FE ลงกำไรในไตรมาส 2 ต่ำไป 17.51 ล้านบาท

[ผู้ติดตาม]

ผมดูในงบพบว่ามีรายการในงบดุลที่ลงว่าเป็นงานที่ยังไม่ได้เรียกเก็บแต่เสร็จแล้วจำนวน 17.51 ล้านบาท ซึ่งอาจจะเก็บไม่ทันในไตรมาสจริงๆ หรือเป็นเทคนิคการดึงทางบัญชีก็ไม่รู้เพราะลองเช็คปีที่ผ่านๆ มาก็ไม่เคยมีรวมทั้งปีนี้มีการสำรองหนี้สงสัยจะสูญอีก 2 ล้านบาททั้งที่ผ่านมาแทบจะไม่เคยสำรองเลยแปลก แต่ไม่เป็นไรสงสัยจะไปลงรวมตอนไตรมาสสามมั้ง เอถ้าเป็นลูกเล่นจริงทำเพื่ออะไรกันแน่หรือมีใครต้องการทวงหุ้นคืนเพราะมีการเก็บกันไปเยอะ แต่ตัวผมเองก็ทยอยรับเรื่อยๆ ทีละ 500 หุ้นตั้งแต่ 84ลงมาแล้วครับ

[chatchai]

ผมว่ารายการ เงินตามสัญญาที่ยังไม่ได้เรียกเก็บ น่าจะคล้ายกับลูกหนี้การค้านะครับ และผมว่ารายได้จากรายการนี้ได้ลงบันทึกในงบกำไรขาดทุนไปแล้ว เหมือนกับขายของแล้วยังไม่ได้เก็บเงินนะครับ เลยลงบันทึกเป็นลูกหนี้แทนเงินสด

[นายนก]

สรุปแล้วมันยังไงกันแน่อะครับ มีนัยสำคัญอะไรหรือป่าว



โทษทีไม่ได้เรียนหรือรู้เรื่องบัญชีเท่าไรครับ

[chatchai]

ในการลงบัญชีงบกำไรขาดทุนนั้นใช้หลักเกณฑ์ตามสิทธิครับ ไม่ใช้เกณฑ์เงินสด ดังนั้นถ้าบริษัทได้ขายหรือบริการสินค้าให้แก่ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว ก็จะสามารถลงเป็นรายได้และหักค่าใช้จ่าย รวมถึงผลกำไรในงบกำไรขาดทุนได้เลย โดยไม่ต้องคำนึงว่าบริษัทได้รับเงินชำระค่าขายหรือบริการสินค้าแล้วหรือยัง ถ้ารับแล้วบริษัทก็จะมีเงินสดเพิ่มขึ้น แต่ถ้ายังไม่รับบริษัทก็จะมีลูกหนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งในกรณีนี้ผมเดาว่าบริษัทคงจะลงบันทึกรายได้และผลกำไรแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการชำระเงินจึงลงรายการในงบดุลเป็นเงินตามสัญญาที่ยังไม่ได้เรียกเก็บครับ

[stockms]

มองในแง่ดีก็คือบริษัทลงบัญชีแบบ conservative ไม่ได้ลงเพื่อหวังผลให้ราคาหุ้นเพิ่มหรือลดลงมากเกินไป ซึ่งรู้สึกว่าจะได้ผล

[ผู้ติดตาม]

โดยทั่วไปแล้วการนับเป็นรายได้จะคิดเมื่อมีการวางใบแจ้งหนี้ และคิดว่าสำหรับ FE ก็น่าจะเหมือนกันดังนั้นในกรณีนี้เพียงต้องการให้รายการไม่ปรากฏอยู่ในยอดขายเพื่อให้เกิดเป็นสินทรัพย์แทน เพราะหากมีการนับยอดรายได้แล้วไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแยกรายการจากยอดลูกหนี้ ดังนั้น จึงเชื่อได้ว่ารายการนี้ยังไม่มีการบันทึกเป็นยอดรายได้จริง ผมถือว่าเป็นเทคนิคทางบัญชีเท่านั้น และก็ถือว่ามีความชัดเจนพอสมควรเพราะถ้าจะไม่แสดงรายการไว้ก็ไม่น่าจะมีคนรู้ โดยปกติการลงบัญชีมีการลงรายได้ใหญ่ๆ 3 แบบ (ผมสังเอาจากข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์ที่ผ่านมา) คือ

1. แบบนับตั้งแต่ได้สัญญาเป็นรายได้ สมัยก่อนกล่มอสังหาฯ ทำกันมากเพื่อโชว์ยอดขาย แต่อันตรายมากเพราะหากมีการทิ้งสัญญาก็เละ ปัจจุบันเข้าใจว่า Set ไม่ให้ลงโดยวิธีนี้แล้ว
2. แบบทั่วไปก็คือลงรายได้เมื่อมีการวางบิลหรือใบแจ้งหนี้ อันนี้ตามมาตรฐานเลยเพราะรู้ว่างานเสร็จแล้วจะได้เงินเมื่อไหร่ตามการให้เครดิต ถ้าไม่ได้นานๆ ก็ตั้งเผื่อหนี้สูญเมื่อครบจำนวนก็พิจารณาจะว่าจะดำเนินการทางกฎหมายหรือไม่ เพราะถ้ายอดไม่มากก็ไม่คุ้มที่จะไปตามทวง
3. แบบอนุรักษ์นิยม (Conservative) ก็คือจะไม่ยอมลงรายได้เด็ดขาดถ้ายังไม่สามารถเก็บเงินได้จริง บริษัทไหนที่ทำแบบนี้เรียกว่าชัวร์จริงๆ ถ้ายังสามารถดำเนินธุรกิจแล้วมีเติบโตไปได้

ปัจจุบันเข้าใจว่า SET ให้ลงแบบ 2 อย่างเดียวเพื่อให้ข้อมูลออกมานักลงทุนสามารถใช้เปรียบเทียบได้ ในอดีตพอจะยกตัวอย่างคือ
ลงแบบ 1 Tyong, Bland
ลงแบบ 3 LH
ที่พยายามแสดงความคิดเห็นทั้งหมด ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่นักบัญชีแต่สังเกตเอาจากงบการเงินที่แต่ละบริษัทส่งให้ SET ตรงหมายเหตุงบฯ สำหรับ FE ตอนแรกเจอรายการนี้ก็งงเหมือนกัน แต่คิดไปคิดมาก็ต้องยอมรับว่าเขาก็ไม่ได้ปิดบังอะไรเพราะงานโฆษณาต้องเก็บเงินเป็นงวดดังนั้นก็เป็นไปได้ที่อาจจะวางบิลไม่ทันจริงๆ หวังว่ามันคงจะมีประโยชน์กับคนที่ถือ FE ว่าทำไมไตรมาส 2 กำไรรวมจึงลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งที่มีอัตราการขยายตัวที่ดี

[chatchai]

เอถ้าลงบันทึกรายการในงบดุลอย่างเดียว โดยลงรายการเป็น มีสินทรัพย์คือเงินตามสัญญาที่ยังไม่ได้เรียกเก็บ คือมีลูกหนี้เพิ่มขึ้น แล้วจะลงรายการอะไรละครับ เพื่อให้บัญชีงบดุลมันดุลกันนะครับ เพื่อนๆช่วยคิดด้วย ผมคิดไม่ออก แต่ถ้าให้แน่ใจทำไมไม่โทรศัพท์ไปถามที่บริษัท FE ละครับ จะได้ไม่ต้องมาเดากันเอง ผมยังเคยโทรศัพท์ไปถามหลายบริษัทเลยครับ ได้รับคำตอบที่ดีชัดเจนมาก

[ผู้ติดตาม]

ยอมแพ้ครับคุณ Chatchai ทายไม่ถูกจริงๆ เพราะธุรกิจนี้มันไม่ใช่การผลิตไม่อยางนั้นจะบอกว่า เครดิตสินค้าคงเหลือพวกวัตถุดิบสำหรับผลิต แต่แบบโฆษณาน่าจะเป็นธุรกิจบริการ อย่างนั้นก็ต้องยอมรับแล้วละครับว่ามันน่าจะเครดิตรายได้ได้อย่างเดียวเท่านั้น ต้องขอโทษทุกท่านด้วยครับถ้าใครอ่านแล้วกรุณาลืมด้วย เดี๋ยวผมจะโดนข้อหาปั่นหุ้น ฝาก Web Master ลบหัวข้อด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

[chatchai]

ผมว่าอ่านงบอย่างละเอียดและคิดตามอย่างคุณผู้ติดตามดีครับ ไม่อ่านอย่างลวกๆ หลายคนยังดูแค่ Bottom Line กำไรสุทธิเท่านั้นเอง ผิดถูกปรึกษากันได้ครับ ไม่มีใครถูกหรือผิดตลอดไปหรอกครับ

[ปรัชญา1]

ขอรายการด้วยครับ จะได้ศึกษาด้วย
ว่ามีรายการอะไรบ้าง
ผมไม่ได้ดูบัญชีเลย
ตามดูแต่หนังสือพิมพ์ รายวัน ราย3วัน ราย7วัน รายเดือนต่างๆ
ตามฟังวิทยุเมื่อตอนขับรถ และคอยดูทางทีวี
ปกติผมจะดูทีวี วันละกว่า10ชั่วโมงเพราะนั่งเฝ้าร้านโชว์ห่วย
และเข้าร้านขายหนังสือวันละประมาณครึ่งหรือ1ชั่วโมง
ดูแต่งานเขาครับ เลยอ่อนบัญชี
ช่วยนำรายละเอียดมาให้พวกเราดูด้วยนะครับ
จะได้เห็นอะไรดีดี

[ผู้ติดตาม]

ผมคิดว่าดูตกไปคำหนึ่งเขาใช้ว่ามูลค่างานที่เสร็จแต่ยังไม่นับเป็นรายได้ในงวด สงสัยผมจะมีปัญหากับภาษาไทย เพราะถ้าเป็นแบบนี้เวลาผมดูงานที่ต้องผลิตของเขาจะเรียกว่า Work in Process ดังนั้นเป็นไปได้ว่า FE จะมีการปรับปรุงวิธีการลงบัญชีเพราะปี 44 45 ไม่มีการลงแบบนี้ ผมลอง Copy จาก poems มาให้ดูครับ

บริษัท ฟาร์อีสท์ ดีดีบี จำกัด (มหาชน)
งบดุล (งบแยก) ไตรมาส 2 ปี 2546 ไตรมาส 2 ปี 2545 ไตรมาส 2 ปี 2544

เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด
25.59 21.04 25.87

เงินลงทุนชั่วคราว
27.35 6.66 4.09

ลูกหนี้และตั๋วเงินรับการค้าสุทธิ
245.99 212.42 171.09

ลูกหนี้และตั๋วเงินรับการค้า-บุคคลหรือกิจการอื่น
176.01 212.42 0.00

ลูกหนี้และตั๋วเงินรับการค้า-บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน
72.90 0.00 0.00

หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ
2.92 0.00 0.00

มูลค่างานที่เสร็จยังไม่ได้เรียกเก็บ/ค่างวดที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้
17.15 0.00 0.00

มูลค่างานที่เสร็จยังไม่ได้เรียกเก็บ
17.15 0.00 0.00

เงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน-สุทธิ
1.00 18.50 2.50

เงินให้กู้ยืมระยะสั้น-บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน
1.00 0.00 0.00

สินค้าคงเหลือ/อสังหาริมทรัพย์
0.00 0.00 4.89

สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น
12.00 26.20 6.76

รวมสินทรัพย์หมุนเวียน
329.08 284.82 215.20

เงินลงทุนซึ่งบันทึกโดยวิธีส่วนได้เสีย
90.57 78.15 71.03

บริษัทย่อย
59.85 0.00 0.00

บริษัทร่วม/กิจการร่วมค้า
30.73 0.00 0.00

เงินลงทุนระยะยาวอื่น
64.30 49.89 73.74

ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์สุทธิ
196.08 191.96 184.57

ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์
196.08 191.96 184.57

สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น
0.40 0.51 1.00

รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
351.35 320.52 330.34

รวมสินทรัพย์
680.44 605.34 545.54

[chatchai]

คุณผู้ติดตามครับ

ผมอ่านชื่อรายการนี้จากงบที่ส่งตลาดนะครับ ชื่อรายการว่า งานตามสัญญาที่ยังไม่ได้เรียกเก็บ ซึ่งผมยังไม่แน่ใจว่างานเสร็จหรือยัง และจำนวนเงิน 17.357 ล้านบาท คงเป็นต้นทุนในการผลิตงานละครับ ผมเข้าใจว่ารายการนี้คงคล้ายกับสินค้าคงคลังนะครับ เพียงแต่ว่าบริษัทนี้ผลิตงานตามคำสั่งลูกค้า (Make to Order) เราก็ยังไม่รู้ว่าบริษัทจะมีรายได้เท่าไร และจะมีกำไรเท่าไรครับ