Over Sold - Over Bought คืออะไร

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
yakindue
Verified User
โพสต์: 7
ผู้ติดตาม: 0

Over Sold - Over Bought คืออะไร

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ขอความรู้ด้วยครับ
ผมดูกราฟย้อนหลัง แล้วเห็นข้อความเหล่านี้แสดงตามจุดต่างๆ หมายความว่ายังไงครับ

ขอบคุณครับ
Screen shot 2011-07-05 at 7.01.52 PM.png
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
chet22
Verified User
โพสต์: 51
ผู้ติดตาม: 0

Re: Over Sold - Over Bought คืออะไร

โพสต์ที่ 2

โพสต์

Overbought คือ อยู่ในสภาพที่มีแรงซื้อมากเกินไป อิ่มตัวขาขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นจังหวะขายเสมอไป เพราะการอิ่มตัวขาขึ้น กราฟอาจจะวิ่งต่อได้ครับ ส่วน

Oversold คือ อยู่ในสภาพที่มีแรงขายมากเกินไป อิ่มตัวขาลง แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นจัวหวะซื้อเสมอไป เพราะการอิ่มตัวขาลง กราฟอาจจะวิ่งต่อได้เหมือนกันครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
นพพร
Verified User
โพสต์: 1039
ผู้ติดตาม: 0

Re: Over Sold - Over Bought คืออะไร

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ตกสู่เขตขายมากเกินไป เราพิจารณาจะซื้อได้แล้วมั้ง
เข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป เราพิจารณาคงจะขึ้นได้อีกไม่เท่าไหร่
ก้าวแรกที่เล็กๆ แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
T_0007
Verified User
โพสต์: 1448
ผู้ติดตาม: 0

Re: Over Sold - Over Bought คืออะไร

โพสต์ที่ 4

โพสต์

มันเป็นศัพท์ ทางการวิเคราะห์ ทางเทคนิคครับ

ถ้าแปลเป็นภาษาคนก็คือ เวอร์ เกินไป

เช่น over sold ก็คือขายเวอร์เิกินไป ทำให้ ราคาลงมาเร็วเกินไป
ส่วน over bought ก็คือ ซื้อเวอร์เกินไป ทำให้ ราคาขึ้นมาเร็วเกินไป

----------------------------------------------------
แต่โดยทั่วไปมักจะเข้าใจผิดว่าให้ขาย จริงๆ แล้วไม่ใช่ซะทีเดียวนะครับ มันเล้วแต่สถานะการณ์
แต่ถ้า เวลาเราดูร่วมกับพื้นฐานนั้น ถ้าหาก เกิดการ ขายเวอร์เกินไป ก็อาจจะ เป็นโอกาส หมูหกก็ได้ ถ้าตัวนั้น เราดูแล้ว ว่า ถูกจริงๆ และมี MOS เพียงพอก็น่าสนอยู่

------------------------------------------------------
วิธีการคำนวณก็ใช้หลักง่ายๆ เช่นใช้จุดสูงสุด และต่ำสุด (ในกรณนี้ใช้ 14 วันละกัน ) เป็น 0 - 100 % ถ้าเราคาลงมาอยู่ในระดับ 20-30% หรือต่ำกว่านั้นเขาก็ขะเรียก Oversold ส่วนถ้าอยู่ในระดับสูงเกิิน 70% เขาก็จะเรียกว่า overbought

แต่มีแง่คิดอยู่อย่างหนึ่งคือ เครื่องมือพวกนี้ มักจะมี scale จาก 0-100 ลองเปรียบเทียกับการขับรถละกัน ถ้ารถเราเกวัดความเร็ว วัดได้ แค่ 100 ต่อให้ เราขับ 120 เกก็วัดได้ แค่ 100 อยู่ดี ดังนั้น ควรพึงระวัง ถ้าหาก ยึดมั่นเครื่องมือชนิดนี้อย่างเดียว ก็อาจจะขายหมูได้ง่ายๆ เหมือนกัน (ก็ยังดีนะมีหมูให้ขาย) ถ้าเทียบกับหลักการณ์พื้นฐาน คงเดียบกับการ ประเมิณ PE กับ PEG ประมาณนั้นมั้งครับ
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
โพสต์โพสต์