ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
todsapon
Verified User
โพสต์: 1137
ผู้ติดตาม: 0

ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ทำไมต้องลงทุน
http://www.yumyai.myreadyweb.com/articl ... -6784.html

ทำไมต้องลงทุนในหุ้น
http://www.yumyai.myreadyweb.com/articl ... -6818.html
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
todsapon
Verified User
โพสต์: 1137
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

โพสต์ที่ 2

โพสต์

มีบทความมาใหม่อีกแล้วครับ
คุยเฟื่องเรื่องเก็งกำไร
http://www.yumyai.myreadyweb.com/articl ... -7099.html
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ทำไมต้องลงทุน
By todsapon, 16/12/2011

ทำไมจึงต้องลงทุนก็ในเมื่อแค่ตั้งใจทำมาหากิน มีเงินก็ฝากธนาคารไม่ดีกว่าเหรอ ผมยอมรับว่าความคิดนี้ถูกต้อง แต่มันใช้ได้กับในอดีตเท่านั้น แต่ก่อนสมัยที่ผมยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม ก่อนปีพ.ศ. 2540 อัตราดอกเบี้ยธนาคารสูงมาก เท่าที่ผมรู้จะประมาณร้อยละ 10 ต่อปี ถ้าเป็นผม ผมจะไม่มาลงทุนอะไรให้ปวดหัวหรอก เอาเงินฝากธนาคารอย่างเดียวพอ เอาเวลาไปตั้งใจทำมาหากินดีกว่า มีงานประจำก็ทำไป มีธุรกิจส่วนตัวSMEอะไรก็ทำไป

แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ผู้อ่านลองไปที่ธนาคารจะพบว่า อัตราดอกเบี้ยน้อยมาก น้อยกว่าอัตราเงินเฟ้ออย่างแน่นอน กล่าวคือราคาสินค้าจะแพงขึ้นเรื่อย ๆ แต่อัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าอัตราการเพิ่มของราคาสินค้า เมื่อเวลาผ่านไปเงินที่มีอยู่จะซื้อของได้น้อยลงเปรียบได้กับค่าของเงินลดลง การฝากเงินไว้กับธนาคารจึงเหมือนเป็นที่พักเงินเท่านั้น

ผมอยากเล่าเรื่องสมัยเด็กให้ฟัง ก๋วยเตี๋ยวแถวบ้านราคาชามละ 15 บาท เมื่อ 20 ปีก่อน แต่ ณ ตอนนี้ชามละ 40 บาท มีความรู้สึกว่าปริมาณจะน้อยกว่าตอนเมื่อ 20 ปีก่อนด้วยซ้ำไป จะเห็นได้ว่าราคาก๋วยเตี๋ยวเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ถ้าจะฝากเงินธนาคาร ณ ปัจจุบันนี้คงหายากมากที่ธนาคารจะให้ดอกเบี้ยสูงกว่าร้อยละ 5 ต่อปี ผมเชื่อว่าประสบการณ์นี้ผู้อ่านทุก ๆ คนย่อมเคยเจอ

ตอนนี้ผมเชื่อว่าผู้อ่านทุกคนน่าจะมองออกแล้วว่า การฝากเงินไว้กับธนาคารไว้เฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรรังแต่จะทำให้ค่าของเงินน้อยลง แต่ผู้อ่านบางคนอาจจะแย้งว่าก็ไม่เป็นไร เพราะผมมีเงินเยอะผมต้องการแค่ให้ธนาคารช่วยดูแลเงินของผม ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ต่อไปข้างหน้ารัฐบาลจะไม่ค้ำประกันเงินฝากกับธนาคารแบบเต็มจำนวน ดังนั้นการฝากเงินไว้กับธนาคารจึงเป็นเหมือนกับการร่วมลงทุนกับธนาคาร โดยรับความเสี่ยงไปกับธนาคารและรับอัตราผลตอบแทนเป็นอัตราดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อยแพ้อัตราเงินเฟ้อเสียอีก

ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดคือ ทุก ๆ คน ไม่มีทางหลีกหนีการลงทุนได้ แม้คุณจะมองว่าการลงทุนเป็นความเสี่ยงก็ตามที ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือเป็นฝ่ายเลือกการลงทุนที่เหมาะสมที่คาดว่าจะได้อัตราผลตอบแทนคุ้มค่ากับความเสี่ยงเสียเองจะดีกว่า

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องนำเงินที่มีทั้งหมดมาลงทุนทันที เริ่มทีละน้อย ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป อาจจะเริ่มแบบง่าย ๆ เช่น ฝากประจำ ซื้อสลากออมสิน ซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซื้อตั๋วแลกเงิน ควรเดินด้วยทางสายกลางไม่สุดโต่งหรือหย่อนจนเกินไป นำเงินส่วนหนึ่งมาใช้ในการลงทุน ผมอยากแนะนำว่าควรจะเป็นเงินเย็นเพื่อจะได้ไม่กดดันตนเอง และในบางครั้งการลงทุนต้องใช้เวลา และที่เหลือจึงเป็นเงินส่วนหนึ่งเพื่อไว้ใช้จ่ายและซื้อสิ่งของต่าง ๆ ที่ตนต้องการตามความพอดีกับฐานะ กันเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน เราควรดำเนินชีวิตรวมถึงการลงทุนตามแนวทางเศรษฐกิจแบบพอเพียง ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ใช้จ่ายตามกำลังฐานะ

สุดท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกคนสามารถบริหารเงินเพื่อการลงทุน เลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเองได้ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขตามแนวทางเศรษฐกิจแบบพอเพียง


จะเป็นเสือตัวที่เท่าไรมันไม่สำคัญ สำคัญที่เรามีพออยู่พอกิน


ที่มา : http://www.yumyai.myreadyweb.com/articl ... -6784.html
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ทำไมต้องลงทุนในหุ้น
By todsapon, 20/12/2011

ทำไมต้องลงทุนในตราสารทางการเงิน บางคนอาจจะมีความเห็นว่าเอาเงินไปซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไร หรือลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไม่ดีกว่าเหรอ

การซื้อที่ดินนั้นนานวันเข้ามูลค่าของที่ดินโดยส่วนใหญ่จะต้องเพิ่มขึ้นเนื่องจากพื้นที่ที่ดินมีเท่าเดิมแต่จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ความต้องการจึงต้องมีมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ปริมาณของมีเท่าเดิมราคาก็ต้องขึ้น แต่ก็มียกเว้นเช่นที่ดินที่โดนน้ำท่วมหรือประสบเหตุที่ทำให้ไม่น่าอยู่อาศัยหรือใช้ประโยชน์ได้ เช่น ไฟฟ้าไม่เข้า น้ำไม่ไหล การสาธารณูปโภคเข้าไม่ถึงเป็นต้น

ถ้าเราจะลองทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ดูบ้าง ทำอพาร์ทเมนท์ให้คนเช่าก็ดีนะ ถ้าผมมีเงินมาก ๆ ผมยังเคยคิดว่าจะทำเลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทำอพาร์ทเมนท์ให้คนเช่า คนที่ทำธุรกิจก็ต้องลงแรงอยู่บ้าง เช่นหาคนมาเช่า เวลาอพาร์ทเมนท์หรือบ้านที่นักลงทุนปลูกเพื่อให้คนเช่า หรือตึกแถว พื้นที่ตลาดที่ลงทุนทำขึ้นมาเพื่อหวังกินค่าเช่ามีปัญหาเจ้าของก็ต้องมาดูแล เจ้าของหรือนักลงทุนก็ต้องเสียเวลามาบริหารอยู่ดี มาแก้ปัญหาท่อตันบ้างตามอพาร์ทเมนท์ ตึกแถวไม่สะอาดบ้าง ตลาดสกปรกบ้าง โดยรวมแล้วเจ้าของก็ต้องมาดูแลแก้ปัญหา มันเหมือนกับว่าเจ้าของเป็นผู้รับใช้ของผู้เช่าอย่างไรก็ไม่รู้ แม้ว่านักลงทุนหรือเจ้าของจะลงทุนจ้างผู้จัดการมาบริหารแทนตน นักลงทุนหรือเจ้าของก็ต้องมาคอยดูแลกิจการของตนอยู่ดี มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะผู้บริหารจะทำกิจการให้กำไรไม่ดีเท่าที่ควรก็ในเมื่อไม่ใช่กิจการของเขา และถ้าปัญหาต่าง ๆ พวกนี้ไม่เกิดขึ้น

