เรื่อง Megaproject

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
Invisible hand
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 360
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมไม่แน่ใจว่ารัฐจะคิดถูกหรือผมคิดถูกนะครับ

อย่างสร้างรถไฟฟ้าไปถึงมหาชัย ระยะทางหลายสิบกิโล ผมเคยอ่านว่าเหตุผลหลักๆ คือ ต้องการย้ายคนไปอยู่แถวนอกเมืองให้เยอะๆ แล้วขนเข้ามา ผมเลยคิดว่าค่าโดยสารหากคิดจากมหาชัยเข้ากรุงเทพฯ ให้ซัก 40 บาทต่อเที่ยว ( ซึ่งน่าจะเป็นค่าโดยสารที่ต่ำมากหากเทียบกับระยะทาง ) ไปกลับก็ 80 บาท หากครอบครัว 3 คนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทุกวันก็จะใช้เงินวันละ 240 บาท ทำงานเดือนและเรียนเดือนละ 20 วันก็ตกเดือนละ 4,800 บาท ยังไม่รวมค่ามอเตอร์ไซค์ หรือรถเมล์ที่ต้องนั่งต่อไปยังจุดหมายปลายทางหรือนั่งกลับบ้านอีกเพราะบ้านหรือที่ทำงาน โรงเรียน คงไม่ได้อยู่ตรงสถานี หากให้กลุ่มคนที่จะไปซื้อที่อยู่อาศัยที่มหาชัย เป็นกลุ่มคนที่ซื้อบ้านระดับ 5 แสนถึง 1 ล้านบาท ก็น่าจะมีเงินเดือนต่อครอบครัว 1-2 หมื่นบาท ค่าเดินทาง 4,800 ++ บาทต่อเดือนไม่น่าจะไหวนะครับ และผมไม่คิดว่าจะมีคนงานที่ทำงานแถวสมุทรสาครจะมีธุระต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ บ่อยนัก และถึงมีธุระ ค่าโดยสารไปกลับ 80 บาทจะไหวหรือ

ผมเชื่อว่ารถไฟฟ้าอีกหลายสายที่ไปไกลๆ ก็น่าจะประสบปัญหาคล้ายๆ อย่างนี้

ต้องขออภัยด้วยนะครับหากใครที่มีบ้านที่อยู่ในเส้นทางรถไฟฟ้าจะสร้างไปถึง จริงๆ ก็ผ่านบ้านผมด้วยแฮะ ถึงแม้สายที่ผ่านบ้านผมจะเสร็จผมก็ไม่แน่ใจว่าจะใช้บริการหากไม่มีที่จอดรถดีๆ เพราะไม่งั้นจะต้องนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าซอยซึ่งมีรถมากจึงปัญหาเรื่องความปลอดภัยโดยเฉพาะหากฝนตก ผมเชื่อว่ามีพ่อแม่จำนวนมากก็คิดเรื่องนี้โดยเฉพาะหากมีลูกสาวต้องออกจากซอยเช้าๆ หรือกลับบ้านดึก

ผมจึงไม่แน่ใจว่า megaproject หลายๆ อย่างที่รัฐกำลังจะทำนี่จะคุ้มค่าในแง่การลงทุนหรือเปล่า แทนที่จะต้องย้ายคนไปไกลๆ ทำไมไม่จัดผังเมืองให้ดี ตัดถนนให้เป็นก้างปลาเยอะๆ เพื่อใช้ประโยชน์จากที่ดินตาบอดให้มากที่สุด เพราะผมเห็นถนน main หลายแห่ง ที่ติดถนนเป็นตึกแถว ข้างหลังเป็นป่า จัดผังเมืองแถวเพชรเกษม พระราม 2 ใหม่ ให้โรงงานทยอยย้ายออกไป ปรับพื้นที่สีเขียวบางส่วนให้พัฒนาได้มากขึ้น น่าจะดีกว่าครับ

ผมคิดว่าหากรัฐจะลดการใช้น้ำมันอย่างได้ผลจริงๆ ก็คือ พัฒนาการขนส่งทางรถไฟ ทำรถไฟรางคู่ ให้การขนส่งสินค้าส่วนใหญ่เป็นทางรถไฟให้ได้ ตรงนี้จะลดได้เยอะเลยเพราะที่เราใช้น้ำมันต่อ GDP เยอะกว่าเพื่อนบ้านก็เป็นเรื่อง logistics นี่แหละครับ นอกจากจะช่วยลดการใช้น้ำมันดีเซลในรถสิบล้อแล้วก็ยังลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมถนนในแต่ละปีได้เยอะทีเดียวครับ เฮ้อ ผมรู้ว่ามันทำยากมั้งครับด้วยเหตุผลที่เราพอจะรู้ๆ อยู่

ที่ผมตั้งกระทู้นี้เพราะอดเป็นห่วงอนาคตของประเทศไม่ได้ครับ เราขาดดุลการค้าเร็วกว่าที่คิดไว้เยอะ และจะต้องขาดดุลมากขึ้นหากเริ่มลงมือสร้าง megaproject ถึงตอนนี้เราจะขาดดุลทั้งภาครัฐและดุลบัญชีเดินสะพัด สภาพคล่องในประเทศจะตึงตัวเพราะรัฐจะแย่งเงินกู้จากเอกชนและดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น และยิ่งหากการลงทุนไปได้ผลตอบแทนต่ำ คือ รายได้น้อย และลดการใช้น้ำมันได้น้อยกว่าที่คิด มันก็จะยิ่งซ้ำเติมปัญหาเข้าไปอีกครับ ไม่ทราบเพื่อนๆ มองยังไงบ้างครับ
โป้ง
Verified User
โพสต์: 2326
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ในระบบ Havy rail เขามีหลักการ ต้องลากจากชานเมืองนอกสุดฟากหนึ่ง ไปยัง ชานเมืองสุดอีกฟากหนึ่ง

แบบในเมืองนอกหลายๆประเทศ (ยิ่งในบางประเทศ มีการต่อออกไปสู่เมืองใกล้เคียง)

มันเกี่ยวโยงกับเรื่องผังเมือง คล้ายๆเมืองนอก คือคนจะเริ่มย้ายถิ่นไปอยู่แถวรอบๆเมือง ปริมณฑล (ลองสังเกตุดูครับโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ ที่เกิดขึ้น)

ระบบ logistics หรือ สาธาณูปโภค หลักๆ เป็นอะไรที่ลงทุนหนัก โครงการแต่ล่ะโครงการเลยมักถูกคัดค้าน ลองนึกดูครับ ถ้าเราเป็นนักวิชาการในสมัยก่อนจะมีการลากทางรถไฟ จากเหนือ-ลงใต้ ต้องตัดภูเขา ข้ามหุบ ทำอุโมงค์ ตลอดเส้นทางใช้งบมหาศาล , หรือ การวางระบบอุโมงค์ท่อน้ำทิ้ง (ไม่ใช่แบบในปัจจุบันนะครับ) เราก็คงไม่เห็นด้วยกับงบที่ลงทุนไป เมื่อผ่านระยะเวลาการใช้ประโยชน์มีมากขึ้น ประโยชน์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การวางระบบที่ดีจะได้ผลดียาวนานครับ
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ครับ ต้องแก้ที่ต้นเหตุครับ คือสร้างให้เมืองนั้นๆมีแหล่งงาน มีแหล่งเรียน มีแหล่งการค้า หรืออื่นๆ จนกระทั่ง พึ่งพาตนเองได้ โดยไม่ต้องเข้ามา หรือเข้ามาก็นานๆมาที มาเที่ยว

ถ้ายังพยายามสร้างให้ทุกจังหวัดเข้ามาง่ายๆ ก็เหมือนกับ ยิ่งทำให้กรุงเทพที่ผังเมืองเน่าๆ ต้องแบกรับภาระค้นล้นเมือง ซึ่งปัจจุบันก็แย่แล้วครับ

ผมเคยไป น้ำตกทีลอซู นานแล้ว และได้ถามว่าทำไมไม่สร้างถนนเข้าไป ผู้ดูแล ( ใหญ่สุด จำตำแหน่งไม่ได้ จบเกษตรศาสตร์ ) ท่านบอกว่า ที่ไม่ได้สร้างถนนเข้าไป เพราะต้องการให้เข้ายากๆ เพื่อรักษาธรรมชาติไว้ให้คนรุ่นหลาน
jaychou
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 4

โพสต์

กรณีคนอยู่มหาชัย... ผมว่าสุดโต่งไปหน่อยครับ ถ้าค่าใช้จ่าย 4800 บาทตามสมมุติฐาน ...ลองหาทางเลือกให้คนอยู่มหาชัยอย่างที่ท่าน IH ว่าหน่อยครับ
ถ้าถอยรถเล็ก(ECO CAR)ซักคัน 300,000 บาท ผ่อน 5 ปี ไม่มีดอกเบี้ย
ต้องจ่ายเดือนละ 5000 บาท ค่าน้ำมันประมาณ 100 บาทต่อวัน(ประหยัดสุดๆ)
ทำงาน 20 วัน สรุปต้องจ่ายเดือนละ 7000 บาท .... ค่ารถไฟฟ้า 4800 บาท ก็ยังเป็นทางออกที่ถูกกว่านะครับ ถ้ายืดเวลาผ่อนไปเป็น 9 ปี ไม่มีดอกเบี้ย จะได้ค่าใช้จ่ายประมาณ 4800 บาท ใกล้เคียงกับโจทย์

หากจะตั้งสมมุติฐานว่าทำรถไฟฟ้าผ่านไปจุดใดแล้ว องค์ประกอบอื่นๆ
เช่นรถรับจ้าง การใช้ที่ดินรอบข้าง พฤติกรรมการใช้รถส่วนบุคคล ยังเหมือนเดิม
ผมว่าไม่คุ้มครับ แต่ภาพที่เห็นจริง..ส่วนมากผู้คนที่อยู่ในเส้นทางรถไฟฟ้าก็ลดการใช้รถยนต์ไปได้มาก ...เพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ เติบโตในเส้นทางคมนาคมมากขึ้นตามไปด้วยเป็นปกติครับ (ผมสังเกตห้าง Modern Trade เกิดขึ้นตามเส้นทางรถไฟฟ้าเกือบทุกจุด BIGC สะพานควาย Lotus พระราม 1 อ่อนนุช HMPRO เพลินจิต ... อย่างน้อยๆก็ต้องมี 7-11 นะ)

กลับไปที่กรณีคนอยู่มหาชัย หากมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นตามเส้นทางรถไฟฟ้า
นั่นหมายถึงเค้าไม่ต้องนั่งรถไฟฟ้าเข้ามาใจกลางเมืองเพื่อทำงาน เค้ามีโอกาสหางานในธุรกิจที่เกิดขึ้นตามเส้นทางได้อีกครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ถ้าเส้นทางมีทั่วถึง น่าจะทำให้คนใช้มากขึ้น ต้นทุนต่อหัวน่าจะลดลง จนทำให้เป็นการเดินทางที่ถูกและคุ้มค่า

ถ้าเทียบกับรถเมล์แล้ว ก็ยังแพงกว่า แต่ถูกกว่าแท็กซี่ครับ

อยู่กลางๆจะเวิร์คมาก
Expecto Patronum!!!!!!
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เห็นเมืองกัวลาลัมเปอร์ก็เป็นแบบนี้ครับ แต่เขาจะสร้างแฟล๊ดคนจนขนาดยักษ์ไว้ที่สุดสถานีด้วย คนที่ไปอยู่จะได้ซื้อแฟล็ตในราคาต่ำแต่จะไม่มีทางเลือกในการเข้าเมืองอย่างอื่นนอกจากรถไฟฟ้า พอทุกคนต้องขึ้นรถไฟฟ้า ก็จะทำให้ต้นทุนต่อหน่วยถูกลง ทำให้พอไปได้ แต่ยังไงรัฐก็ยังต้อง subsidize ด้วยส่วนหนึ่ง

คนที่ลงทุนใน mega project ่น่าจะขาดทุน (ส่วนใหญ่คือรัฐ) คนที่ได้ใช้สอยคือคนที่ได้กำไร หักลบกันแล้วประเทศน่าจะได้กำไรนิดหน่อย (ถ้าขาดทุน ห้ามทำเด็ดขาด)
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 7

โพสต์

(ถ้าขาดทุน ห้ามทำเด็ดขาด)
ผมว่าบางที ขาดทุนก็ต้องยอมนะ เพราะถ้าไม่ถูกจนดูน่าใช้ คนก็ไม่ใช้นะครับ ถ้าไม่ใช่เส้นทางบังคับ

อย่างปัจจุบัน ถ้าผมจะไปไบเทค บางนา ดูงาน ผมก็จะนั่งรถไฟฟ้าไปอ่อนนุช แล้วต่อรถเมล์ไป ไม่นั่งรถบริการเพิ่ม

แต่ถ้ามีไปถึงแยกบางนาเลยเนี่ย (ตามแผนไปถึงสำโรง) ผมว่าคนจะนั่งรถไฟฟ้าไปงานนี้มากขึ้นแน่นอน (เช่นเดียวกับศูนย์สิริกิติ์ รถไฟใต้ดินแน่นมาก ถ้ามีงาน) เพราะความสะดวก ทำให้คนเปลี่ยนมาเดินทางแบบนี้ และปริมาณรถก็น้อยลงด้วย จริงๆนะ

