลยทีเดียว
เราควรจะหาแหล่งใหม่ครับ เช่น ปลูกมันสำปะหลัง ในพื้นที่ทำนา ที่ทำนาเพียงครั้งเดียวในหนึ่งปี อันนี้จะทำให้การใช้พื้นที่ทางการเกษตรคุ้มค่ามากขึ้น และผลประโยชน์ก็จะได้ถึงมือเกษตรครับ
ส่วนโรงงานที่มีอยู่แล้วนะ คุณ hot ไม่ต้องห่วงครับ เพราะ เอทาลนอลมัน สามารถ applies ไปใช้ได้ในหลายๆ industry ครับ