การลงทุนซื้อที่ดินหรือทำอสังหาริมทรัพย์ก็ต้องใช้เงินมาก น้อยคนนักที่จะใช้เงินส่วนตัวมาทำธุรกิจนี้ได้เลย บางคนก็ต้องกู้เงินธนาคารมา บางคนก็ต้องรวมเงินกับเพื่อนกับญาติพี่น้องมา ไหนจะเรื่องหนี้สินกับธนาคารหรือปัญหากับหุ้นส่วนผู้ร่วมลงเงินกับเรา ปัญหาที่แน่ ๆ ที่เกิดขึ้นก็คือปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ทรัพย์สินเหล่านี้แปลงเป็นเงินได้ยากลำบากมากเมื่อเทียบกับหุ้น แม้จะเทียบกับหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ ๆ ก็ตาม หายากมากที่จะเจอหุ้นที่ตลอดอาทิตย์ไม่มีคนมาตั้งซื้อหุ้นเลย เว้นแต่หุ้นนั้นแย่จริง ๆ

ถ้าเราจะทำธุรกิจส่วนตัวดูบ้าง ถ้าเป็นธุรกิจSMEแน่นอนเจ้าของธุรกิจก็ต้องลงมาบริหารดูแลกิจการของตนเองแม้ว่าจะมีลูกจ้างก็ต้องบริหารการทำงานของลูกจ้าง

เราลองมาพิจารณาในเรื่องของการลงทุนในตราสารทางการเงินดูบ้าง เริ่มจากตั๋วเงินฝาก ฝากประจำ ฝากออมทรัพย์ หุ้นกู้ ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมมองว่า จริงอยู่มันแทบไม่มีความเสี่ยงใด ๆ เลย แต่ผลตอบแทนมันน้อยมากไม่เกินร้อยละ 4 ต่อปี หรืออย่างมากก็ร้อยละ 5 ต่อปี ค่อนข้างใกล้เคียงกับระดับอัตราเงินเฟ้อ เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าจริง ๆ เว้นแต่ต้องการเป็นที่พักเงินเพื่อรอจังหวะการลงทุนที่เหมาะสมที่ให้ผลตอบแทนที่หอมหวาน

ถ้าลองมาพิจารณาในการลงทุนในหุ้นดูบ้าง ผมว่าน่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ถ้าสมมุติเราเจอบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งหนึ่งทำกำไรในปีที่แล้วได้ 183.74 ล้านบาท รายได้ปีที่แล้ว 910.48 ล้านบาท ปันผลปีที่แล้วคำนวณได้ 156.8 ล้านบาท ทั้งหมดนี้มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ราคาตลาดของบริษัทนี้หาจากจำนวนหุ้นทั้งหมดคูณกับราคาหุ้นในตลาดได้ 1,666 ล้านบาท ถ้าใช้เงินดังกล่าวก็ซื้อบริษัทได้ทั้งบริษัท(แต่ในความเป็นจริงถ้าจะทำได้ต้องใช้เงินมากกว่านั้นเพราะผมคิดว่าเจ้าของผู้ถือหุ้นใหญ่ก็คงไม่อยากจะขาย) มาดูด้านเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นดูบ้าง เงินสดมีอยู่ 159.45 ล้านบาท เงินลงทุนระยะสั้น 223.76 ล้านบาท ผมดูในหมายเหตุประกอบงบการเงินแล้วพบว่า เงินลงทุนระยะสั้นประกอบด้วยเงินฝากประจำ ตั๋วแลกเงิน หน่วยลงทุน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องของการบริหารเงินจึงอนุมานให้มีค่าเทียบเท่าเงินสดได้ รวมแล้วมีเงินสด 383.21 ล้านบาท สำหรับภาระหนี้สินที่สำคัญมีเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันทางการเงินจำนวน 117.58 ล้านบาท หนี้ระยะยาวไม่มี หักลบแล้วเหลือเงินสด 265.53 ล้านบาท ตอนนี้เงินลงทุนที่ลงไป 1,666 ล้านบาทจึงเหลือเพียงแค่ประมาณ 1,400 ล้านบาท เพราะได้เงินสดที่มีในบริษัทมาครอบครองทันทีที่ซื้อบริษัท

ถ้าบังเอิญผมมีเงินค่อนข้างน้อยสมมุติลงทุนซื้อกิจการตัวนี้ในรูปของหุ้นจำนวน 140,000 บาท ผมน่าจะได้กำไร 18,374 บาทต่อปี ธุรกิจนี้น่าจะสร้างรายได้ให้ 91,048 บาทต่อปี ในระหว่างลงทุนน่าจะมีเงินปันผลคืนกลับมา 15,680 บาท พิจารณาผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ถ้าลงทุนธุรกิจนี้จะได้กำไรคืนทุนโดยใช้เวลาประมาณ 7 ปีกว่า ๆ ได้เงินปันผลร้อยละ 11.2 ต่อปี ซึ่งมีแนวโน้มว่ากิจการจะมีผลการดำเนินงานดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้การันตีถึงผลการดำเนินงานในอนาคต (ตัวเลขกำไร รายได้ เงินปันผล ได้จากการเทียบอัตราส่วน)

ตอนนี้ผู้อ่านคิดว่าน่าจะลงทุนในหุ้นที่ดีหรือยังครับ การลงทุนในหุ้นนักลงทุนสามารถนำเงินออกจากหุ้นได้ทันที ทันทีที่พบว่ากิจการนั้น ๆ มีปัญหา ผิดกับทำธุรกิจส่วนตัวทันทีที่พบว่ากิจการนั้นมีปัญหาการโยกเงินหนีไม่ใช่เรื่องง่ายนัก การลงทุนในหุ้นนั้นใช้เงินเริ่มต้นน้อยมากและสภาพคล่องสูงเมื่อเทียบกับการลงทุนอื่น ๆ จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้ามาลงทุนหรือถอนตัว

หรือถ้าผู้อ่านยังชอบที่จะลงทุนในกิจการส่วนตัว ลงทุนอย่างอื่นก็ไม่เป็นไรก็สามารถลงทุนในหุ้นได้ด้วยเหตุผลที่กล่าวข้างต้นและถ้านักลงทุนลงทุนอย่างถูกวิธี การลงทุนในหุ้นจะเปรียบเสมือนการให้เงินทำงานแทนเราอย่างแท้จริง โดยที่ผู้ลงทุนใช้ชีวิตไปตามเดิมของตนได้


ที่มา : http://www.yumyai.myreadyweb.com/articl ... -6818.html
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

โพสต์ที่ 5

โพสต์

คุยเฟื่องเรื่องเก็งกำไร
By todsapon, 23/12/2011

มีคำถามที่น่าสนใจอย่างหนึ่งที่ผมได้รับคำถามจากชาว webbroad คำถามคือทำไมนักลงทุนจึงชอบเก็งกำไร และการเก็งกำไรทำให้นักลงทุนได้กำไรและร่ำรวยได้จริงหรือ ผมอยากให้นักลงทุนที่คิดว่าจะได้กำไรง่าย ๆ จากการเก็งกำไร ยิ่งซื้อขายวันต่อวันแบบไม่ให้มีหุ้นข้ามวันเลย ลองตรึกตรองให้ดี สมมุติเสียค่านายหน้า 0.15% (ส่งคำสั่งซื้อขายด้วยตนเองทาง internet) ถ้านักลงทุนซื้อและขายหุ้นในวันเดียวจะเสียค่านายหน้าแบบไปกลับรวมเป็น 0.30% สมมุติว่าในปีหนึ่งซื้อขายได้ 200 วัน จะเสียค่านายหน้า 60% ผมไม่รู้ว่านักลงทุนจะได้กำไรเท่าไรจากการเก็งกำไร แต่ที่รู้ ๆ นักลงทุนจะเสียค่านายหน้า 60% ประมาณให้ต่ำ ๆ สมมุติว่าไม่ได้ซื้อขายแบบนี้ทุกวัน บางวันก็ถือหุ้นข้ามวันบ้าง กะว่าเสียค่านายหน้า 20% ต่อปี มันก็ยังเยอะอยู่ดี ดังนั้นการเก็งกำไรจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลย สาเหตุที่นักลงทุนบางคนยังเก็งกำไรอยู่น่าจะเป็นเพราะว่านักลงทุนเหล่านั้นมีความเชื่อว่าการถือหุ้นข้ามวันเป็นความเสี่ยง เพราะเห็นราคาหุ้นวิ่งผันผวนไปมา จึงเกิดอารมณ์กลัวทำให้ไม่กล้าถือหุ้นนาน บางครั้งเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นเกิดอาการโลภเข้าครอบงำรีบขายหุ้นในราคาที่ไม่สูงมากนัก หักค่านายหน้าแล้วได้กำไรเพียงน้อยนิดไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยง ถ้านักลงทุนใช้สติตรึกตรองจะพบว่า การลงทุนลักษณะดังกล่าวถ้านักลงทุนเก็งกำไรผิดพลาดคือซื้อแล้วหุ้นราคาลง แน่นอนนักลงทุนจะต้องขาดทุนทั้งราคาหุ้นที่ตกลงบวกกับค่านายหน้า แต่พอเวลาได้กำไรก็จะมีค่านายหน้ามาลบผลกำไร ดูแค่นี้ก็รู้แล้วว่าในระยะยาวนักลงทุนมีโอกาสขาดทุนค่อนข้างมาก สาเหตุที่นักลงทุนบางคนยังลงทุนลักษณะดังกล่าว เพราะเชื่อว่าตนสามารถทำนายราคาหุ้นได้อย่างแม่นยำ ตนรู้ว่าเมื่อไรหุ้นจะลง เมื่อไรหุ้นจะขึ้น ตนรู้จักขาใหญ่แห่งวงการหุ้น ซึ่งไม่ต่างอะไรไปจากคนที่พยายามเล่นหวยโดยหาเลขเด็ดจากอาจารย์ดัง ๆ แน่นอนอาจจะมีใครสักคนที่ร่ำรวยอย่างมหาศาลจากการเล่นหวยหรือซื้อหุ้นแบบเก็งกำไร ผมเชื่อว่ามีน้อยคนมาก ๆ ที่จะทำได้แบบนั้น โดยสรุปแล้วทั้งหมดนี้เกิดจากความหลงผิด ความโลภ ความกลัว จึงทำให้เกิดกิเลสเข้าครอบงำ เกิดความหลงผิด ทำให้ทำอะไรที่ขาดสติอย่างร้ายแรง

อีกสาเหตุที่นักลงทุนบางคนยังจะเก็งกำไรกันอยู่ อาจจะเป็นเพราะเขาเชื่อว่ามันเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เขาได้เงินอย่างมหาศาลเพื่อชดเชยกลับเงินที่เสียไป เพราะนักลงทุนรับไม่ได้ที่ตนขาดทุน เกิดความพ่ายแพ้ กลัวเสียหน้า ทนยอมรับในความผิดพลาดของตนไม่ได้ จึงลองเสี่ยงดวงดูเผื่อโอกาสอันเล็กน้อยจะเกิดขึ้นและทำให้เขาได้เงินคืน นั้นคือสาเหตุที่ใครบางคนหลงมัวเมาในการพนันเพราะเขาไม่อยากแพ้ ไม่อยากขึ้นชื่อว่าเสียเงินจากการเล่นการพนัน ท้ายที่สุดแล้วเขาก็จะหมดตัวเพราะการพนันอย่างสิ้นเชิงถ้าหากเขายังไม่ได้สติขึ้นมา

สำหรับนักลงทุนที่หวังอยากเก็งกำไรผมก็ไม่ห้ามเพราะเป็นสิทธิของนักลงทุนแต่ละคน แต่อยากจะบอกว่า น่าจะดูพื้นฐานหุ้นประกอบด้วย ผลประกอบการในอดีต ประวัติการจ่ายปันผล เป็นต้น และพยายามคาดการณ์ผลประกอบการในอนาคต พยามยามประมาณผลตอบแทนที่ได้รับจากหุ้นนั้น ๆ ทันที่ที่ซื้อหุ้นแล้ว ราคาเกิดลงขึ้นมา นักลงทุนสามารถถือหุ้นตัวนั้นไว้ได้เพราะนักลงทุนซื้อหุ้นในราคาที่เหมาะสมกับผลตอบแทนที่จะได้รับ และควรจะถือหุ้นให้นานสักระยะหนึ่งเพื่อลดค่านายหน้า


ที่มา : http://www.yumyai.myreadyweb.com/articl ... -7099.html
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ATT : K.todsapon (จขกท.)

เป็นประโยชน์ และเขียนได้ดีมากครับ
มีการทำการบ้านและหาข้อมูลมาเป็นอย่างดี มีมุมมองหลายๆอย่างที่น่าสนใจมากๆเลยนะครับ
โดยเฉพาะก่อนจะจบ มักจะมีประโยค "คมๆ" สรุปในท้ายบทความอยู่เสมอๆ
เขียนเรื่อยๆนะขอรับ...จะตามอ่านมุมมองจ้า


ปล.
ชอบจริงๆครับ สำหรับประโยคด้านล่างนี้
v
v
"ถ้านักลงทุนลงทุนอย่างถูกวิธี การลงทุนในหุ้นจะเปรียบเสมือนการให้เงินทำงานแทนเราอย่างแท้จริง โดยที่ผู้ลงทุนใช้ชีวิตไปตามเดิมของตนได้(todsapon)"
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
ภาพประจำตัวสมาชิก
Skyforever
Verified User
โพสต์: 1203
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เข้ามาให้กำลังใจคุณ todsapon ในการเขียนบทความต่อไปครับ
เป็นบทความที่ดีและมีประโยชน์ครับ โดยเฉพาะยิ่งคนที่กำลังเริ่มเข้ามาศึกษาเรื่องการลงทุน
ชนะเพราะไม่คิดเอาชนะ กำไรเพราะไม่โลภ ลงทุนอย่างมีความสุขเพราะจิตใจอยู่เหนืออารมณ์ตลาด
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
ภาพประจำตัวสมาชิก
todsapon
Verified User
โพสต์: 1137
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอบคุณมากครับ จะพยายามต่อไปครับ เห็นอย่างนี้แล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยครับ ขอบคุณครับ
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
naraku
Verified User
โพสต์: 8
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ได้แง่คิดดีๆจากบทความมากเลยครับ ขอบคุณครับที่แบ่งปัน
เด็ก vi ฝึกหัด อนาคตอยากเป็นนักลงทุน
ภาพประจำตัวสมาชิก
jo7393
Verified User
โพสต์: 2486
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

โพสต์ที่ 10

โพสต์

อพาร์ทเมนท์หรือบ้านที่นักลงทุนปลูกเพื่อให้คนเช่า หรือตึกแถว พื้นที่ตลาดที่ลงทุนทำขึ้นมาเพื่อหวังกินค่าเช่ามีปัญหาเจ้าของก็ต้องมาดูแล เจ้าของหรือนักลงทุนก็ต้องเสียเวลามาบริหารอยู่ดี มาแก้ปัญหาท่อตันบ้างตามอพาร์ทเมนท์ ตึกแถวไม่สะอาดบ้าง ตลาดสกปรกบ้าง โดยรวมแล้วเจ้าของก็ต้องมาดูแลแก้ปัญหา
เอาที่เจอมากับตัวเองนะครับ ช่วงเทศกาล ช่างกลับบ้านช่วงหยุดยาว ไฟดับทั้งตึกเบรกเกอร์เสียแล้วๆไฟตัดต้องเปลี่ยนเบรกเกอร์ใหม่ แต่ดันมาไฟดับตอนเที่ยงคืน ดับทั้งตึก แถวติดหยุดยาว คิดดูสิครับ ลูกห้องจะโวยแค่ไหน ลงทุนไม่น้อยสำหรับอพาร์ทเม้นท์นึกว่าจะสบาย วันหยุดไปเที่ยว ตจว ไม่เป็นสุขเลยหากอยู่ ตจว ต้องรีบตีรถเข้ามาแก้ปัญหา หาช่างทำช่วงเทศกาลก็ยาก อาจจะคิดว่าบังเอิญ แต่อย่าลืมทั้งตึกใช้เบรกเกอร์กี่ตัว โอกาสเสียสลับกันไป ไม่นับอย่างอื่นอีก ปวดหัวครับ
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร  ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม  และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่

อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
ภาพประจำตัวสมาชิก
todsapon
Verified User
โพสต์: 1137
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เริ่ม update บทความแล้วครับมาดูกันได้ครับ
http://www.yumyai.myreadyweb.com/articl ... 23402.html
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
earthcu
Verified User
โพสต์: 332
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เป็นกำลังใจให้อีกคนครับ หวังว่าคุณ todsapon จะ create บทความดีๆอย่างนี้มาให้อ่านอีกครับ
:wink:
Life is beautiful + Financial freedom within 2015 by investment stock & real estate
the_matrix
Verified User
โพสต์: 155
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

โพสต์ที่ 13

โพสต์

เป็นกำลังใจให้ครับ :D
สโลแกน ลงทุนอย่างมีความสุข

ลงทุนเหมือนร่วมทำธุรกิจกับเพื่อน แล้วคุณจะสนใจทั้งธุรกิจและผู้บริหาร

ฟัง Oppday ทาง Website http://www.dcs-digital.com/setweb/index.php
ภาพประจำตัวสมาชิก
บูรพาไม่แพ้
Verified User
โพสต์: 2533
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมลองทำบทความขึ้นมาเข้ามาmentกันได้

โพสต์ที่ 14

โพสต์

เข้ามาให้กำลังใจครับ..สู้ๆ :D
โพสต์โพสต์