บทสัมภาษณ์พี่มนของเรา

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

บทสัมภาษณ์พี่มนของเรา

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เพิ่งทราบว่าพี่ถือหุ้น 3 ตัว
มากกว่าผมตั้ง 3 ตัว
แต่หนึ่งในนั้นเป็น aprint แหงๆ :wink:

"มนตรี นิพิฐวิทยา"

ความเสี่ยง...ลดลงได้ด้วยความเข้าใจ

สรวิศ อิ่มบำรุง



"ความเสี่ยงลดลงด้วยความรู้ ความเข้าใจ ผมว่าคุณจะเวอร์เกินไป ถ้าคุณมี 10 บริษัท แล้วคุณเข้าใจทั้งหมด เราเลือกบริษัทที่เราเข้าใจจริงๆ รู้จักจริงๆ ความเสี่ยงมันถูกจำกัดลงแล้ว ด้วยความที่เราเข้าใจ"

********

"การออมกับการลงทุนของผมเป็นตัวเดียวกัน คือผมออมผ่านการลงทุน เงินทั้งหมดที่ผมมีจะเป็นการลงทุนเกือบทั้งหมด สำหรับผมการออมกับการลงทุนไม่มีความต่างกัน มองไม่เห็นความต่างกัน การออมก็คือการลงทุนอย่างหนึ่ง มันอาจจะเป็นซับเซทของการออมก็ได้"

"มนตรี นิพิฐวิทยา" นักลงทุนอิสระ ผู้ที่ "ลงทุนเป็นอาชีพ" เริ่มต้นเรื่องราวเกี่ยวกับการออมและการลงทุนแบบง่าย ๆ แต่กระชับและชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่จะกล่าวต่อไปว่า บางคนจะออมเงินด้วยการเอาไปฝากไว้ในแบงก์ ซึ่งจริงๆ แล้วการฝากแบงก์ก็คือการลงทุน ไม่ใช่การออม เพราะคุณต้องการดอกเบี้ย คุณไม่ได้ไปฝากไว้เฉย ๆ

"ส่วนคุณจะออมด้วยวิธีลงทุน หรือออมด้วยวิธีการฝากเงิน หรือว่าคุณจะทำประกัน ถ้าคนที่เขามีความกลัวความเสี่ยงมากหน่อย เขาก็จะไปลงทุนที่ปราศจากความเสี่ยงน้อยหน่อย เช่น ฝากเงิน ซื้อพันธบัตร ประกันชีวิต ประกันแบบออม แต่ว่าตามหลักเขาบอกว่าคนที่รับความเสี่ยงสูงได้ มักจะชอบลงทุนในหุ้น"

มนตรีย้อนอดีตให้ฟังว่า เขาเริ่มรู้จักหุ้นครั้งแรกสมัยที่ทำงานอยู่ที่บริษัทเดิม (ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์) ก่อนที่จะตัดสินใจนำเงินที่เก็บออมมาได้ไม่กี่แสนมาลงทุนในหุ้นทั้งหมดครั้งแรกช่วงปี 2538-2539 ก่อนที่จะเกิดวิกฤติค่าเงินบาท โดยช่วงแรกก็เล่นได้ ทำให้จิตใจฮึกเหิม นึกว่าตัวเองเก่งแล้ว แต่ลงทุนไปได้ไม่กี่ปี ก็หมดตัว เงินลงทุนเสียหายเกือบหมด เหลือประมาณ 10-20% ของเงินลงทุนเริ่มแรกเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกตัวเองก็คิดว่าง่ายนะ แต่ทำไปทำมากลับกลายมาเป็นแบบนี้ พร้อมทั้งหัวเราะชอบใจ

"ตอนนั้นเข้าไปเล่นหุ้นด้วยความที่ไม่รู้ไง ซื้อหุ้นอะไรก็ขึ้นทั้งนั้น ซีลลิ่งทุกวัน ตกใจว่าทำไมวันนี้หุ้นเราไม่ซีลลิ่งด้วยซ้ำ ตื่นเช้ามาหุ้นเราต้องซีลลิ่งแล้ว เพราะซีลลิ่งแค่ 10% ซื้ออะไรมันก็ขึ้น เพราะมันปั่นกันจนสุดๆ ด้วยความไม่รู้อีโหน่อีเหน่ตอนนั้น ก็เจ็บตัวไป เราก็หยุดไป ช่วงที่ลดค่าเงินบาทโดนเข้าไปเต็มที่เลย เหลือ 10-20% คือถ้าไม่เลิกเล่น มันจะไม่เหลืออะไรเลย ก็เลยต้องกลับไปทำงาน แล้วก็คิดว่าจะไม่เข้าตลาดหุ้นอีกแล้ว เก็บเงินฝากแบงก์ดีกว่า"

แต่เหมือนวาสนาจากฟ้ากำหนดให้มนตรีต้องหวนคืนตลาดหุ้นอีกครั้งจนได้ จำได้ว่าตอนนั้นพอเศรษฐกิจเริ่มเกิดวิกฤติ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ดอกเบี้ยมันลงอย่างเดียว เอาเงินฝากธนาคารแล้ว ดอกเบี้ยก็ได้ไม่กี่ตังค์ แล้วก็เป็นช่วงที่มนตรีไปเรียน MBA พอดี มีโอกาสได้เรียนเรื่องการเงิน ก็เลยคิดว่า ตัวเองก็มีความรู้ทางด้านนี้ น่าจะนำมาใช้งานได้ ก็เลยปรับวิธีการลงทุนของตัวเองใหม่ พอดีเจอเพื่อนคนหนึ่งให้อ่านหนังสือของวอร์เรน บัฟเฟตต์ เมื่ออ่านไปก็เห็นว่าเข้าท่าดี ไปอ่านหนังสือตีแตกของดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรณ์ ซึ่งเป็นคัมภีร์ของแวลู อินเวสเมนท์ เมื่อฝากเงินในธนาคารให้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่า เขาจึงตัดสินใจนำเงินที่เก็บออมได้มาลงทุนในตลาดหุ้นอีกครั้งเมื่อ 6 ปีที่แล้ว

"แต่กระโดดเข้ามาในตลาดหุ้นครั้งนี้ มาด้วยวิธีการแบบใหม่ ซึ่งเราคิดว่ามันไม่ใช่แบบเดิมที่มันเสี่ยงและอันตรายแล้ว แต่ถามว่าผมประสบความสำเร็จมั้ย ผมไม่ประสบความสำเร็จเลยในช่วงแรกของการลงทุนในแบบแวลู อินเวสเมนท์ เพราะว่าขายเร็วไป แต่ผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยก็ประมาณ 20-30% ต่อปี"

มนตรีบอกว่าหัวใจของการลงทุนแบบแวลู อินเวสเมนท์อยู่ที่ "วินัยของการลงทุน" กับ "การควบคุมอารมณ์"

"ถ้าเห็นหุ้นขึ้นไป 100% คุณอยากขายมั้ย เป็นคุณๆ ลองนั่งนึกดูซิ หุ้นขึ้นไปตั้ง 100% แล้ว กลัวใช่มั้ยว่าหุ้นจะลง ตรงนี้เราต้องหัดให้ได้ว่า 100% ยังน้อยไปนะ มันมากกว่านั้น ตรงนี้ดูจากการประเมินของคุณที่รู้เรื่องไง รู้ว่ายังมีอะไรต่อไปอีก แต่ราคามันจะสวิงเพราะว่าคนที่เขาซื้อไปได้ 100% เขาก็อยากจะขายเยอะ เราก็ปล่อยให้เขาขายไป เรื่องของเขา แต่เรายังบอกว่ามันยังมีอีก ราคายังต่อไปได้เรื่อยๆ ยังไม่จบ"

ปัจจุบันเงินลงทุนทั้งหมดอยู่ในหุ้น โดยถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 3 ตัว นั่นทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า นอกจากจะลงทุนในหุ้นทั้ง 100% แล้ว ยังลงทุนในหุ้นน้อยตัวแบบนี้ ไม่เป็นเรื่องที่เสี่ยงหรือ ได้รับคำตอบจากมนตรีว่า การลงทุนแบบนี้อาจจะผิดทฤษฎีไปบ้าง แต่ความเสี่ยงในมุมมองของเขา ก็คือ "ความไม่เข้าใจ" "ความไม่รู้จริง" แต่ถ้าเรา "รู้-รู้จริง-รู้ลึก" เราสามารถที่จะลดความเสี่ยงได้จากความรู้ได้ ส่วนตัวเป็นคนที่กลัวความเสี่ยงอย่างรุนแรงเลย แต่ก็มาเล่นหุ้น เพราะเรารู้ว่าการลงทุนของเราไปลงทุนในบริษัทอะไร เขาทำงานอะไร เขามีจุดอ่อน จุดแข็งอะไร มีผู้บริหารเป็นคนประเภทไหน เมื่อเรารู้ ก็ลงทุนได้

"ความเสี่ยงลดลงด้วยความรู้ ความเข้าใจ ผมว่าคุณจะเวอร์เกินไป ถ้าคุณมี 10 บริษัท แล้วคุณเข้าใจทั้งหมด เราเลือกบริษัทที่เราเข้าใจจริงๆ รู้จักจริงๆ ความเสี่ยงมันถูกจำกัดลงแล้ว ด้วยความที่เราเข้าใจ ผ่านการวิเคราะห์ของเราแล้ว การออมเงินผ่านธนาคารด้วยการฝากเงิน ไม่ใช่ไม่มีความเสี่ยงนะครับ ธนาคารเจ๊งมันก็ศูนย์เหมือนกัน ทำประกัน ประกันล้ม เงินก็สูญหายเหมือนกัน แต่ความเสี่ยงมันจะต่ำเท่านั้นเอง"

มนตรีบอกว่า คนที่จะประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นไม่จำเป็นต้องมาใช้วิธีแบบแวลูอินเวสเมนท์ แต่คนที่ประสบความสำเร็จได้มีอยู่เรื่องเดียวที่คล้ายคลึงกัน คือ เรื่องของวินัยของการลงทุน ถ้าคุณรู้ว่าคุณเก็งกำไรอยู่ คุณขาดทุนเท่านี้ คุณต้องออกนะ ไม่งั้นคุณจะหมดตัว ทุกคนจะมีจุดของตัวเองเพราะเมื่อรู้ว่าเก็งกำไร มันเสี่ยง ยิ่งตลาดขาลงเขาจะไม่เข้าตลาดแน่นอน เพราะโอกาสที่จะทำกำไรยาก แต่เรื่องของแวลู อินเวสเตอร์จะมีอีกอย่างคือเรื่องของ "ความอดทน" คุณต้องรอเป็น ทั้งโอกาสซื้อและโอกาสขาย มีวินัยรู้ว่าทำอะไรอยู่

มนตรีทิ้งท้ายว่าถ้าคนที่ไม่มีความรู้ ก็ไม่ควรจะเข้าตลาดหุ้นเลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ควรจะทำก็คือใช้บริการกองทุนรวม

http://www.bangkokbiznews.com/fundament ... 98408.html
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

บทสัมภาษณ์พี่มนของเรา

โพสต์ที่ 2

โพสต์

เพิ่งทราบว่าพี่ถือหุ้น 3 ตัว
มากกว่าผมตั้ง 3 ตัว
แปลว่าคุณลูกอิสานถือหุ้น 0 ตัว
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

บทสัมภาษณ์พี่มนของเรา

โพสต์ที่ 3

โพสต์

CK เขียน: แปลว่าคุณลูกอิสานถือหุ้น 0 ตัว
:lol: :lol:

เขียนผิดครับ คือผมถือมากกว่าตั้ง 3 ตัว
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
Stock Broker
Verified User
โพสต์: 2509
ผู้ติดตาม: 0

บทสัมภาษณ์พี่มนของเรา

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เห็นด้วยกับบทความของพี่มนครับ :bow:
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

บทสัมภาษณ์พี่มนของเรา

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เอาแบบหลักๆ สัก3-5ตัว

ที่เหลือไม่จำกัด เอาไว้ศึกษา เอาไว้ตามข่าว
เผื่อเจออะไรดีดี (คิดเล่นๆ)
Dr.T
Verified User
โพสต์: 1608
ผู้ติดตาม: 0

บทสัมภาษณ์พี่มนของเรา

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เซียนพี่มนถือแค่สาม ผมกำลังพยายามลดอยู่จาก เอ... เท่าไหร่หว่า นับไม่หมด :lol: :lol: :lol:
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
มือเก่าหัดขับ
Verified User
โพสต์: 1112
ผู้ติดตาม: 0

บทสัมภาษณ์พี่มนของเรา

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เท่าผมเลย ผมถือหุ้นหลักๆ สามตัวเท่านั้น
นอกนั้น เก็งกำไรนิดหน่อย (ถ้าบอกว่าไม่เก็งกำไร คือโกหก บาปอีก)
แสดงว่าผม เลียนแบบดารา :lovl:
คนอื่นเขาสะสมอย่างอื่น เราขอสะสมความดี, ความรู้, ประสบการณ์, เงินทอง, กับหุ้นก็แล้วกัน
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
dr_norr
Verified User
โพสต์: 315
ผู้ติดตาม: 0

บทสัมภาษณ์พี่มนของเรา

โพสต์ที่ 8

โพสต์

มีเป็นสิบเลยครับ....กำลังจะหาตัวเจ็ง ๆเหมือนกัน
แมงเม่าวันนี้ จะตัวใหญ่ขึ้นในวันหน้า
ล็อคหัวข้อ