เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4214
ผู้ติดตาม: 0

Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ

โพสต์ที่ 31

โพสต์

เข้าไปดูตามลิ้งค์ ทำไมกลายเป็น ดร.ศุภวฺุฒิ หว่า?
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
sipoonya
Verified User
โพสต์: 469
ผู้ติดตาม: 0

Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ

โพสต์ที่ 32

โพสต์

ดำ เขียน:เข้าไปดูตามลิ้งค์ ทำไมกลายเป็น ดร.ศุภวฺุฒิ หว่า?
ให้เลือกดูวันที่ 13 มีนาคม 2555 ครับ
Sixth Sense Investor
viim
Verified User
โพสต์: 551
ผู้ติดตาม: 0

Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ

โพสต์ที่ 33

โพสต์

Ii'8N เขียน:http://www.dcs-digital.com/moneychannel ... p?listid=5
ดร. พูดแบบข้างบนเลย

รายการตอนนี้ น่าสนใจคือ .... ดร.นิเวศน์ ออกรายการกับคุณภาววิทย์
ขอบคุณมากครับ ยิ่งฟังยิ่งศรัทธา อาจารย์นิเวศน์ idol ของผมครับ ผมได้มีโอกาสพบท่านและเข้าไปทักท่าน เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 55 ที่ผ่านมา แต่คุยนิดเดียวเพราะคนรอคิวเยอะ มีความรู้สึกว่าอาจารย์เป็นผู้ใหญ่ที่ใจดีมาก :)
Pekko
Verified User
โพสต์: 671
ผู้ติดตาม: 0

Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ

โพสต์ที่ 34

โพสต์

สวัสดีครับพี่เจ๋ง พี่เจ๋งหายไปนานมาก (เอ หรือว่าเราหายไปเองนานกว่าหว่า) สบายดีมั้ยครับ
แวะมาทักทายครับ :D
สติปัฎฐาน 4
กาย เวทนา จิต ธรรม
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ

โพสต์ที่ 35

โพสต์

ดีครับ pekko
เกล้า
Verified User
โพสต์: 1165
ผู้ติดตาม: 0

Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ

โพสต์ที่ 36

โพสต์

viim เขียน:
Ii'8N เขียน:http://www.dcs-digital.com/moneychannel ... p?listid=5
ดร. พูดแบบข้างบนเลย

รายการตอนนี้ น่าสนใจคือ .... ดร.นิเวศน์ ออกรายการกับคุณภาววิทย์
ขอบคุณมากครับ ยิ่งฟังยิ่งศรัทธา อาจารย์นิเวศน์ idol ของผมครับ ผมได้มีโอกาสพบท่านและเข้าไปทักท่าน เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 55 ที่ผ่านมา แต่คุยนิดเดียวเพราะคนรอคิวเยอะ มีความรู้สึกว่าอาจารย์เป็นผู้ใหญ่ที่ใจดีมาก :)
จริงๆผมว่านอกจากท่านอาจารย์ นิเวศน์ ยังท่านอาจารย์ไพบูลย์ อาจารย์ถาวร พอได้คุย
กับท่านแลท่านมีเมตตาและไม่ถือตัวครับ..ก็เรียกว่าให้กันแบบศิษย์กับอาจารย์กันเลยทีเดียว
ควรทุ่มเทเจริญให้มาก..ในงานที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง..
Pekko
Verified User
โพสต์: 671
ผู้ติดตาม: 0

Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ

โพสต์ที่ 37

โพสต์

Jeng เขียน:ดีครับ pekko
ยังเหลือรุ่นพี่เก่าๆ มาเยี่ยมเยียนน้องๆ รู้สึกอบอุ่นใจมากครับ

