ปี2554 ผ่านไปคุณได้เรียนรู้อะไรจาก ตลาด"ขุมทรัพย์การเงิน"

[เกล้า]

สรุปสำหรับปี 2554 ที่กำลังจะผ่านพ้น..สิ่งที่ได้จากตลาดหุ้น
ก็คือหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า..
หลักการก็คงยังเป็นหลักการที่ร่วมสมัยไม่ได้ดูว่าเสื่อมคลายลงเลย
แม้หลักการนี้จะเกิดขึ้นมายาวนาน..แต่ทันสมัยได้โดยตลอด..เรานอนหลับ
เพราะไม่ต้องเฝ้ามองตลาดทุกวัน..หลักการนี้เมื่อยึดมั่นแล้ว..ก็กินอิ่มนอนหลับ
สุดท้ายก็จบลงตรงความสุขใจ..สวัสดีปีใหม่พี่ๆน้องๆชาววีไอทุกๆท่านครับ

[dome@perth]

เป็นกระทู้ที่ดีมากๆ กระทู้หนึ่งเลยครับ

ขอบคุณครับพี่หมอพอล
อยากเห็นกระทู้ดีๆ ที่แชร์หลากหลายประสบการณ์
ได้เรียนรู้จากคนอื่นโดยไม่ต้องลองด้วยตัวเองไปซะทุกเรื่องครับ

พี่หมอได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆจากตลาดบ้างครับปีนี้

[Paul VI]

สรุปกันไปเยอะแล้วนะ

เอาที่เรียนแบบส่วนตัวเลย

1 ความสำเร็จ ไม่ได้มาจากความฟลุ๊ก ต้องพยายาม ทำการบ้าน หาความรู้ให้มากพอ

2 การเลือกว่าจะลงทุนหุ้นตัวไหน มีความสำคัญมากพอกับจังหวะเวลาที่เลือกหุ้น และ MOS

3 ใจเรายังนิ่งไม่พอ ผลตอบแทนจะกระเพื่อม ตามใจที่ไม่นิ่งนั้น

ยังมีอีก ไว้จะมาเพิ่ม แต่นี่คือสิ่งที่รู้สึกว่าได้กับตัวในปีนี้

[Paul VI]

อีกอย่าง ต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเอง ให้มากพอควร

การฟังมากเป็นสิ่งที่ดี แต่นั่นต้องไม่ไปทำลายความมั่นใจส่วนตัวที่ศึกษามามากและดีพอ

การมี connection ในการเรียนรู้เป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด สุดท้ายคือ ตัวเราเอง

และผมเรียนรู้ว่า การลงทุน้ป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่่ ทั้งชีวิตของเรา

ความสุขต้องเก็บเกี่ยวไปในระหว่างทางเสมอ

[Nevercry.boy]

เป็นกระทู้ที่ดี ดีใจที่ได้อ่าน และท่านโดมก็เขียนในอารมณ์ที่ตกผลึกสนิท
เรียกว่าตกตระกอนทางความคิด ตัวหนังสือมีพลังมากครับ

ปีนี้สิ่งที่ได้เรียนรู้

1 นายตลาด ไม่ได้โง่

2 หุ้นเน่า มันเน่าจากภายใน บริษัทเน่ามันเน่าจากแก่น

3 ทองแท้ไม่กลัวไฟและทองเก๊จะลอก เพียงแต่ แกงค์ตกทองเดี๋ยวนี้มันเนียน

[dome@perth]

เป็นกระทู้ที่ดี ดีใจที่ได้อ่าน และท่านโดมก็เขียนในอารมณ์ที่ตกผลึกสนิท
เรียกว่าตกตระกอนทางความคิด ตัวหนังสือมีพลังมากครับ

ชมมากไปแล้วครับท่าน NB
ข้าน้อยปํญญายังเขลา ยังต้องฝึกเกลาอยู่มาก
ท่านผู้รู้ทั้งหลาย โปรดชี้แนะ

ปีนี้สิ่งที่ได้เรียนรู้

1 นายตลาด ไม่ได้โง่

2 หุ้นเน่า มันเน่าจากภายใน บริษัทเน่ามันเน่าจากแก่น

3 ทองแท้ไม่กลัวไฟและทองเก๊จะลอก เพียงแต่ แกงค์ตกทองเดี๋ยวนี้มันเนียน

3 ข้อนี้คม และ ลึกซึ้งมากๆ อ่านแล้วต้องใช้ความคิด ไตร่ตรองจนเกิดปัญญา
หากอ่านผ่านๆจะไม่เห็น " พลังของตัวหนังสือ" ของท่านเช่นกันครับ

[sakkaphan]

อีกอย่าง ต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเอง ให้มากพอควร

การฟังมากเป็นสิ่งที่ดี แต่นั่นต้องไม่ไปทำลายความมั่นใจส่วนตัวที่ศึกษามามากและดีพอ

การมี connection ในการเรียนรู้เป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด สุดท้ายคือ ตัวเราเอง

และผมเรียนรู้ว่า การลงทุน้ป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่่ ทั้งชีวิตของเรา

ความสุขต้องเก็บเกี่ยวไปในระหว่างทางเสมอ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

[เกล้า]

2 การเลือกว่าจะลงทุนหุ้นตัวไหน มีความสำคัญมากพอกับจังหวะเวลาที่เลือกหุ้น และ MOS

เอาอีกครับคุณหมอ..ช่วยขยายความตรงนี้อีกหน่อย
กระทู้พี่โดมมันไปเลยส่งท้ายปี..

[sakkaphan]

คุณNevercryboy"2 หุ้นเน่า มันเน่าจากภายใน บริษัทเน่ามันเน่าจากแก่น"
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ผมเชื่อเสมอว่า บริษัทที่ดี มันต้องดีจากระบบภายใน ไม่ใช่อาศัยสภาวะแวดล้อมภายนอกเกื้อหนุนแต่เพียงอย่างเดียว บริษัทที่อาศัยเพียงปัจจัยภายนอกเกื้อหนุน อาจเป็นการเติบโตเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ในขณะที่บริษัทที่ดีจากภายใน แม้จะเกิดภาวะไม่คาดฝันอย่างเช่นน้ำท่วม ก็สามารถฝ่าวิกฤติไปได้
หาก 2 แรงบวก ดีทั้งปัจจัยภายในและภายนอกแล้ว ย่อมเป็นเพชรน้ำงามดีๆนี่เอง

[MaiFuen]

ข้อคิดจากปีนี้ทำให้ผมลงทุนอย่างมีความสุขขึ้นมากเลยครับ

1.อย่าโลภเกินความรู้
2.ไม่ควรเดาตลาด
3.ควรจัดพอร์ตให้แข็งแกร่งพร้อมรับวิกฤติทุกเมื่อ
4.ควรลงทุนอย่างสบายใจ อย่าไปเสี่ยงหรือพยายามเร่งผลตอบแทนเกินไป เน้นความสุขระหว่างทางดีกว่า
ถ้าเราไม่สะดุดขาตัวเองล้มซะก่อน ค่อยๆเดินไปเด๋วก็ถึงเองครับ

[sakkaphan]

อีกหนึ่งบทเรียนสำหรับผม

เรียนรู้ว่า โอกาสซื้อ มีอยู่เสมอในตลาดหุ้น หากเราใจเย็นเพียงพอ ไม่ควรรีบร้อนซื้อเพียงเพราะกลัวจะพลาดของดี เพราะการซื้อขายด้วยอารมณ์เป็นการบดบังสติสัมปชัญญะของตัวคุณเอง

.....สติสัมปชัญญะ..แปลว่า ความระลึกรู้ นึกขึ้นได้ "ความไม่เผลอ" ...เป็นบ่อเกิดแห่ง "ปัญญา"

[หมีบึงกุ่ม]

1. เมื่อศึกษามาอย่างดีแล้ว ต้องเชื่อมั่น ให้เครดิตตัวเอง และกล้าตัดสินใจซื้อขายตามที่คิดไว้ อย่าไขว้เขวด้วยอารมณ์ตลาด และอย่าให้ราคาที่ "เคยต่ำกว่านี้" หรือ "เคยสูงกว่านี้" มากระทบการตัดสินใจ อย่าซื้อขายตามผู้อื่น เชื่อมั่นตัวเอง เพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อไรเขาอาจจะกลับมาคิดแบบเดียวกับเรา

2. ราคาเกินพื้นฐานไปมากแล้วไม่ขาย จะถือไว้ดูมันลงให้เจ็บใจทำไม

3. แม้ช่วงที่ตลาดแพง ก็ให้พยายามหาหุ้นดีและถูก หาแล้วไม่เจอ ก็อย่าพยายามลงทุนโดยยอมซื้อแพงขึ้น

4. การพลาดลงทุนในหุ้นดีๆ สักตัว ไม่ใช่วันสิ้นโลก โอกาสใหม่ๆ มีมาอีกเสมอ หากไม่สามารถหาโอกาสลงทุนดีๆ ด้วยตนเองและทำกำไรจากหุ้นตัวอื่นได้อีก ก็อย่าลงทุนเอง

5. ถ้าไม่รู้จักวิเคราะห์เอง ศึกษาเอง จะไม่หนักแน่น จะวูบไหวไปตามข่าว บทวิเคราะห์ เว็บบอร์ด และคำแนะนำต่างๆ ทำให้ไขว้เขว เครียด หลอน และตัดสินใจผิดได้ การลงทุนจะมีความสุขมากกว่าเมื่อได้เงินเพราะวิเคราะห์เองได้ถูก ไม่ใช่เมื่อได้เงินเพราะต้องคอยอาศัยผู้อื่น

6. ปกติการถือเงินสดมูลค่าเงินจะลดเพราะเงินเฟ้อ แต่ถ้าถือรอซื้อหุ้นมูลค่าเงินสดก็เพิ่มขึ้นได้เมื่อราคาหุ้นลง

7. การด่วนตัดสินบริษัทที่มีธุรกิจแย่จากข้อมูลเก่าและความเคยชิน จะทำให้พลาดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของบริษัทนั้น ซึ่งอาจเป็นโอกาสการลงทุนที่ดี

[SunShine@Night]

3. แม้ช่วงที่ตลาดแพง ก็ให้พยายามหาหุ้นดีและถูก หาแล้วไม่เจอ ก็อย่าพยายามลงทุนโดยยอมซื้อแพงขึ้น

6. ปกติการถือเงินสดมูลค่าเงินจะลดเพราะเงินเฟ้อ แต่ถ้าถือรอซื้อหุ้นมูลค่าเงินสดก็เพิ่มขึ้นได้เมื่อราคาหุ้นลง

2 ข้อนี้โดนมากครับ

[charonp]

เรียนรู้ว่า ต้องเป็นคนมีเหตุผลในการซื้อ-ขาย แล้วยึดไว้ให้แน่น

แต่ครึ่งปีที่ผ่านมาสำหรับการศึกษาและลงมือ ก็ถือว่าโอเคครับ ถึงแม้ว่าค่าครู มันจะเยอะอยู่บ้าง

ที่สำคัญได้มุมมองใหม่ๆ ที่ไม่คิดว่าจะเจอในโลกออนไลน์

ขอบคุณ THAI VI

[imerlot]

1. ปีนี้ผมซื้อ"บ้อซังเกี่ยม" ต้นปี ที่งานหนังสือ 800 ลด-30% แต่ไม่ได่อ่านและลืมไปแล้ว พอธันวาไปซื้อซ้ำอีกทีที่ aprint สมาชิกลด-5% พออ่านจบะไปเก็บอ้ามี 2 ชุด เลยได้บทเรียนว่า จะซื้อต้อง รอ รอ รอ "等"
ทุนต้อง-30% ไม่ใช่ -5%

2.การลงทุนระยะยาวนั้น Port เราจะต้องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นเราจะต้องเป็น net buy เสมอ และ จะเป็น net buy ที่ดีได้รอซื้อถูกแบบข้อ1.

3. ปี2010 เดือนกันยา set index 921
ปี2010 เดือนกันยา set 916
ขณะที่กำไร 9 เดือนมากกว่าปีก่อน +30%
แต่คนไม่กล้า ซื้อ เพราะกลัว ไป600-400 เหมือน ปี 2008
พอ พ.ย.-ธ.ค. มันกลับมาที่ 1050 จนได้
ได้บนเรียน ว่า
3.1 ถ้า low ปีนี้ ต่ำกว่าปีก่อน แสดงว่า ถูกพอควรแล้ว "ซื้อได้บ้าง" ไม่ต้องรอถึง จุดต่ำสุด

4. รถไฟ รถยนต์ บขส เครื่องบิน ตอนปีใหม่ พา เราไป เที่ยวงาน "พืชสวนโลก" ได้หมด แต่ว่า ช้าหรือเร็ว ค่าตั๋วถูกหรือแพง หุ้นดีมันก็เลย แพงโคตร แบบตั๋วเครื่องบินชั้นหนึ้ง หรือราคาโรงแรม high season
4.1 ซึ่งผมไม่มีเวลา จึงยอมซื้อหุ้นคุณภาพสูงในราคาแพงดีกว่า แต่เฉพาะตอนตลาด bottom แบบ กันยา (แต่ระวัง commo ที่เหวี่ยง เพราะ เราจะไปเหนือ บางทีมันจะพาไปใต้ เปรียบหรือขี่ม้าพยศ 23 ไป 30 กลับมา 15 ได้ S..)

