สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.ค.54
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.ค.54
โพสต์ที่ 1
เนื่องด้วยได้มีโอกาสไปร่วมงานเสวนาเปิดตัวหนังสือรวยได้ด้วยหุ้นของ K.Hongvalue เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา จึงอยากจะสรุปความรู้ที่ได้จากงานครั้งนี้บางส่วน เผื่ออาจจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนนักลงทุนท่านอื่นบ้างครับ (รบกวนพี่ๆเพื่อนๆท่านอื่น ช่วย comment ด้วยครับ ถ้าผมจดผิดหรือเข้าใจในประเด็นคาดเคลื่อน)
1.เราควรจะเป็นคนที่มีทัศนคติคิดใหญ่ กรอบความคิดเองจะเป็นตัวนึงที่กำหนดขนาดของความสำเร็จของตัวเรา ถ้าเราคิดเพียงแต่จะลงทุนแค่หวังค่ากับข้าว เราก็อาจจะไม่ได้มุ่งเน้นไปกับการลงทุนทำให้ลงทุนแล้วอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ (สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหนังสือคิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก)
2.การลงทุนนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้สูตรอะไรที่ลึกลับซับซ้อน คนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดอย่าง Warren Buffett เองก็ไม่ได้ใช้สูตรคำนวณอะไรที่ยุ่งยากในการวัดมูลค่าหุ้นเหมือนกัน
3.การจะเปรียบเทียบอัตราส่วนทางการเงินข้ามอุตสาหกรรมเองนั้น อาจจะไม่ถูกต้อง เช่นอัตรากำไรขั้นต้นระหว่างอุตสาหกรรมค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ไม่เท่ากันเป็นเพราะ Business model ของบริษัทเองนั้นไม่เหมือนกัน เราจึงควรที่จะเข้าใจตัวธุรกิจ Business Model ก่อนที่จะมาดูอัตราส่วนทางการเงิน
4.การลงทุนเองเป็นเรื่องของการมองไปยังอนาคต เพราะฉะนั้นเราไม่ควรที่จะเหมาว่าก่อนหน้านั้นกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นมา 10 เท่า แล้วในอนาคตบริษัทก็สามารถที่จะมีกำไรเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าได้ แต่ควรมองว่าก่อนหน้านั้นกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นมาจากสาเหตุใด และวิเคราะห์ว่าโอกาสที่บริษัทจะมีกำไรเพิ่มขึ้นในอนาคตนั้นจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นจากสาเหตุใดบ้าง และมีโอกาสมากน้อยแค่ไหน (กล่าวโดยสรุปคือเราควรจะเข้าใจที่มาของกำไรของบริษัท, โครงสร้างอุตสาหกรรม แล้วมองไปยังอนาคต)
5.การดูงบการเงิน เราควรจะดูทั้งกำไรสุทธิและกระแสเงินสด การที่มองแต่เพียงกำไรสุทธิเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เราขาดทุนหนักได้เพราะในอดีตเองก็เคยมีบริษัทที่ขายของได้เยอะมีกำไรสูง แต่เก็บเงินจากลูกหนี้ไม่ได้เลย (กระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบ) สุดท้ายบริษัทเองก็ล้มละลาย
6.เคล็ดลับนึงของผู้ที่ประสบความสำเร็จ คือการที่เราจด Diary สำหรับการลงทุนในแต่ละครั้ง เพื่อจะได้เตือนสติตัวเองทุกครั้งที่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นในการลงทุน แล้วหาทางป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดแบบนั้นอีกในอนาคต
7.เวลา เป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดอย่างนึง เราจึงควรที่จะบริหารเวลาให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด
8.ผู้ที่จะประสบความสำเร็จนั้น คือผู้ที่มีความตั้งใจและลงมือทำ นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหลายๆท่านนั้น กว่าจะถึงมาจุดนี้ได้นั้นแทบทุกคนต้องผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก บางคนเองอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการเงินวันละหลายชั่วโมงทั้งๆที่เขาก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในด้านการลงทุนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราเองควรที่จะฝึกฝนตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อให้พร้อมที่จะมองเห็นโอกาสที่จะเข้ามาหาตัวเรา
9.วิธีการหาข้อมูลเองนั้นมีหลายวิธีแต่แหล่งของข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญมากก็คือรายงานประจำปีของบริษัท, Opp Day ซึ่งยิ่งอ่านมาก ฟังมากก็ยิ่งทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจในธุรกิจของบริษัท ซึ่งจะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อการประเมินมูลค่าหุ้น
10.การลงทุนในหุ้นเองให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่เกี่ยวกับขนาดของ Port การลงทุน เพราะต่อให้คุณมีเงินลงทุนเริ่มต้นเป็น หลัก 100 ล้านบาทแต่ถ้าคุณไม่มีความรู้ในการลงทุนที่เพียงพอ คุณก็อาจจะเป็นได้แค่หมูอ้วนพีตัวนึงในตลาดหลักทรัพย์ และจริงๆแล้วนักลงทุนรายย่อยเองก็มีข้อได้เปรียบนักลงทุนรายใหญ่อยู่บางข้อเช่น อิสระในการเลือกลงทุนหุ้นได้หลากหลายกว่า เพราะหุ้นบางตัวในตลาดเองนั้นอาจจะมีสภาพคล่องที่ไม่มากพอที่นักลงทุนรายใหญ่จะเข้าไปลงทุนแต่สำหรับนักลงทุนรายย่อยเองนั้นไม่มีปัญหาในการลงทุนในหุ้นเหล่านี้
11.การประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธี DCF (Discount Cash Flow) เองนั้นมีปัจจัยที่ทำให้ค่าที่เราประเมินมูลค่าหุ้นเองนั้นเปลี่ยนแปลงได้ง่ายมาก สำหรับนักลงทุนบางท่านที่ประสบความสำเร็จเองก็อาจจะไม่ได้ทำ DCF ทุกครั้ง หากแต่เขาเองเข้าใจในตัวแปรของ DCF แล้วนำไปประยุกต์ใช้ เช่น หุ้นที่บริษัทขายของแล้วเงินไปจมกับลูกหนี้หมด เวลาประเมิน DCF ก็จะได้ค่าที่น้อย ทำให้ P/E ที่ควรจะเป็นของบริษัทก็ควรที่จะต่ำ, หุ้นที่บริษัทได้ Credit จากเจ้าหนี้การค้าเยอะๆ ซึ่งถ้าเป็นหนี้ที่ไม่มีภาระดอกเบี้ย และเวลาขายของนั้นขายของเป็นเงินสด รวมทั้ง Asset Turnover สูงก็ควรจะเป็นบริษัทที่ P/E ค่อนข้างสูง, หุ้นที่เป็นบริษัทที่รับจ้างผลิตบางบริษัทไม่ควรที่จะมี P/E ที่สูงนัก เพราะว่าเวลาที่มีการเปลี่ยน model การผลิต จะต้องมีการใช้เงินลงทุนอยู่ตลอดทำให้เวลาคิด DCF จะได้ค่าที่ต่ำ P/E ก็ควรจะไม่สูงนักเป็นต้น
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจความรู้จากคุณ hongvalue สามารถเข้าไปอ่านความรู้ในการลงทุนเพิ่มเติมได้จาก
http://hongvalue.wordpress.com/
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณคุณ Hongvalue มากๆครับสำหรับความรู้ที่นำมาฝากเพื่อนๆนักลงทุนเสมอๆ และขอขอบคุณ web thaivi ด้วยครับสำหรับคลังแห่งความรู้ในการลงทุนที่ช่วยทำให้เกิดนักลงทุนที่มีความรู้มากมาย รวมไปถึงขอขอบคุณตลาดหลักทรัพย์ที่มีสัมมนาการลงทุนดีๆให้ได้ไปเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาครับ
1.เราควรจะเป็นคนที่มีทัศนคติคิดใหญ่ กรอบความคิดเองจะเป็นตัวนึงที่กำหนดขนาดของความสำเร็จของตัวเรา ถ้าเราคิดเพียงแต่จะลงทุนแค่หวังค่ากับข้าว เราก็อาจจะไม่ได้มุ่งเน้นไปกับการลงทุนทำให้ลงทุนแล้วอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ (สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหนังสือคิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก)
2.การลงทุนนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้สูตรอะไรที่ลึกลับซับซ้อน คนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดอย่าง Warren Buffett เองก็ไม่ได้ใช้สูตรคำนวณอะไรที่ยุ่งยากในการวัดมูลค่าหุ้นเหมือนกัน
3.การจะเปรียบเทียบอัตราส่วนทางการเงินข้ามอุตสาหกรรมเองนั้น อาจจะไม่ถูกต้อง เช่นอัตรากำไรขั้นต้นระหว่างอุตสาหกรรมค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ไม่เท่ากันเป็นเพราะ Business model ของบริษัทเองนั้นไม่เหมือนกัน เราจึงควรที่จะเข้าใจตัวธุรกิจ Business Model ก่อนที่จะมาดูอัตราส่วนทางการเงิน
4.การลงทุนเองเป็นเรื่องของการมองไปยังอนาคต เพราะฉะนั้นเราไม่ควรที่จะเหมาว่าก่อนหน้านั้นกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นมา 10 เท่า แล้วในอนาคตบริษัทก็สามารถที่จะมีกำไรเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าได้ แต่ควรมองว่าก่อนหน้านั้นกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นมาจากสาเหตุใด และวิเคราะห์ว่าโอกาสที่บริษัทจะมีกำไรเพิ่มขึ้นในอนาคตนั้นจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นจากสาเหตุใดบ้าง และมีโอกาสมากน้อยแค่ไหน (กล่าวโดยสรุปคือเราควรจะเข้าใจที่มาของกำไรของบริษัท, โครงสร้างอุตสาหกรรม แล้วมองไปยังอนาคต)
5.การดูงบการเงิน เราควรจะดูทั้งกำไรสุทธิและกระแสเงินสด การที่มองแต่เพียงกำไรสุทธิเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เราขาดทุนหนักได้เพราะในอดีตเองก็เคยมีบริษัทที่ขายของได้เยอะมีกำไรสูง แต่เก็บเงินจากลูกหนี้ไม่ได้เลย (กระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบ) สุดท้ายบริษัทเองก็ล้มละลาย
6.เคล็ดลับนึงของผู้ที่ประสบความสำเร็จ คือการที่เราจด Diary สำหรับการลงทุนในแต่ละครั้ง เพื่อจะได้เตือนสติตัวเองทุกครั้งที่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นในการลงทุน แล้วหาทางป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดแบบนั้นอีกในอนาคต
7.เวลา เป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดอย่างนึง เราจึงควรที่จะบริหารเวลาให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด
8.ผู้ที่จะประสบความสำเร็จนั้น คือผู้ที่มีความตั้งใจและลงมือทำ นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหลายๆท่านนั้น กว่าจะถึงมาจุดนี้ได้นั้นแทบทุกคนต้องผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก บางคนเองอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการเงินวันละหลายชั่วโมงทั้งๆที่เขาก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในด้านการลงทุนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราเองควรที่จะฝึกฝนตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อให้พร้อมที่จะมองเห็นโอกาสที่จะเข้ามาหาตัวเรา
