+++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
- poppo
- Verified User
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 92
มารายงานผลครับ
ผมทำผิดพลาดหลายอย่างมากเลยครับ และหุ้นแต่ละตัวที่ผมขายไปที่เกือบฟลอร์หรือฟลอร์ ถ้าถือถึงวันนี้ ผมคงรวยไปแล้วล่ะครับ
ผมขาย mcs. ไปตอนสองบาท ก่อนมันจะลงไป 1.7 แต่ปัจจุบันเกินสิบบาทไปแล้ว อันที่จริงผมกลับมาซื้อมันใหม่ตอนสี่บาท แล้วขายไป 9.5 แล้วไม่ได้ดูแล้วครับ
ส่วนแมคโครขายไปตอนขึ้นมาแถว74บาท ปัจจุบันสองร้อยแล้ว
ไวท์กรุ๊ปเพิ่งขายหมดมือไปแถว 70 บาท ขายเพราะน้องสาวจะขอเงินไปซื้อคอนโดใหม่ที่สิงคโปร์ ถือว่าให้เขาไป
ส่วน dcc. ขายไปแถว 15 บาทมั้ง
เงินที่ขายได้มา ตอนนั้นผมเอาไปซื้อ cpnrf. ต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 6บาทกว่าๆ กับ SPF. ต้นทุนประมาณ 7บาท
เพราะไม่คิดว่าวิกฤติจะจบเร็วอย่างนี้
ส่วนเงินส่วนอื่นก็ไปซื้อ ssf. Oishi cpf banpu.cpn ทั้งหมดได้กำไรมาประมาณเท่ากว่าๆ
หลังจากนั้นมีความจำเป็นต้องกลับมาเรียนต่อ จึงไม่สามารถดูแลพอร์ทหุ้นได้อีก พอดีได้พี่มนตรี แนะนำผู้จัดการกองทุนช่วยดูแลให้ตั้งแต่มกราคมปีที่แล้ว เลยโอนหุ้นทั้งหมดที่มี ยกเว้นกองทุนอสังหาให้คุณผู้จัดการกองทุนดูแล
ส่วนนี้ถึงปัจจุบันได้ประมาณร้อยกว่าเปอร์เซนต์
ความมั่งคั่งโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณเท่ากว่าๆถ้านับจากก่อนเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์
มองย้อนกลับไปถือว่าไม่ดีไม่เลว แต่ถือว่าตัวเองโชคดีที่วิกฤติไม่ยาวเหมือนปี40
อย่างไรก็ตาม ถ้าวิกฤติคราวหน้ามา ผมคิดว่าผมจะไม่ทนจนขาดทุนมากๆ ไม่ทนจนกำไรกลายเป็นขาดทุนหรอก ถ้าต้องเผ่น ผมก็จะเผ่น เราโชคดีที่วิกฤติคราวนี้จบเร็ว คราวหน้าจะจบเร็วแบบเดียวกันหรือเปล่าผมไม่รู้
ผมทำผิดพลาดหลายอย่างมากเลยครับ และหุ้นแต่ละตัวที่ผมขายไปที่เกือบฟลอร์หรือฟลอร์ ถ้าถือถึงวันนี้ ผมคงรวยไปแล้วล่ะครับ
ผมขาย mcs. ไปตอนสองบาท ก่อนมันจะลงไป 1.7 แต่ปัจจุบันเกินสิบบาทไปแล้ว อันที่จริงผมกลับมาซื้อมันใหม่ตอนสี่บาท แล้วขายไป 9.5 แล้วไม่ได้ดูแล้วครับ
ส่วนแมคโครขายไปตอนขึ้นมาแถว74บาท ปัจจุบันสองร้อยแล้ว
ไวท์กรุ๊ปเพิ่งขายหมดมือไปแถว 70 บาท ขายเพราะน้องสาวจะขอเงินไปซื้อคอนโดใหม่ที่สิงคโปร์ ถือว่าให้เขาไป
ส่วน dcc. ขายไปแถว 15 บาทมั้ง
เงินที่ขายได้มา ตอนนั้นผมเอาไปซื้อ cpnrf. ต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 6บาทกว่าๆ กับ SPF. ต้นทุนประมาณ 7บาท
เพราะไม่คิดว่าวิกฤติจะจบเร็วอย่างนี้
ส่วนเงินส่วนอื่นก็ไปซื้อ ssf. Oishi cpf banpu.cpn ทั้งหมดได้กำไรมาประมาณเท่ากว่าๆ
หลังจากนั้นมีความจำเป็นต้องกลับมาเรียนต่อ จึงไม่สามารถดูแลพอร์ทหุ้นได้อีก พอดีได้พี่มนตรี แนะนำผู้จัดการกองทุนช่วยดูแลให้ตั้งแต่มกราคมปีที่แล้ว เลยโอนหุ้นทั้งหมดที่มี ยกเว้นกองทุนอสังหาให้คุณผู้จัดการกองทุนดูแล
ส่วนนี้ถึงปัจจุบันได้ประมาณร้อยกว่าเปอร์เซนต์
ความมั่งคั่งโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณเท่ากว่าๆถ้านับจากก่อนเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์