แต่ผมก็เชื่อว่า คนไทย ยังเลือกการมีรถส่วนตัวอยู่ดี เพราะผมไปงานบางงาน ก็อยากซื้อเยอะๆ แล้วใส่รถเอากลับบ้าน แต่พอไม่มีรถ ก็เลยซื้อนิดเดียว
Expecto Patronum!!!!!!
dikdik
Verified User
โพสต์: 129
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 8

โพสต์

การพัฒนาประเทศโดยพยายามกดค่าแรงคนให้ต่ำๆ เพื่อป้องกันปัญหาเงินเฟ้อ นานๆไปก็จะเจอปัญหาอย่างนี้ ค่าแรงคนเพิ่มไม่ทันอัตราเงินเฟ้อ เพราะเงินเฟ้อถูกกดดันมาจากปัจจัยภายนอกประเทศ เมื่อไหร่ผู้นำประเทศจะหาทางพัฒนาการศึกษาให้คนไทยมีความรู้ความสามารถมากขึ้นจนค่าแรงมีอัตราเพิ่มมากกว่าอัตราเงินเฟ้อ ถ้าค่าแรงคนไทยสูงขึ้นก็คงสามารถอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ได้โดยไม่เดือดร้อน ผมต้องการเมกาโปรเจคทางด้านการศึกษาเยอะๆ
jaychou
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 9

โพสต์

จะเอาเงินจากไหน มาลงทุนใน megaproject

โจทย์นี้ตอบยาก...ถ้ามองที่รถไฟฟ้าอย่างเดียว เก็บค่าตั๋วถูกๆ ผลตอบแทนต่ำมาก จนเอกชนไม่มาลงทุน ทางหนึ่งคือให้แรงจูงใจเป็นสัมปทานสิทธิในการพัฒนาสาธารณูปโภคต่อเนื่องตลอดเส้นทาง รวมเป็น package ให้กับผู้ประมูลได้ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่น่าจูงใจพอสำหรับเอกชนให้มาลงทุน เช่นให้สิทธิการใช้ที่ดินรอบข้างสถานี เช่นสร้างแฟลต คอนโด หรืออพาร์ตเมนต์ เหมือนท่านสุมาอี้ว่าไว้ หรือศูนย์การค้า อาคารสำนักงานในบริเวณที่สามารถพัฒนาเป็น CBD ได้

เอ..ทำแบบนี้จะยิ่งกลายเป็น double megaproject หรือเปล่านะ ..
mustang
Verified User
โพสต์: 375
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 10

โพสต์

เอหรือจะเป็นแบบ CTX ครับ
buglife
Verified User
โพสต์: 942
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 11

โพสต์

สร้างเถอะครับ ที่มีอยู่ถือว่าน้อยมากถึงมากที่สุด

ค่อยๆ ทำไป รอมานานแล้ว รออีกหน่อยจะเป็นไร :cry:
ภาพประจำตัวสมาชิก
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 12

โพสต์

จะสร้างก็สร้างเถอะครับ อย่างน้อยๆจะได้มีกิจกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป


ผมลุ้นรถไฟฟ้ามาจนเหนื่อย
จำได้ว่า รมต สมัคร สมัยนั้นตั้งการทางพิเศษมาในปี 2517 หรือ 2518
มีโครงการรถไฟฟ้าสวยหรู
แต่จนบัดนี้ 30 ปีผ่านไป
ยังสร้างไม่ได้เท่าโครงการสมัยเริ่มแรกเลย
สาเหตุประการหนึ่งคือมีวิศวกรโยธามีชื่อบางคนออกมาค้านและโครงการก็พับไป

เพียงแต่การสร้างขอให้เอาคนรู้จริงๆและไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวมมาทำงานก็พอครับ
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
ภาพประจำตัวสมาชิก
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ประเทศไทยเสียโอกาสไปเท่าไหร่
ใครได้ประโยชน์จากตรงนั้น
คงจะรู้ๆกันอยู่

การสร้างรถไฟฟ้าก็เพื่อให้คนเดินทางโดยสะดวกยิ่งในยุคน้ำมันจะหมดโลกแบบนี้
ทำไมประเทสที่เจริญแล้วทั้งหลายจึงพยายามสร้างรถไฟฟ้ากัน

ผมไม่คิดว่าทางสายมหาชัยจะเป็นการย้ายคนออกไปอยู่และขนเข้ามาทำงานครับ
มหาชัยคือแหล่งงานแห่งหนึ่งครับ มีโรงงานมากมาย มีนิคมอุตสาหกรรมครับ

และสายรังสิต-มหาชัยคือเส้นทางตรงในการเดินทางจากเหนือลงใต้ที่สะดวกครับ
ใครนึกภาพไม่ออกลองกางแผนที่ดูครับ

คนงานสามารถขึ้นเหนือลงใต้ไปทำงาน

คนงานจากอีสานต่อรถไฟฟ้ารวดเดียวจากฮับที่นรังสิตไปทำงานที่มหาชัย
ผมมองแคบไปหรือเปล่า
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
ภาพประจำตัวสมาชิก
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 14

โพสต์

สายสีแดง มหาชัย-รังสิตนี้จะเป็นสายที่สำคัญยิ่งในอนาคตครับ เป็น transfer line ในการเดินทางข้ามเมืองหลวงจากเหนือและอีสานไปใต้ที่ตรง ประหยัดเวลาและระยะทางครับ

แต่ดูๆไปมันทับเส้นทางของ รฟท เดิมอยู่
แต่ว่าทางรถไฟเดิมนั้นไม่สามารถเดินทางตรงจากเหนือไปใต้ได้แบบเดียวกับรถไฟฟ้า

คำถามคือว่าทำไมทางรถไฟเดืมถึงไม่สามารถเชื่อมเหนือเข้ากับใต้ได้แบบนี้ต่างหาก

:B :B
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
เทียน
Verified User
โพสต์: 426
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ผมคิดว่าถ้ารัฐลงทุน ค่าโดยสารน่าจะถูก ถ้าค่าโดยสารถูก โครงการก็น่าจะเป็นไปได้ ยกตัวอย่าง 15 - 20 บาทตลอดสาย
jaychou
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 16

โพสต์

อืมมม...ดูแล้ว Megaproject ยังเป็นหัวหอกในนโยบายประชานิยมนะครับ ท่าน IH.
ภาพประจำตัวสมาชิก
sailom
Verified User
โพสต์: 60
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 17

โพสต์

เอ...หรือจะเหมือนอย่างสิงคโปร์ก็ไม่รู้นะครับ คนรวยหรือนักธุรกิจจะอยู่ในตัวเมืองชั้นใน คนชั้นกลางและพนักงานบริษัทอยู่รอบ ๆเมือง แล้วก็คนรวยมาก ๆถึงจะซื้อบ้านอยู่ชานเมืองได้
8) 8) 8) 8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 18

โพสต์

:lol: :lol: :lol: :lol:

ผมอยากให้ขุด คอคอดกระ ครับ อิอิ

และก็รถไฟรางคู่ความเร็วสูง แบบญี่ปุ่น เอาแบบกรุงเทพเชียงใหม่ 4 ชั่วโมงถึง อิอิอิ

:lol: :lol: :lol: :lol:
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 19

โพสต์

http://www.manager.co.th/Business/ViewN ... 0000079416

ครม.รับทราบแผนลงทุนอภิมหางบ 1.7 ล้านล้านบาท
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 มิถุนายน 2548 16:44 น.

ครม.รับทราบแผนการลงทุนเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐวงเงินกว่า 1.7 ล้านล้านบาท ในระบบสาธารณูปโภคสำคัญ รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้า 7 สาย และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ด้าน"ศุภรัตน์" ระบุการอัดงบลงทุนเมกะโปรเจกต์ของรัฐจะทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ในแต่ละปี

นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม. มีมติรับทราบแผนการลงทุนเมะโปรเจกต์ วงเงินลงทุน 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานโครงการเดียวเกิน 1,000 ล้านบาทขึ้นไป หรือเป็นโครงการที่มีลักษณะเป็นโครงการที่เรียกว่า Intermediate Infrastructure ซึ่งในช่วง 5 ปี จะมีการใช้เงินงบประมาณ 39 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงินประมาณ 657,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินส่วนที่มาจากรายได้สะสมของรัฐวิสาหกิจเอง 222,000 ล้านบาท หรือประมาณ 13 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงินกู้ทั้งสิ้นประมาณ 42 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแยกเป็นเงินกู้ในประเทศประมาณ 410,000 ล้านบาท 24 เปอรเซ็นต์ เป็นเงินกู้ต่างประเทศประมาณ 305,000 ล้านบาท 18 เปอร์เซ็นต์ และเป็นส่วนอื่นๆ อีกประมาณ 105,000 ล้านบาท

ในส่วนของการดำเนินการทางคณะกรรมการได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงเจ้าของโครงการ เกี่ยวการจัดสรรงบประมาณและเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยกระทรวงต้นสังกัดนั้นต้องเร่งรัดในเรื่องของการดำเนินโครงการให้มีความพร้อม ให้สามารถดำเนินการได้ทันที แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะเรื่องของการศึกษาเรื่องของผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และเงินงบประมาณที่จะจัดสรรให้ ซึ่งเริ่มจากปี 2549 นี้เป็นต้นไป โดยจะเน้นจัดสรรให้กับโครงการที่มีความสำคัญในลำดับสูง มีความพร้อม สามารถเริ่มดำเนินการได้ทันที"

ส่วนแหล่งเงินที่เป็นรายได้จากรัฐวิสาหกิจนั้น จะพิจารณาจากตัวโครงการเองว่าอยู่ภายใต้รัฐวิสาหกิจใด ถ้าเป็นโครงการที่อยู่ภายใต้รัฐวิสาหกิจที่มีผลประกอบการที่ดี มีกำไรสะสมอยู่ ก็จะส่งเสริมให้มีการใช้กำไรสะสม หรือรายได้ของรัฐวิสาหกิจเองนั้นในการลงทุนให้มากที่สุด ในส่วนของเงินกู้นั้นก็จะต้องดูแลว่า มีทั้งเงินกู้ในประเทศ เงินกู้ต่างประเทศ ในสัดส่วนที่เหมาะสม เงินกู้ต่างประเทศนั้นจำเป็นที่จะต้องมีในบางส่วน ทั้งนี้เพื่อจะได้ชดเชยกับเรื่องของการนำเข้าสินค้า อันเนื่องมาจากการดำเนินงานตามโครงการเมกะโปรเจ็กต์

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ให้ความสำคัญในเรื่องการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ถึงรถไฟฟ้าทั้ง 7 สายทาง ซึ่งแบ่งเป็นของ รฟม. 3 สาย รฟท. 2 สาย และ กทม.อีก 2 สาย วงเงินลงทุนรวมถึง 555,737 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจำนวน 424,437 ล้านบาท และการลงทุนในระบบรถไฟฟ้าอีก 131,300 ล้านบาท โดยหลักการที่สำคัญก็คือ ระบบโครงสร้างพื้นฐานนั้นรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระ สำหรับสายสีเขียวของ กทม.นั้น กทม.และรัฐบาลจะแบ่งสัดส่วนกันแบกรับภาระ

สำหรับการบริหารจัดการเดินรถของรถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งหมด คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างโฮลดิ้ง คอมพานี เพื่อลงทุนและบริหารระบบรถไฟฟ้าที่มีลักษณะเป็นผู้บริหารรายเดียว หรือซิงเกิล โอเปอเรเตอร์ โดยรัฐบาลต้องการให้หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องร่วมลงทุนลักษณะจอยท์เวนเจอร์ กับผู้ได้สัมปทานที่มีอยู่ทั้งในปัจจุบันและจะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อการให้บริการเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เกิดการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายในระบบขนส่ง และประชาชนสามารถใช้บริการได้ในราคาค่าโดยสารที่ถูก และมีระบบตั๋วร่วมที่ต้องจ่ายเพื่อเข้าสู่ระบบเพียงครั้งเดียว

**ผลกระทบในด้านต่างๆ จากการดำเนินโครงการเมกะโปรเจกต์**
ผลกระทบต่อจีดีพี เชื่อว่าจะทำให้การขยายตัวของผลผลิตมวลรวมของประเทศเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ในแต่ละปี หรือในแต่ละช่วงอาจจะมากกว่านั้น และถ้าหากเราสามารถปรุงแต่งโครงการต่างๆ การลงทุน รวมทั้งการจ้างงานที่เกี่ยวข้องที่เหมาะสมนั้น ก็อาจจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจ สูงกว่าที่ประมาณการขั้นต่ำนี้ไว้ได้

ผลกระทบจากการลงทุนต่อกรอบทางด้านการคลัง ยังอยู่ในกรอบความยั่งยืนทางการคลัง เราเน้นในเรื่องของการรักษาวินัยทางการคลัง หนี้สาธารณะต่อจีดีพี ตลอดช่วง 5 ปีข้างหน้า แม้มีการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็กต์ 1.7 ล้านล้านบาทนั้น ก็จะมีสัดส่วนอยู่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของจีดีพี ซึ่งเป็นเป้าหมายหรือกรอบความยั่งยืนทางการคลัง

ในส่วนของภาระหนี้สินต่อเนื้อเงินงบประมาณในแต่ละปี ก็จะต่ำกว่าร้อยละ 15 ของวงเงินงบประมาณ ซึ่งทั้งหมดแล้วก็ยังอยู่ในกรอบที่ว่านั้น

ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดอาจได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากการดำเนินโครงการเมกะโปรเจ็กต์อยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก และจะอยู่ในช่วงสั้น ส่วนในระยะยาวจะส่งผลดีเมื่อเศรษฐกิจมีการขยายตัว และมีการผลิตสินค้าออกไปจำหน่าย หรือมีต้นทุนในการผลิตสินค้าที่ต่ำลง โดยดุลบัญชีเดินสะพัดโดยเฉลี่ย 5 ปี ที่เพิ่มเติมขึ้นเนื่องจากเมกะโปรเจ็กต์ จะมีอยู่เพียงประมาณร้อยละ 1.1 -1.2 เท่านั้น

**การจัดการหนี้หลังดำเนินงาน**
การบริหารจัดการหนี้หลังจากที่มีการดำเนินโครงการไปแล้ว ก็จะต้องมีการกู้ยืมทั้งจากแหล่งในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวกันการบริหารจัดการหนี้นั้นจะนำเรื่องนี้ให้ไปเชื่อมโยงกับเรื่องเอเชียบอนด์ มาร์เก็ต ที่ทางไทยให้ความสนใจและพัฒนาอยู่ ขณะเดียวกันทางกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำแผนรองรับในชั้นต่อไปว่าจะบริหารจัดการหนี้ที่เกิดขึ้นอย่างไรจึงจะคุ้มค่าที่สุด เช่น อาจจะมีการระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อมาใช้หนี้บางส่วน แต่สำหรับรัฐวิสาหกิจบางแห่งที่สามารถดำเนินการ หรือนำนวัตกรรมทางการเงินอื่นๆ เข้ามาใช้ได้ ก็ต้องพิจารณากันต่อไป

ด้าน นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการติดตามและเร่งรัดดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผน เนื่องจากจะมีการนำเสนอให้ ครม.อนุมัติอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 21 ที่จะถึงนี้ และคงจะเข้าสภาฯ ในสัปดาห์ต่อไป ซึ่งหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการพิจารณาของเมกะโปรเจ็กต์นี้ มี 4 ประการ คือ 1. ความเป็นไปได้ของโครงการ 2. ประมาณการวงเงินที่จะต้องใช้จ่ายจริงตามกระแสรับจ่ายของโครงการ 3. ความพร้อมที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2549 เช่นการสำรวจ ออกแบบ ความพร้อมของแบบ รูปรายการ การศึกษาความเหมาะสม ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การเวนคืนที่ดิน และ 4 . ศักยภาพในการดำเนินงานของหน่วยงาน โดยมุ่งหวังที่จะลดจำนวนเงินกันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี โดยได้มีการสั่งให้กระทรวงต่างๆ กลับไปดูลำดับความสำคัญของโครงการต่างๆ ว่ามีการเบิกจ่ายจริงหรือไม่ หรือมีปัญหาติดขัดอย่างไร ถ้าโครงการเหล่านั้นไม่ได้มีการเบิกจ่ายหรือว่ามีการเปลี่ยนแปลง และไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่วางแผนไว้ ก็ให้นำเงินเหล่านั้นมาจัดสรรใหม่ ซึ่งการจัดสรรใหม่จะเป็นการบริหารเงินให้มีประสิทธิภาพ ทั้งมาเสริมในส่วนของเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นหรือว่าไปลงในโครงการที่จะมีผลตอบแทนที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในการสร้างงานในชนบท การที่จะลงทุนในระดับรากหญ้าต่างๆ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 20

โพสต์

http://www.manager.co.th/StockMarket/Vi ... 0000079400

ทักษิณเป็นประธานบอร์ดดูแลเมกะโปรเจ๊กต์
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 มิถุนายน 2548 16:25 น.


ทักษิณเตรียมเป็นประธานบอร์ดกลาง ดูแลโครงการเมกะโปรเจ็กต์ 1.7 ล้านล้านบาท ที่ ตรม.ไฟเขียวเช้าวันนี้ ที่ต้องประมูลผ่านระบบอีออกชั่น หากมูลค่าแต่ละโครงการ 2 ล้านบาทขึ้นไป ย้ำโครงการขนาดยักษ์นี้โปร่งใสแน่

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังประชุมคณะรัฐมตรี (ครม.) วันนี้ ที่มีมติเห็นชอบโครงการเม็กกะโปรเจ็กต์ ตามข้อเสนอกระทรวงการคลัง มูลค่า 1.7 ล้านล้านบาท ว่ารัฐบาลจะมีคณะกรรมการคอยติดตามดูแลโครงการต่างๆ

โดยมีกรรมการกลางที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน คอยดูแลอยู่ ในรายละเอียด จะมีกรรมการคอยดูแลเป็นชั้นๆ พ.ต.ท.ทักษิณยังย้ำว่าแต่ละโครงการประมูลจัดซื้อจัดจ้าง ต้องใช้ระบบประมูลผ่านระบบคอมพิวเตอร์ (e-Auction) ทุกโครงการที่มีเงินลงทุน 2 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อแสดงว่ามีความโปร่งใสตั้งแต่วันแรก

ผมมั่นใจว่าโปร่งใสแน่นอน เพราะระบบอี-อ๊อกชั่นดีมาก ทำให้เห็นทุกอย่างชัดเจน ทั้งเรื่องของราคากลาง ที่สามารถเช็คได้ จากนั้น ก็สามารถที่จะเสนอราคาแข่งกันได้ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ปัญหาของเมกะโปรเจ็คก็คือ เวลาภาครัฐใช้เงินลงทุนจำนวนมากจะเกิดปรากฏการณ์ crowd out กล่าวคือ ทำให้ภาคธุรกิจขาดแคลนเงินสำหรับลงทุนตามปกติ เพราะเกิดการแย่งเงินทุนกัน ดอกเบี้ยจะพุ่งสูง เงินจะเฟ้อ

ถ้าทำเมื่อ 3 ปีก่อน จะไม่มีปัญหา เพราะตอนนั้นดอกเบี้ยต่ำมาก แต่ตอนนี้ดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นในขณะที่เรายังต้องการใช้ดอกเบี้ยต่ำในการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ ถ้าลงเมกะโปรเจ็คลงไปอีก ภาคธุรกิจจะลำบาก

ยังไงก็ตาม ตอนนี้เงินฝากยังล้นแบงก์อยู่ ผมว่ารัฐน่าจะออกพันธบัตรที่ให้สิทธิ์ธนาคารพาณิชย์ซื้อเท่านั้นและห้ามนำไปขายต่อในตลาดพันธบัตร แบบนี้จะ Happy กันหมด เพราะแบงก์อยากปล่อยกู้เพิ่มอยู่แล้วหาที่ปล่อยที่ชัวร์ๆ ไม่ได้ ในเวลาเดียวกันก็จะไม่ไปรบกวนดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตร และเงินในแบงก์จะลดลงทำให้ดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้น คนฝากเงินก็จะยิ้มออก
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
samuri_VIII
Verified User
โพสต์: 14
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ISSUE BOND 30 years and then our children will use the maga projects and pay bond back khab :lol: (if they have money)
Supra
Verified User
โพสต์: 479
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 23

โพสต์

:lol: :cry: :cry: :lol:

รวยกันอีกแล้วครับท่าน แต่ประชาชนเป็นหนี้สินกันทุกย่อมรากหญ้าไม่แก้ ไปดันภาคอุตสาหกรรมหวัง จีดีพี ไม่ให้ต่ำกว่าที่ตัวเองหวังไว้
แถมการลงทุนด้านการศึกษา อันจะนำมาซึ่งการพัฒนาตนเองยังไม่ค่อยมีมาก
เท่าไร เงินมหาศาลขนาดนั้นน่าคิดเหมือนกันว่าจะระดมเงินจากไหน เพิ่มภาษีอีกป่าวหนอ..... :roll: :wink:
*****
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ผมว่ารัฐน่าจะออกพันธบัตรที่ให้สิทธิ์ธนาคารพาณิชย์ซื้อเท่านั้นและห้ามนำไปขายต่อในตลาดพันธบัตร
ขายไม่ได้แล้วแบงก์ที่ไหนจะซื้อล่ะครับ นอกจากกำหนดไถ่ถอนจะสั้นมากๆ เช่น 2 ปี
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

เรื่อง Megaproject

โพสต์ที่ 25

โพสต์

CK เขียน: ขายไม่ได้แล้วแบงก์ที่ไหนจะซื้อล่ะครับ นอกจากกำหนดไถ่ถอนจะสั้นมากๆ เช่น 2 ปี
Hold to maturity อย่างเดียว หรือไม่ก็จดทะเบียนในตลาดบอนด์ในปีที่ 3 หรือปีที่เศรษฐกิจไม่ต้องการการกระตุ้นด้วยดอกเบี้ยต่ำแล้ว
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ล็อคหัวข้อ