ท่านปรัชญาครับ UGP

[CEO]

ได้ยินว่าท่านถือไว้จนออกจากตลาด
มีข่าวว่าสยามแกสซื้อไป

ไม่ทราบว่าท่านมีความคิดอย่างไรบ้างครับกับธุรกิจแกสตอนนี้

ผมเองขายไปก่อน WTC ถล่มแล้วก็ไม่ได้สึกษาเรื่องนี้เลยครับ เดิมนั้นซื้อไปเพราะดูงบอย่างเดียว

[ปรัชญา]

8) เป็นการแทงหวยอุตสาหกรรม ได้รางวัลที่1มาครับท่านCEO
พอค้นเอกสารอ้างอิงจากทางตลาดหลักทรัพย์ได้นิดหน่อย

http://www.siamfn.com/siamfn/ism/ps_hol ... ity=UGP%20

ข้อมูลการกระจายหุ้น
วันปิดสมุดทะเบียนฯ 1 ตุลาคม 254526 กรกฎาคม 25459 เมษายน 254511 เมษายน 254410 เมษายน 25435 เมษายน 25427 เมษายน 254118 เมษายน 25405 เมษายน 253918 ตุลาคม 25383 พฤษภาคม 25385 เมษายน 253822 มีนาคม 25371 มีนาคม 2537
จำนวนผู้ถือหุ้น 385
จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย 368
%การถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย 9.79
%การถือหุ้นแบบไร้ใบหุ้น 21.02
%การถือหุ้นของผู้ถือหุ้นต่างด้าว 9.78

ข้อมูลผู้ถือหุ้น
ชื่อ จำนวนหุ้น %
1 นาง อรอนงค์ เฉลิมทรัพยากร 1,687,500 16.07
2 นาง ล้วนมณี อัศวานนท์ 1,047,600 9.98
3 นาย อนุตร์ อัศวานนท์ 1,044,500 9.95
4 น.ส. พัณณิดา เฉลิมทรัพยากร 1,041,450 9.92
5 นาย พงศเฉลิม เฉลิมทรัพยากร 1,040,000 9.9
6 น.ส. ภัทรา เฉลิมทรัพยากร 1,040,000 9.9
7 นาย ศุภลักษณ์ อัศวานนท์ 503,300 4.79
8 น.ส. ศรีสุรางค์ อัศวานนท์ 501,800 4.78
9 STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY, FOR 452,950 4.31
10 บริษัท สปินนีส์ (ประเทศไทย) จำกัด 323,800 3.08
11 HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD 150,100 1.43
12 MITSIAM INTERNATIONAL LTD. 150,000 1.43
13 MITSUI & CO., LTD. 150,000 1.43
14 SG SECURITIES (SINGAPORE) PTE LTD. 125,300 1.19
15 กองทุนเปิด ออมสินพัฒนาภูมิภาค 3 83,700 0.8
16 นาย ปรัชญา ฤกษ์ดีทวีทรัพย์ 75,500 0.72
17 SOMERS (U.K.) LIMITED 55,000 0.52

[ปรัชญา]

ตามข่าวสยามแก๊ส

http://thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=9652

ผมได้เก็บกระทู้นี้ไว้
เพราะมีความผูกพันมั่นคงกันมานาน แบบลืมไม่ลง

[ปรัชญา]

วันนี้ก็มีข่าวลง นสพ.กรุงเทพธุรกิจ
บริษัทสยามแก๊ส จะเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ ไตรมาส4
ผมเคยได้คุยกับรองกรรมการ ทางโทรศัพท์
โดย...คุณ harry (คนหนุ่มมีอนาคต ไฟแรงเชื่อมั่นในตัวเองสูง)
เป็นผู้ติดต่อประสานงานและเอื้อเฟื้อน้ำใจเป็นธุรจัดการให้
ก็ขอขอบคุณ มาณ.ที่นี้

[ปรัชญา]

ได้ยินว่าท่านถือไว้จนออกจากตลาด
มีข่าวว่าสยามแกสซื้อไป

ไม่ทราบว่าท่านมีความคิดอย่างไรบ้างครับกับธุรกิจแกสตอนนี้

ผมเองขายไปก่อน WTC ถล่มแล้วก็ไม่ได้สึกษาเรื่องนี้เลยครับ เดิมนั้นซื้อไปเพราะดูงบอย่างเดียว

ในความเห็นของผมต่ออุตสาหกรรมนี้
หากเป็นจริงตามข่าวลือ
ที่ทางโนมูระ(ญี่ปุ่นจะเทคปิกนิค)
ประเทศไทยคง มีการผูกขาดเพียง3เจ้า
อันดับ1.ปตท
อันดับ2.คงต้องแย่งกันระหว่างปิคนิคกับสยามแก๊ส
ในตัวเลยจำนวนถังบรรจุที่หมุนเวียนในตลาดเมืองไทย
ตลอดถึงโรงบรรจุซึ่งนับรวมที่ทั้ง2บริษัทนี้ เทคกันมา
สูสี 50/50
แต่ชั่วโมงบินเรื่องค้าขายในอุตสาหกรรม ผมยกให้สยาม
แต่ชั่วโมงบินเรื่องข่าว กับพลังทางการเมืองปิคนิคคงเหนือกว่า

WTC ผมมีข้อมูลไม่มากพอจะนำเสนอครับ
คงต้องรอผู้รู้มาเปิดเผยต่อ

[ปรัชญา]

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2548

ผ่าเส้นทางธุรกิจแก๊ส จับตาศึกเบอร์สอง ปิคนิคพบสยามแก๊ส

การแข่งขันเพื่อแย่งชิง การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ผู้ผลิตก๊าซหุงต้มหรือปิโตรเลียมเหลว ทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งคือบริษัทปตท.มีส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์)ประมาณ 40% ขณะที่อันดับรองลงมา มีมาร์เก็ตแชร์ประมาณ 20-30%นั้นมี 2 บริษัท คือ สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัล กับ ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น (PICNI) ทั้งคู่พยายามแข่งขันและช่วงชิงมาร์เก็ตแชร์มาให้ได้มากที่สุดเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของเอกชน หากไม่นับบริษัท ปตท.ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ

บริษัท ปิคนิค ได้เริ่มแผนขยายการลงทุนก่อนสยามแก๊สโดยปลายปี 2546 ได้เข้าแบล็คดอร์ลีสซิ่งบริษัทบีจีเอส เอ็นจิเนียริ่ง (BGES) ซึ่งอยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ โดยให้บริษัท ยูเนียน แก๊ส แอนด์ เคมิคัลล์ เดิมเป็นของตระกูล ลาภวิสุทธิสิน เป็นบริษัททำรายการ ระยะเวลาการดำเนินธุรกิจได้เพียง 10 ปี ขณะที่บริษัทสยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลเดิมชื่อบริษัทอุตสาหกรรมแก๊สสยามซึ่งดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี

ความสัมพันธ์ในการทำธุรกิจระหว่าง 2 บริษัท ไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะเป็นคู่แข่งทางธุรกิจการเดินเกมขยายกิจการที่แตกต่างกันด้านปิคนิคจะใช้โหมลงทุนรุกรวดเร็วตามสไตล์ผู้บริหารรุ่นใหม่และภายใต้การบริหารงานของนายธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน กรรมการผู้จัดการ เป็นคนเดินเกมโดยมีนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน รมช.พาณิชย์ เป็นประธานที่ปรึกษาบริษัท ปิคนิค ขณะที่บริษัทสยามแก๊ส บริหารในรูปแบบคนรุ่นเก่า เป็นผู้มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี และล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้เริ่มโอนให้กับบุตรชายเข้ามาดูแลงานแทน

หากพิจารณาแผนการขยายการลงทุนของปิคนิค ตั้งแต่ปลายปี 2547 กลุ่มบริษัท เอส เอช วี แก๊ส เอ็น.วี.ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) ได้ตระเวนเร่ขายบริษัทให้กับผู้ประกอบธุรกิจผลิตปิโตรเลียมเหลวโดยติดต่อขายให้กับบริษัทสยามแก๊ส และบริษัทปิคนิค ซึ่งทั้งคู่เป็นคู่แข่งทางธุรกิจ

แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมแก๊ส กล่าวว่า การที่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมต้องการขายเวิลด์แก๊ส เนื่องจากการแข่งขันทางธุรกิจทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างกำไรอยู่ในระดับต่ำและไม่คุ้มค่ากับการลงทุนจึงตัดสินใจขายออก ซึ่งระหว่างนั้นบริษัทสยามแก๊ส กับ ปิคนิค ก็แสดงความสนใจที่จะเข้าลงทุน ต่อมามีการเข้าประเมินฐานะและภาพรวมของธุรกิจเวิลด์แก๊ส ซึ่งในเบื้องต้นเท่าที่ทราบทางกลุ่มสยามแก๊สได้ตอบประกาศปฏิเสธทันที

เมื่อสอบถามไปยังบริษัทสยามแก๊ส ได้รับคำอธิบายว่า สาเหตุที่ไม่สนใจลงทุนในเวิลด์แก๊ส เนื่องจากช่องทางการตลาดเกิดความซ้ำซ้อน

และลูกค้าส่วนใหญ่เป็นรายเดียวกัน ซึ่งเป็นธุรกิจก๊าซหุงต้ม และเพื่อใช้ในการงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้เท่าที่ประเมินสินทรัพย์ของบริษัทมีจำนวนน้อยเกินไป เช่น ท่าเรือ โรงบรรจุแก๊สบางแห่งได้ใช้วิธีเช่าพื้นที่แทน ดังนั้นสินทรัพย์จึงไม่ได้เป็นของเวิลด์แก๊สอย่างแท้จริง ทำให้บริษัทสยามแก๊สปฏิเสธการเข้าซื้อในครั้งนี้

ต่อมาช่วงปลายปี 2547 บริษัท ปิคนิค ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของบริษัทเวิลด์แก๊สโดยใช้เงินสดทุ่มซื้อจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมประมาณ 1.11 พันล้านบาท สำหรับขนาดรายการที่ลงทุนเท่ากับ 14.75% ของสินทรัพย์ของปิคนิค ณ 30 มิ.ย.2547

"ถ้าหากถามว่าปิคนิคทุ่มซื้อเวิลด์แก๊สในราคาดังกล่าวจะคุ้มหรือไม่ และแพงเกินไปหรือเปล่า คงไม่สามารถประเมินได้ เพราะแต่ละคนจะมีวัตถุประสงค์การเข้าลงทุนที่แตกต่างกัน แต่เท่าที่รู้บริษัทสยามแก๊สไม่ซื้อเพราะคิดว่าไม่คุ้ม" แหล่งข่าวกล่าว

นอกจากนี้ ถ้าหากคิดว่าราคาที่ปิคนิคลงทุนมีราคาสูงอาจจะประเมินได้จากการที่กลุ่มผู้ถือหุ้นเป็นต่างชาติและมีการลงทุนทั่วโลก ดังนั้น หากขายสินทรัพย์ ก็ต้องเอาให้คุ้มค่ากับการลงทุน รวมทั้งถือว่าเป็นผลงานของผู้บริหารต่างชาติที่บริหารงานไทย ถ้าขายได้ราคาสูง ดังนั้นราคาดังกล่าวจึงเป็นราคาที่เขายอมขายให้ปิคนิค

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ปิคนิคโหมเข้าลงทุนบริษัทต่างๆ ตั้งแต่การลงทุนจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศสิงคโปร์ และลงทุนในบริษัท เอส.เอส.ซี. เปโตร ดีเวลลอปเมนท์ ในประเทศเวียดนาม ต่อมาประกาศซื้อบริษัทปิคนิค มารีน และมีการประกาศแผนจะจัดตั้งโรงงานผลิตและจำหน่ายเอทานอล แม้ว่าจะผ่านไป ความคืบหน้าของโครงการดังกล่าวเงียบหายไป และต้องหยุดชะงัก หลังจากที่สำนักงาน ก.ล.ต.ประกาศให้แก้ไขงบการเงิน และนายธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน กรรมการผู้จัดการ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง

ขณะเดียวกัน หากเมื่อหันกลับไปพิจารณาบริษัทสยามแก๊ส ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งของปิคนิค เริ่มมีการเคลื่อนไหวเมื่อปลายปีก่อนการดำเนินการจะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป โดยปลายปี 2547 บริษัทสยามแก๊สได้เข้าเทคโอเวอร์บริษัทยูนิคแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิคัลส์ ซึ่งเคยเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และมีผู้ถือหุ้นต่างชาติได้ขอเพิกถอน จากนั้นบริษัทสยามแก๊สได้เข้าไปลงทุนซื้อกิจการโดยใช้เงินประมาณ 2 พันล้านบาท จากนั้นก็นำมาควบรวมกิจการกับบริษัทอุตสาหกรรมแก๊สสยาม เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทสยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัล และวางแผนจะนำกลุ่มธุรกิจแก๊สเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ปลายปีนี้ และการควบรวมกันส่งผลดีทำให้บริษัทสยามแก๊สเติบโตมากขึ้นและกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นประมาณ 20%

รูปแบบการบริหารงานบนความแตกต่างกัน แต่เป้าหมายเดียวคือการเป็นผู้นำในภาคเอกชนของอุตสาหกรรมแก๊ส ดังนั้น การทำทุกวิถีทางจึงเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน ได้เข้ามารับตำแหน่งทางการเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างคู่แข่งทางธุรกิจกลับเปลี่ยนเป็นมิตรได้เหมือนกัน เปรียบเสมือนสุภาษิตที่ว่าไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูที่ถาวร


หัวรับ : สยามแก๊ส รอจดทะเบียนขยายกิจการ

http://www.bangkokbiznews.com/2005/06/2 ... s_id=16455

[harry]

เฮียพูดถึงหลายรอบแหะ

ยังงัย ผมก็คงได้พึ่งเฮียมากกว่าแน่นอน เรื่องแค่นี้ ทำให้ได้ ก็ยินดีทำให้ครับ

[CEO]

ถ้ามีการแข่งขันมากๆ ราคาแกสก็น่าจะถูกลงนะครับ

แต่นี่มีแต่ขึ้น


ผมไปกินข้าวตามร้าน แม่ค้าชอบบ่นให้ฟังว่าแกสแพง
เราก็ได้แต่กินไปแล้วคิดว่า ได้จ่ายค่าข้าวแพงขึ้นอีกแล้วตรู

[ปรัชญา]

เฮียพูดถึงหลายรอบแหะ

ประทับใจ
ความมีน้ำใจของคนหนุ่ม
ปกติ ไหว้วานใครเขาไม่สนใจคนแก่
นี่รบกวนตั้งแต่หนังสืออัมรินทร์+สยามแก๊ส


ถ้ามีการแข่งขันมากๆ ราคาแกสก็น่าจะถูกลงนะครับ

แต่นี่มีแต่ขึ้น


ผมไปกินข้าวตามร้าน แม่ค้าชอบบ่นให้ฟังว่าแกสแพง
เราก็ได้แต่กินไปแล้วคิดว่า ได้จ่ายค่าข้าวแพงขึ้นอีกแล้วตรู


มันกลายเป็นผูกขาดครับท่านCEO
ปตท.มาขายให้2บริษัท
เขานัดราคาไหนก็ราคานั้น
ยิ่งแท็กซี่ กรุงเทพใช้แก๊ส(ถามตอนไปงานมีตติ้งTVI)
โรงไฟฟ้าใช้แก๊ส ห้ามขนย้ายถ่านหุงข้าวเกิน2กระสอบ
อนาคตตลาดยังเติบโตในอัตราสูง
ข้าวราดแกงคงเริ่มลืมเรื่องแก๊ส

มาสนใจไข่ไก่
น่าจะเป็นปีที่ไข่มีราคาสูงที่สุด
4.50บาทแล้ว

[ลูกอิสาน]

ทราบว่าตอน UGP โดนเทคโอเวอร์ทำเอาพี่ๆหลายท่านรวยไปเลย
ทั้งพี่ปรัชญาที่ถือเยอะที่สุด พี่มน และพี่ CK

อยากถามความรู้สึกพี่ว่า วันนั้นที่รู้ข่าวเทคโอเวอร์
รู้สึกอย่างไรบ้างครับ นอนหลับหรือเปล่า
เพราะจำได้ว่าราคาเสนอซื้อสูงกว่าราคาตลาดมากเกือบๆ 2 เท่าใช่ใหม่ครับ