9.วิธีการหาข้อมูลเองนั้นมีหลายวิธีแต่แหล่งของข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญมากก็คือรายงานประจำปีของบริษัท, Opp Day ซึ่งยิ่งอ่านมาก ฟังมากก็ยิ่งทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจในธุรกิจของบริษัท ซึ่งจะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อการประเมินมูลค่าหุ้น
10.การลงทุนในหุ้นเองให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่เกี่ยวกับขนาดของ Port การลงทุน เพราะต่อให้คุณมีเงินลงทุนเริ่มต้นเป็น หลัก 100 ล้านบาทแต่ถ้าคุณไม่มีความรู้ในการลงทุนที่เพียงพอ คุณก็อาจจะเป็นได้แค่หมูอ้วนพีตัวนึงในตลาดหลักทรัพย์ และจริงๆแล้วนักลงทุนรายย่อยเองก็มีข้อได้เปรียบนักลงทุนรายใหญ่อยู่บางข้อเช่น อิสระในการเลือกลงทุนหุ้นได้หลากหลายกว่า เพราะหุ้นบางตัวในตลาดเองนั้นอาจจะมีสภาพคล่องที่ไม่มากพอที่นักลงทุนรายใหญ่จะเข้าไปลงทุนแต่สำหรับนักลงทุนรายย่อยเองนั้นไม่มีปัญหาในการลงทุนในหุ้นเหล่านี้
11.การประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธี DCF (Discount Cash Flow) เองนั้นมีปัจจัยที่ทำให้ค่าที่เราประเมินมูลค่าหุ้นเองนั้นเปลี่ยนแปลงได้ง่ายมาก สำหรับนักลงทุนบางท่านที่ประสบความสำเร็จเองก็อาจจะไม่ได้ทำ DCF ทุกครั้ง หากแต่เขาเองเข้าใจในตัวแปรของ DCF แล้วนำไปประยุกต์ใช้ เช่น หุ้นที่บริษัทขายของแล้วเงินไปจมกับลูกหนี้หมด เวลาประเมิน DCF ก็จะได้ค่าที่น้อย ทำให้ P/E ที่ควรจะเป็นของบริษัทก็ควรที่จะต่ำ, หุ้นที่บริษัทได้ Credit จากเจ้าหนี้การค้าเยอะๆ ซึ่งถ้าเป็นหนี้ที่ไม่มีภาระดอกเบี้ย และเวลาขายของนั้นขายของเป็นเงินสด รวมทั้ง Asset Turnover สูงก็ควรจะเป็นบริษัทที่ P/E ค่อนข้างสูง, หุ้นที่เป็นบริษัทที่รับจ้างผลิตบางบริษัทไม่ควรที่จะมี P/E ที่สูงนัก เพราะว่าเวลาที่มีการเปลี่ยน model การผลิต จะต้องมีการใช้เงินลงทุนอยู่ตลอดทำให้เวลาคิด DCF จะได้ค่าที่ต่ำ P/E ก็ควรจะไม่สูงนักเป็นต้น
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจความรู้จากคุณ hongvalue สามารถเข้าไปอ่านความรู้ในการลงทุนเพิ่มเติมได้จาก
http://hongvalue.wordpress.com/
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณคุณ Hongvalue มากๆครับสำหรับความรู้ที่นำมาฝากเพื่อนๆนักลงทุนเสมอๆ และขอขอบคุณ web thaivi ด้วยครับสำหรับคลังแห่งความรู้ในการลงทุนที่ช่วยทำให้เกิดนักลงทุนที่มีความรู้มากมาย รวมไปถึงขอขอบคุณตลาดหลักทรัพย์ที่มีสัมมนาการลงทุนดีๆให้ได้ไปเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาครับ
Life is beautiful + Financial freedom within 2015 by investment stock & real estate
- Financeseed
- Verified User
- โพสต์: 1304
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.
โพสต์ที่ 6
ขอบคุนครับ
- kabu
- Verified User
- โพสต์: 2149
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.
โพสต์ที่ 7
น้องเอิธ์ทยังเยี่ยมเหมือนเดิม
นี่ถ้ามาญี่ปุ่นแล้วใครจะเป็นคนเอาความรู้มาแชร์ล่ะครับ
นี่ถ้ามาญี่ปุ่นแล้วใครจะเป็นคนเอาความรู้มาแชร์ล่ะครับ
"หนทางเดียวที่จะก้าวพ้นขอบเขตของความเป็นไปได้ คือก้าวเข้าสู่ความเป็นไปไม่ได้", Arthur C. Clarke
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.
โพสต์ที่ 9
11.การประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธี DCF (Discount Cash Flow) เองนั้นมีปัจจัยที่ทำให้ค่าที่เราประเมินมูลค่าหุ้นเองนั้นเปลี่ยนแปลงได้ ง่ายมาก สำหรับนักลงทุนบางท่านที่ประสบความสำเร็จเองก็อาจจะไม่ได้ทำ DCF ทุกครั้ง หากแต่เขาเองเข้าใจในตัวแปรของ DCF แล้วนำไปประยุกต์ใช้ เช่น หุ้นที่บริษัทขายของแล้วเงินไปจมกับลูกหนี้หมด เวลาประเมิน DCF ก็จะได้ค่าที่น้อย ทำให้ P/E ที่ควรจะเป็นของบริษัทก็ควรที่จะต่ำ, หุ้นที่บริษัทได้ Credit จากเจ้าหนี้การค้าเยอะๆ ซึ่งถ้าเป็นหนี้ที่ไม่มีภาระดอกเบี้ย และเวลาขายของนั้นขายของเป็นเงินสด รวมทั้ง Asset Turnover สูงก็ควรจะเป็นบริษัทที่ P/E ค่อนข้างสูง, หุ้นที่เป็นบริษัทที่รับจ้างผลิตบางบริษัทไม่ควรที่จะมี P/E ที่สูงนัก เพราะว่าเวลาที่มีการเปลี่ยน model การผลิต จะต้องมีการใช้เงินลงทุนอยู่ตลอดทำให้เวลาคิด DCF จะได้ค่าที่ต่ำ P/E ก็ควรจะไม่สูงนักเป็นต้น
ชอบข้อนี้มากที่สุด กำลังคิดอยู่พอดีว่าเวลาใช้ DCF เราต้องประเมิณไปในอนาคตหลายปี ซึ่งอาจเกิดความคลาดเคลื่อนได้มาก นอกจากนี้ยังยุ่งยากในการทำ ก็เลยคิดอยู่ว่าจะเอาการดูงบกระแสเงินสดไปประยุกต์ใช้อย่างไรดีโดยไม่ต้องเคร่งกับDCFมากนัก
รุ้สึกคุณ earthcu จะเคยโพสต์ความรู้จากตอนmeeting ภาคใต้ด้วย ขอบคุณมากๆๆๆๆครับที่มาแบ่งปันผู้ที่ไม่ได้ไปด้วย
ชอบข้อนี้มากที่สุด กำลังคิดอยู่พอดีว่าเวลาใช้ DCF เราต้องประเมิณไปในอนาคตหลายปี ซึ่งอาจเกิดความคลาดเคลื่อนได้มาก นอกจากนี้ยังยุ่งยากในการทำ ก็เลยคิดอยู่ว่าจะเอาการดูงบกระแสเงินสดไปประยุกต์ใช้อย่างไรดีโดยไม่ต้องเคร่งกับDCFมากนัก
รุ้สึกคุณ earthcu จะเคยโพสต์ความรู้จากตอนmeeting ภาคใต้ด้วย ขอบคุณมากๆๆๆๆครับที่มาแบ่งปันผู้ที่ไม่ได้ไปด้วย
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- Verified User
- โพสต์: 249
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.
โพสต์ที่ 12
เป็นข้อมูลที่ดีมากครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 358
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.
โพสต์ที่ 13
ขอบคุณครับ ได้รู้และทบทวน
-
- Verified User
- โพสต์: 315
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.
โพสต์ที่ 14
ขอบคุณ คุณHong และคุณearthcu ด้วยเช่นกันครับ
-----------------------------------------
เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง
-----------------------------------------
ท่านพุทธทาสภิกขุ
เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง
-----------------------------------------
ท่านพุทธทาสภิกขุ
- jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.
โพสต์ที่ 16
ขอบคุณครับ
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
- watermusic
- Verified User
- โพสต์: 62
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.
โพสต์ที่ 19
ขอบคุณมาก ชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อ 7
สิ่งมีชีวิตซึ่งขับเคลื่อนด้วยความกลัวและความโลภ
- green-orange
- Verified User
- โพสต์: 896
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.
โพสต์ที่ 21
สำหรับผู้ที่เป็นมือใหม่ ผมแนะนำให้ซื้อมาอ่านนะครับ คุณฮงเขียนอธิบายโดยใช้คำง่ายๆ อธิบายดีครับ ผมได้ซื้อเก็บไว้ให้น้องชายและหลานๆอ่านแล้ว 1 เล่มครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 63
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.
โพสต์ที่ 22
ขอบคุณมากครับ ไปฟังคุณฮงวันนั้นเหมือนกัน ขออนุญาติเสริมเท่าที่จำได้นะครับ
- นอกจากการหาข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลก็สำัคัญ คุณฮงใช้วิธีสร้าง folder แยกเป็น sector แล้วลงเป็นรายหุ้น
โหลดบทวิเคราะห์ทุกแห่ง มากรุ๊ปตามลำดับเวลา ข้อดีของการอ่านบทวิเคราะห์ย้อนหลังคือ ช่วยให้เราเห็น
seasonal ของหุ้นนั้นๆ ว่าราคาขึ้นลงจากสาเหตุอะไร
- หลายคนเข้าใจว่า VI ต้องตามดูตัวเลขเศรษฐกิจเยอะ แต่หลักๆ มีไม่กี่ตัว เช่น GDP, อัตราดอกเีบี้ย, เงินเฟ้อ
เพราะเพียงตัวเลขพวกนี้ก็สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจแบบกว้างๆ ได้แล้ว
- ช่วงถาม-ตอบ มีผู้ฟังท่านนึงถามว่า การดูกราฟเพื่อจับจังหวะในการซื้อ-ขาย จำเป็นมั้ยสำหรับ VI?
คุณฮงบอกว่า ตัวเค้ารู้จักนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะแบบเพียว VI, เพียวเทคนิค และผสมผสาน
ดังนั้นคงจะตอบได้ยาก แต่ดูกราฟเป็นก็มีข้อดี ช่วยให้เราไม่ขายหุ้นเร็วจนเกินไป
ตัวคุณฮงเองก็ดูกราฟแต่ไม่มากนัก ใช้เวลาวิเคราะห์พื้นฐานเป็นหลัก
เลยแนะนำว่า ทางที่ดีให้ลองศึกษาทั้งสองแบบก่อน แล้วดูว่าสไตล์ไหนที่ถูกกับจริตของเราจะดีกว่า
ส่วนตัว ชอบข้อ 1 ที่สุดครับ ทัศนคตินี่สำคัญมากสำหรับการประสบความสำเร็จในชีวิต
ตัวอย่างที่คุณฮงยกมาเปรียบเทียบ ระหว่างคนที่ลงทุนเพื่อหวังค่ากับข้าวกับหวังรวยนี่เห็นภาพมาก
ในฐานะมือใหม่แกะกล่องคนนึง ชื่นชมคุณฮงครับ ไปฟังแล้วได้มุมมองและแรงบันดาลใจเยอะทีเดียว
- นอกจากการหาข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลก็สำัคัญ คุณฮงใช้วิธีสร้าง folder แยกเป็น sector แล้วลงเป็นรายหุ้น
โหลดบทวิเคราะห์ทุกแห่ง มากรุ๊ปตามลำดับเวลา ข้อดีของการอ่านบทวิเคราะห์ย้อนหลังคือ ช่วยให้เราเห็น
seasonal ของหุ้นนั้นๆ ว่าราคาขึ้นลงจากสาเหตุอะไร
- หลายคนเข้าใจว่า VI ต้องตามดูตัวเลขเศรษฐกิจเยอะ แต่หลักๆ มีไม่กี่ตัว เช่น GDP, อัตราดอกเีบี้ย, เงินเฟ้อ
เพราะเพียงตัวเลขพวกนี้ก็สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจแบบกว้างๆ ได้แล้ว
- ช่วงถาม-ตอบ มีผู้ฟังท่านนึงถามว่า การดูกราฟเพื่อจับจังหวะในการซื้อ-ขาย จำเป็นมั้ยสำหรับ VI?
คุณฮงบอกว่า ตัวเค้ารู้จักนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะแบบเพียว VI, เพียวเทคนิค และผสมผสาน
ดังนั้นคงจะตอบได้ยาก แต่ดูกราฟเป็นก็มีข้อดี ช่วยให้เราไม่ขายหุ้นเร็วจนเกินไป
ตัวคุณฮงเองก็ดูกราฟแต่ไม่มากนัก ใช้เวลาวิเคราะห์พื้นฐานเป็นหลัก
เลยแนะนำว่า ทางที่ดีให้ลองศึกษาทั้งสองแบบก่อน แล้วดูว่าสไตล์ไหนที่ถูกกับจริตของเราจะดีกว่า
ส่วนตัว ชอบข้อ 1 ที่สุดครับ ทัศนคตินี่สำคัญมากสำหรับการประสบความสำเร็จในชีวิต
ตัวอย่างที่คุณฮงยกมาเปรียบเทียบ ระหว่างคนที่ลงทุนเพื่อหวังค่ากับข้าวกับหวังรวยนี่เห็นภาพมาก
ในฐานะมือใหม่แกะกล่องคนนึง ชื่นชมคุณฮงครับ ไปฟังแล้วได้มุมมองและแรงบันดาลใจเยอะทีเดียว
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.
โพสต์ที่ 23
ขอบพระคุณมากครับติดตามผลงานของพี่เขามานานแล้วครับ
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.
โพสต์ที่ 24
เสียดายที่พี่ไม่ได้มีโอกาสไปร่วมในบรรยากาศงานด้วยนะครับ
ชื่นชมน้องฮงมากๆเช่นกันครับ แล้วจะคอยติดตามผลงานต่อไปนะ
ยังไงก็ขอขอบคุณทั้ง "น้องฮง" และ "น้องเอก" คนเขียนสรุปด้วยนะขอรับ
(^_^)
ชื่นชมน้องฮงมากๆเช่นกันครับ แล้วจะคอยติดตามผลงานต่อไปนะ
ยังไงก็ขอขอบคุณทั้ง "น้องฮง" และ "น้องเอก" คนเขียนสรุปด้วยนะขอรับ
(^_^)
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
- dinnummun
- Verified User
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.
โพสต์ที่ 27
สำหรับท่านที่พลาดไม่ได้ไปฟังคุณฮงในวันนั้น
สามารถเข้าไปดูย้อนหลังได้ที่ moneychannel ช่วง money forum
วันที่ 24/12/2011 13.00น. ครับ
http://www.dcs-digital.com/moneychannel ... ?listid=12
สามารถเข้าไปดูย้อนหลังได้ที่ moneychannel ช่วง money forum
วันที่ 24/12/2011 13.00น. ครับ
http://www.dcs-digital.com/moneychannel ... ?listid=12
- awesomekid
- Verified User
- โพสต์: 94
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้ที่ได้จากงานเสวนาของ K.Hongvalue วันที่ 14 ธ.
โพสต์ที่ 30
ขอบคุณครับ ไม่มีโอกาสได้ไป ได้มาอ่านอย่างนี้ รู้สึกดีครับ
====================================
เก็บเล็กผสมน้อยมาลงทุน เพื่ออนาคตอันเป็นอิสระ
====================================
เก็บเล็กผสมน้อยมาลงทุน เพื่ออนาคตอันเป็นอิสระ
====================================