5. ปี2011นี้ "sell in May go away back in Sep" work

6. ฟัง กูรู ให้มาก หรือ อ่าน ให้ มาก แค่ คำเดียว บางที เปลี่ยนแพ้ เป็น ชนะ.

7. บางทีดูงบสู้ จิตนาการไม่ได้ เช่น น้องน้ำมา เราต้อง จิตนาการไป ล่วงหน้า ว่า ใคร ++ ใคร-- อันนี้ต้องฝึกอีกมาก

8. ไม่เข้าใจ ปีก่อน เขาบอกว่า จะไป 1234 แล้ว ดบ.ขึ้น ลดเครดิต3A-us 3Cกรีซ น้องน้ำ
ก็เลยจบที่ 102x-103x ขาดไป -200
แต่ปีหน้า เขาว่า 900-10x0 แบบนี้ จะลงต่ออีก -100?
ผมว่าทายไม่ถูกอีก เหมือนปีที่แล้ว มันจะมี อะไรเกิดขึ้นอีก
8.1 ดบ.ลง
8.2 ภาษี 30 ไป23
8.3 Q4ปี2011 ฐานต่ำ
8.4 megaproject แก้น้ำ

9. ข้อคิด: หาดใหญ่ ท่วมหนัก ปีต่อมา มันก็ท่วมอีก ..เอาอยู่หรือยัง?
สวัสดีปีใหม่..2555

[chukieat30]

ปี54 ผมก้ได้ความรู้จากตลาดครับ มันเป็นสิ่งที่สัมผัสได้โดยตรง


1.จะ boxing fighting or temple boxing ก้ล้วนมีข้อดีข้อเสียในวิธีของมัน

2.ในกฎของการต่อยมวยสากลคือ ห้ามชกใต้เข็มขัด แต่ในชีวิตจริง บางทีก้ต้องต่อยใต้เข็มขัด

3.ถ้าทุนที่ซื้อไว้ไม่ใช่พื้น ก้อย่าฝืนที่จะคัท ยามเครื่องตก

4.ความเก๋าในตลาด บางทีก้สำคัญกว่าความรู้

5.คนมักทำอะไรซ้ำๆ นายตลาดก้มักทำอะไรซ้ำๆ ขอเพียงรู้ว่า เค้าทำอะไรซ้ำๆเราก้จะ

เข้่าใจนายตลาดได้

ปีนี้รู้เพิ่มแค่นี้ครับ

[วรันศ์ บัฟเฟต]

.....................ไร้ธรรมภิบาล..............................

ถึงบางบริษัทหรือบุคคลบางคนไม่เคยมีประวัติหรืออดีตที่ไม่ดีก็อย่าไปคิดว่าเกิดขึ้นไม่ได้ ใจคนเราไม่มีวันรู้ว่าอะไรอยู่ข้างในจริงๆ

เพราะไม่มีอดีตหรือประวัติให้ตรวจเช็ค ถ้าคุณบังเอิญโดนเปิดซิงเป็นเหยื่อรุ่นแรก ก็ซวยไปครับ 555555+

เรื่องนี้ส่วนตัวผมว่าโหดที่สุดแล้ว

[sakkaphan]

.....................ไร้ธรรมภิบาล..............................

ถึงบางบริษัทหรือบุคคลบางคนไม่เคยมีประวัติหรืออดีตที่ไม่ดีก็อย่าไปคิดว่าเกิดขึ้นไม่ได้ ใจคนเราไม่มีวันรู้ว่าอะไรอยู่ข้างในจริงๆ

เพราะไม่มีอดีตหรือประวัติให้ตรวจเช็ค ถ้าคุณบังเอิญโดนเปิดซิงเป็นเหยื่อรุ่นแรก ก็ซวยไปครับ 555555+

เรื่องนี้ส่วนตัวผมว่าโหดที่สุดแล้ว

ช่วยบอกได้มั้ยครับว่าบริษัทอะไร ผมว่าคงไม่ผิดกติกาเว็บนะครับ อยากลองไปศึกษาเคสครับ

[sakkaphan]

อีกหนึ่งข้อบทเรียน

หนทางแห่งการลงทุน ช่างมี กับดัก เยอะเหลือเกิน ไม่รู้ใครมาวางไว้เต็มทางไปหมด ผมติด"กับดักกระจายความเสี่ยง" ไปเต็มๆ
ทั้งๆที่หุ้นที่เราคิดว่าดีกว่าอยู่ตรงหน้า แต่การ"สักแต่ว่าจะกระจายความเสี่ยง"โดยกระจายไปถือหุ้นที่เราไม่มั่นใจ
จะกลายเป็น Diworstsification อย่างที่ peter lynch ว่าไว้เลย

[dome@perth]

อีกข้อหนึง.. ผมลืมไปได้ไง

ตลาดแห่งนี้...ทำให้ผมได้เรียนรู้ เพื่อนร่วมการลงทุน อีกมากมายเลยครับ

เพื่อนที่มีความเห็นที่แตกต่าง แต่เราก็ได้เรียนรู้จากความต่างนั้นเสมอ
เพื่อนที่คุยภาษาเดียวกัน มีอารมณ์เดียวกัน เพื่อนหลายๆคนเข้า หลายคนเข้า รวมกันเป็น "นายตลาด"

มันทำให้ผมได้ฝึกดึงอารมณ์ของตัวเองออกจากตลาด ทั้งทำได้บาง ไม่ได้บ้าง
เพราะเรายังไม่เข้มแข็งพอ....

ปีหน้า 2555 ผมตั้งใจจะฝึกเรื่องอารมณ์เป็นหลักครับ

[sorageol46]

สวัสดีครับ ผมลงทุนครบหนึ่งปี พอดีครับ

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากตลาด

1. เราต้องมีหลักการของตัวเราเอง และอย่าไปหวั่นไหวหรือเชื่อตามคำพูดของคนอื่น
2. ลงทุนตามความรู้ที่เรามี และเข้าใจ ถ้าเราคิดว่าความรู้ยังมีไม่พอ ต้องขยันให้มากกว่านี้
3. ผมเคยซื้อหุ้นตัวหนึ่งจากการฟังจากผู้อื่นมา โดยที่ไม่เคยได้ยินชื่อบริษัทด้วยซ้ำ
ด้วยความเป็นมือใหม่ ซื้อถือไว้ อยู่หลายเดือน จนขายออกไป ยอมรับว่าไม่ได้ซื้อมาก
ทำให้ขาดทุนไม่มาก แต่ทำให้ผมเสียโอกาสในการลงทุนในบริษัทที่คิดว่าดีกว่าออกไป
4.ได้เห็นความโลภของคนรู้จัก ด้วยการซื้อหุ้นที่เป็นพวก DW เพราะหวังรวยอย่างรวดเร็ว
สุดท้ายเขาเหล่านั้น ขาดทุนไปรวมๆ กันหลายแสนบาท
5. ได้รู้จักThaiVi และทำให้ผมรู้จักการลงทุนแบบเน้นคุญค่าซึ่งผมคิดว่าตรงกับการลงทุนที่ผมต้องการ
คือการลงทุนแบบมีความสุขครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการลงทุนครับ

ขอขอบคุณพี่โดม ที่คอยให้คำแน่ะนำดีๆกับผมตลอดมาครับ

ขอบคุณครับ

[ckanjana]

ลงทุนภายใต้ขอบเขตความรู้ที่ตัวเองมีและเข้าใจสิ่งที่ลงทุนอยู่เพื่อจะได้รู้ความเป็นไปของกิจการที่เราถืออยู่ เนื่องจากราคาหุ้นจะสะท้อนอนาคตไม่ใช่ราคาที่มันเคยขึ้นไปสูงในอดีต
มีสติในการซื้อเพราะนั่นคือสิ่งที่จะกำหนดผลตอบแทนของคุณในอนาคต

[Nanotube]

เป็นกระทู้ที่ดีมากๆ ครับ ขอบคุณพี่โดมที่ช่วยตั้งกระทู้ดีๆ แบบนี้ และขอบคุณทุกๆ ท่านที่มาช่วยแชร์ความรู้ครับ

พอดีได้ลองทำสรุปข้อผิดพลาดของตัวเอง เพื่อเก็บไว้เป็นข้อเตือนใจไม่ให้ผิดพลาดในปีต่อๆ ไป เลยขออนุญาตแชร์ให้เพื่อนๆ อ่านบ้างครับ

1. จงมั่นใจในพื้นฐานของบริษัทที่เราได้ทำการวิเคราะห์มาอย่างดีแล้ว แม้จะมีบางภาวะที่ตลาดตกใจ ก็อย่าตกใจตาม

2. หุ้น Turn around หรือหุ้นเงาที่คนยังไม่รู้จัก ราคาหุ้นจะเริ่ม Peak ก็ต่อเมื่อเป็นที่รู้จักมากขึ้นของตลาด เช่นมีการพูดถึงกันมากตามเว็บบอร์ดต่างๆ

3. ตลาดปัจจุบัน (2 ปีที่ผ่านมา) สนใจ Trend ในอนาคตมากกว่าผลประกอบการปัจจุบันหรือประมาณการผลประกอบการไตรมาสถัดไป โดยเฉพาะถ้าเป็น Trend ที่เกาะ Megatrend และเป็น Trend ใหม่ๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก ถ้าเจอหุ้นประเภทนี้ควรใช้วิธีมองไปให้ไกลๆ ถึงช่วงที่ตลาดอิ่มตัวแล้วประเมินว่า ขนาดตลาด ณ ขณะนั้นควรเป็นเท่าไหร่ บริษัทนี้จะมี Mkt Share เท่าไหร่ และอัตรากำไรสุทธิจะเหลือเท่าไหร่ แล้วค่อยประเมินราคาด้วย PE หรือ EV/EBITDA ซึ่งจะแม่นยำมากกว่า

4. พิจารณา Mkt Cap เป็นสำคัญว่า ที่ Mkt Cap ขนาดนี้กับ Business Model แบบนี้ ถูกหรือแพงไปหรือเปล่า ถ้าเรามีตังค์ซื้อทั้งกิจการ ด้วย Mkt Cap เท่านี้จะซื้อมั้ย และถ้าซื้อแล้วจะขายที่ Mkt Cap เท่าไหร่ดี การดู Mkt Cap จะช่วยลดการ Bias จากราคาหุ้นได้

5. การขายเพื่อทำ SAP เพื่อหวังกำไรเล็กๆ น้อยๆ ไม่ควรทำและควรเลิกคิดที่จะทำไปได้เลย ตราบใดที่ราคาที่จะทำ SAP ยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะ 90% ของคนเราจะทำใจไม่ได้ที่จะซื้อหุ้นกลับในราคาที่แพงกว่าที่ขายไป ดังนั้นการ SAP ขณะที่ราคายังไม่ถึงเป้าหมาย มีโอกาสพลาดสูงที่เมื่อขายแล้ว ราคาจะวิ่งต่อและเราไม่กล้าซื้อคืน ซึ่งทำให้เราพลาดโอกาสดีๆ ไปเมื่อราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปสะท้อนพื้นฐานของมัน

6. เมื่อราคาหุ้นมันวิ่งมาใกล้ราคาเป้าหมายเราแล้ว ก็จงทยอยขายซะ ห้ามเปลี่ยนใจและคิดที่จะ Revise ราคาเป้าหมายเดิมเด็ดขาด เพราะช่วงนั้นจะมี Bias สูงมาก (ความโลภกำลังบังตา) ยกเว้นว่าจะมีข้อมูลใหม่ๆ ที่กระทบกับพื้นฐานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญจริงๆ กรณีที่เราขายแล้วมันยังขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ก็จงคิดซะว่าแบ่งกำไรให้กับคนอื่นๆ บ้าง

สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณเพื่อนๆ และพี่ๆ ทุกท่าน ที่ช่วยแบ่งปันความรู้เรื่อยๆ มานะครับ และก็สวัสดีปีใหม่ 2555 โชคดีในการลงทุนทุกๆ ท่านครับ

[drsp]

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในปีนี้คือ
1 ความสุขในชีวิตสำคัญกว่าทรัพย์สินเงินทอง
พอร์ทการลงทุนใหญ่ขึ้น แต่บางครั้งความสุขก็ไม่ได้เพิ่มตาม
2 เวลา สุขภาพ คนที่เรารักและรักเรา คุณค่าทางจิตใจ ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้สำหรับผมมีค่ากว่าเงินทอง
3 ผู้ที่ชนะร่ารวยจากการลงทุน ก็จะยิ่งร่ารวยขึ้น
เพราะเขามีระบบวิธีการที่ถูกต้องได้ผล
และเขาไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองขึ้นทุกวัน
ผู้แพ้ก็จะแพ้ต่อไปจนล้มหายตายจาก
เพราะผู้แพ้ส่วนใหญ่มักจะโทษโชคชะตา
ไม่ยอมรับความบกพร่องของตนเอง
และไม่มีจิตใจมุ่งมั่นพัฒนาตัวเอง
4 ดัชนีหุ้นขึ้นมามากแล้ว หุ้นราคาถูกมีน้อยลง
ความเสี่ยงกลับเพิ่มมากขึ้น
ในเวลาแบบนี้ การรักษาพอร์ทการลงทุนอย่าให้ขาดทุนมาก
อาจสำคัญกว่าการพยายามทำกำไรสูงสุด

ในโอกาสปีใหม่นี้ขอให้เพื่อนนักลงทุนและครอบครัวมีแต่ความสุข
ประสพความสำเร็จในเกมส์ล่าสมบัติที่โหดร้ายนี้ทุกๆคน

[superboy]

เราต้องหลักเกณฑ์ในการลงทุนส่วนตัวไว้ครับ

และต้องเผื่อทางหนีทีไล่ไว้ด้วย

เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

เราก็จะสามารถที่จะผ่านมันไปได้ครับ

ผมไม่ได้ตั้งใจกดโหวตลบครับผมเล่นไอโฟนมือมันพลาดไปโดนครับ
ช่วยเเก้ให้ด้วย

[ake3004]

My mistake n solution.

-Not guess the market.SET over 1000 in q4 makes me more understand.
-Hold less stock when you port is small.Focus investing.
-not be lazy.Finally, Market will come back sooner or later.
-play in your own game.If u dont understand technical at all, Studying fundamental way n buy.

[wwwman]

ผมลงทุนครบ 1 ปีคับ..สิ่งที่ผมได้เรียนรู้เยอะมากครับ เจอทั้งภาวะที่กดดันเครียด ทำให้ต้องกลับมาทบทวนแนวคิด วิธีการลงทุนของตัวเองใหม่ครับ ที่สำคัญที่ผมจะท่องไว้เตือนตัวเองต่อไปในปีนี้คือ
1. อย่าลงทุนเกินขอบเขตความรู้
2. อย่าลงทุนตามเซียน ถ้าเราไม่เข้าใจธุรกิจนั้นดีพอ
3. ที่สำคัญ Margin of Safety ต้องมีทุกครั้งก่อนพิจารณาลงทุนบริษัทใด
4. แบ่งประเภทธุรกิจบริษัทที่จะลงทุนให้ชัดเจนว่าอยู่ในกลุ่มใด หุ้นโตช้า หุ้นแข็งแกร่ง หุ้นโตเร็ว หุ้นวัฏจักร หุ้นฟื้นตัว หรือหุ้นสินทรัพย์มาก
5. มีสติ อย่าใช้อารมณ์ความรู้สึกในการลงทุน แต่ให้ใช้ข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน และความรู้ตามที่เราได้ศึกษามา
6. แยกแยะให้ออกว่าข้อมูลที่ได้มาส่วนไหนคือ ข้อเท็จจริง ส่วนไหนคือข้อคิดเห็น
7. เรียนรู้ และเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด
8. ถ้าวันไหนที่เราลงทุนในบริษัทใดแล้วเกิดความเครียด ต้องกลับมาทบทวนว่าวิธีคิดเราผิดตรงส่วนไหน
9. ข้อสุดท้ายที่ผมคิดว่า สำคัญมาก คือ ต้องมีความเชื่อและศรัทธาในแนวคิดการลงทุนแบบ Value Investor ครับ
ขอบคุณ ThaiVi.Org เป็น web ที่ผมเข้ามาอ่านมากที่สุด Web นึงตลอด 2 ปีที่ศึกษาการลงทุน ขอบคุณพี่ ๆน้องๆ เพื่อนๆ ใน ThaiVI ทุกคนด้วยครับ สวัสดีปีใหม่คับ ขอให้แข็งแรงสุขภาพดี มีความสุขในการลงทุนด้วยกันทุกท่่านครับ

[HENDRIX]

การลงทุนในบริษัท หลายครั้งที่ข้อมูลแค่บางประการสำคัญกับการติดตามธุรกิจ

-เคยลงทุนโรงงานผลิตเส้นใย ตอนกำลังการผลิตเหลือ 30% (ทราบจากการถามในการ company visit )

ก็ติดตามความคืบหน้าโดยโทรถาม IR

-เคยลงทุนธุรกิจแผ่นฟิล์ม เพราะแนวโน้ม spread ( ทราบจาก vdo opp day ของบริษัทหนึ่ง )

-ปีที่แล้วผิดพลาด ลงทุนธุรกิจผลิตถังความดัน หาข้อมูลให้ติดตามไม่ได้ สุดท้ายต้อง cut loss

สรุป หากเราไม่ได้อยู่ในสายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ แต่สามารถหาลู่ทางในการค้นข้อมูลได้ก็ลงทุนได้

แต่ถ้าไม่ ก็ถือว่าไม่มีข้อได้เปรียบตามคำของ PETER LYNCH บทที่ 6

[picatos]

ในปี 2554 เป็นปีที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผมปีหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ใหญ่มากๆ สำหรับผม สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากตลาดมีดังนี้

- เวลาความโลภมันบังตา โอกาสที่ทัศนคติในการลงทุนที่ผิดพลาดจะสูงมาก

- เวลาที่เห็นคนที่เก่งกว่าเราหลายๆ คนลงทุนในสิ่งที่เราไม่รู้ไม่เข้าใจ แต่พวกเค้าเหล่านั้นพร้อมใจกันลงทุนเหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งที่ง่ายๆ ตัวเราเองมีแนวโน้มที่จะเชื่อคนพวกนั้น และมักจะมีความเชื่อมั่นที่มากเกินพอดี ถึงแม้ว่าเราก็จะยังไม่เข้าใจธุรกิจ และไม่เข้าใจนักลงทุนเหล่านั้นเหมือนเดิม แต่มันจะมีความมั่นใจมาจากไหนไม่รู้ ทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่าเราเข้าใจ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเราไม่ได้เข้าใจอะไรเลยแม้แต่น้อย

- ถ้าเราไม่ได้เข้าใจกิจการนั้นๆ จริงๆ มองอนาคตกิจการนั้นๆ ไม่ออกอย่างถ่องแท้ ควรที่จะมีจุด Stop Loss และ Take Profit เอาไว้เสมอ เพราะ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ในตลาดหุ้น

- ผมได้เรียนรู้ที่จะสู้กับกระแสความโลภและความกลัวของตลาดอย่างสงบ ได้เรียนรู้วิธีการที่จะถอยออกมาจากฝูงชน และเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตการเป็นนักลงทุนที่มีความสุข แม้ว่าหุ้นจะขึ้นหรือจะลง แม้ว่าจะกำไรหรือขาดทุน เรียนรู้ที่จะต่อสู้กับกิเลสที่เกิดและมากับการลงทุนครั้งแล้วครั้งเล่า

- ผมได้เรียนรู้ที่จะเลือกลงทุนในสิ่งที่เราเข้าใจ ถือมันนานๆ ท่ามกลางกระแสความโลภและความกลัวที่บางครั้งก็ชักนำเราให้หลงทางออกไปบ้าง และได้เรียนรู้ที่จะดึงตัวเองกลับมาทำในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเราที่เราเข้าใจอย่างมีความสุข

- ผมได้เรียนรู้และได้เห็นธรรมชาติของมนุษย์ผ่านสังคมนักลงทุน ผ่านตลาดหุ้น ได้เห็นถึงความน่าเกลียดอัปลักษณ์ของจิตใจตัวเองและคนอื่น และได้เห็นถึงความไม่เที่ยงของตลาดและสังคมนักลงทุน รวมไปถึงความทุกข์ที่เกิดขึ้นในใจของตัวเองที่เกิดจากตลาดและสังคมนักลงทุน

- ผมได้เห็นและเข้าใจมากยิ่งขึ้นต่อมุมมองการใช้ชีวิตของนักลงทุนแต่ละคน และเข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้นว่า สำหรับตัวผมเองนั้นการลงทุนเป็นเครื่องมือในการเลี้ยงชีพ และเป็นสิ่งที่ใช้พิจารณาเพื่อให้มีความเข้าใจในธรรมชาติของสิ่งต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น ไม่ได้ลงทุนเพื่อสนองกิเลส ตัณหา อุปทาน

- ผมได้เรียนรู้ที่จะหาสมดุลของการลงทุน การทำงาน การใช้ชีวิต การบริหารร่างกายและจิตใจ

- โดยย่อ...​ ในปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าผมเข้าใจตัวเองมากขึ้นผ่านการลงทุนครับ และหวังว่าปีนี้จะสามารถเข้าใจตัวเองและธรรมชาติของสิ่งต่างๆ ได้มากยิ่งๆ ขึ้น

[dome@perth]

^^ ขอบคุณ picatos ที่เข้ามาแชร์ ครับ