และพี่ๆขายในตลาดหรือเปล่า หรือขายคืนให้บริษัทที่ราคารับซื้อครับ
ถ้าขายให้บริษัท มีขั้นตอนที่ยุ่งยากหรือเปล่าครับ

[ปรัชญา]

เอ่อ ราคาเสนอซื้อออกจากตลาด
237 บาท จำได้ไม่ค่อยแม่นครับ
ผมจำราคาก่อนมีข่าวเทนเดอร์ไม่ได้ ว่าราคากระดานอยู่เท่าไหร่
เพราะถืออยู่5-6ปี ต้นทุนราคาเฉลี่ย/หุ้นที่34.25บาท
แต่รับปันผล มา 5.75+ 0.50+5+7+11+14 บาท
ผมยกให้ทาง บล.จัดการขายและโอนเงินเข้าบัญชีให้ครับ
เสียค่าขายเท่ากับที่เราขายในกระดาน
ได้รับการยกเว้นภาษีรายได้ จากการขายหุ้น

นอนหลัีบหรือเปล่า
ทำการบ้านครึ่งคืน สรุปขายได้ราคาที่ถูกไป
มูลค่าที่เป็นธรรม ควรจะอยู่ที่356-360บาท

เนื่องด้วยมีกำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรร
มีเงินมัดจำถังก๊าซ 1,800กว่าล้านบาท
บริษัทย่อย รถขนส่งแก๊ส150กว่าคัน
คลังแก๊ส3แห่ง ท่าเทียบเรือ เรือบรรทุกแก๊ส2ลำ(ลำละประมาณ250-300ล้านบาท)
ค่าแบรนด์โลโก้ของบริษัท อื่นๆอีก

เนื่องด้วยยูนิคไปเทคเอา บริษัทแก๊สตราดาวมา500ล้านบาท
มีบริษัทร่วมทุนกับโมบิลออย จัดจำหน่ายแก๊สและน้ำมันที่เวียดนาม

โอ้ จำได้แค่นี้ี้
เกิดมาชาตินี้ก็คงโชคดีแค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วครับคุณอิสาณ

[Dr.T]

เกิดมาชาตินี้ก็คงโชคดีแค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วครับคุณอิสาณ

อยากโชคดีแบบนี้มั่งจังครับ :lol: :lol:

[ลูกอิสาน]

เอ่อ ราคาเสนอซื้อออกจากตลาด
237 บาท จำได้ไม่ค่อยแม่นครับ
ผมจำราคาก่อนมีข่าวเทนเดอร์ไม่ได้ ว่าราคากระดานอยู่เท่าไหร่
เพราะถืออยู่5-6ปี ต้นทุนราคาเฉลี่ย/หุ้นที่34.25บาท
แต่รับปันผล มา 5.75+ 0.50+5+7+11+14 บาท
ผมยกให้ทาง บล.จัดการขายและโอนเงินเข้าบัญชีให้ครับ
เสียค่าขายเท่ากับที่เราขายในกระดาน
ได้รับการยกเว้นภาษีรายได้ จากการขายหุ้น

นอนหลัีบหรือเปล่า
ทำการบ้านครึ่งคืน สรุปขายได้ราคาที่ถูกไป
มูลค่าที่เป็นธรรม ควรจะอยู่ที่356-360บาท

โอ้ จำได้แค่นี้ี้
เกิดมาชาตินี้ก็คงโชคดีแค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วครับคุณอิสาณ

ยิ่งกว่าถูกหวยอีกครับพี่ กำไร 19 ล้าน
ลงทุน 2.6 ล้าน แค่ได้รับปันผล 5 ปี ก็มากกว่าต้นทุนแล้ว
แต่พี่อึดมากนะครับ ถืออยู่ตั้ง 5 ปี เป็นผมคงทำไม่ได้
โชคก็มีส่วน แต่ที่เหลือเป็นฝืมือล้วนๆครับ



บางทีได้ฟังเรื่องราวที่ประสบความสำเร็จ ของพี่ๆแล้ว
ทำให้ได้แนวคิด และกำลังใจครับ :lol: :lol: