โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
-
- Verified User
- โพสต์: 57
- ผู้ติดตาม: 0
โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 1
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
เล่นหุ้นตามเซียน
ในช่วงเร็ว ๆ นี้ แนวทางการลงทุนหรือการเล่นหุ้นที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงมากที่สุดน่าจะเป็นการลงทุนแบบ “Value Investment” เพราะหุ้น “Value” หรือหุ้นที่มี “พื้นฐาน” ที่ดี หลาย ๆ ตัวนั้น มีราคาปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น นอกจากนั้น ปริมาณการซื้อขายหุ้นก็เพิ่มสูงขึ้นมาก หลาย ๆ ตัวกลายเป็นหุ้นยอดนิยมที่มีปริมาณการซื้อขายติดอันดับสูงสุดหนึ่งในสิบของตลาดหุ้นทั้ง ๆ ที่เป็นหุ้นขนาดเล็ก ถ้ามองเฉพาะปริมาณการซื้อขายก็น่าจะพูดได้ว่าหุ้นเหล่านี้เป็นหุ้น “เก็งกำไรอย่างรุนแรง” ไปแล้ว หุ้นที่เรียกว่า “Value” ที่คนเล่นกันทั้งตลาดนั้นเอง ถ้ามองจากข้อมูลตัวเลขและการวิเคราะห์ตามมาตรฐานของ Value Investor “พันธุ์แท้” ก็ดูเหมือนว่าหุ้นเหล่านั้นที่อาจจะ “เคย” เป็นหุ้น Value หมดความเป็น Value ไปแล้วด้วยเหตุผลที่ว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปเกิน “พื้นฐาน” มาก
อะไรทำให้หุ้นคุณค่ากลายเป็นหุ้นยอดนิยม ? คำตอบผมคิดว่าเกิดจากจำนวนของนักลงทุนที่เป็น Value Investor หรือ VI มีจำนวนมากขึ้นและที่สำคัญกว่าก็คือ มีเม็ดเงินที่ใช้ในการลงทุนมากขึ้นมาก นักลงทุนหน้าใหม่ที่เข้าตลาดในช่วงหลัง ๆ นี้ เริ่มเห็นคุณค่าของการลงทุนในกิจการที่ดีและมีราคาถูกให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับการฝากเงินซึ่งให้ดอกเบี้ยน้อยมาก แต่ปัญหาของนักลงทุนก็คือจะหาหุ้นตัวไหนที่จะเป็นหุ้น “Value” ไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่จะวิเคราะห์หุ้นได้อย่างลึกซึ้ง ดังนั้น ทางออกก็คือ คอยดูว่าคนที่วิเคราะห์หุ้นเก่ง ๆ ระดับ “เซียน” ว่าเขาซื้อหุ้นตัวไหน เสร็จแล้วก็ซื้อตาม นี่เป็นวิธีการ “ลอกการบ้าน” ที่ไม่มีครูจับได้ ในอีกด้านหนึ่ง เซียนเอง บ่อยครั้งก็อยากให้ลอกการบ้าน หลาย ๆ คนพยายามกระจายคำตอบให้คนอื่นลอกด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้ามีคนซื้อหุ้นตามมาก ๆ หุ้นที่ตนเองซื้อไว้ก็จะมีราคาปรับตัวขึ้น ดังนั้น ทั้งคนลอกการบ้านและคนให้ลอกต่างก็ได้ประโยชน์ โดยเฉพาะในช่วงสั้น ๆ ที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไป และนี่คือสิ่งที่ผมจะพูดถึงการลงทุน “กระแสใหม่” ที่ผมอยากจะเรียกว่าการ “เล่นหุ้นตามเซียน” หรือถ้าจะเรียกให้เท่ขึ้นไปหน่อยก็คือ Celebrity Investment หรือเรียกย่อ ๆ ว่า CI ซึ่งเป็นการเล่นหุ้นตามคนดังหรือ “เซียน VI”
เรื่องการเล่นหุ้นตามเซียนนี้ ปีเตอร์ ลินช์ เขียนไว้ในหนังสือ One Up on Wall Street ว่า เขาไม่แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นตามเซียนหรือตัวเขาเอง เหตุผลมี 3 ข้อ คือ 1) เซียนหรือ ปีเตอร์ ลินช์อาจจะผิด (เขาบอกว่าเขาผิดประมาณ 40% ของการเลือกซื้อหุ้น) ข้อ 2) แม้ว่าเขาจะถูก คุณก็ไม่มีทางรู้ว่าเขาจะเปลี่ยนใจเกี่ยวกับหุ้นและขายไปเมื่อไร) และข้อ 3) คุณมีข้อมูลที่ดีกว่า และมันอยู่รอบ ๆ ตัวคุณ สิ่งที่ทำให้มันดีกว่าก็คือ คุณสามารถที่จะติดตามมันได้ เช่นเดียวกับที่ ปีเตอร์ ลินช์ ติดตามหุ้นของเขา อย่างไรก็ตาม คำแนะนำของลินช์เองนั้น ผมคิดว่าคนที่จะปฎิบัติตามน่าจะเป็นคนที่มีความรู้หรือมีความสามารถหรือมีความตั้งใจสูงที่จะศึกษาวิธีการลงทุนแบบ VI ส่วนคนที่ “เล่นหุ้น” นั่นก็คือ คนที่หวังทำกำไรอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้นคงจะไม่เห็นด้วยและคิดว่า CI น่าจะให้ผลได้ดีกว่า
การลงทุนแบบ CI นั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ยากโดยเฉพาะในยุคที่ข่าวสารต่าง ๆ สามารถกระจายไปได้อย่างรวดเร็วผ่านสื่ออีเล็คโทรนิคส์สมัยใหม่ต่าง ๆ วิธีก็คือ ขั้นแรก ดูว่าใครคือ “เซียน” นี่ก็คือการเข้าไปตามเวบไซ้ต์หรือสื่อต่าง ๆ ที่มีการกล่าวขวัญถึงว่าใครสามารถซื้อขายหุ้นทำกำไรได้มากมายขนาดไหนในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนั้น การบอกต่อ ๆ กันในหมู่นักลงทุนก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ เมื่อกำหนดได้แล้วว่าใครคือเซียน สิ่งที่จะต้องทำต่อมาก็คือ คอยติดตามว่าเซียนกำลังจะเข้าซื้อหุ้นตัวไหน ซึ่งบางทีก็ไม่ยาก เพราะเซียนจำนวนไม่น้อยก็พยายามบอกต่ออยู่แล้ว ไม่โดยตรงก็โดยอ้อม ในบางครั้ง ถึงเซียนจะไม่ได้บอก แต่เนื่องจากเซียนได้เข้าซื้อหุ้นบางตัวจนมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ซึ่งจะถูกรายงานในเวบไซ้ต์ของตลาดเมื่อมีการปิดบุ๊คเพื่อการประชุมผู้ถือหุ้น แต่ข้อมูลนี้อาจจะไม่เป็นปัจจุบันมากนัก บางกรณีอาจจะเกิดขึ้นมาแล้วเป็นปีก็เป็นได้
เมื่อกำหนดได้แล้วว่าใครคือเซียน CI แต่ละคนดูเหมือนจะรู้ว่าเซียนแต่ละคนนั้น มี “กระบวนท่า” หรือใช้หลักการลงทุนแนวไหน เช่น ชำนาญทางด้านหุ้นโตเร็ว หุ้นวัฏจักร หุ้นฟื้นตัว หุ้นมีสตอรี่ หรืออื่น ๆ รวมถึงระดับของพอร์ตหรือเม็ดเงินที่มักจะเข้าซื้อหุ้นด้วย ประเด็นก็คือ CI นั้น มักจะซื้อตามเซียนที่มีแนวคิดหรือ “จริต” ที่สอดคล้องกับตัวเองและไม่ตามเซียนที่มีแนวทางอีกแบบหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ถ้าตนเองนั้นชอบเล่นหุ้นแบบสั้น ๆ ไม่เกินปีหรือไม่เกินหนึ่งเดือน โอกาสก็คือ เขาจะไม่สนใจเซียนที่ชอบลงทุนระยะยาว แต่จะชอบเซียนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่จะมีผลการดำเนินงานในระยะสั้นที่ดีมากกว่า
เมื่อพบว่าเซียนได้เข้าซื้ออย่างมีนัยสำคัญแล้ว CI “วงใน” นั่นคือ CI ที่อาจจะคุ้นเคยกับเซียนก็จะซื้อตามก่อน ต่อมาข้อมูลที่ว่าเซียนได้เข้าซื้อแล้วก็จะถูก “ถ่ายทอด” ต่อมายัง CI “วงนอก” ที่อาจจะห่างออกมาหน่อยแต่ก็ยังจำกัดอยู่ในกลุ่มคนบางกลุ่มเช่นที่ติดตามเวบไซ้ต์การลงทุนอย่างใกล้ชิดซึ่งจะเริ่มมาซื้อตามหลังจากราคาหุ้นเริ่มเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเนื่องมาจากการที่มีแรงซื้อเพิ่มขึ้นมามาก กระบวนการนี้จะคล้าย ๆ กับสิ่งที่ จอร์จ โซรอส พูดถึง นั่นคือ กระบวนการ Reflexivity หรือกระบวนการที่คนในตลาดซื้อหุ้นทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้พื้นฐานหรือมุมมองต่อหุ้นเปลี่ยนไป ทำให้คนมาซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งก็จะกลับมาเสริมพื้นฐานหรือมุมมองของหุ้นต่อไปอีกต่อเนื่องกันไปเป็นลูกโซ่ ในบางครั้งกระบวนการนี้ก็อาจจะรุนแรงมากขึ้นจนราคาหุ้นกลายเป็นฟองสบู่เนื่องจาก CI ชุดสุดท้ายที่เข้ามาเล่น
CI ชุดท้าย ๆ ก็คือนักเล่นหุ้นทั่ว ๆ ไป ที่ได้ข่าวว่าเซียนได้เข้ามาซื้อหุ้นจากสื่อกระแสหลักเช่นหนังสือพิมพ์และอาจจะบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ พวกเขาจะเข้ามาเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาหุ้นเป็นหลัก ด้วยปริมาณการซื้อขายมโหฬารเนื่องจากเป็นการซื้อขายเป็นรายวันหรืออาจจะเป็นรายนาทีCI กลุ่มนี้จะไม่สนใจเลยว่าหุ้นนั้นยังมี Value หรือไม่ สิ่งที่พวกเขาคาดหรือจับตานั้นมีเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือ หุ้นตัวนี้ รายใหญ่หรือจ้าวหรือสปอนเซอร์ ยังเล่นหรือไม่ ถ้ายังเล่น พวกเขาก็พร้อมเข้ามาเสี่ยง ถ้าเลิกก็ “ตัวใครตัวมัน” เหนือสิ่งอื่นใด เขาคิดว่าเขาจะ “ออก” ทันเสมอเนื่องจากปริมาณการซื้อขายหุ้นเมื่อถึงจุดนี้มีสูงมาก อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ ครั้ง การตกของหุ้นในจุดนี้จะแรงมากจนหนีไม่ทันก็มี
การเป็น CI นั้น ในช่วง 2- 3 ปี มานี้ ซึ่งเป็นช่วงที่หุ้นบูมเป็นกระทิง ดูเหมือนว่าจะเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ทำเงินได้ไม่น้อยสำหรับบางคนโดยเฉพาะที่เป็น CI วงต้น ๆ เหนือสิ่งอื่นใด อาจจะเป็นช่วงที่ยังมีหุ้น Value ที่ยังถูกมากเหลืออยู่ให้เซียนเข้าไปเก็บและเผื่อไปถึง CI ได้ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม อนาคตหลังจากนี้ หุ้นที่เป็น Value อาจจะเหลือน้อยหรือแทบหมดแล้ว และเซียนก็อาจจะผิดพลาดได้ ดังนั้น CI ที่เข้าไปซื้อตามอาจจะพบว่าการทำเงินนั้นยากลำบากมากขึ้นจนถึงกับขาดทุนก็เป็นไปได้โดยเฉพาะ CI วงหลัง ๆ สำหรับผมแล้ว การเป็น CI นั้น ยากที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว ดังนั้น สำหรับ VI ที่มุ่งมั่นแล้ว การวิเคราะห์และตัดสินใจด้วยตนเองจะดีกว่าการ “ลอกการบ้าน” แน่นอน แม้ว่าเราจะไม่เก่งเท่าเซียน
.... ฮิฮิ ....
================================
เล่นหุ้นตามเซียน
ในช่วงเร็ว ๆ นี้ แนวทางการลงทุนหรือการเล่นหุ้นที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงมากที่สุดน่าจะเป็นการลงทุนแบบ “Value Investment” เพราะหุ้น “Value” หรือหุ้นที่มี “พื้นฐาน” ที่ดี หลาย ๆ ตัวนั้น มีราคาปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น นอกจากนั้น ปริมาณการซื้อขายหุ้นก็เพิ่มสูงขึ้นมาก หลาย ๆ ตัวกลายเป็นหุ้นยอดนิยมที่มีปริมาณการซื้อขายติดอันดับสูงสุดหนึ่งในสิบของตลาดหุ้นทั้ง ๆ ที่เป็นหุ้นขนาดเล็ก ถ้ามองเฉพาะปริมาณการซื้อขายก็น่าจะพูดได้ว่าหุ้นเหล่านี้เป็นหุ้น “เก็งกำไรอย่างรุนแรง” ไปแล้ว หุ้นที่เรียกว่า “Value” ที่คนเล่นกันทั้งตลาดนั้นเอง ถ้ามองจากข้อมูลตัวเลขและการวิเคราะห์ตามมาตรฐานของ Value Investor “พันธุ์แท้” ก็ดูเหมือนว่าหุ้นเหล่านั้นที่อาจจะ “เคย” เป็นหุ้น Value หมดความเป็น Value ไปแล้วด้วยเหตุผลที่ว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปเกิน “พื้นฐาน” มาก
อะไรทำให้หุ้นคุณค่ากลายเป็นหุ้นยอดนิยม ? คำตอบผมคิดว่าเกิดจากจำนวนของนักลงทุนที่เป็น Value Investor หรือ VI มีจำนวนมากขึ้นและที่สำคัญกว่าก็คือ มีเม็ดเงินที่ใช้ในการลงทุนมากขึ้นมาก นักลงทุนหน้าใหม่ที่เข้าตลาดในช่วงหลัง ๆ นี้ เริ่มเห็นคุณค่าของการลงทุนในกิจการที่ดีและมีราคาถูกให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับการฝากเงินซึ่งให้ดอกเบี้ยน้อยมาก แต่ปัญหาของนักลงทุนก็คือจะหาหุ้นตัวไหนที่จะเป็นหุ้น “Value” ไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่จะวิเคราะห์หุ้นได้อย่างลึกซึ้ง ดังนั้น ทางออกก็คือ คอยดูว่าคนที่วิเคราะห์หุ้นเก่ง ๆ ระดับ “เซียน” ว่าเขาซื้อหุ้นตัวไหน เสร็จแล้วก็ซื้อตาม นี่เป็นวิธีการ “ลอกการบ้าน” ที่ไม่มีครูจับได้ ในอีกด้านหนึ่ง เซียนเอง บ่อยครั้งก็อยากให้ลอกการบ้าน หลาย ๆ คนพยายามกระจายคำตอบให้คนอื่นลอกด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้ามีคนซื้อหุ้นตามมาก ๆ หุ้นที่ตนเองซื้อไว้ก็จะมีราคาปรับตัวขึ้น ดังนั้น ทั้งคนลอกการบ้านและคนให้ลอกต่างก็ได้ประโยชน์ โดยเฉพาะในช่วงสั้น ๆ ที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไป และนี่คือสิ่งที่ผมจะพูดถึงการลงทุน “กระแสใหม่” ที่ผมอยากจะเรียกว่าการ “เล่นหุ้นตามเซียน” หรือถ้าจะเรียกให้เท่ขึ้นไปหน่อยก็คือ Celebrity Investment หรือเรียกย่อ ๆ ว่า CI ซึ่งเป็นการเล่นหุ้นตามคนดังหรือ “เซียน VI”
เรื่องการเล่นหุ้นตามเซียนนี้ ปีเตอร์ ลินช์ เขียนไว้ในหนังสือ One Up on Wall Street ว่า เขาไม่แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นตามเซียนหรือตัวเขาเอง เหตุผลมี 3 ข้อ คือ 1) เซียนหรือ ปีเตอร์ ลินช์อาจจะผิด (เขาบอกว่าเขาผิดประมาณ 40% ของการเลือกซื้อหุ้น) ข้อ 2) แม้ว่าเขาจะถูก คุณก็ไม่มีทางรู้ว่าเขาจะเปลี่ยนใจเกี่ยวกับหุ้นและขายไปเมื่อไร) และข้อ 3) คุณมีข้อมูลที่ดีกว่า และมันอยู่รอบ ๆ ตัวคุณ สิ่งที่ทำให้มันดีกว่าก็คือ คุณสามารถที่จะติดตามมันได้ เช่นเดียวกับที่ ปีเตอร์ ลินช์ ติดตามหุ้นของเขา อย่างไรก็ตาม คำแนะนำของลินช์เองนั้น ผมคิดว่าคนที่จะปฎิบัติตามน่าจะเป็นคนที่มีความรู้หรือมีความสามารถหรือมีความตั้งใจสูงที่จะศึกษาวิธีการลงทุนแบบ VI ส่วนคนที่ “เล่นหุ้น” นั่นก็คือ คนที่หวังทำกำไรอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้นคงจะไม่เห็นด้วยและคิดว่า CI น่าจะให้ผลได้ดีกว่า
การลงทุนแบบ CI นั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ยากโดยเฉพาะในยุคที่ข่าวสารต่าง ๆ สามารถกระจายไปได้อย่างรวดเร็วผ่านสื่ออีเล็คโทรนิคส์สมัยใหม่ต่าง ๆ วิธีก็คือ ขั้นแรก ดูว่าใครคือ “เซียน” นี่ก็คือการเข้าไปตามเวบไซ้ต์หรือสื่อต่าง ๆ ที่มีการกล่าวขวัญถึงว่าใครสามารถซื้อขายหุ้นทำกำไรได้มากมายขนาดไหนในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนั้น การบอกต่อ ๆ กันในหมู่นักลงทุนก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ เมื่อกำหนดได้แล้วว่าใครคือเซียน สิ่งที่จะต้องทำต่อมาก็คือ คอยติดตามว่าเซียนกำลังจะเข้าซื้อหุ้นตัวไหน ซึ่งบางทีก็ไม่ยาก เพราะเซียนจำนวนไม่น้อยก็พยายามบอกต่ออยู่แล้ว ไม่โดยตรงก็โดยอ้อม ในบางครั้ง ถึงเซียนจะไม่ได้บอก แต่เนื่องจากเซียนได้เข้าซื้อหุ้นบางตัวจนมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ซึ่งจะถูกรายงานในเวบไซ้ต์ของตลาดเมื่อมีการปิดบุ๊คเพื่อการประชุมผู้ถือหุ้น แต่ข้อมูลนี้อาจจะไม่เป็นปัจจุบันมากนัก บางกรณีอาจจะเกิดขึ้นมาแล้วเป็นปีก็เป็นได้
เมื่อกำหนดได้แล้วว่าใครคือเซียน CI แต่ละคนดูเหมือนจะรู้ว่าเซียนแต่ละคนนั้น มี “กระบวนท่า” หรือใช้หลักการลงทุนแนวไหน เช่น ชำนาญทางด้านหุ้นโตเร็ว หุ้นวัฏจักร หุ้นฟื้นตัว หุ้นมีสตอรี่ หรืออื่น ๆ รวมถึงระดับของพอร์ตหรือเม็ดเงินที่มักจะเข้าซื้อหุ้นด้วย ประเด็นก็คือ CI นั้น มักจะซื้อตามเซียนที่มีแนวคิดหรือ “จริต” ที่สอดคล้องกับตัวเองและไม่ตามเซียนที่มีแนวทางอีกแบบหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ถ้าตนเองนั้นชอบเล่นหุ้นแบบสั้น ๆ ไม่เกินปีหรือไม่เกินหนึ่งเดือน โอกาสก็คือ เขาจะไม่สนใจเซียนที่ชอบลงทุนระยะยาว แต่จะชอบเซียนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่จะมีผลการดำเนินงานในระยะสั้นที่ดีมากกว่า
เมื่อพบว่าเซียนได้เข้าซื้ออย่างมีนัยสำคัญแล้ว CI “วงใน” นั่นคือ CI ที่อาจจะคุ้นเคยกับเซียนก็จะซื้อตามก่อน ต่อมาข้อมูลที่ว่าเซียนได้เข้าซื้อแล้วก็จะถูก “ถ่ายทอด” ต่อมายัง CI “วงนอก” ที่อาจจะห่างออกมาหน่อยแต่ก็ยังจำกัดอยู่ในกลุ่มคนบางกลุ่มเช่นที่ติดตามเวบไซ้ต์การลงทุนอย่างใกล้ชิดซึ่งจะเริ่มมาซื้อตามหลังจากราคาหุ้นเริ่มเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเนื่องมาจากการที่มีแรงซื้อเพิ่มขึ้นมามาก กระบวนการนี้จะคล้าย ๆ กับสิ่งที่ จอร์จ โซรอส พูดถึง นั่นคือ กระบวนการ Reflexivity หรือกระบวนการที่คนในตลาดซื้อหุ้นทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้พื้นฐานหรือมุมมองต่อหุ้นเปลี่ยนไป ทำให้คนมาซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งก็จะกลับมาเสริมพื้นฐานหรือมุมมองของหุ้นต่อไปอีกต่อเนื่องกันไปเป็นลูกโซ่ ในบางครั้งกระบวนการนี้ก็อาจจะรุนแรงมากขึ้นจนราคาหุ้นกลายเป็นฟองสบู่เนื่องจาก CI ชุดสุดท้ายที่เข้ามาเล่น
CI ชุดท้าย ๆ ก็คือนักเล่นหุ้นทั่ว ๆ ไป ที่ได้ข่าวว่าเซียนได้เข้ามาซื้อหุ้นจากสื่อกระแสหลักเช่นหนังสือพิมพ์และอาจจะบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ พวกเขาจะเข้ามาเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาหุ้นเป็นหลัก ด้วยปริมาณการซื้อขายมโหฬารเนื่องจากเป็นการซื้อขายเป็นรายวันหรืออาจจะเป็นรายนาทีCI กลุ่มนี้จะไม่สนใจเลยว่าหุ้นนั้นยังมี Value หรือไม่ สิ่งที่พวกเขาคาดหรือจับตานั้นมีเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือ หุ้นตัวนี้ รายใหญ่หรือจ้าวหรือสปอนเซอร์ ยังเล่นหรือไม่ ถ้ายังเล่น พวกเขาก็พร้อมเข้ามาเสี่ยง ถ้าเลิกก็ “ตัวใครตัวมัน” เหนือสิ่งอื่นใด เขาคิดว่าเขาจะ “ออก” ทันเสมอเนื่องจากปริมาณการซื้อขายหุ้นเมื่อถึงจุดนี้มีสูงมาก อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ ครั้ง การตกของหุ้นในจุดนี้จะแรงมากจนหนีไม่ทันก็มี
การเป็น CI นั้น ในช่วง 2- 3 ปี มานี้ ซึ่งเป็นช่วงที่หุ้นบูมเป็นกระทิง ดูเหมือนว่าจะเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ทำเงินได้ไม่น้อยสำหรับบางคนโดยเฉพาะที่เป็น CI วงต้น ๆ เหนือสิ่งอื่นใด อาจจะเป็นช่วงที่ยังมีหุ้น Value ที่ยังถูกมากเหลืออยู่ให้เซียนเข้าไปเก็บและเผื่อไปถึง CI ได้ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม อนาคตหลังจากนี้ หุ้นที่เป็น Value อาจจะเหลือน้อยหรือแทบหมดแล้ว และเซียนก็อาจจะผิดพลาดได้ ดังนั้น CI ที่เข้าไปซื้อตามอาจจะพบว่าการทำเงินนั้นยากลำบากมากขึ้นจนถึงกับขาดทุนก็เป็นไปได้โดยเฉพาะ CI วงหลัง ๆ สำหรับผมแล้ว การเป็น CI นั้น ยากที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว ดังนั้น สำหรับ VI ที่มุ่งมั่นแล้ว การวิเคราะห์และตัดสินใจด้วยตนเองจะดีกว่าการ “ลอกการบ้าน” แน่นอน แม้ว่าเราจะไม่เก่งเท่าเซียน
.... ฮิฮิ ....
================================
ไทยวิเอย ... จงซับซ้อนยิ่งขึ้น
เขาว่าผมเป็น บิดาแห่ง CI ... Celebrity Investment อะฮิ อะฮิ ^^
มีแฟนเพจแล้วด้วย http://www.facebook.com/celebfollower
เขาว่าผมเป็น บิดาแห่ง CI ... Celebrity Investment อะฮิ อะฮิ ^^
มีแฟนเพจแล้วด้วย http://www.facebook.com/celebfollower
- ZhugeLiangVI
- Verified User
- โพสต์: 69
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 2
น่าจะบอกไปเลยนะครับว่า Celeb คนไหนบ้าง อิๆดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เขียน: ... ในอีกด้านหนึ่ง เซียนเอง บ่อยครั้งก็อยากให้ลอกการบ้าน หลาย ๆ คนพยายามกระจายคำตอบให้คนอื่นลอกด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้ามีคนซื้อหุ้นตามมาก ๆ หุ้นที่ตนเองซื้อไว้ก็จะมีราคาปรับตัวขึ้น ดังนั้น ทั้งคนลอกการบ้านและคนให้ลอกต่างก็ได้ประโยชน์ ...
- pongo
- Verified User
- โพสต์: 1075
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 5
คุณ ZhugeLiangVI ไม่จำเป็นต้องโพสกระทบกระเทียบใครเลยนี่ครับ
ท่านอาจารย์ท่านเตือนนักลงทุนมือใหม่ด้วยความหวังดี ส่วนนักลงทุนมือเก่าๆ ที่ยังไล่ตามหุ้นที่ขึ้นแรงๆ โดยไม่มีการศึกษากิจการนั้นๆ อย่างถ่องแท้ แล้วขาดทุน
ก็น่าจะพิจารณาวิธีการลงทุนของตัวเองเสียทีว่า ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่
ส่วน celeb ที่ติดชื่อ ผถญ จะมาด้วยกัน หรือ ไปเดี่ยวๆ มันก็ไม่ได้เดือดร้อนเงินในกระเป๋าของเราๆ ท่านๆ อยู่แล้ว
ท่านที่ซื้อตามแล้วกำไร ก็ไม่ได้แบ่งกำไรให้ celeb เหล่านี้ แล้วเมื่อท่านขาดทุน ท่านจะมาเรียกร้องอะไร
ถ้าเห็นว่าสิ่งใดไม่ถูกต้อง ก็ร้องเรียนไปยัง กลต ได้นี่ครับ ว่าไปตามกระบวนการกฏหมาย
หากต่อๆ ไปท่านเห็นชื่อ celeb เหล่านี้ในหุ้นตัวใด จะขายหุ้นตัวนั้นทิ้งก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างไร
ตลาดเสรี ใครใคร่ซื้อขาย ย่อมไม่มีใครบังคับใครได้
สรุป ท่านที่ซื้อหุ้นตัวใดๆ ท่านซื้อเพราะเหตุผลใด คิดพิจารณาเองให้ดี รับผิดชอบเงินในกระเป๋าท่านเองให้ดี
รู้จักโทษตัวเองก่อนที่จะโทษคนอื่นนะครับ
ท่านอาจารย์ท่านเตือนนักลงทุนมือใหม่ด้วยความหวังดี ส่วนนักลงทุนมือเก่าๆ ที่ยังไล่ตามหุ้นที่ขึ้นแรงๆ โดยไม่มีการศึกษากิจการนั้นๆ อย่างถ่องแท้ แล้วขาดทุน
ก็น่าจะพิจารณาวิธีการลงทุนของตัวเองเสียทีว่า ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่
ส่วน celeb ที่ติดชื่อ ผถญ จะมาด้วยกัน หรือ ไปเดี่ยวๆ มันก็ไม่ได้เดือดร้อนเงินในกระเป๋าของเราๆ ท่านๆ อยู่แล้ว
ท่านที่ซื้อตามแล้วกำไร ก็ไม่ได้แบ่งกำไรให้ celeb เหล่านี้ แล้วเมื่อท่านขาดทุน ท่านจะมาเรียกร้องอะไร
ถ้าเห็นว่าสิ่งใดไม่ถูกต้อง ก็ร้องเรียนไปยัง กลต ได้นี่ครับ ว่าไปตามกระบวนการกฏหมาย
หากต่อๆ ไปท่านเห็นชื่อ celeb เหล่านี้ในหุ้นตัวใด จะขายหุ้นตัวนั้นทิ้งก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างไร
ตลาดเสรี ใครใคร่ซื้อขาย ย่อมไม่มีใครบังคับใครได้
สรุป ท่านที่ซื้อหุ้นตัวใดๆ ท่านซื้อเพราะเหตุผลใด คิดพิจารณาเองให้ดี รับผิดชอบเงินในกระเป๋าท่านเองให้ดี
รู้จักโทษตัวเองก่อนที่จะโทษคนอื่นนะครับ
- airazoc
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 904
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 6
เป็นบทความที่ดีจริงๆครับ ขอบคุณอาจารย์นิเวศน์ที่ออกบทความมาเตือนสตินักลงทุนครับ
การจะซื้อหุ้นตามเซียนนั้น สำคัญคือ เห็นเซียนซื้อก็ต้องศึกษาว่าทำไมถึงซื้อ ไม่ใช่ตามไปซื้อไม่ลืมหูลืมตา
ตอนซื้อเซียนไม่ได้ไปบีบคอบอกให้ซื้อ ตอนขายเซียนไม่มาเตือนบอกให้ขายนะครับ
นอกจากนี้ ยังมีคนอีกมากชอบเอาชื่อเซเลปไปอ้าง เมื่อต้นปี มีคนมาบอกผมว่า เซเล่ปคนนึง ขายหุ้นตัวนึงที่ผมมีอยู่หมดแล้ว ผมขายหรือยัง ผมก็พอจะรู้จักเขาอยู่บ้าง เลยโทรไปถาม ปรากฎว่านอกจากไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับข่าวดังกล่าว ยังเพิ่งซื้อเพิ่มไปสดๆวันนั้นเอง ดังนั้น การจะมีใครออกมาพูดอ้างถึงเซเลปคนไหน โปรดคิดไว้ก่อนว่าขี้โม้ ข่าวลือ เชื่อไม่ได้ครับ
และขอเตือนนะครับ พาดพิงหรือแขวะกันในเวป แบนเรียบนะครับ อยากแขวะ อยากหาเรื่องกัน เชิญเวปดราม่าครับ ไว้จะขอให้จ่าเปิดหมวดนักลงทุนให้นะครับ
การจะซื้อหุ้นตามเซียนนั้น สำคัญคือ เห็นเซียนซื้อก็ต้องศึกษาว่าทำไมถึงซื้อ ไม่ใช่ตามไปซื้อไม่ลืมหูลืมตา
ตอนซื้อเซียนไม่ได้ไปบีบคอบอกให้ซื้อ ตอนขายเซียนไม่มาเตือนบอกให้ขายนะครับ
นอกจากนี้ ยังมีคนอีกมากชอบเอาชื่อเซเลปไปอ้าง เมื่อต้นปี มีคนมาบอกผมว่า เซเล่ปคนนึง ขายหุ้นตัวนึงที่ผมมีอยู่หมดแล้ว ผมขายหรือยัง ผมก็พอจะรู้จักเขาอยู่บ้าง เลยโทรไปถาม ปรากฎว่านอกจากไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับข่าวดังกล่าว ยังเพิ่งซื้อเพิ่มไปสดๆวันนั้นเอง ดังนั้น การจะมีใครออกมาพูดอ้างถึงเซเลปคนไหน โปรดคิดไว้ก่อนว่าขี้โม้ ข่าวลือ เชื่อไม่ได้ครับ
และขอเตือนนะครับ พาดพิงหรือแขวะกันในเวป แบนเรียบนะครับ อยากแขวะ อยากหาเรื่องกัน เชิญเวปดราม่าครับ ไว้จะขอให้จ่าเปิดหมวดนักลงทุนให้นะครับ
"In life and business, there are two cardinal sins ... The first is to act precipitously without thought, and the second is to not act at all.” – Carl Icahn
- BABY TERMITE
- Verified User
- โพสต์: 368
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 8
เห็นด้วยครับท่าน airazoc โดยเฉพาะ CI บางท่าน ที่แขวะคนอื่นเสมอ เมื่อมีคนมาเข้าเตือนตอนกำลังกระทำการช่วยแจกการบ้านอยู่airazoc เขียน:เป็นบทความที่ดีจริงๆครับ ขอบคุณอาจารย์นิเวศน์ที่ออกบทความมาเตือนสตินักลงทุนครับ
การจะซื้อหุ้นตามเซียนนั้น สำคัญคือ เห็นเซียนซื้อก็ต้องศึกษาว่าทำไมถึงซื้อ ไม่ใช่ตามไปซื้อไม่ลืมหูลืมตา
ตอนซื้อเซียนไม่ได้ไปบีบคอบอกให้ซื้อ ตอนขายเซียนไม่มาเตือนบอกให้ขายนะครับ
นอกจากนี้ ยังมีคนอีกมากชอบเอาชื่อเซเลปไปอ้าง เมื่อต้นปี มีคนมาบอกผมว่า เซเล่ปคนนึง ขายหุ้นตัวนึงที่ผมมีอยู่หมดแล้ว ผมขายหรือยัง ผมก็พอจะรู้จักเขาอยู่บ้าง เลยโทรไปถาม ปรากฎว่านอกจากไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับข่าวดังกล่าว ยังเพิ่งซื้อเพิ่มไปสดๆวันนั้นเอง ดังนั้น การจะมีใครออกมาพูดอ้างถึงเซเลปคนไหน โปรดคิดไว้ก่อนว่าขี้โม้ ข่าวลือ เชื่อไม่ได้ครับ
และขอเตือนนะครับ พาดพิงหรือแขวะกันในเวป แบนเรียบนะครับ อยากแขวะ อยากหาเรื่องกัน เชิญเวปดราม่าครับ ไว้จะขอให้จ่าเปิดหมวดนักลงทุนให้นะครับ
อย่าลบโพสท์อย่างเดียวเลยครับ แบนไปเลยครับ ไม่งั้นคนที่ออกมาเตือนหรือให้มุมมองตรงข้าม คงไม่มีใครเข้ามาเตือนครับ
มีมุมมองให้อ่านทั้งสองฝั่ง ใครไม่ดีแบนทั้งสองฝั่ง มาตรฐานของเวปจะได้ดีขึ้นครับ
ว่าแต่จะมีใครโพสท์ลง FACEBOOK ต่อว่า ท่าน ดร. ว่าเกรียนนอกเวบ เหมือนที่ผมเคยอ่านเจอมาว่า มีท่านอื่นที่มาเตือนเรื่องคล้ายๆกันนี้ เค้าโดนว่ามาเต็มๆมั้ยนี่
เป็นกำลังใจให้ท่าน ดร. ครับ
ปลวกน้อยคอยวันเติบใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 9
เห็นด้วยทุกประการ อวยพรให้เวป ThaiVIเจริญๆ และมีคุณภาพยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆครับ
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 2232
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 10
เขียนได้โดนใจผมมาก ปัจจุบันมีพวกนี้เยอะครับ เผลอๆจะแย่กว่านี้อีกเพราะผมเซียนเก๊ชอบทกในลักษณะที่เชียหุ้นที่ตัวเองถือแบบหน้าด้านๆโดยเฉพาะในsocial network แต่พอแกล้งถามใฟ้อธิบายตัวพื้นฐานบริษัทนั้น กลับนิ่งเงียบไป บางคนก้อแหกตาชาวบ้านว่าเป็นVIขั้นเทพ แต่เวลาตอบคำถามมักตอบแบบเชียหุ้นที่ตัวเองถือทั้งนั้น มีคนมาโพสความคิดเห็นแย้งหน่อยก้อลบทิ้งแต่ประกาศปาวๆว่ามีความคิดเห็นอะไรให้มาแชร์กันเพื่อเป็นความรู้ให้นักลงทุนหน้าใหม่
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
- VI Wannabe
- Verified User
- โพสต์: 1013
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 11
แหมสมัยนี้มีทั้ง วิ(VI) และ ชิ(CI) ศึกษาแนว นิ(Dr. NIves) กันจริงๆบ้างเน้อ
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
- BABY TERMITE
- Verified User
- โพสต์: 368
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 12
เอ... ว่าแต่คุณสาวกเซเลบนี่มองการณ์ไกลนะครับ ตั้งชื่อตัวเองล่วงหน้าศัพท์ใหม่ CI มาตั้งหลายเดือน
ปลวกน้อยคอยวันเติบใหญ่
- pholsuwa
- Verified User
- โพสต์: 31
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 14
เซเลปคิดผิดคงมีบ้าง ใครบ้างไม่เคย? แต่ถ้าเซเลปจงใจผิด สับขาหลอก CI เนี่ยตายหยั่งเขียดนะครับ กว่าจะรู้ตัวกระทู้คงเงียบไปแล้ว....
ขอบคุณบทความดีๆ ที่คอยเตือนกันครับ
ขอบคุณบทความดีๆ ที่คอยเตือนกันครับ
ไม่ขาย ไม่ขาดทุน แต่ขาดใจ
- Joga Bonito
- Verified User
- โพสต์: 278
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 16
หุ้นci ทั้งหลายมักเป็นหุ้นที่มี story ที่เป็นสีเทาๆ ตั้งบนสมมุติฐานหลายอย่างที่อ่อนไหว
มากๆ และมักสรุปเอาว่า ถ้าสมมุติฐานทั้งหลายที่ว่ามานี้นเป็นจริง หุ้นตัวนี้จะ มีอัพไซด์ที่สูงมาก
หุ้นลักษณะนี้มีเยอะในเว็บ แต่หากไม่ใช่เซเลบเป็นคน พรีเซ้นต์ มักจะไม่ค่อยมีคนคล้อยตาม
ซึ่ง ci ทั้งหลายมักดูแค่บทสรุป นั่นคือ มันเป้ากี่บาท และสุุดท้ายก็จะจำการกระจายข่าว
ราคาเป้าของหุ้นตัวนั้นไปในวงกว้าง
เมื่อหุ้นเริ่มวิ่งไป ความจริงหลายอย่างเริ่มปรากฎ สมมุติฐานที่ตั้งไว้เริ่มไม่เป็นความจริงทีละข้อๆ
เซเลบทั้งหลาย มักจะรู้ตัวแล้วว่า สิ่งที่คิดนั้นเป็นไปไม่ได้ เหลือแต่ ci วงนอกที่ยังคงกอดราคาเป้าหมาย
รอคนมาดัน แต่เขาไปกันหมดแล้ว
มากๆ และมักสรุปเอาว่า ถ้าสมมุติฐานทั้งหลายที่ว่ามานี้นเป็นจริง หุ้นตัวนี้จะ มีอัพไซด์ที่สูงมาก
หุ้นลักษณะนี้มีเยอะในเว็บ แต่หากไม่ใช่เซเลบเป็นคน พรีเซ้นต์ มักจะไม่ค่อยมีคนคล้อยตาม
ซึ่ง ci ทั้งหลายมักดูแค่บทสรุป นั่นคือ มันเป้ากี่บาท และสุุดท้ายก็จะจำการกระจายข่าว
ราคาเป้าของหุ้นตัวนั้นไปในวงกว้าง
เมื่อหุ้นเริ่มวิ่งไป ความจริงหลายอย่างเริ่มปรากฎ สมมุติฐานที่ตั้งไว้เริ่มไม่เป็นความจริงทีละข้อๆ
เซเลบทั้งหลาย มักจะรู้ตัวแล้วว่า สิ่งที่คิดนั้นเป็นไปไม่ได้ เหลือแต่ ci วงนอกที่ยังคงกอดราคาเป้าหมาย
รอคนมาดัน แต่เขาไปกันหมดแล้ว
- jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 18
ขอบคุณครับ น่าเอาไปแปะไว้ห้อง..... บ้างนะครับ อิอิ แซวเล่นนะค้าบ
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 19
อืมๆ ท่านอาจารย์นิเวศน์ พูดได้ตรงดีนะครับ
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นักลงทุนหน้าใหม่ควรจะรู้ และให้ความสำคัญ
มีหลายๆ ท่านที่เคยมาพูดในลักษณะเดียวกันนี้
แต่แล้วก็โดนด่าเละ และก็หายไปจากเว็บ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร สงสัยน้อยใจมั้ง
วันนี้ท่านอาจารย์นิเวศน์มาเตือนด้วยตัวเอง ไม่รู้จะมีใครด่าท่านไหม
ถ้าใครคิดจะด่าท่าน ผมขอร้องเลยละกันครับว่า อย่าเลยครับ ได้โปรด
เดี๋ยวท่านน้อยใจไม่มาให้ความรู้ผมอีกล่ะแย่เลย
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นักลงทุนหน้าใหม่ควรจะรู้ และให้ความสำคัญ
มีหลายๆ ท่านที่เคยมาพูดในลักษณะเดียวกันนี้
แต่แล้วก็โดนด่าเละ และก็หายไปจากเว็บ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร สงสัยน้อยใจมั้ง
วันนี้ท่านอาจารย์นิเวศน์มาเตือนด้วยตัวเอง ไม่รู้จะมีใครด่าท่านไหม
ถ้าใครคิดจะด่าท่าน ผมขอร้องเลยละกันครับว่า อย่าเลยครับ ได้โปรด
เดี๋ยวท่านน้อยใจไม่มาให้ความรู้ผมอีกล่ะแย่เลย
- densin
- Verified User
- โพสต์: 1073
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 20
หุ้นทุกตัวมีเลวดี มีความเสี่ยงมีจุดอ่อน มีผลตอบแทน มีความน่าสนใจ ทุกตัว
ถ้าระบบของเวบมีความเป็นกลาง ไม่เอนเอียงผลประโยชน์ด้านใดด้านหนึ่ง
ข้อมูลมันก็จะให้น้ำหนักคานกันเอง ผลลัพย์ก็จะใกล้เคียงความจริง
แต่ถ้าใช้อำนาจบาทใหญ่ ลบ/แบนตามที่bias ของตัวเอง
มันก็จะเป็นระบบเอียงๆไร้ความน่าเชื่อถือ
ถ้าระบบของเวบมีความเป็นกลาง ไม่เอนเอียงผลประโยชน์ด้านใดด้านหนึ่ง
ข้อมูลมันก็จะให้น้ำหนักคานกันเอง ผลลัพย์ก็จะใกล้เคียงความจริง
แต่ถ้าใช้อำนาจบาทใหญ่ ลบ/แบนตามที่bias ของตัวเอง
มันก็จะเป็นระบบเอียงๆไร้ความน่าเชื่อถือ
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 21
สนับสนุนแนวความคิดนี้มานานแล้วครับ แล้วล่าสุดเข้าใจว่าเว็ปเราก็ใช้ระบบที่พี่เด่นว่าแล้วนะครับ พี่เด่นลองสังเกตุดูสิครับdensin เขียน:หุ้นทุกตัวมีเลวดี มีความเสี่ยงมีจุดอ่อน มีผลตอบแทน มีความน่าสนใจ ทุกตัว
ถ้าระบบของเวบมีความเป็นกลาง ไม่เอนเอียงผลประโยชน์ด้านใดด้านหนึ่ง
ข้อมูลมันก็จะให้น้ำหนักคานกันเอง ผลลัพย์ก็จะใกล้เคียงความจริง
ป.ล. มีอะไรแนะนำมาได้เรื่อยๆนะครับพี่ ขอบคุณครับ
It's earnings that count
-
- Verified User
- โพสต์: 358
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 22
ขอบคุณสำหรับบทความนี้ ได้ศัพท์ Celebrity Investment หรือ CI ไว้แทนคนที่ลงทุนในลักษณะนี้แล้ว...คงไม่มี ThaiCI.org โผล่มาหรอกนะ
- densin
- Verified User
- โพสต์: 1073
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 23
ผมว่าควรมีนะ แนวการลงทุนมีได้หลากหลายแนวถุงเงินเก่า เขียน:ขอบคุณสำหรับบทความนี้ ได้ศัพท์ Celebrity Investment หรือ CI ไว้แทนคนที่ลงทุนในลักษณะนี้แล้ว...คงไม่มี ThaiCI.org โผล่มาหรอกนะ
ผมก็อยากให้มีเวบการลงทุนหลายๆแนวให้คนเลือก
อยากให้มี thaci.org ที่ลงทุนแบบตามขาใหญ่ เอารายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่มาเลือกๆเอา
ดีกว่าให้มี thaiciแฝงอยู่ใน thaivi ที่ไม่ได้วิเคราะห์อะไร
เอาชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่มาโพสหาว่าใครซื้ออะไรขายอะไรไปแล้วในเวบนี้สิ
ผมว่ามันผิดที่ผิดทาง ทำให้คนมือใหม่เอาอย่าง
อนาคตยังมีเวบได้อีกเยอะ
thaivivi.org สำหรับ higi-speed valuae investment
thaimama.org สำหรับ debate investment
แม้แต่เวบสายtehnicalในไทยดีๆผมก็ยังไม่เจอ
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
- densin
- Verified User
- โพสต์: 1073
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 24
ผมขอแต่บรรยากาศการแลกเปลียนที่เท่าเทียมกันกลับมาให้เหมือนเดิมให้ได้ก่อนBlueblood เขียน: สนับสนุนแนวความคิดนี้มานานแล้วครับ แล้วล่าสุดเข้าใจว่าเว็ปเราก็ใช้ระบบที่พี่เด่นว่าแล้วนะครับ พี่เด่นลองสังเกตุดูสิครับ
ป.ล. มีอะไรแนะนำมาได้เรื่อยๆนะครับพี่ ขอบคุณครับ
การไปแบน/ลบ ที่ผ่านมาทำเสียบรรยากาศไปมากพอควร
หลายคนคงไม่กลับมาแล้ว ทำให้เวบคงต้องเอียงไปอีกสักพักใหญ่
หยุดใช้วิธีแบนสมาชิก หรือใช้วิธีประกาศข่มขู่ ให้ได้ซะก่อน
ถ้าจำเป็นต้องแบน ขอให้เป็นกรณีที่รุนแรงรับไม่ได้จริงๆ
และขอให้เป็นฉันทามติของmod จะได้รับผิดชอบร่วมๆกัน
ไม่ใช่เอาbiasคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งตัดสินใจ
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
-
- Verified User
- โพสต์: 1922
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 25
แสกหน้าได้แต้ม +1densin เขียน: แต่ถ้าใช้อำนาจบาทใหญ่ ลบ/แบนตามที่bias ของตัวเอง
มันก็จะเป็นระบบเอียงๆไร้ความน่าเชื่อถือ
-
- Verified User
- โพสต์: 365
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 26
ขอบคุณ อ.ดร.นิเวศน์ มาก นะครับ
ที่คอยชี้แนะ คอยเตือนสติ ...
ผมติดตามอ่านผลงาน อ. อย่างต่อเนื่อง และแนะนำคนใกล้ชิดให้อ่านครับ
ผมว่า อ.ดร.นิเวศน์ คือของจริงครับ ...
ที่คอยชี้แนะ คอยเตือนสติ ...
ผมติดตามอ่านผลงาน อ. อย่างต่อเนื่อง และแนะนำคนใกล้ชิดให้อ่านครับ
ผมว่า อ.ดร.นิเวศน์ คือของจริงครับ ...
- SupachaiZ594
- Verified User
- โพสต์: 834
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โลกในมุมมองของ Value Investor - 14 พฤษภาคม 54
โพสต์ที่ 27
น่าจะเอาไปแปะไว้ที่ห้องท๊อปฮิตเช่น JAS SVI PTL จะได้อ่านกันทั่วถึง