มองย้อนกลับไปถือว่าไม่ดีไม่เลว แต่ถือว่าตัวเองโชคดีที่วิกฤติไม่ยาวเหมือนปี40
อย่างไรก็ตาม ถ้าวิกฤติคราวหน้ามา ผมคิดว่าผมจะไม่ทนจนขาดทุนมากๆ ไม่ทนจนกำไรกลายเป็นขาดทุนหรอก ถ้าต้องเผ่น ผมก็จะเผ่น เราโชคดีที่วิกฤติคราวนี้จบเร็ว คราวหน้าจะจบเร็วแบบเดียวกันหรือเปล่าผมไม่รู้
จงทนอด และอดทน
-
- Verified User
- โพสต์: 2595
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 93
คุ้มค่าที่รอพี่poppมาตอบ ขอบคุณครับสำหรับประสบการณ์ ต้องเรียกพี่ว่านกฟีนิกซ์ มากกว่าซอมบี้นะครับpoppo เขียน:มารายงานผลครับ
ผมทำผิดพลาดหลายอย่างมากเลยครับ และหุ้นแต่ละตัวที่ผมขายไปที่เกือบฟลอร์หรือฟลอร์ ถ้าถือถึงวันนี้ ผมคงรวยไปแล้วล่ะครับ
ผมขาย mcs. ไปตอนสองบาท ก่อนมันจะลงไป 1.7 แต่ปัจจุบันเกินสิบบาทไปแล้ว อันที่จริงผมกลับมาซื้อมันใหม่ตอนสี่บาท แล้วขายไป 9.5 แล้วไม่ได้ดูแล้วครับ
ส่วนแมคโครขายไปตอนขึ้นมาแถว74บาท ปัจจุบันสองร้อยแล้ว
ไวท์กรุ๊ปเพิ่งขายหมดมือไปแถว 70 บาท ขายเพราะน้องสาวจะขอเงินไปซื้อคอนโดใหม่ที่สิงคโปร์ ถือว่าให้เขาไป
ส่วน dcc. ขายไปแถว 15 บาทมั้ง
เงินที่ขายได้มา ตอนนั้นผมเอาไปซื้อ cpnrf. ต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 6บาทกว่าๆ กับ SPF. ต้นทุนประมาณ 7บาท
เพราะไม่คิดว่าวิกฤติจะจบเร็วอย่างนี้
ส่วนเงินส่วนอื่นก็ไปซื้อ ssf. Oishi cpf banpu.cpn ทั้งหมดได้กำไรมาประมาณเท่ากว่าๆ
หลังจากนั้นมีความจำเป็นต้องกลับมาเรียนต่อ จึงไม่สามารถดูแลพอร์ทหุ้นได้อีก พอดีได้พี่มนตรี แนะนำผู้จัดการกองทุนช่วยดูแลให้ตั้งแต่มกราคมปีที่แล้ว เลยโอนหุ้นทั้งหมดที่มี ยกเว้นกองทุนอสังหาให้คุณผู้จัดการกองทุนดูแล
ส่วนนี้ถึงปัจจุบันได้ประมาณร้อยกว่าเปอร์เซนต์
ความมั่งคั่งโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณเท่ากว่าๆถ้านับจากก่อนเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์
มองย้อนกลับไปถือว่าไม่ดีไม่เลว แต่ถือว่าตัวเองโชคดีที่วิกฤติไม่ยาวเหมือนปี40
อย่างไรก็ตาม ถ้าวิกฤติคราวหน้ามา ผมคิดว่าผมจะไม่ทนจนขาดทุนมากๆ ไม่ทนจนกำไรกลายเป็นขาดทุนหรอก ถ้าต้องเผ่น ผมก็จะเผ่น เราโชคดีที่วิกฤติคราวนี้จบเร็ว คราวหน้าจะจบเร็วแบบเดียวกันหรือเปล่าผมไม่รู้
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
- warrant_buffer
- Verified User
- โพสต์: 235
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 94
โหวตให้กระทู้นี้เป็น กระทู้ยอดเยี่ยมครับ
เตือนสติได้ดีจริงๆ
เตือนสติได้ดีจริงๆ
Good investing habits lead to Great return opportunities
- green-orange
- Verified User
- โพสต์: 896
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 97
ยอดเยี่ยมเลยครับ ขอขอบคุณสำหรับการเล่าประสบการ์ณล้ำค่า ผมจำได้เลาๆว่าเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกในชีวิตตอน 840-850 ตอน peakๆ พอดีครับ ซื้อปุ๊ป ลงปั๊ป เงินหายไปอย่างน้อย 50% ถ้าจำไม่ผิด เกือบ 60% ครับ ตอนนั้นช้ำมากมาย เลิกดูไปเลยเกือบ 1 ปี กลับมาดูใหม่ตอนปี 2009 ประมาณ เมย-พค นี่แหล่ะครับ แล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาการลงทุนจากนั้นมาแบบมั่วๆ จนได้ไปเรียนของ อาจาร์ยมนตรี ครับ และตรงนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นอีกเหมือนกัน เพราะเริ่มจับทางถูก แต่ก็งูๆ ปลาๆ ครับ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังต้องศึกษาอยู่ครับ สู้ๆ ต่อไปครับpoppo เขียน:มารายงานผลครับ
ผมทำผิดพลาดหลายอย่างมากเลยครับ และหุ้นแต่ละตัวที่ผมขายไปที่เกือบฟลอร์หรือฟลอร์ ถ้าถือถึงวันนี้ ผมคงรวยไปแล้วล่ะครับ
ผมขาย mcs. ไปตอนสองบาท ก่อนมันจะลงไป 1.7 แต่ปัจจุบันเกินสิบบาทไปแล้ว อันที่จริงผมกลับมาซื้อมันใหม่ตอนสี่บาท แล้วขายไป 9.5 แล้วไม่ได้ดูแล้วครับ
ส่วนแมคโครขายไปตอนขึ้นมาแถว74บาท ปัจจุบันสองร้อยแล้ว
ไวท์กรุ๊ปเพิ่งขายหมดมือไปแถว 70 บาท ขายเพราะน้องสาวจะขอเงินไปซื้อคอนโดใหม่ที่สิงคโปร์ ถือว่าให้เขาไป
ส่วน dcc. ขายไปแถว 15 บาทมั้ง
เงินที่ขายได้มา ตอนนั้นผมเอาไปซื้อ cpnrf. ต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 6บาทกว่าๆ กับ SPF. ต้นทุนประมาณ 7บาท
เพราะไม่คิดว่าวิกฤติจะจบเร็วอย่างนี้
ส่วนเงินส่วนอื่นก็ไปซื้อ ssf. Oishi cpf banpu.cpn ทั้งหมดได้กำไรมาประมาณเท่ากว่าๆ
หลังจากนั้นมีความจำเป็นต้องกลับมาเรียนต่อ จึงไม่สามารถดูแลพอร์ทหุ้นได้อีก พอดีได้พี่มนตรี แนะนำผู้จัดการกองทุนช่วยดูแลให้ตั้งแต่มกราคมปีที่แล้ว เลยโอนหุ้นทั้งหมดที่มี ยกเว้นกองทุนอสังหาให้คุณผู้จัดการกองทุนดูแล
ส่วนนี้ถึงปัจจุบันได้ประมาณร้อยกว่าเปอร์เซนต์
ความมั่งคั่งโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณเท่ากว่าๆถ้านับจากก่อนเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์
มองย้อนกลับไปถือว่าไม่ดีไม่เลว แต่ถือว่าตัวเองโชคดีที่วิกฤติไม่ยาวเหมือนปี40
อย่างไรก็ตาม ถ้าวิกฤติคราวหน้ามา ผมคิดว่าผมจะไม่ทนจนขาดทุนมากๆ ไม่ทนจนกำไรกลายเป็นขาดทุนหรอก ถ้าต้องเผ่น ผมก็จะเผ่น เราโชคดีที่วิกฤติคราวนี้จบเร็ว คราวหน้าจะจบเร็วแบบเดียวกันหรือเปล่าผมไม่รู้
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 98
ขอบคุณพี่ poppo มากครับสำหรับประสบการณ์
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
- thanutj
- Verified User
- โพสต์: 35
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 99
ขอบคุณที่เล่าประสบการณ์ให้รุ่นน้องอย่างผมได้ฟังครับ
ผมว่าที่ราคาหุ้นกลับมาพุ่งหลังวิกฤติได้ ก็เพราะว่าหุ้นหลายๆตัวในพอร์ตพี่มีพื้นฐานที่ค่อนข้างดี เพียงแต่ตอนนั้นอารมณ์ตลาดพาไป และวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ไม่ได้ส่งผลต่อพื้นฐานเศรษฐกิจขนาดที่ทำให้พื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป
ผมว่าที่ราคาหุ้นกลับมาพุ่งหลังวิกฤติได้ ก็เพราะว่าหุ้นหลายๆตัวในพอร์ตพี่มีพื้นฐานที่ค่อนข้างดี เพียงแต่ตอนนั้นอารมณ์ตลาดพาไป และวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ไม่ได้ส่งผลต่อพื้นฐานเศรษฐกิจขนาดที่ทำให้พื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป
Money machine.
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 101
ปัญหาคือส่วนมากแล้ว พอถึงเวลาจริง ๆ เราไม่รู้ว่า ณ เวลานั้น คือวิกฤติหรือเปล่าน่ะสิครับอย่างไรก็ตาม ถ้าวิกฤติคราวหน้ามา ผมคิดว่าผมจะไม่ทนจนขาดทุนมากๆ ไม่ทนจนกำไรกลายเป็นขาดทุนหรอก ถ้าต้องเผ่น ผมก็จะเผ่น เราโชคดีที่วิกฤติคราวนี้จบเร็ว คราวหน้าจะจบเร็วแบบเดียวกันหรือเปล่าผมไม่รู้
อย่างตอน subprime ... ช่วงครึ่งปีหลังก็ยังไม่ค่อยมีใครรู้สึกว่ามันคือวิกฤติที่แย่จริง ๆ
หรือขนาดพอหลังจากวิกฤติไปแล้ว ก็คงไม่มีใครคิดว่าปี 2009 จะเป็นปีทองของหลาย ๆ คน
ดังนั้นคำถามคือ มันเป็นไปได้หรือครับ ที่จะรู้ว่าเมื่อใหร่ควรจะรอก่อน หรือเมื่อไหร่ที่ควรจะเผ่น
เพราะคนที่รู้จริงแบบนั้น คงไม่เจ็บตัวเหมือนที่หลาย ๆ คนเจ็บตัวตอน subprime หรอกครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2595
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 102
ผมมองว่าทางเเก้ปัญหาตรงนี้คือการลงทุนเเบบVIakekarat เขียน:ปัญหาคือส่วนมากแล้ว พอถึงเวลาจริง ๆ เราไม่รู้ว่า ณ เวลานั้น คือวิกฤติหรือเปล่าน่ะสิครับอย่างไรก็ตาม ถ้าวิกฤติคราวหน้ามา ผมคิดว่าผมจะไม่ทนจนขาดทุนมากๆ ไม่ทนจนกำไรกลายเป็นขาดทุนหรอก ถ้าต้องเผ่น ผมก็จะเผ่น เราโชคดีที่วิกฤติคราวนี้จบเร็ว คราวหน้าจะจบเร็วแบบเดียวกันหรือเปล่าผมไม่รู้
อย่างตอน subprime ... ช่วงครึ่งปีหลังก็ยังไม่ค่อยมีใครรู้สึกว่ามันคือวิกฤติที่แย่จริง ๆ
หรือขนาดพอหลังจากวิกฤติไปแล้ว ก็คงไม่มีใครคิดว่าปี 2009 จะเป็นปีทองของหลาย ๆ คน
ดังนั้นคำถามคือ มันเป็นไปได้หรือครับ ที่จะรู้ว่าเมื่อใหร่ควรจะรอก่อน หรือเมื่อไหร่ที่ควรจะเผ่น
เพราะคนที่รู้จริงแบบนั้น คงไม่เจ็บตัวเหมือนที่หลาย ๆ คนเจ็บตัวตอน subprime หรอกครับ
ผมขอเล่าเรื่องของรุ่นพี่ท่านหนึ่ง พี่แกเริ่มลงทุนมาตั้งแต่ปี 2546 ตอนเรกก็เป็น Trader สักพักไม่ค่อยมีความสุขก็เลยลงทุนเเบบVI จนปี 2551 เกิดวิกฤติSubprime ตอนนั้นเเกมาเรียนต่อพอดี หุ้นในPortติดลบ40% เเกไม่ขายเเถมซื้อเพิ่ม แกเล่าให้ฟังว่าตอนนั้น SCC ตกมาเหลือ 150 แกอัดซื้อเพิ่ม ต่อมาตกมา 130 เสียดายมาก...เสียดายที่กระสุนหมด (ในขณะที่ผมตอนเห็นหุ้น SCCครั้งเเรกในชีวิตการลงทุนราว พ.ค. 52 ที่ราคาราว130 ผมงงว่าทำไมเเพงจัง) ตอนนี้แกเลยมีหุ้นหลายเด้งอยู่นPort โดยเฉพาะ SIS
ปัจจุบันมีปันผลกินฟรีประมาณ 6 หลักต่อปีและมีความสุขกับการลงทุน ไม่ต้องตามราคาหุ้น ที่สำคัญไม่เคย Realize กำไรใน Port ว่าตอนนี้ได้กี่เปอร์เซ็นต์(ผิดกับผมที่เเอบคำนวณทุกไตรมาศ)
ผมเคยเชื่อว่าเป็นTRADER จะทำกำไรเเบบก้าวกระโดดและน่าจะผ่านวิกฤติได้ถ้า Cut lossเป็น
เรื่องกำไรผมตอบได้เลยว่าไม่จริงครับเพราะ Trader ดังๆที่ทำกำไรมหาศาล ลองสังเกตดีๆหรืออ่านประวัติดู ท่านเหล่านั้นมีต้นทุนสำคัญคือ"เวลา" ต้องเสียเวลา ตามข่าว เฝ้าจอ ดูGraph ซึ่ง"เวลา"ไม่มีทางเพิ่มทุนได้และไม่รู้ว่าจะหมดเมื่อไหร่
ส่วนในภาวะวิกฤติผมยังไม่เคยเจอเเต่ดูภาพย้อนหลังเเล้ว VI ใจจะเเข้งกว่า อดทนมากกว่า เเละฟ้าหลังฝนย่อมสดใสกว่า
ดังนั้นก่อนวิกฤติครั้งหน้าผมคิดว่าต้องรีบมาสะสมความรู้เเละฝึกใจ เพื่อเปลี่ยนตนเองเป็นVIให้ได้
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
-
- Verified User
- โพสต์: 1296
- ผู้ติดตาม: 1
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 103
เป็น VI เมื่อถึงคราววิกฤต ก็ต้องมีการปรับ Port และถ้าโชคดี
มีเงินสำรองก็ควรลงทุนเพิ่ม
ด้วยผมเคยผ่านต้มยำกุ้งมา ออกจากตลาดไปพักหนึ่ง เลยพลาด
โอกาสทอง ตอนSubprimeผมถือว่าเป็นโอกาสทองในรอบ10ปี
ต่อจากต้มยำกุ้งเลยทีเดียว ผมขาย Team ,NNCL,TRC
(ขาดทุนมากมาย) ได้เงินมาน้อยนิด แล้วขอเงินจากคู่คิดเพิ่ม
ใหม่อีกก้อน เพื่อมาซื้อเฉลี่ยหุ้นที่คิดว่าน่าจะกลับมา คือ DRT
SVI ,SNC,PTL เพิ่ม (ซึ่งตอนนั้นก็ขาดทุนมากมายเช่นกัน
แต่ไม่ได้ขายออกไป)
ดังนั้นอย่าออกจากตลาดเมื่อเกิดวิกฤต แปรเปลี่ยนวิกฤต
เป็นโอกาส
มีเงินสำรองก็ควรลงทุนเพิ่ม
ด้วยผมเคยผ่านต้มยำกุ้งมา ออกจากตลาดไปพักหนึ่ง เลยพลาด
โอกาสทอง ตอนSubprimeผมถือว่าเป็นโอกาสทองในรอบ10ปี
ต่อจากต้มยำกุ้งเลยทีเดียว ผมขาย Team ,NNCL,TRC
(ขาดทุนมากมาย) ได้เงินมาน้อยนิด แล้วขอเงินจากคู่คิดเพิ่ม
ใหม่อีกก้อน เพื่อมาซื้อเฉลี่ยหุ้นที่คิดว่าน่าจะกลับมา คือ DRT
SVI ,SNC,PTL เพิ่ม (ซึ่งตอนนั้นก็ขาดทุนมากมายเช่นกัน
แต่ไม่ได้ขายออกไป)
ดังนั้นอย่าออกจากตลาดเมื่อเกิดวิกฤต แปรเปลี่ยนวิกฤต
เป็นโอกาส
-
- Verified User
- โพสต์: 315
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 104
ขอโหวดกระทู้นี้ด้วยคนครับ
เป็นบทเรียนที่มีคุณค่ามากครับ
เป็นบทเรียนที่มีคุณค่ามากครับ
-----------------------------------------
เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง
-----------------------------------------
ท่านพุทธทาสภิกขุ
เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง
-----------------------------------------
ท่านพุทธทาสภิกขุ
-
- Verified User
- โพสต์: 2595
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 105
ขุดมาอ่านกระทู้เเนะนำครับ
วันนี้เเดงจริงเจ็บจริงทั้งตัวที่ถือยาวเเละPortเก็งกำไร ส่วนPort DCA เข้าดูไม่ได้ลืมรหัสผ่าน....
ยังไงก็ยังลงทุนต่อไปครับ ช่วงนี้ทยอยซื้อLTFก็มีความสุขดีไปอีกเเบบครับ
ขอให้ประสบการณ์ครั้งนี้ ช่วยทำให้เราเป็นนักลงทุนที่เก่งขึ้น นิ่งขึ้น เเละอารมณ์เราต้องอยู่เหนือราคาหุ้นให้ได้...
วันนี้เเดงจริงเจ็บจริงทั้งตัวที่ถือยาวเเละPortเก็งกำไร ส่วนPort DCA เข้าดูไม่ได้ลืมรหัสผ่าน....
ยังไงก็ยังลงทุนต่อไปครับ ช่วงนี้ทยอยซื้อLTFก็มีความสุขดีไปอีกเเบบครับ
ขอให้ประสบการณ์ครั้งนี้ ช่วยทำให้เราเป็นนักลงทุนที่เก่งขึ้น นิ่งขึ้น เเละอารมณ์เราต้องอยู่เหนือราคาหุ้นให้ได้...
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 106
poppo wrote:
มารายงานผลครับ
ผมทำผิดพลาดหลายอย่างมากเลยครับ และหุ้นแต่ละตัวที่ผมขายไปที่เกือบฟลอร์หรือฟลอร์ ถ้าถือถึงวันนี้ ผมคงรวยไปแล้วล่ะครับ
ผมขาย mcs. ไปตอนสองบาท ก่อนมันจะลงไป 1.7 แต่ปัจจุบันเกินสิบบาทไปแล้ว อันที่จริงผมกลับมาซื้อมันใหม่ตอนสี่บาท แล้วขายไป 9.5 แล้วไม่ได้ดูแล้วครับ
ส่วนแมคโครขายไปตอนขึ้นมาแถว74บาท ปัจจุบันสองร้อยแล้ว
ไวท์กรุ๊ปเพิ่งขายหมดมือไปแถว 70 บาท ขายเพราะน้องสาวจะขอเงินไปซื้อคอนโดใหม่ที่สิงคโปร์ ถือว่าให้เขาไป
ส่วน dcc. ขายไปแถว 15 บาทมั้ง
ขอบคุณที่แชรสิ่งดีๆๆครับ
มารายงานผลครับ
ผมทำผิดพลาดหลายอย่างมากเลยครับ และหุ้นแต่ละตัวที่ผมขายไปที่เกือบฟลอร์หรือฟลอร์ ถ้าถือถึงวันนี้ ผมคงรวยไปแล้วล่ะครับ
ผมขาย mcs. ไปตอนสองบาท ก่อนมันจะลงไป 1.7 แต่ปัจจุบันเกินสิบบาทไปแล้ว อันที่จริงผมกลับมาซื้อมันใหม่ตอนสี่บาท แล้วขายไป 9.5 แล้วไม่ได้ดูแล้วครับ
ส่วนแมคโครขายไปตอนขึ้นมาแถว74บาท ปัจจุบันสองร้อยแล้ว
ไวท์กรุ๊ปเพิ่งขายหมดมือไปแถว 70 บาท ขายเพราะน้องสาวจะขอเงินไปซื้อคอนโดใหม่ที่สิงคโปร์ ถือว่าให้เขาไป
ส่วน dcc. ขายไปแถว 15 บาทมั้ง
ขอบคุณที่แชรสิ่งดีๆๆครับ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 65
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 108
ทุกคนย่อมผิดพลาดครับ ดีที่ถือหุ้นปลอดภัยพื้นฐานดี ระยะยาวไม่ต้องกลัวครับ เพียงแต่ เวลาซื้ออย่าลืมถามว่าราคาเท่าไร มีส่วนลดไหม เวลาผมซื้อหุ้น ผมจะคำนวณว่าถ้าผมซื้อทั้งบริษัท มูลค่าตลาดรวมในขณะนั้น ว่าตุ้มไหมตอนนี้และในอนาคต ยกตัวอย่างครับ หุ้น A มีมูลค่าทั้งหมด 100 ล้านบาท กำไรสุทธิ 15 ล้านบาท วิเคราะว่า ปีหนึ่งถ้าซื้อทั้งบริษัท ได้ตั้ง 15 % ต่อปี ถือว่าดีมากแล้วครับ ไม่กี่ปีก็คือทุน ในทางกลับกันถ้าปีหนึ่งกำไรแค่ 4-5 ล้านบาท ถือว่าน้อยครับ รอก่อนครับ ราคาดีดีค่อยซื้อ ทั้งนี้ต้องดูอนาคตด้วยว่าจะสามารถทำกำไรในระยะยาวได้อีกน่ะครับ เกณฑ์ของผมจะอยู่ที่ 10 % ครับ ถ้ามากกว่านี้ยิ่งมี MOS เยอะครับแต่บางหุ้นที่ดีดีประมาณ 8 % ผมก็ทยอยเข้าแล้วครับ ผลหามูลค่าอะไรไม่เก่งหลอกครับคำนวณมูลค่าคิดกระแสส่วนลดเงินสดไม่เป็นเลยครับ ผมจะทำอะไรให้มันง่ายที่สุด มนุษย์นี่และครับชอบทำอะไรให้มันยากเอง...เมื่อก่อนเห็นหุ้นดีราคาสูงคิดว่าต้องสูงขึ้นอีกโดดใส่เลยครับถึงไม่ขาดทุนแต่กำไรเท่าหางอึ่ง...ตอนนี้เย็นมาครับบางทีเกือบปีถึงซื้อทีหนึ่ง ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2595
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 109
ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ อ่าน2กระทู้ข้างบนก็เป็นความเห็นที่เตือนน้องๆได้ดีมากเลยครับviหัดคลาน เขียน:ผมผิดเองครับ ไม่ได้ดูว่าเป็นกระทู้เก่าครับ ดังนั้นขอให้ mod ช่วยลบความเห็นผมด้วยครับ
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
- tn143
- Verified User
- โพสต์: 229
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 110
อ่านแล้วซึ้งมาก
ขอบันทึกไว้มั่ง ข้างหน้าไม่รู้จะเป็นยังไง จะได้เป็็นคนตายหรือไม่ก็ไม่รู้
24/9/54 มีหุ้น +20% -2% -25% +78%
พอร์ทรวมยัง+3% แต่ก็หดลงไปมากอย่างรวดเร็ว
วันนี้มาถึงทางแยกที่ว่า จะเชื่อในคุณค่าที่เชื่อต่อไปไหวหรือไม่
ไม่ค่อยแน่ใจตัวเองเหอๆ
ขอบันทึกไว้มั่ง ข้างหน้าไม่รู้จะเป็นยังไง จะได้เป็็นคนตายหรือไม่ก็ไม่รู้
24/9/54 มีหุ้น +20% -2% -25% +78%
พอร์ทรวมยัง+3% แต่ก็หดลงไปมากอย่างรวดเร็ว
วันนี้มาถึงทางแยกที่ว่า จะเชื่อในคุณค่าที่เชื่อต่อไปไหวหรือไม่
ไม่ค่อยแน่ใจตัวเองเหอๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 2595
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 114
เห็นด้วยเลยครับ เพราะเวลาปกติหุ้นดีๆก็ราคาเเพงหมดเเล้ว ถ้าเรามีกระสุนเเละอยากลงทุนเพิ่ม ทำให้เราต้องหาหุ้น บางทีอาจหน้ามืด มองวัชพืชเป็นผัก เลยเข้าไปเก็บตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ต้องพิจารณาPortตนเองว่า ตัวไหน"ของจริง" ตัวไหนที่เราลงทุนเพราะหน้ามืดครับyoko เขียน:มอสไม่พอก็ยังกลับมาได้
เกรแฮมบอกว่า
สิ่งที่ควรระวังคือการซื้อหุ้นคุณภาพไม่ดีในช่วงเวลาปกติ
ผมว่านลทวอได้เวลาสำรวจพอร์ทตัวเองเพื่อกำจัดวัชพืชทิ้งครับ
เพราะตอนที่ของจริงลดราคา เราจะไม่เสียโอกาสครับ
เเต่ปัญหาของผมมีวัชพืชอยู่ต้นนึงที่เป็นใบหุ้นอะครับ เลยทำอะไรไม่ได้ได้เเต่ทำใจเเละรับปันผล7%/ปีในขณะที่ราคาหุ้นลดลงเรื่อยๆ
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
-
- Verified User
- โพสต์: 281
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 116
ผมเริ่มลงทุนกลางปี2007..
ปี2008 ช่วงที่ฝรั่งเริ่มขาย..ผมก็เลือกที่จะเชื่อว่าหุ้นจะไม่ขึ้นจนกว่าฝรั่งจะหยุดขาย..เวลานั้นผมไม่รู้ว่าคิดถูกหรือผิด..แต่ก็ตัดใจยอมขาย..ทำให้ขาดทุน20% และมีเงินเหลือมาซื้อหุ้นแถว400 จุด...
Set 380จุด ช่วงนั้นอารมย์ตลาดยังไม่ดี เพราะนักวิเคราะห์ยังมองว่าจะลงไปได้อีก ทำให้กลัวว่าจะลงไปเหลือ200 จุดหรือน้อยกว่านั้น..และที่สำคัญเกือบทุกคนมองว่าวิกฤตินี้จะนานหลายปี(เอาไปเปรียบเทียบกันต้มยำกุ้ง)
Set เด้งมาแถว 400 จุด คนก็ยังไม่มั่นใจว่าหุ้นจะขึ้น ก็ยังกลัวๆกล้าๆ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น..แต่ก็โชคดีที่ยังมีเงินเหลือที่จะซื้อหุ้น..ช่วงนั้นผมทะยอยซื้อแต่ไม่กล้าถือนานเพราะกลัวมันจะลงอีก...ผลก็คือพอได้กำไรไม่เท่าไหร่ก็ขาย
ตัวอย่าง
ซื้อ Pttar 9บาท ขาย11-13บาท
ซื้อLanna 8 บาท ขาย 10 บาท
ซ้อThai 15 บาท ขาย 18-20บาท
ความจริงมีอีกหลายตัวนะครับ...
ช่วงที่ Set ปรับตัวขึ้น อารมณ์ตลาดช่วงนั้นคิดว่าเป็นแค่การเด้ง..คุยกันว่าจะเป็น V,UหรือW และนักวิเคราะห์ให้แนวต้านที่600(ตรงนี้ไม่แน่ใจ..ใครมีข้อมูลช่วยแชร์...)...สุดท้ายหุ้นก็ขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้
ช่วงที่หุ้นขึ้นมาได้ซักพักผมกลัวว่าset. อาจจะปรับตัวลง ผมเลยเลือกหาหุ้นที่ปลอดภัยเพื่อปกป้องเงินผมไว้. หุ้นปลอดภัยในมุมมองผมตอนนั้นคือ mint (ผมเล่นรอบเหมือนเดิม) หลังจากเรียนรู้ว่าควรจะถือหุ้นให้นานในช่วงขาขึ้น...จึงเริ่มถือหุ้นบ้าง แล้วผมก็เลือกน้องMint..ถ้าใครถือ mint จะรู้ว่าราคามันขึ้นลงๆ ไม่ไปไหนเลย..รู้สึกอิฉฉาคนที่พอร์ตโตหลายเท่า..ทำไมไม่เป็นเราทั้งๆที่ มีโอกาสแล้วในช่วง400จุด
แถว Set 1000 ผมเริ่ม เห็นคนมีกำไรจากหุ้นคนละหลายเด้ง(ผมเริ่มอิจฉา..หุหุ) ผมเริ่มปรับวิธีจาก conservative ไปเป็นเสี่ยงมากขึ้น (ความโลภเริ่มครอบนำ)...ผมเริ่มซื้อ warrant มากขึ้น และล่าสุดผมเลือกถือ Warrant เพียง2ตัว...ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างมาก
ตอนนี้พอร์ตผมยังมีกำไรอยู่นะครับ...แต่ก็หายไปเยอะ..และกำลังแก้ไขพอร์ต
การลงทุนของผมมีความผิดพลาดหลายอย่าง..แต่ก็พยามเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่ครับ...
ปี2008 ช่วงที่ฝรั่งเริ่มขาย..ผมก็เลือกที่จะเชื่อว่าหุ้นจะไม่ขึ้นจนกว่าฝรั่งจะหยุดขาย..เวลานั้นผมไม่รู้ว่าคิดถูกหรือผิด..แต่ก็ตัดใจยอมขาย..ทำให้ขาดทุน20% และมีเงินเหลือมาซื้อหุ้นแถว400 จุด...
Set 380จุด ช่วงนั้นอารมย์ตลาดยังไม่ดี เพราะนักวิเคราะห์ยังมองว่าจะลงไปได้อีก ทำให้กลัวว่าจะลงไปเหลือ200 จุดหรือน้อยกว่านั้น..และที่สำคัญเกือบทุกคนมองว่าวิกฤตินี้จะนานหลายปี(เอาไปเปรียบเทียบกันต้มยำกุ้ง)
Set เด้งมาแถว 400 จุด คนก็ยังไม่มั่นใจว่าหุ้นจะขึ้น ก็ยังกลัวๆกล้าๆ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น..แต่ก็โชคดีที่ยังมีเงินเหลือที่จะซื้อหุ้น..ช่วงนั้นผมทะยอยซื้อแต่ไม่กล้าถือนานเพราะกลัวมันจะลงอีก...ผลก็คือพอได้กำไรไม่เท่าไหร่ก็ขาย
ตัวอย่าง
ซื้อ Pttar 9บาท ขาย11-13บาท
ซื้อLanna 8 บาท ขาย 10 บาท
ซ้อThai 15 บาท ขาย 18-20บาท
ความจริงมีอีกหลายตัวนะครับ...
ช่วงที่ Set ปรับตัวขึ้น อารมณ์ตลาดช่วงนั้นคิดว่าเป็นแค่การเด้ง..คุยกันว่าจะเป็น V,UหรือW และนักวิเคราะห์ให้แนวต้านที่600(ตรงนี้ไม่แน่ใจ..ใครมีข้อมูลช่วยแชร์...)...สุดท้ายหุ้นก็ขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้
ช่วงที่หุ้นขึ้นมาได้ซักพักผมกลัวว่าset. อาจจะปรับตัวลง ผมเลยเลือกหาหุ้นที่ปลอดภัยเพื่อปกป้องเงินผมไว้. หุ้นปลอดภัยในมุมมองผมตอนนั้นคือ mint (ผมเล่นรอบเหมือนเดิม) หลังจากเรียนรู้ว่าควรจะถือหุ้นให้นานในช่วงขาขึ้น...จึงเริ่มถือหุ้นบ้าง แล้วผมก็เลือกน้องMint..ถ้าใครถือ mint จะรู้ว่าราคามันขึ้นลงๆ ไม่ไปไหนเลย..รู้สึกอิฉฉาคนที่พอร์ตโตหลายเท่า..ทำไมไม่เป็นเราทั้งๆที่ มีโอกาสแล้วในช่วง400จุด
แถว Set 1000 ผมเริ่ม เห็นคนมีกำไรจากหุ้นคนละหลายเด้ง(ผมเริ่มอิจฉา..หุหุ) ผมเริ่มปรับวิธีจาก conservative ไปเป็นเสี่ยงมากขึ้น (ความโลภเริ่มครอบนำ)...ผมเริ่มซื้อ warrant มากขึ้น และล่าสุดผมเลือกถือ Warrant เพียง2ตัว...ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างมาก
ตอนนี้พอร์ตผมยังมีกำไรอยู่นะครับ...แต่ก็หายไปเยอะ..และกำลังแก้ไขพอร์ต
การลงทุนของผมมีความผิดพลาดหลายอย่าง..แต่ก็พยามเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่ครับ...
-
- Verified User
- โพสต์: 2595
- ผู้ติดตาม: 0
Re: +++คนตายขอพูดหน่อยครับ+++
โพสต์ที่ 118
พี่เซียนหนุ่มครับ ผมยินดีกับพี่ด้วยเพราะผมมองว่าประสบการณ์รอบนี้จะทำให้พี่เปลี่ยนไปเป็นVI (ดูจากข้อเขียนที่พี่โพส บทความที่พี่อ่าน ผมว่าพี่ทำได้ครับ) ส่วนผมก็กำลังกลายพันธุ์จาก"เด็กวัด"สำนักVI(เดิมลงทุนเเบบมวยวัด...เรียกหรูๆว่าผสมผสาน) กลายเป็นพระในสำนักเสียที(เปรียบเสมือนเป็นVI) ศึกษาเรียนรู้เพื่อจะบรรลุนิพพานทางการลงทุน(...นั่นคืออิสระภาพทางการเงินซะที)ziannoom เขียน:ขุดกระทู้ขึ้นมาเผื่อยังมีคนไม่ได้อ่าน
ปล. จริงๆเคยอ่านในPostว่าพี่อายุ30ต้นๆ อายุเราคงไม่ห่างกันมากเเต่ขออนุญาติเรียกพี่เพราะดูจากรูปAvartarของพี่มีผลผลิตเเล้ว2หน่อนับว่าพี่นำผมไปหลายก้าว
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o