การปรับค่าเงินหยวน ใครได้ประโยชน์ เรียนถามท่านผู้รู้

[hot]

คนที่ลงทุนในจีน มูลค่าการลงทุนจะเพิ่มขึ้นหรือไม่คับ

[Tongue]

อเมริกา กับ คุณ ba_2l ครับ

[itti_peak]

เป็นบทวิเคราะห์ของ cns ครับ

สัญญาณที่เปลี่ยนแปลงทาทีที่เปลี่ยนไปของจีน
หลายสัปดาหที่ผานมา ประเด็นเรื่องจีนจะมีการเปลี่ยนแปลงคานโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนกลายเปน
ปจจัยที่นักลงทุนทั่วโลกใหความสนใจมากขึ้น หลังจากที่เคยเปนประเด็นรอนแรงในชวงป 2547 ซึ่งใหมีเงินทุน
ไหลเขาในเอเชีย โดยเฉพาะ จีน ฮองกง มาเลเซีย เพื่อมาเก็งกําไรคาเงิน ทําใหมูลคาของเงินทุนสํารองระหวาง
ประเทศของประเทศในเอเชียเพิ่มขึ้นจากป 2546 ที่ US$1.79 ลานลาน เปน US$2.3 ลานลาน ในป 2547
โดยในปจจุบันทิศทางของคาเงินในสกุลเอเซียเมื่อเทียบกับคาเงินดอลลารเริ่มกลับมาแข็งคาขึ้นประมาณ 1%-
2% เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.ในขณะที่การซื้อขายคาเงินหยวน ในตลาดลวงหนาที่ไมมีการสงมอบ (NDFs) ได
แสดงถึงการคาดการณวาคาเงินหยวนจะแข็งคาขึ้นประมาณ 2.7% และ 6% ภายใน 3 และ 6 เดือนขางหนา
แนวโนมการเปลี่ยนแปลงคาเงินหยวนของจีนที่กลับมาดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนไดอีกครั้งเริ่มเกิดขึ้น ตั้ง
แตการที่จีนยังคงมีการเกินดุลการคาในระดับสูงรวมถึงการที่เศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 1/48 ขยายตัวเพิ่มขึ้น
ถึง 9.5% ซึ่งสูงกวาที่ทางการตั้งเปาไวเพียง 8% สวนทางกับเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1/48 ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น
เพียง 3.1% ซึ่งเปนระดับต่ําสุดในรอบ 2 ป สงผลใหเศรษฐกิจของจีนในปจจุบันกําลังประสบกับปญหาการขาด
เสถียรภาพ เนื่องจากการไหลเขาของเงินทุนเพื่อเก็งกําไร โดยในป 2547 มีเงินทุนที่ไหลเขามาเก็งกําไรสูงถึง
US$1.29 แสนลาน นอกเหนือจากรายไดจากการสงออก US$5 แสนลาน และเงินลงทุนทางตรง US$6 หมื่น
ลาน การเกินดุลของจีนอยางมหาศาลสงผลกระทบตอภาคการคาของสหรัฐและยุโรปซึ่งสวนหนึ่งเปนผลจากคา
เงินหยวนของจีนที่ออนคากวาความเปนจริง ซึ่งทําใหกลายเปนเปาหมายของการโจมตีจากสหรัฐและประเทศใน
กลุมสหภาพยุโรป ในขณะเดียวกันทาทีที่ออนลงของทางการจีน โดยในสัปดาหที่ผานมาทางการจีนแทบไมไดมี
การปฏิเสธเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงคาเงินหยวน ในขณะที่มีการพบปะกันระหวางกระทรวงการคลังสหรัฐกับ
เจาหนาที่ของจีนยิ่งทําใหนักลงทุนมีการคาดการณการวาจีนอาจยอมเปลี่ยนแปลงคาเงินหยวน อยางไรก็ตาม
วานนี้ธนาคารกลางของจีนไดออกมาปฏิเสธวาจะไมมีการเปลี่ยนแปลงคาเงินหยวนในระยะเวลาอันใกล
สัญญาณตอมาที่ทําใหนักลงทุนเริ่มคาดการณวาจีนประมีการเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยน คือ ยอดคํา
สั่งซื้อสินคา Commodity ที่ลดลงอยางมาก รวมถึงการลดลงของการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนของจีนนั้นในความเห็นของ CNS คาดวามีโอกาสเกิดขึ้นในระยะ
เวลาอันใกล แตจะเปนเพียงแคการปรับกรอบการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนใหสามารถเปลี่ยนแปลงได
มากขึ้น ซึ่งคาดวาจะอยูระหวาง 5%-10% ทั้งนี้เพื่อเปนการลดแรงกดดันจากประเทศคูคาอยางเชน สหรัฐ
และกลุมประเทศยุโรป ซึ่งคาดวาการเปลี่ยนแปลงของคาเงินหยวนในระดับ 5%-10% จะไมกระทบตอ
เศรษฐกิจจีนอยางมีนัยสําคัญ สําหรับเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนไหเปนแบบเสรีนั้น คาดวาจะ
ยังไมเกิดขึ้นในชวงนี้ เนื่องจาก จีนยังคงมีระบบสถาบันการเงินที่ออนแอ ในขณะเดียวกันคาดวาจีนจะรอให
ประเทศเขาเปนสมาชิกของ WTO อยางถาวรในเดือน ก.ค 2550
ผลกระทบตอตลาดหุน
CNS คาดวา หากคาเงินหยวนมีการเปลี่ยนแปลงในระยะแรกจะทําใหเกิดการปรับสมดุลของเงินทุนในเอเชีย
โดยเฉพาะเงินทุนระยะสั้นที่เขามาลงทุนในสินทรัพยในเอเชีย โดยเฉพาะในจีนที่คาดวาจะสูงถึง US$1.3 แสน
ลาน ไมวาจะเปนการลงทุนในพันธบัตร หุน และอสังหาริมทรัพย ซึ่งจะทําใหราคาของสินทรัพยดังกลาวมีความ
ผันผวนสูงขึ้น ทั้งนี้ขึ้นกับระดับของการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนดวย สําหรับประเทศที่คาดวาจะไดรับ
ประโยชนจากการเปลี่ยนแปลงของคาเงินหยวนที่แข็งคาขึ้นคือ ญี่ปุน และ มาเลเซีย เพราะเปนสกุลเงินที่จะแข็ง
คาขึ้นทางออม โดยเฉพาะมาเลเซียที่ยังคงมีระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบผูกติดกับคาเงินดอลลารสหรัฐ และ
ธนาคารกลางมาเลเซียอาจใชนโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
สําหรับตลาดหุนไทยซึ่งไมใชตลาดหุนหลักที่จะไดรับประโยชนจากการแข็งคาของเงินหยวนแต CNS คาดวา
สกุลเงินบาทยังคงเปนสกุลที่มีความผันผวนนอย เนื่องจากเปนระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ Manage float ซึ่งจะ
ทําใหเกิดความผันผวนในตลาดเงินไมมาก เพียงแตความไมสมดุลของตลาดเงินในระยะสั้นอาจทําใหเกิดความ
เสี่ยงในการลงทุน ดังนั้นจึงยังคงแนะนําให คงพอรตไวไมเกิน 50%
ในสวนของกลุมอุตสาหกรรมนั้น ผลกระทบจากคาเงินหยวนที่แข็งคาจะสงผลให ราคาสินคา Commodity เชน
น้ํามัน ปโตรเคมี มีแนวโนมปรับตัวลดลง ซึ่งอาจสรางแรงกดดันมากขึ้นตอหุนในกลุมดังกลา รวมทั้งกลุมเดิน
เรือที่จะทําใหมีความตองการลดลง ในขณะที่กลุมที่เปนผูใชสินคาดังกลาว ไดแก สายการบิน และ ธุรกิจรับ
เหมากอสรางจะเปนกลุมที่ไดรับประโยชนมากที่สุด นอกจากนี้ CNS คาดวา กลุมสงออกจะเปนกลุมที่ไดรับ
ประโยชนเพิ่มขึ้นเนื่องจากสามารถแขงขันกับจีนไดมากขึ้น ในขณะที่กลุมแบงกจะเปนกลุมที่รองรับการปรับเงิน
ทุนของกองทุนในประเทศ ซึ่งแนวโนมราคาหุนในกลุมนี้จะ Outperform ตลาดรวม