เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
- marcus147
- Verified User
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 1
ช่วงนี้ยังเป็นต้นปีอยู่ เลยอยากจะวางแผนการลงทุน(ในหุ้น)ของปีนี้
แต่ก็เกิดความสับสนขึ้นในใจ เกี่ยวกับเรื่องภาพรวมของเศรษฐกิจโลก
ปลายปีที่แล้วนักวิเคราะห์เกือบทุกคน ออกมาให้ความเห็นว่า
ในปี 2555 นี้จะเกิดปัญหาเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นจะตกแรงในช่วงครึ่งปีแรก
แล้วจะฟื้นในครึ่งปีหลัง
แต่จากเดือน มกราคมที่ผ่านมา ตลาดหุ้นกลับปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจนไปถึง 1,100 จุดแล้ว
ผมเลยอยากถามเพื่อนๆว่า มีแผนการในการลงทุนปีนี้ยังไงครับ
คาดว่าจะเกิดวิกฤตแล้วรอช้อนซื้อหรือเปล่า
หรือว่าตลาดให้ซึมซับข่าวร้ายๆไปเกือบหมดแล้ว แล้วจะค่อยๆขยับขึ้นช้าๆ
หรือว่าจะ sideway ยาวๆ
จริงๆตามแนว vi ก็ไม่ควรจะคาดการตลาดล่วงหน้าหรอก(เพราะมันคาดการณ์ไม่ได้)
แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าคนอื่นๆ คิดยังไงกับ ประกอบกับเกิดความสับสนด้านความคิดว่าจะเอาไงดี
ซื้อเลยดีไหม รอดีไหม แบบไหนคุ้มกว่ากัน ??
แต่ก็เกิดความสับสนขึ้นในใจ เกี่ยวกับเรื่องภาพรวมของเศรษฐกิจโลก
ปลายปีที่แล้วนักวิเคราะห์เกือบทุกคน ออกมาให้ความเห็นว่า
ในปี 2555 นี้จะเกิดปัญหาเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นจะตกแรงในช่วงครึ่งปีแรก
แล้วจะฟื้นในครึ่งปีหลัง
แต่จากเดือน มกราคมที่ผ่านมา ตลาดหุ้นกลับปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจนไปถึง 1,100 จุดแล้ว
ผมเลยอยากถามเพื่อนๆว่า มีแผนการในการลงทุนปีนี้ยังไงครับ
คาดว่าจะเกิดวิกฤตแล้วรอช้อนซื้อหรือเปล่า
หรือว่าตลาดให้ซึมซับข่าวร้ายๆไปเกือบหมดแล้ว แล้วจะค่อยๆขยับขึ้นช้าๆ
หรือว่าจะ sideway ยาวๆ
จริงๆตามแนว vi ก็ไม่ควรจะคาดการตลาดล่วงหน้าหรอก(เพราะมันคาดการณ์ไม่ได้)
แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าคนอื่นๆ คิดยังไงกับ ประกอบกับเกิดความสับสนด้านความคิดว่าจะเอาไงดี
ซื้อเลยดีไหม รอดีไหม แบบไหนคุ้มกว่ากัน ??
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
- marcus147
- Verified User
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 2
ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า อเมริกามีโอกาสที่จะรอดจากวิกฤตหนักๆ
ส่วนยุโรป ไม่น่ารอด คือมีเปอร์เซ็นที่จะเกิดวิกฤตสูง
ส่วนตัวแล้ว เงินที่นำมาลงทุนมาจากเงินเดือนเป็นหลัก แบ่งมาลงในหุ้นก่อนประมาณ 30%
ก็เลยคิดว่าแนวทางการลงทุนในปีนี้ จะเป็นแนวซื้อเฉลี่ยคือ ถ้าช่วงไหนหุ้นใน wish list มีราคาลดลง
ก็จะแบ่งเข้าซื้อส่วนนึง แต่จะไม่เข้าซื้อหนักๆ
แต่ก็มีหุ้นอีกกลุ่มที่เล็งๆไว้ เป็นหุ้นเติบโต แต่เป็นหุ้นตัวเล็ก กลุ่มนี้อาจจะซื้อมากหน่อยเพราะว่าโตเร็ว
แล้วก็มีเงินสดเก็บไว้ในพอร์ตส่วนนึงเพื่อรอโอกาส (ประมาณ 20%)
ซึ่งถ้าเกิดวิกฤตจริงๆ ก็จะใช้เงินสดในพอร์ต บวกกับเงินที่จะเข้ามาในเดือนถัดๆไปอก็น่าจะได้ช้อนซื้อหุ้นถูกๆตอนเกิดวิกฤตได้ระดับนึง
เพื่อนๆมีการวางแผนกันแบบไหนครับ เผื่อผมจะได้เอามาปรับใช้บ้าง หรือมีข้อแนะนำดีๆมาแชร์กันได้นะครับ
ส่วนยุโรป ไม่น่ารอด คือมีเปอร์เซ็นที่จะเกิดวิกฤตสูง
ส่วนตัวแล้ว เงินที่นำมาลงทุนมาจากเงินเดือนเป็นหลัก แบ่งมาลงในหุ้นก่อนประมาณ 30%
ก็เลยคิดว่าแนวทางการลงทุนในปีนี้ จะเป็นแนวซื้อเฉลี่ยคือ ถ้าช่วงไหนหุ้นใน wish list มีราคาลดลง
ก็จะแบ่งเข้าซื้อส่วนนึง แต่จะไม่เข้าซื้อหนักๆ
แต่ก็มีหุ้นอีกกลุ่มที่เล็งๆไว้ เป็นหุ้นเติบโต แต่เป็นหุ้นตัวเล็ก กลุ่มนี้อาจจะซื้อมากหน่อยเพราะว่าโตเร็ว
แล้วก็มีเงินสดเก็บไว้ในพอร์ตส่วนนึงเพื่อรอโอกาส (ประมาณ 20%)
ซึ่งถ้าเกิดวิกฤตจริงๆ ก็จะใช้เงินสดในพอร์ต บวกกับเงินที่จะเข้ามาในเดือนถัดๆไปอก็น่าจะได้ช้อนซื้อหุ้นถูกๆตอนเกิดวิกฤตได้ระดับนึง
เพื่อนๆมีการวางแผนกันแบบไหนครับ เผื่อผมจะได้เอามาปรับใช้บ้าง หรือมีข้อแนะนำดีๆมาแชร์กันได้นะครับ
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 3
ช่วงที่ผ่านมาผมถือหุ้น 100 เปอร์เซนต์ แต่ล่าสุดพึ่งมีเงินเข้าพอร์ตเพิ่มอีก คิดเป็นแค่ 3 เปอร์เซนต์ของพอร์ต แต่หาหุ้นดีราคาถูกที่จะทำให้ได้ผลตอบแทนที่พอใจไม่ได้เลยครับ เลยคิดว่าจากนี้หากมีเงินสดเข้าพอร์ตเพิ่มอีก หากยังหาหุ้นไม่ได้ก็จะเก็บเงินสดไว้ยังงั้น จะไม่รั้นซื้อหุ้นดีที่ราคาค่อนข้างสูง
ส่วนตัวที่ถืออยู่ส่วนใหญ่จะถือระยะยาว กำหนดในใจว่า2-3ปีขึ้นไป จึงยังไม่ขาย แม้บางตัวจะค่อนข้าง overvalue ไปแล้วแต่เนื่องจากพื้นฐานยังคงดีเติบโตอยู่จึงถือต่อครับ
และที่สำคัญที่สุดคือ ในช่วงเวลาที่หาหุ้นลงทุนไม่ค่อยได้อย่างตอนนี้ การคิดแผนรับมือหากเกิดตลาดขาลงอีกครั้งก็สำคัญ ซึ่งตรงนี้ผมจะใช้วิธี switch หุ้น ตัวที่ชอบน้อยในพอร์ต ไปสู่ตัวที่ชอบมากกว่าหรือmosลงมาเยอะกว่า และจะซื้อตัวที่ผมคิดว่าแข็งแกร่ง ความเสี่ยงต่ำ หากราคาลงมาเยอะ เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจในการถือหุ้นผ่านช่วงเวลาเลวร้ายครับ
ส่วนตัวที่ถืออยู่ส่วนใหญ่จะถือระยะยาว กำหนดในใจว่า2-3ปีขึ้นไป จึงยังไม่ขาย แม้บางตัวจะค่อนข้าง overvalue ไปแล้วแต่เนื่องจากพื้นฐานยังคงดีเติบโตอยู่จึงถือต่อครับ
และที่สำคัญที่สุดคือ ในช่วงเวลาที่หาหุ้นลงทุนไม่ค่อยได้อย่างตอนนี้ การคิดแผนรับมือหากเกิดตลาดขาลงอีกครั้งก็สำคัญ ซึ่งตรงนี้ผมจะใช้วิธี switch หุ้น ตัวที่ชอบน้อยในพอร์ต ไปสู่ตัวที่ชอบมากกว่าหรือmosลงมาเยอะกว่า และจะซื้อตัวที่ผมคิดว่าแข็งแกร่ง ความเสี่ยงต่ำ หากราคาลงมาเยอะ เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจในการถือหุ้นผ่านช่วงเวลาเลวร้ายครับ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 5
ผมเรียนจบทางด้านเศรษฐศาสตร์มา สมัยเรียน อาจารย์บอกว่า โอกาสทำนายเศรษฐกิจถูก คือ 50/50
ถ้าให้ทำนายเชิงเวลา และปริมาณ นี่ยิ่งยากเข้าไปใหญ่
แถมผลกระทบจากเศรษฐกิจที่มีต่อตลาดนี่ยิ่งยากเข้าไปอีกขั้น
ดังนั้นในการลงทุนผมไม่เคยทำนายตลาดจากการทำนายเศรษฐกิจเลย
ถ้าทำนายผมจะทำนายธุรกิจ จากผลกระทบทางเศรษฐกิจ ท่าจะง่ายกว่า
สำหรับผม สิ่งที่ผมจะถามตัวเอง คือ ถ้าเกิดวิกฤตขึ้นจริงๆ กิจการที่เราลงทุนมีความทนทานต่อวิกฤตขนาดไหน ปัจจัยอะไรบ้างที่จะเข้ามากระทบกับกิจการ และมูลค่าจะเปลี่ยนไปมากไหม ถ้ามาก ก็แสดงว่าเป็นธุรกิจที่อ่อนไหวต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิด ก็จะหลีกเลี่ยงไปลงทุนในกิจการที่แข็งแกร่ง ในราคาที่มี mos
ถ้าให้ทำนายเชิงเวลา และปริมาณ นี่ยิ่งยากเข้าไปใหญ่
แถมผลกระทบจากเศรษฐกิจที่มีต่อตลาดนี่ยิ่งยากเข้าไปอีกขั้น
ดังนั้นในการลงทุนผมไม่เคยทำนายตลาดจากการทำนายเศรษฐกิจเลย
ถ้าทำนายผมจะทำนายธุรกิจ จากผลกระทบทางเศรษฐกิจ ท่าจะง่ายกว่า
สำหรับผม สิ่งที่ผมจะถามตัวเอง คือ ถ้าเกิดวิกฤตขึ้นจริงๆ กิจการที่เราลงทุนมีความทนทานต่อวิกฤตขนาดไหน ปัจจัยอะไรบ้างที่จะเข้ามากระทบกับกิจการ และมูลค่าจะเปลี่ยนไปมากไหม ถ้ามาก ก็แสดงว่าเป็นธุรกิจที่อ่อนไหวต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิด ก็จะหลีกเลี่ยงไปลงทุนในกิจการที่แข็งแกร่ง ในราคาที่มี mos
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 6
เวลาที่มีข่าวร้ายเรื่องวิกฤตแรงพอสะท้อนให้ Index ของตลาดหุ้นร่วงอย่างรุนแรง...น่ากลัวครับ
แม้แต่หุ้นที่พื้นฐานไม่ได้รับผลกระทบ ราคาจะตกด้วยการเกิดปรับ Valuation ใหม่ของตลาด
แต่เมื่อไรที่ตลาดไม่ได้ตกใจกับข่าวร้ายใหม่ๆแล้ว จุดๆนี้จะทำให้หลายคนตกรถ
เพราะเขายังติดอยู่ในภวังค์ของความกลัว จนไม่กล้าซื้อหุ้นใหม่อีกครั้ง
สำหรับปีนี้ผมกรองหุ้นละเอียดมากขึ้น, ปีก่อน Upside 15% ผมก็ซื้อแล้ว
แต่ปีนี้ต้องได้สัก 20-30% ขึ้นไปถึงจะซื้อ, ส่วนข่าวมหภาคและตลาดหุ้นอื่นก็ติดตามอยู่ห่างๆ
แม้แต่หุ้นที่พื้นฐานไม่ได้รับผลกระทบ ราคาจะตกด้วยการเกิดปรับ Valuation ใหม่ของตลาด
แต่เมื่อไรที่ตลาดไม่ได้ตกใจกับข่าวร้ายใหม่ๆแล้ว จุดๆนี้จะทำให้หลายคนตกรถ
เพราะเขายังติดอยู่ในภวังค์ของความกลัว จนไม่กล้าซื้อหุ้นใหม่อีกครั้ง
สำหรับปีนี้ผมกรองหุ้นละเอียดมากขึ้น, ปีก่อน Upside 15% ผมก็ซื้อแล้ว
แต่ปีนี้ต้องได้สัก 20-30% ขึ้นไปถึงจะซื้อ, ส่วนข่าวมหภาคและตลาดหุ้นอื่นก็ติดตามอยู่ห่างๆ
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 7
พี่picatos งั้นแบบนี้ความรู็ที่ใช้เพื่อทำนายมีไว้ทำไมหรอครับพี่ เพิ่งรู้ในมุมมองนักเศรษฐศาตร์โอการคือ50-50 แต่กลับทำนายกันกระจายตามหน้าหนังสือพิมพ์เพื่ออะไรอะครับ????picatos เขียน:ผมเรียนจบทางด้านเศรษฐศาสตร์มา สมัยเรียน อาจารย์บอกว่า โอกาสทำนายเศรษฐกิจถูก คือ 50/50
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- uthai.l
- Verified User
- โพสต์: 176
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 8
ผมตอนนี้หาความรู้ในการลงทุนไปเรื่อยๆ ถ้าเจอที่ยังมี mos สูงก็ซื้อ ถ้าไม่เจอก็เก็บเงินสดไว้รอช่วงวิกฤตครับ มันมาแน่แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เท่านั้นครับ ต้องมีกระสุนไว้รอโอกาส
ทุกปัญหามีทางออก ถ้าไม่มีทางออก...ให้ออกทางเข้า!!!
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 9
ถ้าจำไม่ผิดสมัยเรียน เศรษฐศาสตร์ จะแบ่งเป็น Ex-Ante กับ Ex-Postpicklife เขียน:พี่picatos งั้นแบบนี้ความรู็ที่ใช้เพื่อทำนายมีไว้ทำไมหรอครับพี่ เพิ่งรู้ในมุมมองนักเศรษฐศาตร์โอการคือ50-50 แต่กลับทำนายกันกระจายตามหน้าหนังสือพิมพ์เพื่ออะไรอะครับ????picatos เขียน:ผมเรียนจบทางด้านเศรษฐศาสตร์มา สมัยเรียน อาจารย์บอกว่า โอกาสทำนายเศรษฐกิจถูก คือ 50/50
Ex-Post คือ การอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น
Ex-Ante คือ การทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้น
ความรู้ในการเรียนทางเศรษฐศาสตร์หลักๆ คือ เอาไว้ใช้ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต อย่างสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว นั่นก็คือ Ex-Post เหตุการณ์หนึ่ง อาจจะมีทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์อธิบายได้เป็นสิบๆ อย่าง เพราะ หลักเศรษฐศาสตร์ทั่วๆ ไปใช้การ simplify ความเป็นจริงลงเพื่อศึกษาตัวแปรที่เป็นเหตุ-ปัจจัย ต่อเหตุการณ์นั้นๆ ซึ่งถ้าเรียนเศรษฐศาสตร์จะมีคำหนึ่งที่เจอบ่อยๆ คือ Ceteris Paribus ซึ่งหมายถึงให้ตัวแปรอื่นๆ ที่ไม่ได้ศึกษาเป็นค่าคงที่ (ถ้าในทางคณิตศาสตร์ ก็คือการทำ diff นั่นเอง)
แล้วในการทำนายเศรษฐกิจ นั่นก็คือ Ex-Ante ถ้าเป็นการทำนายในทางทฤษฎี เราก็จะรู้แค่ว่าถ้าเพิ่มตัวแปรนี้ขึ้น จะส่งผลกระทบต่อตัวแปรอื่นในทางบวก หรือทางลบ รู้แค่นี้ ภายใต้ขอบเขตที่ให้ตัวแปรอื่นๆ คงที่
ในความเป็นจริงแล้ว ตัวแปรต่างๆ มีเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เป็นเหตุปัจจัยต่อกันและกัน และมีตัวแปรอีกมากมายที่ไม่อยู่ในการศึกษา หรือเราไม่สามารถนำมารวม เพราะ เราเองไม่มีความสามารถที่จะศึกษาตัวแปรต่างๆ ได้พร้อมๆ กัน ดังนั้นในทางเศรษฐศาสตร์ จึงต้องเอาสถิติเข้ามาประกอบ เข้ามาร่วม ได้เป็นวิชาใหม่ที่เรียกว่า Econometrics เพื่อที่จะได้เอาสถิติมาทดสอบทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ว่าเป็นไปตามทฤษฎี ด้วยความน่าจะเป็นที่น่าจะเชื่อถือได้มากน้อยขนาดไหน
และในการทำนายตัวเลขออกมา ก็เอาตัวแปรที่คำนวนได้ตามที่ใช้ Econometrics มา Project อนาคตออกไป ก็จะได้ตัวเลข ซึ่งเป็นความน่าจะเป็นทางสถิติ ที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขทางทฤษฎีที่ simplify อะไรต่างๆ ไปเยอะ ดังนั้นโอกาสที่จะทำนายถูกในเชิงตัวเลขและเวลาจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ถ้าได้มีโอกาสเข้าไปเรียน เข้าไปศึกษา เข้าไปเรียนจบ ได้ปริญญาเศรษฐศาสตร์ ก็จะทำให้เรามั่นใจได้ว่า เราไม่ควรยึดมั่นถือมั่นในคำพูด คำทำนายของนักเศรษฐศาสตร์ใดๆ ทั้งนั้น เพราะ แม้กระทั่งตัวนักเศรษฐศาสตร์เอง ก็ยังไม่มั่นใจเหมือนกันว่าสิ่งที่ทำนายจะเป็นไปตามที่ทำนาย
แต่ที่เราอ่านบทความ อ่านความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ ด้วยความที่เราไม่รู้ความจริงหลายๆ อย่างของหลักวิชาเศรษฐศาสตร์ ทำให้บางครั้ง ตัวเราเอง เชื่อสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์พูด ยิ่งกว่าตัวนักเศรษฐศาสตร์ที่พูดออกมาเสียอีก จริงๆ ถ้าสังเกตคำพูดของนักเศรษฐศาสตร์ให้ดี จะมีคำวิเศษณ์จำพวกความน่าจะเป็นที่เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือเป็นการอ้างทฤษฎีต่างๆ เข้ามาประกอบให้ดูน่าเชื่อถือ แต่จริงๆ แล้วทฤษฎีต่างๆ ที่ยกมาก็ถูก simplify และมีช่องโหว่งในโลกแห่งความเป็นจริงอยู่มากมาย
ดังนั้น ตอบคำถามของ picklife คือ เรียนเศรษฐศาสตร์ไปทำไม? คำตอบก็คือ เรียนไปเพื่อทำความเข้าใจโลกให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงเหตุ-ปัจจัยของสิ่งต่างๆ มากยิ่งขึ้น เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการใช้ตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้มีแนวทางว่าน่าจะมาทางนี้แหละ น่าจะไปทางนั้นแหละ แต่ไม่ได้รับประกันว่าจะต้องถูกอย่างแน่นอน
ส่วนที่ถามว่าที่ทำนายกันออกทางสื่อกันกระจายนี่ทำเพื่ออะไร ก็ต้องตอบว่าทำเพื่อเงินไง... คนอ่านข่าว ประชาชน ก็แค่ต้องการใครสักคนนึงที่ดูมีความรู้ มีความสามารถ เป็นกูรู มาฟันธง มาทำให้ตัวเองเชื่อมั่นในอนาคตบางอย่างได้มากยิ่งขึ้น จนบางครั้งเชื่อซะยิ่งกว่าคนที่ฟันธงซะอีก
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 11
เตรียมเงินสดไว้รอของดีราคาที่ไม่แพงซัก 30% ของพอร์ตครับ
พ่อผมสอนไว้ว่าต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับโอกาสดีๆที่จะผ่านเข้ามาเสมอ
พ่อผมสอนไว้ว่าต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับโอกาสดีๆที่จะผ่านเข้ามาเสมอ
- marcus147
- Verified User
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 12
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 2595
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 14
"Limitation is no limitation"
Bruce Lee
ดังนั้น Plan is no plan, Flexibleไว้ดีกว่าครับ ผมก็ลบเเผนในหัวออกไปเเล้วเช่นกันครับ
"ฮว้าาาาา"
ขอร้องเเบบ Bruce Lee ซักทีครับ....ดูสารคดีเเล้วกำลังอิน
Bruce Lee
ดังนั้น Plan is no plan, Flexibleไว้ดีกว่าครับ ผมก็ลบเเผนในหัวออกไปเเล้วเช่นกันครับ
"ฮว้าาาาา"
ขอร้องเเบบ Bruce Lee ซักทีครับ....ดูสารคดีเเล้วกำลังอิน
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 15
ไม่เป็นไรครับ อย่าไปใส่ใจaradin เขียน:ขออภัย คุณ ส.สลึง ครับ มือพลาดไปโดน ปุ่ม ลบส.สลึง เขียน:ทำเหมือนปีที่แล้วครับ
คือไม่มีแผน
เหมือนเดินเล่น
สะดุดอะไร
ก็หยิบอันนั้นครับ
(ผมใช้ แท็บ ยังไม่ค่อยถนัดมือ)
ผมอยากโพสก็โพสครับ ไม่ได้คิดอะไร
แต่แอบแค้น
แฮ่.. ผมล้อเล่นนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 16
นักเศรษฐศาสตร์ในหนึ่งวันมีหน้าที่สองอย่างอย่างแรกคือทำนายอนาคต และอย่างที่สองคืออธิบายว่าทำไมที่ทำนายไว้เมื่อวานถึงทำนายผิดครับpicklife เขียน:พี่picatos งั้นแบบนี้ความรู็ที่ใช้เพื่อทำนายมีไว้ทำไมหรอครับพี่ เพิ่งรู้ในมุมมองนักเศรษฐศาตร์โอการคือ50-50 แต่กลับทำนายกันกระจายตามหน้าหนังสือพิมพ์เพื่ออะไรอะครับ????picatos เขียน:ผมเรียนจบทางด้านเศรษฐศาสตร์มา สมัยเรียน อาจารย์บอกว่า โอกาสทำนายเศรษฐกิจถูก คือ 50/50
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 38
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 18
ผมลงทุน 60% เงินสด 40% ซื้อหุ้นในกรณีที่หุ้นตกเกิน 20% จากสูงสุดครับ..
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 20
ถือเงินสด 20 % ซื้อแต่ธุรกิจที่ดี ราคาถูก
ลงทุนเพื่อชีวิต
- luangrit
- Verified User
- โพสต์: 376
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 21
เหมือนทุกปีครับ
หาถูกไม่ได้ ก็ไม่ซื้อ
หุ้นบางตัวถึงจะถูกแต่ไม่คุ้มค่า ก็ไม่ซื้อ
เอาเฉพาะตัวที่มันอยู่ในวงสวิงของเราเท่านั้น
ผมรอได้ครับ
ระหว่างทางก็เก็บเงิน เก็บความรู้
เก็บข้อมูลบริษัทที่น่าสนใจไปเรื่อยๆ
พร้อมกับหาวิธีในการลดความเสี่ยงของตัวเอง
ไม่เดาทิศทางของเศรษฐกิจ
ใช้ประโยชน์จากปัจจุบันเท่านั้นครับ
หาถูกไม่ได้ ก็ไม่ซื้อ
หุ้นบางตัวถึงจะถูกแต่ไม่คุ้มค่า ก็ไม่ซื้อ
เอาเฉพาะตัวที่มันอยู่ในวงสวิงของเราเท่านั้น
ผมรอได้ครับ
ระหว่างทางก็เก็บเงิน เก็บความรู้
เก็บข้อมูลบริษัทที่น่าสนใจไปเรื่อยๆ
พร้อมกับหาวิธีในการลดความเสี่ยงของตัวเอง
ไม่เดาทิศทางของเศรษฐกิจ
ใช้ประโยชน์จากปัจจุบันเท่านั้นครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 54
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 22
เหมือนเดิมครับ ซื้อหุ้นเฉพาะที่อยู่ใน ลิดต์ ที่เคยถืออยู่ถ้าราคายังไม่สูงจนเกินผลตอบแทนที่จะได้รับ ปกติผมถือเงินสดประมาณ 10% ของพอร์ต รวมทั้งหมด เดี่ยวพอได้ปันผลมา คงได้เริ่มซื้อ อีกครับ
ไม่ใช่เซียน ไม่เก่ง แต่เป็นคนชอบอ่านชอบศึกษางบการเงิน
- Unstablemind
- Verified User
- โพสต์: 405
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 23
To stay very still....very
Its all about getting alpha.
- OutOfMyMind
- Verified User
- โพสต์: 1232
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 24
ผมคงจะถือหุ้น 100% เหมือนเดิม ตามที่ทำแบบนี้ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8
เราคาดการณ์อนาคตไม่ได้ครับ แต่เราเตรียมรับมือมันได้
หากเราเป็นเจ้าของธุรกิจ แล้วทราบว่าปีนี้เศรษฐกิจจะแย่ เราจะขายบริษัทเราทิ้งครึ่งนึงเพื่อถือเงินสดหรือ
สิ่งที่เราควรทำ ผมว่า เราควรรัดกุมเรื่องหนี้สิน และ เดิมเกมธุรกิจแบบ conser มาก ๆ ตางหาก
หันกลับมาสู่การลงทุนในหุ้น ผมก็มองหาบริษัทที่ทำแบบที่กล่าวมา แล้วถือหุ้นของเขาในราคาที่ sensible ครับ
เราคาดการณ์อนาคตไม่ได้ครับ แต่เราเตรียมรับมือมันได้
หากเราเป็นเจ้าของธุรกิจ แล้วทราบว่าปีนี้เศรษฐกิจจะแย่ เราจะขายบริษัทเราทิ้งครึ่งนึงเพื่อถือเงินสดหรือ
สิ่งที่เราควรทำ ผมว่า เราควรรัดกุมเรื่องหนี้สิน และ เดิมเกมธุรกิจแบบ conser มาก ๆ ตางหาก
หันกลับมาสู่การลงทุนในหุ้น ผมก็มองหาบริษัทที่ทำแบบที่กล่าวมา แล้วถือหุ้นของเขาในราคาที่ sensible ครับ
แชทบอทสำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่า
https://www.chathoon.com/
https://www.chathoon.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 42
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 25
ผมลดสัดส่วนหุ้นลงเยอะเหมือนกัน เพราะหุ้นที่สนใจส่วนใหญ่ราคาแพงแล้ว
ตอนนี้เลยถือเป็นเงินสด และหุ้นปันผลที่ราคาไม่ค่อยเหวี่ยงตามตลาดซะเป็นส่วนใหญ่
ยังไงก็ในปีนึงๆ น่าจะมีโอกาสที่ตลาดจะลงแรงๆ ซึ่งปีนี้ก็น่าจะมีหลายครั้งเลย
ถึงตอนนั้น คงจัดเต็ม ส่วนตอนนี้ก็ติดตามผลการดำเนินงานของหุ้นที่เราสนใจไปก่อนพลางๆ
ตอนนี้เลยถือเป็นเงินสด และหุ้นปันผลที่ราคาไม่ค่อยเหวี่ยงตามตลาดซะเป็นส่วนใหญ่
ยังไงก็ในปีนึงๆ น่าจะมีโอกาสที่ตลาดจะลงแรงๆ ซึ่งปีนี้ก็น่าจะมีหลายครั้งเลย
ถึงตอนนั้น คงจัดเต็ม ส่วนตอนนี้ก็ติดตามผลการดำเนินงานของหุ้นที่เราสนใจไปก่อนพลางๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1070
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนๆวางแผนการลงทุนกันอย่างไรในปี 2555
โพสต์ที่ 26
ปีนี้ตั้งใจขายออกไปสัก 70% ของ Port ครับ กลับมาตั้งหลักใหม่ ปีที่แล้วไม่กล้าซื้อเพราะมีหุ้นใน port เยอะ เวลามันลงแล้วเราไม่กล้าซื้อเพิ่ม ปีนี้ขอขาย ๆ ๆ แล้ว รอ รอ หาตัวที่ MOS เยอะ ๆ รอ ไม่รีบซื้อแล้ว...
The One