พุธ มิ.ย. 15, 2005 9:48 am | 0 คอมเมนต์
เพื่อนๆเก่งหลายท่านเลยนะครับ
ผมพูดไปนิดหน่อย ก็เดากันถูกแล้ว
หุ้นตัวที่ 2 คือ Minor International หรือ MINT ครับ
หุ้นตัวนี้ต้องให้เครดิตคุณ Invisible Hand ที่เคยพูดถึงเอาไว้
ผมสนใจและศึกษาดูข้อมูล พบว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจมากครับ
เคยซื้อพร้อมกับพี่ปรัชญาแถว ราคาต่ำกว่า 3 บาท แต่ขายไปหมดแล้วเหลือไว้ดูต่างหน้า 100 หุ้น ได้รับหุ้นปันผลเพิ่มอีก 10 หุ้น รวมเป็น 110 หุ้น
เพื่อนๆ อ่านแล้วโปรดใช้วิจารณญานด้วยนะครับ
เพราะสิ่งที่ผมแสดงความเห็นไป เป็นมุมมองของผมคนเดียว
ซึ่งอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ หุ้นที่ผมเคยแสดงความคิดเห็นไว้หลายตัว
ก็ทำกำไรได้ลดลง ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ เช่น fancy sfp เป็นตัวอย่างครับ
อ่านแล้วยังไงเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ก็แสดงความคิดเห็นได้นะครับ
จะได้เป็นประโยชน์ เพราะได้รับรู้มุมมองหลายด้าน
ผมจะเกริ่นนำธุรกิจของ MINT เท่าที่ทราบนะครับ จะได้เป็นประโยชน์สำหรับคนที่เคยรับรู้ หรือคนที่ไม่เคยรู้เลยว่า MINT ทำธุรกิจอะไร
MINT หรือ RGR ในชื่อเก่า เริ่มแรกประกอบกิจการด้านโรงแรมระดับ 5 ดาวหรือระดับบนครับ ต่อมาได้ขยายกิจการไปในธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้แก่ ธุรกิจศูนย์การค้า ธุรกิจสปา ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจให้เช่าเวลาโรงแรม และล่าสุดธุรกิจอาหาร บริษัทเคลมว่าเป็น
Asia largest hospitality and leisure operator.
มาไล่ดูแต่ละธุรกิจนะครับ เริ่มกันที่
โรงแรม
MINT มีธุรกิจโรงแรม ณ.สิ้นปี 2004 จำนวน 2,241 ห้องพัก มากที่สุดอันดับ 1 หรือ 2 ของประเทศไม่แน่ใจ(อาจจะต้องถามท่านม้าเฉียว) ครอบคลุม 3 เครือข่ายคือ
1.
เครือข่ายแมริออท 4 แห่งคือกรุงเทพ หัวหิน พัทยา และเจดับบลิวแมริออทภูเก็ต
2.
เครือข่ายโฟซีซั่น คือที่กรุงเทพ เชียงใหม่ และที่กำลังก่อสร้างแล้วเสร็จปีหน้า ที่สมุย และโฟซีซั่น ช้าง แค็ม ที่เชียงราย แล้วเสร็จปีนี้
3.
เครือข่ายอนันตรา ซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมของ MINT เอง มี 3 แห่งคือที่เชียงราย หัวหิน ล่าสุดที่สมุย ไม่รวมที่เขาหลักที่เสียหายทั้งหมด ปีนี้ที่กำลังก่อสร้างคือที่ประเทศมัลดีฟท์ 1 แห่งในปีนี้เป็นโรงแรม 4ดาว มีอัตราการจองเข้าพักแล้ว 66% ค่าห้องคืนละ 270 เหรียญ และอีก 2 แห่งในปีหน้าแบบหรูหรา ค่าห้องพักประมาณ 500 เหรียญต่อคืน
4.โรงแรมที่เวียดนาม ถือหุ้นส่วนน้อย
ที่กล่าวมาเป็นโครงการเฉพาะที่ยืนยันแน่นอนแล้วนะครับ ตามแผนงาน 5 ปี MINT
จะต้องมีเครือข่ายโรงแรมเพิ่มอีกประมาณ 17 แห่ง ในหลายประเทศคือเวียดนาม บาหลี มัลดีฟ ศรีลังกา จะเห็นได้ว่า MINT เป็นผู้นำโรงแรมระดับบนของไทยอย่างแท้จริง เพราะมีเฉพาะโรงแรม 5 ดาวเท่านั้น เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายต่างกัน การดำเนินงานโรงแรมระดับบน ทำให้มีกำไรสูงกว่าระดับล่าง และโรงแรมหลายแห่งใช้เงินลงทุนนับพันล้านบาท หลายที่ได้รับรางวัลจากนิตยสารท่องเที่ยวบ่อยๆ เช่น โฟซีซั่นเชียงใหม่ อนันตราเชียงราย เจดับบลิวแมริออทภูเก็ต
เท่าที่ผมมีข้อมูล กำไรและยอดขายของ MINT ก้าวกระโดดทุกปีนะครับ หลายปีมาแล้วติดต่อกันและปีนี้ก็เช่นกัน น่าจะมียอดขายมากกว่าหรือใกล้เคียง 10,000 ล้าน
ส่วนประเด็นธรรมภิบาล ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่จะไปคุยกันในหัวข้อผู้บริหารต่อไป