....... เมื่อเจ้านายไม่อยู่ Version เต็ม.....

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

....... เมื่อเจ้านายไม่อยู่ Version เต็ม.....

โพสต์ที่ 1

โพสต์

............. เมื่อเจ้านายไม่อยู่ Version เต็ม.....................


http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 33.html#58

E-Passport 1 มิถุนายน

Date: Mon, 20 Jun 2005 13:34:35 +0700


คนไทยใช้ E-Passport 1 มิถุนายน
นายเจษฎา ชวาลภาคย์ รองอธิบดีกรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศกล่าว
ถึงนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศในการพัฒนาระบบหนังสือ
เดินทางจากหนังสือเดินทางธรรมดาเป็นหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์

หรือ อี-พาสปอร์ต (e-passport) ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2546
ที่เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ปรับปรุงระบบหนังสือเดินทางไทยให้มีความทันสมัย

ตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือน
ระหว่างประเทศ หรือ ICAOและกระทรวงการต่างประเทศพิจารณาจัดเตรียมโครงสร้างของระบบ
ที่เหมาะสมเพื่อรองรับการจัดทำหนังสือ เดินทางดังกล่าวนั้น ขณะนี้ใกล้เป็นรูปเป็นร่างแล้ว

นายเจษฎาอธิบายถึงอี-พาสปอร์ต ว่าเป็นหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีไมโครชิพ
บรรจุข้อมูลทางชีวภาพของผู้ถือไว้ในเล่ม ตามไอซีเอโอ ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมเอกสารการเดินทาง ตามมาตรฐานของนานาชาติ
ส่วนประโยชน์ของหนังสือเดินทางแบบใหม่ ยากต่อการปลอมแปลง
เสริมภาพลักษณ์ของประเทศ ในเรื่องของความเชื่อถือของหนังสือเดินทาง

ซึ่งจะได้รับการยอมรับในระดับสากล ส่งผลต่อเนื่องในทางบวกด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนและ
การท่องเที่ยวของประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้แม่นยำและรวดเร็ว
อำนวยความสะดวกต่อการเดินทาง การเข้าเมืองทำให้สามารถป้องกันการก่อการร้ายสากลข้ามชาติ

และ การลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย
และอาชญากรรมข้ามชาติ ได้ดีกว่าพาสปอร์ตแบบเก่า
เพราะมีการบรรจุข้อมูลเค้าโครงใบหน้า ลายนิ้วมือและม่านตา และประวัติลงไป

โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับเค้าโครงใบหน้าซึ่งเป็นข้อมูลบังคับของไอซีเอโอนั้น
จะมีเครื่องมือที่เรียกว่า ออโต้ เกต(Auto Gate)ซึ่งจะติดตั้งภายในสนามบินทั่วโลกในอนาคต
คอยตรวจสอบอ่านเค้าโครงใบหน้าของผู้ถืออี-พาสปอร์ต

ถ้าผิดไปจากเค้าโครงเดิมเครื่องจะไม่อ่าน
นายเจษฎากล่าวอีกว่า ถ้าผู้ถือหนังสือเดินทางทำศัลยกรรมใบหน้ามา
ถ้าเป็นการเสริมเติมแต่ง เช่นการ ดึงใบหน้าให้ตึงขึ้น หรือผ่าตัดเล็กๆน้อยๆ ไม่มีปัญหาแน่นอน
เพราะการบันทึกข้อมูลเค้าโครงใบหน้าจะอาศัยจุดหลักๆ
ไม่เกี่ยวกับเนื้อหรือผิวหนังฉะนั้นจะอ้วนหรือผอมลงไม่มีผลแน่นอน

แต่ถ้ามีการทำศัลยกรรมด้านเค้าโครงใบหน้า
โดยตรง
เช่น ผ่าตัดกรามหรือกระดูกต้องมีการบันทึกข้อมูลใหม่ ไม่เช่นนั้นเครื่องออโต้เกตอาจจะไม่อ่าน
สำหรับข้อมูลชีวภาพที่ไอซีเอโอจะกำหนดไว้มีสองข้อมูลคือข้อมูลบังคับและข้อมูลทางเลือก
ข้อมูลบังคับ เป็นเค้าโครงใบหน้าอย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้น

ส่วนข้อมูลทางเลือกมีม่านตาและลายนิ้วมือ
ซึ่งรัฐบาลไทยเลือกข้อมูลลายนิ้วมือ แต่ถ้าในอนาคตทางไอซีเอโอต้องการข้อมูลทางม่านตาเพิ่มก็สามารถใส่เข้าไปได้
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลอื่นๆอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถเปิดเผยได้มากกว่านี้ ส่วนกำหนดโครงการนำร่องใช้อี-พาสปอร์ตนั้น

จะเริ่มเป็นครั้งแรกในวันที่ 26 พฤษภาคม 2548 จะออกให้แก่ทูตและข้าราชการ จากนั้นในวันที่ 1 มิถุนายน
จะออกให้แก่ประชาชนทั่วไป ที่กรมการกงสุล
จากนั้นในวันที่ 31 สิงหาคมจะเปิดบริการทุกสาขารวมถึงต่าง อีก 83 แห่งทั่วโลก

สำหรับค่าธรรมเนียมในการทำเล่มราคา 1 พันบาทเท่านั้น ไม่ได้แพงอย่างที่หลายๆ คนวิตกกัน อย่างไรก็ตาม
ผู้ที่จะมาทำอี-พาสปอร์ต จะต้องเดินทางมาทำด้วยตัวเอง เพราะจะต้องมีการบันทึกข้อมูลทางชีวภาพของผู้ถือหนังสือ

โดยจะมีเครื่องออโต้ เกต ถ้าเค้าโครงใบหน้าไม่ตรงตามข้อมูล ผู้ถือหนังสือเล่มดังกล่าวจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่าประชาชนจะเข้าใจวิธีการใช้อี-พาสปอร์ต ได้อย่างไร นายเจษฎาตอบว่า

ตรงนี้เตรียม แก้ปัญหาไว้แล้ว โดยขั้นแรกจะติดตั้งเครื่องออโต้ เกต ที่กรมการกงสุลโดยทางกรมจะจัดเจ้าหน้า
ที่สอนวิธีการใช้ให้แก่ประชาชนให้มีความเข้าใจในเบื้องต้นก่อน
ส่วนสนามบินต่างๆ จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลในการ
ใช้เครื่องด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม อี-พาสปอร์ตจะใช้ได้ทั้งเครื่องออโต้ เกตและการตรวจหนังสือเดินทางแบบเก่า
คือถ้าผู้ถือ อี-พาสปอร์ต เดินทางไปยังประเทศที่ยังใช้ หนังสือเดินทางแบบเก่า
เจ้าหน้าที่ของประเทศนั้นๆ ก็สามารถตรวจสอบประวัติของผู้ถืออี-พาสปอร์ต ได้เช่นกัน อะไรคือ E Passport อี-พาสปอร์ตหรือชื่อเต็ม
Electronic passportsภาษาไทยเรียกว่าหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์

เป็นรูปแบบของหนังสือเดินทางล่าสุด
ซึ่งเริ่มมีการนำมาใช้ในหลายประเทศ ความพิเศษของอี-พาสปอร์ต
คือการฝังไมโครชิพลงในหนังสือเดินทาง
เพื่อเก็บข้อมูลที่เรียกว่าข้อมูลทางชีวภาพ(biometrics identifier )ของผู้ถือหนังสือ

อาทิ รูปโครงสร้างใบ ลายพิมพ์นิ้วมือ หรือลักษณะม่านตา นอกเหนือจากข้อมูลพื้นฐาน

เช่น ชื่อ-นามสกุล และวันเดือนปีเกิด
ของผู้ถือพาสปอร์ตตามปกติการฝังไมโครชิพที่มีข้อมูลทางชีวภาพเช่นนี้
จะช่วยให้การปลอมแปลงหนังสือ
เดินทางทำ ได้ยากลำบากมากขึ้นเพราะข้อมูลทางชีวภาพเหล่านี้เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล

มีความแตกต่างกัน
การลอกเลียนแบบหรือการปลอมแปลงจึงทำได้ยากมาก นอกจากนี้อี-พาสปอร์ตยังจะช่วยให้การตรวจสอบ
และยืนยันตัวเจ้าของพาสปอร์ตง่ายขึ้นด้วยเพราะสามารถอ่านข้อมูลบนไมโครชิพได้ทันที

โดยไม่จำเป็นต้อง
เปิดเล่มพาสปอร์ตด้วยซ้ำ การพัฒนาอี-พาสปอร์ตเกิดจากแนวคิดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
(International Civil Aviation Organization - ICAO)
ซึ่งเป็นองค์การหลักที่กำหนดมาตรฐานของหนังสือเดิน
ทางทั่วโลก

ปัจจุบันมีสมาชิก 188 ประเทศ ได้เสนอให้มีการทำอี-พาสปอร์ตเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการยืนยันตัว
บุคคลเจ้าของหนังสือเดินทาง
แต่แนวคิดการจัดทำอี-พาสปอร์ตดังกล่าวมาได้รับการขานรับอย่างจริงจังหลังเกิด เหตุวินาศกรรมใน สหรัฐอเมริกา

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ในฐานะหนึ่งในมาตรการในการป้องกันการก่อการร้ายข้ามชาติ
ขณะเดียวกันไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกำลังดำเนินการ
รวมทั้งให้ประเทศอื่นๆอีก 27 ประเทศที่ไม่ต้องวีซ่าเข้าสหรัฐใช้อีพาสปอร์ตเช่นกัน

องค์การสิทธิพลเมืองอเมริกัน(ACLU)ระบุว่า
ข้อมูลที่บรรจุในอีพาสปอร์ตนั้นสามารถขโมยได้ง่ายเช่นกัน

จากคุณ : สุเกียง - [ 11 ก.ค. 48 23:09:14 ]
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

....... เมื่อเจ้านายไม่อยู่ Version เต็ม.....

โพสต์ที่ 2

โพสต์

.........Fw: 13 บ้านผี .........


Date: Wed, 22 Jun 2005 05:03:57 +0000


1..สุสานโสเภณี จ.กาญจนบุรี

สถานบันเทิงเก่าแก่ของจังหวัด เปิดให้บริการกับผู้ชายที่มีความต้องการทางเพศได้มาใช้บริการ
ที่แห่งนี้มีหญิงบริการถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวถูกบังคับให้รับแขกอย่างทารุณ ไม่ได้พักผ่อน
บ้างก็ถูกทำร้ายร่างกาย
บ้างก็เป็นโรคร้ายจนสุดท้ายหญิงสาวทั้งหมดได้เสียชีวิตลงที่นี้อย่างมากมาย จนเราเรียกได้ว่า
เป็น "สุสานโสเภณี" ซึ่งชาวบ้านบริเวณนั้นมักได้ยินเสียงผู้หญิงและเด็กร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อเช้าไปดูก็ไม่พบใครเลย


2. บ้านผีมอญ จ.กาญจนบุรี

คู่สามี-ภรรยาเจ้าของบ้านเป็นคนมอญที่มีนิสัยหวงของมาก จะดุด่าคนที่แอบมาขโมยผลไม้ในสวน
ด้วยความที่เป็นคนหวงของและดุด่าเก่งมาก จึงทำให้ ถูกฆ่าตายแล้วนำศพมาทิ้งไว้ที่ท้ายสวน
วันหนึ่งมี คนเข้ามาเก็บผลไม้ในสวน แกก็ตามไปทวงถึงบ้าน จนคนที่เก็บไปรีบนำมาคืนแทบไม่ทัน
นอกจากจากยัง มีศพชาวกะเหรี่ยง 9 ศพ ที่ถูกวิสามัญฝังอยู่บริเวณบ้านหลังนี้


3. บ้านผมผี จ.กาญจนบุรี

หญิงผู้เป็นเจ้าของบ้านตัดสินใจลาบวชด้วยความเสียใจที่คนในบ้านตายที่ละคนโดยไม่ทราบสาเหตุ
หลังจากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ปล่อยบ้านทิ้งไว้จนกลายเป็นสภาพบ้านร้าง ชาวบ้านบริเวณนั้น
นึกว่าเจ้าของบ้านเสียชีวิตไปแล้ว จึงเข้าไปดูในบ้าน ปรากฏว่าเส้นผมเต็มไปหมด บางคนก็ได้ยินเสียง คนคุยกันอยู่ในบ้าน


4. โรงพยาบาลสยอง จ.ระยอง

ด้วยพิษทางเศรษฐกิจเมื่อหลายปีก่อน ทำให้โรงพยาบาลแห่งนี้ปิดกิจการลงกลายเป็นโรงพยาบาลร้างในที่สุด
ในเวลากลางคืนชาวบ้านมักเห็นไฟเปิดสว่างเต็มไปหมด บางคนก็เข้าไปเห็นเตียงนอนคนไข้เข็นเองได้
กลายเป็นเรื่องราวชวนสยองเลื่องลือถึงกิตติศัพท์ความน่ากลัวมาถึงปัจจุบัน


5. สุสานศพไร้ญาติ จ.ชลบุรี

ศพไร้ญาติทั้งหลายเหล่านี้ถูกนำมาขุดหลุมฝัง เป็นสุสานไร้ญาตินับร้อยนับพันขุดเรียงรายกันเป็นทิวแถวยาว
หลายๆคนเล่ากันว่าเป็น ฮวงซุ้ยที่xxxนมาก


6. บ้าน 4 ศพ จ.ชลบุรี

ครอบครัวหนึ่งประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูก 2 คน เดินทางไปท่องเที่ยว
แต่ระหว่างทางประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำเสียชีวิตทั้งหมด บ้านหลังนั้นกลายเป็นบ้านร้าง
แต่คนที่ผ่านไปมาเห็นเงาคนเหมือนมีคนอยู่ในบ้านอยู่เสมอ
และยังเป็นที่พบศพถูกฆาตกรรมอย่างปริศนา
และมีห่วงเชือกผูกเป็นปมมัดอยู่ในบ้านหลังนั้น


7. บ้านผีนายพล จ.ชลบุรี

เป็นบ้านพักตากอากาศชายทะเลที่ครอบครัวนายทหารมาพักผ่อน และถูกฆาตกรรมทั้งครอบครัว
ศพทั้งหมดถูกยัดไว้ในห้องใต้ดินของบ้านพักต่างอากาศหลังนี้ มีคนเคยเห็นควันธูปลอยขึ้นมาในบริเวณบ้านหลังนี้ด้วย


8. บ้านผียายสรวง จ.อยุธยา

หญิงชราเจ้าของบ้าน ผู้ชอบกินหมาก ได้เสียชีวิตลงภายในบ้าน พร้อมกับโลงศพที่พบภายในบ้าน
จนถึงทุกวันนี้ ผู้คนแถวนั้นยังคงได้ยินเสียงคนแก่พูด และเสียงตำหมากอยู่ทุกค่ำคืน


9. บ้านผีท่านขุน จ.อยุธยา

เป็นบ้านไม้สักเก่าสมัย ร.5 หลังจากที่เจ้าของบ้านเสียชีวิต บ้านหลังนี้ก็กลายเป็นบ้านร้าง
วันหนึ่งมีชาวบ้านพายเรือผ่านมา เห็นมีผู้หญิงอยู่บนเรือนแต่งชุดโบราณสมัย ร.5 เคยมีคนมาลองของที่บ้านหลังนี้ก็เจอดีกันทุกคน
จนต้องมาขอขมากราบไหว้กัน


10. บ้านผีโหด อ.บางเลน จ.นครปฐม

เกิดเหตุทะเลาะวิวาทฆ่ากันตาย พ่อตายิงลูกเขยเสียชีวิตลง แล้วนำศพไปทิ้งไว้ในบ่อหลังบ้าน
ปัจจุบันยังคงมีคราบเลือดที่ขอบกำแพง


11. บ้านผีตายโหง หนองจอก

เป็นบ้านร้างมาเกือบ 10 ปี มีการเล่ากันว่า นอกจากจะมีการฆ่ากันตายในบ้านแล้ว ยังมีผู้หญิงเข้ามาผูกคอตายในบ้านหลังนี้อีก
และยังมีการนำเอาศพมาทิ้งไว้ใต้บันไดเพื่ออำพรางคดีอีกด้วย


12. บ้านตรอมใจ หนองจอก

หญิงสาวเจ้าของบ้านนับถือศาสนาพุทธรับการกระทำของสามีที่นับถือศาสนาอิสลามเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงไม่ได้
ทั้งสองจึ่งทะเลาะวิวาทกัน ฝ่ายชายหนีออกจากบ้านไป ฝ่ายหญิงได้แต่เฝ้ารออยู่ที่บ้านจนกระทั่งล้มป่วยเพราะตรอมใจ
และเสียชีวิตลงในที่สุด ชาวบ้านแถวนั้นมักได้เสียงร้องไห้คร่ำครวญของผู้หญิงเสมอ


13. บ้านเสาตกน้ำมัน จ.ราชบุรี

บ้านทรงไทยที่มีเสาตกน่ำมันไหลจากข้างบนลงมาข้างล่าง ด้วยความที่เป็นบ้านร้างก็มีเถาตำลึงขึ้นเต็มไปหมด
ชาวบ้านไปเก็บปรากฏว่ามีผู้หญิงใส่ชุดไทยมายืนชี้หน้าอยู่


************************************************
iscssn
Verified User
โพสต์: 428
ผู้ติดตาม: 0

....... เมื่อเจ้านายไม่อยู่ Version เต็ม.....

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณพี่สุเกียงครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 0

....... เมื่อเจ้านายไม่อยู่ Version เต็ม.....

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมมีCDเรื่องบ้านผีแล้วยังไม่ได้ดูเลย เมียผมกลัวผีอะ
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
ล็อคหัวข้อ