กฎ 80/20
-
- Verified User
- โพสต์: 343
- ผู้ติดตาม: 0
กฎ 80/20
โพสต์ที่ 1
ว่าด้วยกฏ 80/20 (Pareto Principle)
Posted on February 19, 2012 by fsquare Print Friendly
by Mr. Know How
จากหลัก Pareto ทำให้เราทราบว่าเรื่องที่มีผลต่อชีวิตเราถึง 80% นั้นใช้เวลาและความพยายามเพียง 20%
กฏ 80/20 หรือกฏพาเรโต (Vilfredo Pareto) นักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาลี สังเกตุว่าคนรวยจำนวน 20% เป็นเจ้าของที่ดินถึง 80% ในขณะที่คน 80% ที่เหลือต้องแบ่งสรรที่ดินใช้งานในส่วน 20% ที่เหลือ
ต่อมามีผู้ประยุกต์ใช้กับธุรกิจ พบว่า:
80% ของยอดขายมาจากลูกค้าจำนวน 20%
80% ของกำไรมาจากการใช้เวลาในการทำงานเพียง 20%
80% ของยอดขายมาจากพนักงานขายจำนวน 20%
หรือในชีวิตประจำวันเราจะพบว่า :
80% ของเวลาที่เราติดต่อพูดคุยด้วย เราใช้กับเพื่อนจำนวน 20%
80% ที่เราใส่เสื้อผ้าออกข้างนอกเป็นเสื้อจำนวน 20%
จริงไม่จริงสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ
จากหลัก Pareto ทำให้เราทราบว่าเรื่องที่มีผลต่อชีวิตเราถึง 80% นั้นใช้เวลาและความพยายามเพียง 20% ดังนั้นหากเราเน้น 20% นี้ให้ดีก็จะมีส่วนช่วย 80% ของเรื่องนั้น ๆ อย่างมาก ขณะที่ส่วน 80% ที่มีผลเพียง 20% นั้นเราสามารถผ่อน ๆ ลงได้ เนื่องจากไม่ใช่อะไรที่ critical จริง นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนดูเล่น ๆ ไม่ซีเรียสแต่ดูเก่ง ประสบความสำเร็จเหลือเชื่อ แต่บางคนดูเคร่งเครียด พยายามมากแต่กลับไปได้ไม่ถึงไหน
คุณล่ะ อะไรคือ 20% ของคุณ?
ถ้านำหลักการนี้มาใช้กับการลงทุน สิ่งที่เราทำกันอยู่อะไรคือส่วนที่เป็น 20 อะไรเป็น 80
Posted on February 19, 2012 by fsquare Print Friendly
by Mr. Know How
จากหลัก Pareto ทำให้เราทราบว่าเรื่องที่มีผลต่อชีวิตเราถึง 80% นั้นใช้เวลาและความพยายามเพียง 20%
กฏ 80/20 หรือกฏพาเรโต (Vilfredo Pareto) นักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาลี สังเกตุว่าคนรวยจำนวน 20% เป็นเจ้าของที่ดินถึง 80% ในขณะที่คน 80% ที่เหลือต้องแบ่งสรรที่ดินใช้งานในส่วน 20% ที่เหลือ
ต่อมามีผู้ประยุกต์ใช้กับธุรกิจ พบว่า:
80% ของยอดขายมาจากลูกค้าจำนวน 20%
80% ของกำไรมาจากการใช้เวลาในการทำงานเพียง 20%
80% ของยอดขายมาจากพนักงานขายจำนวน 20%
หรือในชีวิตประจำวันเราจะพบว่า :
80% ของเวลาที่เราติดต่อพูดคุยด้วย เราใช้กับเพื่อนจำนวน 20%
80% ที่เราใส่เสื้อผ้าออกข้างนอกเป็นเสื้อจำนวน 20%
จริงไม่จริงสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ
จากหลัก Pareto ทำให้เราทราบว่าเรื่องที่มีผลต่อชีวิตเราถึง 80% นั้นใช้เวลาและความพยายามเพียง 20% ดังนั้นหากเราเน้น 20% นี้ให้ดีก็จะมีส่วนช่วย 80% ของเรื่องนั้น ๆ อย่างมาก ขณะที่ส่วน 80% ที่มีผลเพียง 20% นั้นเราสามารถผ่อน ๆ ลงได้ เนื่องจากไม่ใช่อะไรที่ critical จริง นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนดูเล่น ๆ ไม่ซีเรียสแต่ดูเก่ง ประสบความสำเร็จเหลือเชื่อ แต่บางคนดูเคร่งเครียด พยายามมากแต่กลับไปได้ไม่ถึงไหน
คุณล่ะ อะไรคือ 20% ของคุณ?
ถ้านำหลักการนี้มาใช้กับการลงทุน สิ่งที่เราทำกันอยู่อะไรคือส่วนที่เป็น 20 อะไรเป็น 80
- siebelize
- Verified User
- โพสต์: 452
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎ 80/20
โพสต์ที่ 2
ชอบกฏข้อนี้ครับ
ความยากของกฏนี้ คือคุณสามารถแยกออกมั้ย
ว่าอันไหนคือ 20% value creation part, และ ส่วนไหนคือ 80% waste
ถ้าในเคสของผมนะ
80% ก็จะเป็นช่วงที่มาเวิ่นเว้อในเว้บบอร์ด เฟซบุ๊ค ตั้งกระทู้ ตอบกระทู้ เพราะว่ารู้สึกว่าหาหุ้นราคาถูกลงทุนไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือนั่งดูตลาดแล้วหาอะไรทำแก้คันไปเรื่อย
เพราะว่าตลาดในช่วงนี้จะเป็นอะไรที่นอยส์มากๆ เล่นตัวไหนก็ได้ตัง นวคเชียร์ตัวไหนก็ขึ้น ทำไมหุ้นมันเล่นง่ายอะไรอย่างนี้.......
ส่วน 20% จะเป็นช่วงที่ไม่เห็นผมในกิจกรรมออนไลน์ไรพวกนี้เลย เพราะว่ากำลังพลิกก้อนหินทีละก้อนอยู่
ความยากของกฏนี้ คือคุณสามารถแยกออกมั้ย
ว่าอันไหนคือ 20% value creation part, และ ส่วนไหนคือ 80% waste
ถ้าในเคสของผมนะ
80% ก็จะเป็นช่วงที่มาเวิ่นเว้อในเว้บบอร์ด เฟซบุ๊ค ตั้งกระทู้ ตอบกระทู้ เพราะว่ารู้สึกว่าหาหุ้นราคาถูกลงทุนไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือนั่งดูตลาดแล้วหาอะไรทำแก้คันไปเรื่อย
เพราะว่าตลาดในช่วงนี้จะเป็นอะไรที่นอยส์มากๆ เล่นตัวไหนก็ได้ตัง นวคเชียร์ตัวไหนก็ขึ้น ทำไมหุ้นมันเล่นง่ายอะไรอย่างนี้.......
ส่วน 20% จะเป็นช่วงที่ไม่เห็นผมในกิจกรรมออนไลน์ไรพวกนี้เลย เพราะว่ากำลังพลิกก้อนหินทีละก้อนอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 1291
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎ 80/20
โพสต์ที่ 3
ผมว่าอันนี้ไม่น่าจะเป็นกฎนะครับเพราะมันไม่จริงเสมอไป
ผมลองยกตัวอย่างนะครับ
เราใช้เวลา 20% เพื่อศึกษาหุ้นอย่างจริงจัง ทำให้ได้กำไร 80%
เวลาอีก 80% ทำอย่างอื่นเช่นหาข่าวตามเว็บ ข่าววงใน เเต่ก็ยังได้กำไรหุ้น 20%
เห็นไหมครับ มีข้อขัดเเย้ง ว่าทำไม มีเเต่ได้ ไม่มีเสียเลย อย่างงี้ถ้าเราเอาเวลามาศึกษาหุ้นอย่างจริงจัง 80% ดีกว่า เเต่ทำไมกำไรไม่ลดลงเหลือ 20% หละครับ ดีไม่ดีอาจเพิ่มจาก 80% เป็น 90%-100% อีกด้วย ยังงงตัวเองอยู่เลย
ผมลองยกตัวอย่างนะครับ
เราใช้เวลา 20% เพื่อศึกษาหุ้นอย่างจริงจัง ทำให้ได้กำไร 80%
เวลาอีก 80% ทำอย่างอื่นเช่นหาข่าวตามเว็บ ข่าววงใน เเต่ก็ยังได้กำไรหุ้น 20%
เห็นไหมครับ มีข้อขัดเเย้ง ว่าทำไม มีเเต่ได้ ไม่มีเสียเลย อย่างงี้ถ้าเราเอาเวลามาศึกษาหุ้นอย่างจริงจัง 80% ดีกว่า เเต่ทำไมกำไรไม่ลดลงเหลือ 20% หละครับ ดีไม่ดีอาจเพิ่มจาก 80% เป็น 90%-100% อีกด้วย ยังงงตัวเองอยู่เลย
VI Robot The Great
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎ 80/20
โพสต์ที่ 4
แก้ผ้าอีกกี่ % ครับ 55555555555555+80% ที่เราใส่เสื้อผ้าออกข้างนอกเป็นเสื้อจำนวน 20%
value trap
-
- Verified User
- โพสต์: 467
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎ 80/20
โพสต์ที่ 5
เท่าที่ผมรู้จักและได้สังเกตุ นักลงทุนส่วนใหญ่รอบๆ ตัว
ใช้เวลานั่งดูจอวันละ 4 ชม. 50 นาที (รวม pre-open และ call market)
ใช้เวลาอ่านศึกษาหุ้นวันละ 30 นาที (ดูหุ้นที่นสพ.เชียร์หรือมีข่าวดีวันต่อวัน)
ถ้าวัดเป็นสัดส่วนโดยประมาณแล้ว ก็เท่ากับ 300:30 หรือ 100:10 แค่ 10% เองจริงๆ
ใช้เวลานั่งดูจอวันละ 4 ชม. 50 นาที (รวม pre-open และ call market)
ใช้เวลาอ่านศึกษาหุ้นวันละ 30 นาที (ดูหุ้นที่นสพ.เชียร์หรือมีข่าวดีวันต่อวัน)
ถ้าวัดเป็นสัดส่วนโดยประมาณแล้ว ก็เท่ากับ 300:30 หรือ 100:10 แค่ 10% เองจริงๆ
The miracle of compounding,
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 430
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎ 80/20
โพสต์ที่ 6
เอาคน 100 คน มาลงเงินคนละบาท ได้ 100 บาท
20 คนจะได้ 80 บาท
80 คน จะได้ 20 บาท
ใน20 คนที่ได้ 80 บาท
4 คน ได้ 64 บาท
16คน ได้ 16 บาท
ใน 4 คนที่ได้ 64 บาท
3 คนได้ 12.8 บาท
1 คนได้ 51.2 บาท
สรุป
1 คนได้ 51.2 เท่า
3 คนได้ คนละ 4.27เท่า
16 คนเท่าทุน
80 คน หายไปคนละ 80%
คิดว่าตัวเองอยู่ส่วนไหนล่ะ
ผมขอ 3 คน มากไปไม
20 คนจะได้ 80 บาท
80 คน จะได้ 20 บาท
ใน20 คนที่ได้ 80 บาท
4 คน ได้ 64 บาท
16คน ได้ 16 บาท
ใน 4 คนที่ได้ 64 บาท
3 คนได้ 12.8 บาท
1 คนได้ 51.2 บาท
สรุป
1 คนได้ 51.2 เท่า
3 คนได้ คนละ 4.27เท่า
16 คนเท่าทุน
80 คน หายไปคนละ 80%
คิดว่าตัวเองอยู่ส่วนไหนล่ะ
ผมขอ 3 คน มากไปไม
ปล ความเห็นส่วนตัว
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎ 80/20
โพสต์ที่ 8
ข้อมูลที่ใช้วิเคราะห์หุ้นที่จำเป็นชี้เป็นชีตายแค่ 20
อีก 80 เป็นอะไรก็ไม่รู้ (มีประโยชน์แต่ไม่จำเป็น, ไม่มีประโยชน์และไม่จำเป็น)
อีก 80 เป็นอะไรก็ไม่รู้ (มีประโยชน์แต่ไม่จำเป็น, ไม่มีประโยชน์และไม่จำเป็น)
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎ 80/20
โพสต์ที่ 9
pantip only 55 5555
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine