ความแตกต่างระหว่าง P/E Value กับ P/BV Value

[Stock Broker]

หุ้นตัวหนึ่งถ้ากำไรแต่ละปีผันผวน บางปีทำได้มาก บางปีทำได้น้อย (แต่กำไรทุกปี) เช่น

ปีที่ 1  EPS = 1
ปีที่ 2  EPS = 0.3
ปีที่ 3  EPS = 1.5
ปีที่ 4  EPS = 2.5
ปีที่ 5  EPS = 0.1

หากเราประเมินมูลค่าหุ้นด้วย P/E Ratio คงจะต้องปวดหัวหนัก เพราะมูลค่าที่แท้จริงจะผันผวนมากๆ เช่น หากคิดที่ P/E 10 เท่า บางปีจะได้ Value ที่ 1 บาท ในขณะที่บางปีจะได้ Value ที่ 25 บาท

แต่หากเราประเมินมูลค่าหุ้นด้วย P/BV เราจะได้มูลค่าหุ้นที่สูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี เพราะส่วนของผู้ถือหุ้นมากขึ้นเรื่อยๆ จากกำไรสะสมที่เป็นบวกเพิ่มขึ้นโดยตลอด

อย่างนี้แล้วเราจะเลือกวิธีไหนดี??

[Stock Broker]

อีกกรณีหนึ่ง สมมติให้บริษัทแห่งหนึ่งทำกำไรได้เท่ากันสม่ำเสมอทุกปี ได้ EPS = 1 บาท

หากเราประเมินมูลค่าหุ้นด้วย P/E 10 เท่า เราจะได้ Value ที่ 10 บาท ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม

แต่หากเราประเมินมูลค่าหุ้นด้วย P/BV เราจะได้ Value เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากกำไรสะสมที่เป็นบวกเพิ่มขึ้นโดยตลอด

อย่างนี้แล้วเราจะเลือกวิธีไหนดี??

[jaychou]

สำนักเทมเปิ้ลบ๊อกซิ่ง นำโดยเฮียคลายเครียด ใช้พีบีวีเป็นหลัก

หุ้นที่พีบีวีต่ำๆ พีอีสูง คนไม่ค่อยเล่นกัน ไม่มีสภาพคล่องคอ เริ่มเก็บ
พอกำไรเริ่มสูง พีอีต่ำ พีบีวีสูง ก็ได้เวลาขายให้นักลงทุนท่านอื่นเก็บไปลงทุนตามปัจจัยพื้นฐาน

(สำนวนไม่ค่อยเหมือน แต่เนื้อหาไม่น่าจะผิด.. ฮ่าๆๆๆๆ)

[harry]

ผมก็เห็นด้วยนะ

ถูก p/bv น่าจะเข้าท่ากว่า แต่ถ้าหาค่าเฉลี่ยห้าปี แล้วใช้ p/e ก็น่าจะพอถูไถไปได้

[Viewtiful Investor]

ต้องใช้ ROE ด้วยไหมครับ?

[Tongue]

ขอ E ปึ้กๆ ก่อน
BV เป็นตัวเสริม

[Mon money]

เพิ่งตอบแฟนคอลัมป์ไปเมื่อกี้นี้เองครับ

มีข้อมูลแค่นี้ตอบไม่ได้ครับ

ต้องดูที่กิจการเป็นหลัก

[ch_army]

แต่ก็จิงที่ BV สูงขึ้นๆแต่หากไปก่อหนี้เพิ่มเติม ก็อาจขาดทุนได้นะนี่

[worapong]

เริ่มจาก p/e ก่อนนะครับ ถ้า E ในอนาคตมีความแน่นอนมากๆ เนื่องจากมีขวากหนามสกัดกั้นคู่แข่ง หรือมีสัมปทานเช่น egcomp ratch แบบนี้ค่อนข้างมั่นใจได้ครับ แต่ถ้าเป็นธุรกิจพวกเหล็ก ถ่านหิน น้ำมัน หรือปิโตรเคมี ต้องระวังครับ บางปี margin สูงแต่บางปีก็ต่ำ ถ้าเราไปซื้อตอน margin สูงๆอาจต้อง ถือหุ้นตัวนั้นไว้นานแบบวอร์เรนก็ได้ แต่ผลตอบแทนคงไม่ดีเท่าวอร์เรนแน่ ส่วน p/bv ก็เหมือนกันครับ ถ้ากิจการปิดในวันพรุ่งนี้ ตัวนี้คงมีผลมาก เพราะพวก p/e dcf เป็นเรื่องอนาคต แต่ถ้ามันไม่มีอนาคตแล้ว มันจะปิดอยู่แล้วp/bv ก็จะสำคัญ เพราะ พอปิดกิจการ เค้าจะขายทรัพย์สิน จ่ายหนี้ แล้วมาจ่ายผู้ถือหุ้น แต่ไอ้ book value นี้ มันก็ไม่ง่ายที่จะบอกว่ามันมีค่าเท่าไรกันแน่เวลาขายจริงBen เคยบอกว่าหนี้สินเป็นของจริง แต่ทรัพย์สินเป็นสิ่งที่ยังต้องตั้งคำถาม ผมจำตัวเลขแม่นๆไม่ได้ แต่เครื่องทอผ้าของ berkshire เวลาขายจริงน่าจะขายได้แค่ 20% ของBV มั๊ง  :twisted:  :twisted:  :twisted: