ความเสี่ยงของ UPOIC & LST

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
ลูกอิสาน2
Verified User
โพสต์: 130
ผู้ติดตาม: 0

ความเสี่ยงของ UPOIC & LST

โพสต์ที่ 1

โพสต์

หลายๆ ท่านคงได้อ่านข่าว ชาวบ้านบุกยึดสวนปาล์ม...
เข้าใจว่า เป็นสวนปาล์มของ UPOIC (LST ถือหุ้น UPOIC) ด้วยครับ...
หากใครมี 2 ตัวนี้ หรือสนใจ ให้ติดตามข่าวสารด้วยครับ....
เป็นความเสี่ยงที่ละเลยไม่ได้ครับ...
"การลงทุนคืออาหารที่อร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว"
Solo
Verified User
โพสต์: 627
ผู้ติดตาม: 0

ความเสี่ยงของ UPOIC & LST

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ไม่ทราบอ่านข่าวจากไหนครับ ช่วยบอกทีครับ ขอบคุณมาก

ผม กำลังสนใจ ซื้อ กลับนะครับ แต่ ยอมรับว่า เล่นยากมากทั้งสองตัวนี้
ลูกอิสาน2
Verified User
โพสต์: 130
ผู้ติดตาม: 0

ความเสี่ยงของ UPOIC & LST

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เรียนคุณ Solo ..
จากกรุงเทพธุรกิจฉบับวันที่ 24-25 ครับ...
ไม่แน่ใจว่าเป็นสวนปาล์มของ upoic หรือเปล่า(30,000ไร่) ชื่อสหการ...อะไรเนี่ยครับ..

เหตุมาจากว่า ชาวบ้านไม่มีที่ทำกิน แต่รัฐกลับเอาที่ดินให้เอกชนเช่า (เอกชนมาเลเซืี่่ยน = lst ,upoic) ในราคาถูกครับ...ชาวบ้าน (ที่ได้รับการระดม) ก็เลยบุกยึดสวนปาล์มครับ...

เห็นนายกท่านว่า แปลงใดสิ้นสุดสัญญา จะไม่ต่อครับ...แปลงใดหมดสัญญาแล้วจะแจกให้คนจนละ 15 ไร่ครับ...

เืรื่องอย่างนี้ lst upoic น่่าจะแจ้งตลาดหลักทรัพย์นะครับ...และควรแสดงความเสี่ยงใน 56-1 ด้วยครับ...
"การลงทุนคืออาหารที่อร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว"
Solo
Verified User
โพสต์: 627
ผู้ติดตาม: 0

ความเสี่ยงของ UPOIC & LST

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณมากครับ ท่าน ลูกอีสาน
ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1336
ผู้ติดตาม: 0

ความเสี่ยงของ UPOIC & LST

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ตัดจากข่าว คิดว่าเป็น 3 บริษัทนี้ครับ :?:

ธนารักษ์ จ.สุราษฎร์ธานี ยืนยันว่า ไม่เคยอนุญาตให้เอกชนรายใดเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ และไม่เคยให้ 3 บริษัท( บ.วรการปาล์ม, บ.เกษตรกรรมปาล์มน้ำมันไทย ,หจก.ช.เกียรติเจริญ )ที่ครอบครองอยู่ในปัจจุบัน เช่า ทั้ง ๆ ที่ รัฐยืนยันแล้ว แต่ทำไมยังไม่ดำเนินการใด ๆ กับ 3 บริษัทที่ครอบครองมานานนับ 20 ปี แต่ชาวบ้าน เข้าตรวจสอบที่ดินที่ทั้ง 3 บริษัทเพียง แค่สัปดาห์เดียว กลับถูกรัฐกล่าวหาว่าบุกรุก และเตรียมใช้กำลังเข้ากวาดล้างสำหรับแนวทางแก้ปัญหาคงต้องเจรจากันอีกครั้งชาวบ้านจะไม่ออกจากพื้นที่และต้องเกิดการตรวจสอบใหม่
ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1336
ผู้ติดตาม: 0

ความเสี่ยงของ UPOIC & LST

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เพิ่มเติมครับ
:?:
ชาวบ้านจึงต้องเข้าตรวจสอบเอง เนื่องจากที่ดินที่ถูกบุกรุกมีมากกว่าที่ขออนุญาตแปลงที่เกิดเหตุ เป็นแปลงของ บ.ไทยร่วมพัฒนาปาล์ม จำกัด ที่ชาวบ้านบอกว่าเป็นที่ดินของนิคมสหกรณ์ปลายพระยา
ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1336
ผู้ติดตาม: 0

ความเสี่ยงของ UPOIC & LST

โพสต์ที่ 7

โพสต์

บริษัทย่อยของ UPOIC
บจ.พันธ์ศรีวิวัฒน์
บจ.พันธ์ศรี
บจ.ประจักษ์วิวัฒน์

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดในรายการวิทยุ "นายกฯทักษิณคุยกับประชาชน" ว่า การบุกรุกเข้ายึดพื้นที่สวนปาล์มใน จ.กระบี่ และสุราษฎร์ธานี คือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างแรง ที่คนเป็นพันบุกเข้าไปยึด และก็ขโมยปาล์มไปขาย ใช้ไม่ได้ หากบ้านเมืองไม่มีกฎหมายคงใช้ไม่ได้ ถ้าตนจะบริหารประเทศโดยปล่อยให้กฎหมายถูกละเมิดตลอดเวลาคงทำไม่ได้ รัฐบาลทำเรื่องที่ดินโดยให้มีการจดทะเบียนผู้ที่ประสงค์จะเป็นเกษตรกรแต่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง หรือว่ามีแต่มีเอกสารสิทธิไม่มั่นคง มีการวางแผนไว้ เดิมจะเริ่ม 5 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2547 แต่ก็จะหดมานำร่องทดลอง 20 จังหวัดก่อน เริ่ม 5 ธันวาคมปีนี้ รอมาจนชั่วชีวิตรอได้ อยากให้รออีก 2-3 เดือน อย่าทำอะไรผิดกฎหมาย การทำผิดกฎหมายนอกจากจะถูกจำคุกแล้ว อาจจะถูกตัดสิทธิในโอกาสต่อไปด้วย
ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1336
ผู้ติดตาม: 0

ความเสี่ยงของ UPOIC & LST

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ข้อพิพาททางกฎหมาย UPOIC
:?:
ภาพประจำตัวสมาชิก
wpong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1336
ผู้ติดตาม: 0

ความเสี่ยงของ UPOIC & LST

โพสต์ที่ 9

โพสต์

กรณีพิพาทด้านการบุกรุกที่ดินที่สวนเขาพนม โดยกำนันจรัส อุดมศรี ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการฟ้องร้อง ซึ่งกรณีพิพาทนี้ไม่มีนัยสำคัญหรือผลกระทบต่อการลงทุน
ระหว่างปี บริษัท พันธ์ศรีวิวัฒน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯได้รับแจ้งจากกรมธนารักษ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี สังกัดกระทรวงการคลังว่า ที่สัมปทานในเขตอำเภอเคียนซาจำนวน 8,600 ไร่ ซึ่งบริษัท ประจักษ์วิวัฒน์ จำกัด (บริษัทย่อยของบริษัท พันธ์ศรีวิวัฒน์ จำกัด) ได้สัมปทานปลูกปาล์มน้ำมันจากกรมป่าไม้นั้นเป็นที่ดินราชพัสดุ ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของกระทรวงการคลังโดยคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา และได้แจ้งให้ความร่วมมือในการทำสัญญาเช่ามีกำหนดเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ 1 มกราคม 2544 และให้ชำระค่าเช่าที่ดินย้อนหลังตั้งแต่ปี 2534 ถึงปี 2543 เป็นจำนวนเงินประมาณ 11.8 ล้านบาท บริษัท พันศรีวิวัฒน์ จำกัดยังมิได้บันทึกบัญชีค่าเช่าดังกล่าวเนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง
ล็อคหัวข้อ