แนวคิดของพี่เจ๋งดีมากนะครับ คล้ายๆ กับเฮีย endo ณ pantip ที่แนะนำ โดยให้เลือกหุ้นพื้นฐานดีที่ไม่อยู่ใน SET 50
หรือ SET 100 เพื่อลดความผันผวนจากราคาหุ้นที่ผิดปกติ(ที่มาจากการทำราคาในระยะสั้น หรือเก็งกำไรเรื่อง FUND FLOW) ไม่ให้ความสำคัญในส่วนเกินทุนที่เราซื้อมากเกินไปนัก (คิดเฉพาะเงินปันผลและอัตราเติบโตของเงินปันผล)
โดยพิจารณาปัจจัยพื้นฐานทุกด้านเป็นสำคัญ เช่น จำนวนลูกค้าบริษัทฯ การเปลี่ยนแปลงนโยบายและเทคโนโลยี ฯลฯ และกล้าขายทิ้ง เมื่อปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแย่ลงอย่างนัยสำคัญ

ซึ่งตรงนี้อยากถามพี่เจ๋งเป็นวิทยาทานว่า
1. กรณีเงินลงทุนไม่มากและซื้อทุกเดือนในจำนวนเงินเท่าๆ กัน ถ้าหุ้นที่เราซื้อราคาตลาดต่อหุ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ มันมีผลต่อจิตวิทยาว่าเราได้จำนวนหุ้นลดน้อยลงเรื่อยๆ จนซื้อไม่ได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนอย่างเคย
กรณีนี้เราควรกำหนดจำนวนซื้อขั้นต่ำหรือไม่(แต่ไม่เกินเงินลงทุน/เดือน ถ้าราคาตลาดและพื้นฐานยังอยู่ในวิสัยที่เราพอรับได้)
2. จาก 1. ถ้ามีเงินเหลือ หรือหุ้นตัวนั้นความน่าสนใจลดลง และหุ้นตัวอื่นไม่มีตัวใดเลยที่น่าสนใจเท่าตัวเดิม เราควรจะ
2.1 ถือเงินสดไว้เฉย
2.2 ซื้อตัวหุ้นตัวเดิม
2.3 ซื้อหุ้นตัวใหม่ที่มีความน่าสนใจรองๆ ลงมา

ส่วนกรณีขาลงผมเห็นด้วยกับพี่เจ๋งครับ แต่เราต้องอ่านออกว่าพื้นฐานกิจการมันแย่/ถดถอยจริงไหม ส่วนการกำหนด % ว่าลงเท่านั้นลงเท่านี้ แล้วจะซื้อเพิ่มกี่เท่า ผมว่ามันอยู่ที่ใจ/การวิเคราะห์/กำลังเงินของแต่ละคนครับ
สติปัฎฐาน 4
กาย เวทนา จิต ธรรม
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ

โพสต์ที่ 38

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ซึ่งตรงนี้อยากถามพี่เจ๋งเป็นวิทยาทานว่า 
1. กรณีเงินลงทุนไม่มากและซื้อทุกเดือนในจำนวนเงินเท่าๆ กัน ถ้าหุ้นที่เราซื้อราคาตลาดต่อหุ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ มันมีผลต่อจิตวิทยาว่าเราได้จำนวนหุ้นลดน้อยลงเรื่อยๆ จนซื้อไม่ได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนอย่างเคย 
กรณีนี้เราควรกำหนดจำนวนซื้อขั้นต่ำหรือไม่(แต่ไม่เกินเงินลงทุน/เดือน ถ้าราคาตลาดและพื้นฐานยังอยู่ในวิสัยที่เราพอรับได้)
2. จาก 1. ถ้ามีเงินเหลือ หรือหุ้นตัวนั้นความน่าสนใจลดลง และหุ้นตัวอื่นไม่มีตัวใดเลยที่น่าสนใจเท่าตัวเดิม เราควรจะ 
2.1 ถือเงินสดไว้เฉย
2.2 ซื้อตัวหุ้นตัวเดิม 
2.3 ซื้อหุ้นตัวใหม่ที่มีความน่าสนใจรองๆ ลงมา
ทุกครั้งที่ซื้อ ก็ไม่ต้องคิดถึงของเดิม คือคิดที่ต้นทุนใหม่ไปเลย

ว่าราคาใหม่นั้น น่าซื้อหรือไม่ ถ้าน่าซื้อก็ซื้อครับ

ส่วนกรณีจะกำหนดเงินขั้นต่ำหรือไม่ ไม่ทราบเหมือนกัน คือ พอใจซื้อแค่ไหนก็ซื้อเหอะ

ถ้าราคาสูงขึ้น และตัวอื่นไม่น่าสนใจ

ก็เก็บเงินไว้ก่อน

(วิชาหยุดซื้อ คนส่วนใหญ่ฝึกไม่สำเร็จ)

ใน 1 ปี มักมีเหตุอาเพศ อะไรบางอย่าง ทำให้หุ้นลงหนักๆ

ประมาณ 1 ครั้ง ถึงเวลานั้น ค่อยซื้อก็ยังไม่สาย

อืม ถามนำหละซิ น่าจะรู้อยู่แล้ว 555
Pekko
Verified User
โพสต์: 671
ผู้ติดตาม: 0

Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ

โพสต์ที่ 39

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ทุกครั้งที่ซื้อ ก็ไม่ต้องคิดถึงของเดิม คือคิดที่ต้นทุนใหม่ไปเลย 
ว่าราคาใหม่นั้น น่าซื้อหรือไม่ ถ้าน่าซื้อก็ซื้อครับ 
ส่วนกรณีจะกำหนดเงินขั้นต่ำหรือไม่ ไม่ทราบเหมือนกัน คือ พอใจซื้อแค่ไหนก็ซื้อเหอะ 
ถ้าราคาสูงขึ้น และตัวอื่นไม่น่าสนใจ
ก็เก็บเงินไว้ก่อน 
[color=#0000FF](วิชาหยุดซื้อ คนส่วนใหญ่ฝึกไม่สำเร็จ)[/color] 
ใน 1 ปี มักมีเหตุอาเพศ อะไรบางอย่าง ทำให้หุ้นลงหนักๆ 
ประมาณ 1 ครั้ง ถึงเวลานั้น ค่อยซื้อก็ยังไม่สาย
อืม ถามนำหละซิ น่าจะรู้อยู่แล้ว 555
ผมว่าคนส่วนใหญ่มักคิดถึงต้นทุนเดิม (ผมยังทำไม่ได้) ขอลงทะเบียนเรียนวิชาหยุดซื้อจากพี่เจ๋งครับ :)
สติปัฎฐาน 4
กาย เวทนา จิต ธรรม
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ

โพสต์ที่ 40

โพสต์

ถ้าคิดถึงต้นทุนเดิม ก็หลอกตัวเองซิ ว่ายังซื้อต่ำอยู่

สมมุติว่า หุ้น abc ซื้อที่ราคา 5 บาท พอหุ้นขึ้นมา 10 บาท ซื้อเท่าเดิม

แล้วบอกว่า ทุนอยู่ที่ 7.5 มันก็แปลกๆนะ

ตอนแรกคือทุน 5 บาท พอขึ้นมา 10 บาท ก็ได้กำไร 100 %

แต่ยังไม่ขาย เพราะพื้นฐานไม่เปลี่ยน

แต่เห็นราคา 10 บาท เสียดาย อยากซื้อเพิ่ม

หากไม่คิดต้นทุนเดิม ที่มีกำไร

เราจะซื้อหรือไม่

แต่พอมีทุนเดิม 5 บาท

เรากดซื้อที่ 10 บาท แบบสบายๆ เพราะคิดว่ายังไงก็ยังกำไร

พี่ว่าคิดแบบ สำหรับพี่ ไม่ถูกต้องครับ

แต่สำหรับคนอื่น ไม่ทราบเหมือนกัน
Pekko
Verified User
โพสต์: 671
ผู้ติดตาม: 0

Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ

โพสต์ที่ 41

โพสต์

วิธีคิดพี่เจ๋งเฉียบคมมากครับ ขอบคุณครับ
สติปัฎฐาน 4
กาย เวทนา จิต ธรรม
pornchal
Verified User
โพสต์: 1070
ผู้ติดตาม: 0

Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ

โพสต์ที่ 42

โพสต์

Jeng เขียน:หมายเหตุ ใช้ได้กับ การซื้อหุ้นแนว vi นะครับ

หากไปซื้อตามใคร ที่ราคาสูงๆ แล้วราคาล 50 % ซื้อเพิ่ม แบบนี้ก็ไม่เวิกนะครับ

การซื้อแนว vi ถ้าจะพูดกว้างๆ ราคาที่คุณซื้อนั้น คุณมั่นใจแล้ัวว่า

โอเค เมื่อเทียบกับพื้ันฐานของหุ้นที่คุณซื้อ

ไม่ว่าคุณจะดู pe growth roa roe หนี้สิน คู่แข่ง และอื่นๆ

เพราะฉะนั้น ถ้าราคาลงมา 50 % คุณต้องกระโดดดีใจ ว่าสถานการณ์แบบนี้ ทำให้คุณมีโอกาสทอง

ในการซื้อหุ้น ที่คุณศึกษามาอย่างดีแล้วว่าดีเยี่ยม แต่ซื้อได้ในราคาครึ่งเดียว

ถ้ามันลงไปอีก คือ ราคาลดลง 75 %

คุณก็ต้องว๊าว สุดยอดมาก แบบนี้ซื้อได้ในราคา หนึ่งในสี่

นั้นหมายความว่า เมื่อราคากลับมาที่เดิม คุณจะได้กำไร ตัวล่างสุด 3 ท่วมนะครับ

วิจารณ์ได้นะครับ หาทางออกให้เพื่อใครเห็นราคาลงแล้วเครียด

อย่าไปเครียดเลยครับ เพราะตอนที่ซื้อก็ซื้อเพราะกิจการมันดีไม่ใช่หรือ ไ่ม่ได้ซื้อมาขาย

ระยะสั้นๆ หากซื้อแล้วหุ้นขึ้น คุณจะซื้อเพิ่ม คุณก็ต้องซื้อแพง

vi น่าจะชอบที่จะซื้อหุ้นดี ราคาถูก นะครับ
พอมันลงมาขนาดนั้น เราเริ่มไม่แน่ใจว่ามันถูก หรือเราถูกหลอก หรือเราโง่ ที่อาจจะวิเคราะห์ผิด หรือ..บริษัทเปลี่ยนไป ....
The One
pornchal
Verified User
โพสต์: 1070
ผู้ติดตาม: 0

Re: เอางี้ดีมั๊ย เพื่อนๆ

โพสต์ที่ 43

โพสต์

Jeng เขียน:ถ้าคิดถึงต้นทุนเดิม ก็หลอกตัวเองซิ ว่ายังซื้อต่ำอยู่

สมมุติว่า หุ้น abc ซื้อที่ราคา 5 บาท พอหุ้นขึ้นมา 10 บาท ซื้อเท่าเดิม

แล้วบอกว่า ทุนอยู่ที่ 7.5 มันก็แปลกๆนะ

ตอนแรกคือทุน 5 บาท พอขึ้นมา 10 บาท ก็ได้กำไร 100 %

แต่ยังไม่ขาย เพราะพื้นฐานไม่เปลี่ยน

แต่เห็นราคา 10 บาท เสียดาย อยากซื้อเพิ่ม

หากไม่คิดต้นทุนเดิม ที่มีกำไร

เราจะซื้อหรือไม่

แต่พอมีทุนเดิม 5 บาท

เรากดซื้อที่ 10 บาท แบบสบายๆ เพราะคิดว่ายังไงก็ยังกำไร

พี่ว่าคิดแบบ สำหรับพี่ ไม่ถูกต้องครับ

แต่สำหรับคนอื่น ไม่ทราบเหมือนกัน
ผมเป็นตรงข้ามนะ ผมไม่อยากซื้อ เพราะจะทำให้ต้นทุนผมสูงขึ้น...กำไร (%) ลดลงทันที... เฮ้อ...
The One