มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
- อึ้งกิมกี่
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 1
อยากจะหาเพื่อนซื้อหน่อยครับ...ดูๆแล้วกิจการในอนาคตน่าจะไปได้ดีนี่ครับ ไม่ทราบราคา OK ยัง ลืมบอกว่าผมมีที่ 5.5-6.0บาทอยู่ส่วนหนึ่งว่าจะซื้อเพิ่มอีก ชี้แนะได้ก็ดี แวะไปอ่านที่ร้อยคนร้อยหุ้นมาแล้ว ฝากขอบคุณข้อมูลด้วยเลยนะครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 2
ผมก็มองๆอยู่นะครับ ได้ข่าวว่าแกชัก40%ทุกเล่ม แถมสามเดือนจ่ายค่าหนังสือให้ผู้ผลิตที
คุณพรชัย แกหน้ามืดเพราะให้SE-EDจัดจำหน่ายนี่แหละ อิ...อิ
คุณพรชัย แกหน้ามืดเพราะให้SE-EDจัดจำหน่ายนี่แหละ อิ...อิ
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
-
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 3
ผมแปลกใจ ซีเอ็ดสาขาใหม่ที่ผมไปเดิน
ผมหาหนังสือหลายเล่มที่ซีเอ็ดจัดจำหน่ายไม่มี
แต่มี มุมกาแฟ มุมซีดี
เข้าข่ายไดเวอสิฟิเคชั่น (diworseification) ตามหลักปีเตอร์ ลินช์ เด๊ะ
จะเปิดขายอะไรไม่ว่า แต่ของยี่ห้อตัวเอง.. ต้องครบครันก่อนครับ
ผมหาหนังสือหลายเล่มที่ซีเอ็ดจัดจำหน่ายไม่มี
แต่มี มุมกาแฟ มุมซีดี
เข้าข่ายไดเวอสิฟิเคชั่น (diworseification) ตามหลักปีเตอร์ ลินช์ เด๊ะ
จะเปิดขายอะไรไม่ว่า แต่ของยี่ห้อตัวเอง.. ต้องครบครันก่อนครับ
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 5
ไปสาขา Zeer มารึปล่าวjaychou เขียน:ผมแปลกใจ ซีเอ็ดสาขาใหม่ที่ผมไปเดิน
ผมหาหนังสือหลายเล่มที่ซีเอ็ดจัดจำหน่ายไม่มี
แต่มี มุมกาแฟ มุมซีดี
เข้าข่ายไดเวอสิฟิเคชั่น (diworseification) ตามหลักปีเตอร์ ลินช์ เด๊ะ
จะเปิดขายอะไรไม่ว่า แต่ของยี่ห้อตัวเอง.. ต้องครบครันก่อนครับ
ช่ายๆ
ผมหาหนังสือหลายๆเล่มไม่เจอทั้งที่ se-ed เป็นคนจัดจำหน่ายเอง
แม้แต่บางเล่มพิมพ์เองก็ไม่เอามาขาย
แต่มีขายที่ B2S
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
-
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 6
อ้าว ท่านซีอีโอ อยู่ละแวกนี้เหรอครับ โดนเป๊ะเลย
เอ...เคยอ่านว่าท่านอยู่ย่านแจ้งวัฒนะ
เอ...เคยอ่านว่าท่านอยู่ย่านแจ้งวัฒนะ
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 7
ใช่แล้ว วงการหนังสือพิมพ์ สายส่งกุมเงินไว้หมด เพราะกว่าจะเบิกมาให้ก็รอเหงือกบานกันทีเดียวMon money เขียน:ผมก็มองๆอยู่นะครับ ได้ข่าวว่าแกชัก40%ทุกเล่ม แถมสามเดือนจ่ายค่าหนังสือให้ผู้ผลิตที
คุณพรชัย แกหน้ามืดเพราะให้SE-EDจัดจำหน่ายนี่แหละ อิ...อิ
ทำให้ธุรกิจนี้พวกสายป่านยาว หรือมีสายส่ง หน้าร้านเอง อยู่ได้แน่นอน
Expecto Patronum!!!!!!
- มือเก่าหัดขับ
- Verified User
- โพสต์: 1112
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 8
ผมคำนวณดูแล้ว ยังแพงไปนิดครับ (ทางพื้นฐาน, คือเห็นว่า margin of safety ยัง
ไม่มากพอ) ขอรออีกหน่อยก็แล้วกัน ไม่ได้ไม่เป็นไร
เอ... ที่เซียร์ พื้นที่ก็ไม่น้อยนี่ครับ หนังสือน่าจะมีค่อนข้างมาก (จะบอกว่าครบ คงไม่ได้)
หรือพวกท่าน ไปหาหนังสือแปลกๆ
ไม่มากพอ) ขอรออีกหน่อยก็แล้วกัน ไม่ได้ไม่เป็นไร
เอ... ที่เซียร์ พื้นที่ก็ไม่น้อยนี่ครับ หนังสือน่าจะมีค่อนข้างมาก (จะบอกว่าครบ คงไม่ได้)
หรือพวกท่าน ไปหาหนังสือแปลกๆ
แก้ไขล่าสุดโดย มือเก่าหัดขับ เมื่อ อังคาร มี.ค. 22, 2005 9:57 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
คนอื่นเขาสะสมอย่างอื่น เราขอสะสมความดี, ความรู้, ประสบการณ์, เงินทอง, กับหุ้นก็แล้วกัน
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
-
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 10
ถ้าหนังสือแปลกๆ
ร้านอื่นในเซียร์ก็มีครับ
ถ้าไม่ทราบผมจะพาไป
หมายถึงหนังสือเกมส์ใช่มั้ย ฮ่าๆๆ
ร้านอื่นในเซียร์ก็มีครับ
ถ้าไม่ทราบผมจะพาไป
หมายถึงหนังสือเกมส์ใช่มั้ย ฮ่าๆๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 11
5.05 แอบกิ๊กไปหน่อยนึง
พูดตามตรง ไม่มั่นใจเลย
กลัวสาขาที่ขยายไป ไม่ได้ผลงานอย่างที่หวัง 8)
พูดตามตรง ไม่มั่นใจเลย
กลัวสาขาที่ขยายไป ไม่ได้ผลงานอย่างที่หวัง 8)
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
- อึ้งกิมกี่
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 12
เพื่อนเยอะแฮะ... เดี๋ยวผมจะกิ๊กไว้หน่อยนึงก่อน ไปเดินที่ร้านแถวบ้านทีไรคนแน่นตลอดเลย แต่การขยายสาขาเยอะมากเกินไปจะทำให้ over supply หรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน ใจผมชอบแบบค่อยๆทำค่อยๆโตมากกว่า แต่ราคานี้ถ้าจะแพงก็ไม่มากแล้วหละ ว่าแต่คุณ สส เขาปล่อยของหมดยัง ปล่อยทีร่วงที
- อึ้งกิมกี่
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 13
วันนี้คนแย่งผม bid เยอะเลยท่าจะแห้ว เมื่อวานยังเป็น offer อยู่เลยนี่นา
- อึ้งกิมกี่
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 15
นี่ตาบัคฯ มา TVI ก็ทำตัวเป็น VI หน่อยซิ เดี๋ยวไม่มีใครรับเป็นศิษย์ จริงด้วยนะอยู่พันทิพได้แต่พูดเฮฮา
- Heroine
- Verified User
- โพสต์: 196
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 16
วันนี้ 5.05 ราคาเดียวเป็นวอลุ่มขายทั้ง 100% แต่ปริมาณแค่ 43400 หุ้น ถ้า bid รอราคาแถว ๆ 4.98 วันนี้น่าจะยังไม่ได้ งั้นวันนี้ขอนั่งดูหน้าจอไปก่อนดีกว่าค่ะ หลุดจาก 5 บาทค่อยว่ากัน
โลกมายา...ดินแดนที่ต้องใส่หน้ากากคุยกัน
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
-
- Verified User
- โพสต์: 135
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 17
ผมเองก็มีอยู่ที่ราคาใกล้ๆคุณอึ้งกิมกี่นั่นแหละครับ
แต่ตอนนั้นผลประกอบการไม่ได้เป็นแบบนี้
(สองปีแล้วครับ ได้ปันผลค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ)
ช่วงนี้ผมเห็นด้วยกับความเห็นของพี่มือเก่าหัดขับ
จึงขอดูไปเรื่อยๆก่อนครับ
แต่ตอนนั้นผลประกอบการไม่ได้เป็นแบบนี้
(สองปีแล้วครับ ได้ปันผลค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ)
ช่วงนี้ผมเห็นด้วยกับความเห็นของพี่มือเก่าหัดขับ
จึงขอดูไปเรื่อยๆก่อนครับ
- อึ้งกิมกี่
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 19
เอ!! มีประเด็น warrent ด้วยเหรอครับ เดี๋ยวต้องไปศึกษาอีกที
-
- Verified User
- โพสต์: 165
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 21
สาขาที่เปิดของซีเอ็ดปีที่แล้ว ไม่ค่อยได้กำไรครับดูจากผลประกอบการ ผมว่าบางทีสู้ไม่เปิดเลยจะดีกว่า ถ้าจะรอผลประกอบการพลิกตัวอาจจะไม่เร็วครับ เพราะสถานะตอนนี้ Se-ed มีคู่แข่งมากขึ้นกว่า 4 ปีก่อนมากครับ ดูจากสาขาที่ Se-ed renovate ผมเข้าใจว่าเงินลงทุนสูงเอาการนะครับ ลงทุนมากขนาดนี้ผมไม่แน่ใจว่าจะเป็นยังไง อาทิตย์ที่แล้วไปเดินที่ Zeer รังสิตมา ดูจากลูกค้าที่เข้ามาซื้อแล้ว ดูยังไงก็ขาดทุนอยู่ดี เพราะ เงินลงทุนสูงมากครับในการปรับปรุงสาขาที่ zeer ลูกค้าก็ไม่เยอะเหมือนในห้างขนาดใหญ่ อย่าดูแต่ราคาอย่างเดียวครับ ผมว่าดูธุรกิจว่ามันจะหันหัวกลับเมื่อไรดีกว่าครับ
- อึ้งกิมกี่
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 22
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ : SE-ED
1. ภาพรวม
ในภาพรวมของธุรกิจหนังสือ ยังคาดว่าน่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องด้วยตัวเลข 2 หลัก
ไปอีกหลายปี ดังนั้นบริษัทฯ จึงยังคงเน้นการเปิดร้านหนังสือเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ และเพิ่มบทบาทใน
ฐานะผู้จัดจำหน่ายหนังสือแก่สำนักพิมพ์อื่นมากขึ้นให้สอดคล้องกัน ส่วนบทบาทของสำนักพิมพ์นั้น
บริษัทฯ ยังคงเน้นการผลิตหนังสือที่มีคุณภาพ มีอายุยาว และมีขนาดตลาดใหญ่เพียงพอ โดยไม่เน้น
การเพิ่มจำนวนชื่อเรื่องมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในทั้งสามส่วนธุรกิจนี้ บริษัทฯ สามารถรักษาความเป็น
รายใหญ่ที่สุดได้อย่างชัดเจนในธุรกิจร้านหนังสือ และผู้จัดจำหน่ายหนังสือ ส่วนในธุรกิจสำนักพิมพ์
บริษัทฯ ยังคงบทบาท 1 ใน 2 รายใหญ่ที่สุดไว้ได้
ในปี 2547 บริษัทฯ เปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 30 สาขา ทำให้สิ้นปี 2547 บริษัทฯ มีร้าน
หนังสือซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ Book Variety และเครือข่ายในรูปแบบต่างๆ กัน ที่ยังเปิดดำเนินการ
อยู่รวม 168 สาขา และมีจุดขายย่อยอีกรวมเป็นจุดขายทั้งสิ้น 330 จุดขาย
จากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ชะลอตัวลงตั้งแต่ช่วงกลางปี 2547 อันเป็น
ผลมาจากการปรับราคาของน้ำมันในประเทศอย่างต่อเนื่อง ภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น การ
กลับมาแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก รวมทั้งปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ และภัยพิบัติจาก
ธรรมชาติคลื่นยักษ์สึนามิ ซึ่งปัจจัยเชิงลบเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของประชาชน
โดยเฉพาะนโยบายการประหยัดพลังงานของรัฐบาล ที่กำหนดเวลาปิดของห้างสรรพสินค้า
และดิสเคาท์สโตร์ ให้เร็วขึ้น ส่งผลให้รายได้จากการขายของสาขาเดิมของซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ
Book Variety ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 เติบโตในอัตราที่ลดลง ส่งผลให้อัตราการเพิ่ม
ขึ้นของรายได้จากการขายทั้งปี ต่ำกว่าประมาณการที่คาดไว้เล็กน้อย
ผลการดำเนินงานสำหรับปี 2547 บริษัทฯ มีกำไรที่เป็นตัวเงินจากกิจกรรมดำเนินงาน
(ตามงบกระแสเงินสด) เป็นเงิน 224.17 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5.47 ล้าน
บาท คิดเป็น 2.50% ขณะที่กำไรสุทธิ (ตามงบกำไรขาดทุน) สำหรับปี 2547 เป็นเงิน 116.96
ล้านบาท คิดเป็น 4.10% ต่อรายได้รวม โดยลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 39.69 ล้านบาท
คิดเป็น 25.34% หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.41 บาท บริษัทฯ มีรายได้รวมสำหรับปี 2547
จำนวน 2,856.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน เท่ากับ 426.38 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น
17.55%
ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ปี 2547 บริษัทฯ มีกำไรที่เป็นตัวเงินจากกิจกรรม
ดำเนินงาน (ตามงบกระแสเงินสด) เป็นเงิน 62.62 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี
ก่อน 0.57 ล้านบาท คิดเป็น 0.90% ขณะที่กำไรสุทธิสำหรับ (ตามงบกำไรขาดทุน) ไตรมาสที่ 4
ปี 2547 เป็นเงิน 36.65 ล้านบาท คิดเป็น 4.78% ต่อรายได้รวม โดยลดลงจากงวดเดียวกัน
ของปีก่อน 22.12 ล้านบาท คิดเป็น 37.64% หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.12 บาท บริษัทฯ มีราย
ได้รวมสำหรับไตรมาส 4/2547 จำนวน 766.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน
79.99 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น 11.65% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ของร้านซี
เอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ Book Variety นอกจากนี้สายงานวารสาร ยังทำรายได้เพิ่มขึ้นอีก
14.19% จากปีก่อน
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2547 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2547 ได้มีมติให้
บริษัทฯ ซื้อหุ้นคืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบริหารทางการเงิน เนื่องจากบริษัทฯ มีสภาพ
คล่องส่วนเกิน ในไตรมาส 3/2547 บริษัทฯ ได้สิ้นสุดการซื้อหุ้นคืน โดยมีการซื้อหุ้นคืนทั้งสิ้น
จำนวน 19.78 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 122.64 ล้านบาท ราคาซื้อหุ้นคืนเฉลี่ย 6.20 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายการจำหน่ายหุ้นสามัญซื้อคืนไว้ไม่เกิน 3 ปี นับจากที่มีการซื้อหุ้นคืน
เสร็จสิ้น
บริษัทฯ ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 มกราคม 2547 ถึง
วันที่ 31 ธันวาคม 2547 ในอัตรา 0.288 บาทต่อหุ้น จากกำไรส่วนที่บริษัทฯ มิได้รับยกเว้นภาษี
เงินได้นิติบุคคล โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานของ 3 ไตร
มาสแรกในปี 2547 ไปแล้วเป็นเงิน 0.26 บาทต่อหุ้น ดังนั้นบริษัทจะจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมอีกใน
อัตราหุ้นละ 0.028 บาท
สืบเนื่องจากเมื่อเดือนตุลาคม 2547 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด
หลักทรัพย์ (สำนักงาน กลต.) ได้มีหนังสือเวียน พร้อมด้วยบันทึกสำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกา ซึ่งพิจารณาประเด็นการซื้อหุ้นคืน และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548 สำนักงาน กลต. ได้มี
หนังสือเวียนพร้อมแนวปฏิบัติจากสภาวิชาชีพบัญชี ให้บริษัทฯ ดำเนินการกันกำไรสะสมไว้เป็น
เงินสำรองเท่ากับจำนวนเงินที่ได้จ่ายซื้อหุ้นคืน จากการตีความและแนวปฏิบัติดังกล่าว ซึ่ง
เกิดขึ้นภายหลังการดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัทฯ ได้แล้วเสร็จแล้วนั้น บริษัทฯ จึง
จำเป็นต้องกันกำไรสะสมเป็นสำรองเพื่อซื้อหุ้นคืนเป็นจำนวน 122.64 ล้านบาท เพื่อให้เพียงพอ
ต่อมูลค่าที่บริษัทฯได้จ่ายซื้อหุ้นคืนมา ตามหนังสือเวียน กลต. ทำให้บริษัทฯ เหลือกำไรสะสมที่จะ
จ่ายปันผลได้เหลือเพียง 8.69 ล้านบาทเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม เงินสำรองดังกล่าว จะสามารถ
นำกลับมาเป็นกำไรสะสมยังไม่จัดสรรได้ในกรณีต่อไปนี้
1. บริษัทฯ ได้จำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนได้หมดแล้ว หรือ
2. บริษัทฯ ดำเนินการลดทุน หากบริษัทฯ ไม่สามารถจำหน่ายหุ้นซื้อคืนได้หมด
ภายใน 3 ปี (สิ้นสุดวันที่11 กันยายน 2550)
2. ภาพรวมธุรกิจ
บริษัทฯ ประกอบธุรกิจหลัก 3 ส่วน คือ
2.1 ธุรกิจร้านหนังสือ โดยเป็นผู้ดำเนินงานร้าน ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ Book
Variety ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมทั้งการขยายตัวในลักษณะเครือข่าย และการ
บริหารพื้นที่ขายในรูปแบบต่างๆ
2.2 ธุรกิจรับจัดจำหน่ายหนังสือ โดยจัดจำหน่ายให้กับหนังสือของบริษัทฯ เอง และ
สำนักพิมพ์อื่น เพื่อจำหน่ายให้กับร้านหนังสือทั่วไป และช่องทางการขายอื่นๆ
2.3 ธุรกิจสำนักพิมพ์ โดยผลิตหนังสือ และวารสารเชิงวิชาการ และสาระความรู้ รับจ้าง
โฆษณาเพื่อจัดลงในวารสารรายเดือนที่บริษัทฯ ผลิตขึ้น รับจ้างพิมพ์หนังสือ และเป็นผู้จัดงาน
ประจำปี Thailand Electronics & Industrial Technology
ธุรกิจร้านหนังสือ
บริษัทฯ ยังคงขยายร้านหนังสือของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง และรักษาความเป็นร้าน
หนังสือที่มีจำนวนสาขามากที่สุด และมียอดขายรวมสูงสุด ได้อยู่ โดยในไตรมาส 4/2547
บริษัทฯ ได้เปิดสาขาของร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ เพิ่มขึ้นจำนวน 11 สาขา ได้แก่ คาร์ฟูร์
หาดใหญ่, โลตัส สกลนคร, Index Living Mall ภูเก็ต, โลตัส พระราม 1, เสริมไทย
พลาซ่า มหาสารคาม, โอเชี่ยน ชุมพร, แฟรี่แลนด์ นครสวรรค์, เจริญภัณฑ์ พะเยา, ตึกคอม
พัทยา, SK ชอปปิ้ง พาร์ค อุบลราชธานี และตึกคอม โฆษะ ขอนแก่น รวมเป็นสาขาที่เปิดไปแล้ว
รวม 174 สาขา โดยเป็นสาขาที่ยังเปิดดำเนินงานอยู่จำนวน 168 สาขา ซึ่งได้รวมร้านเครือข่ายที่
ยังเปิดดำเนินงาน 6 ร้านเครือข่าย นอกจากนี้ยังมีจุดขายย่อยในโลตัสเอ็กซเพรส โลตัส บิ๊กซี
คาร์ฟูร์ เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2547 อีก จำนวน 15 จุด และอื่นๆ รวมเป็นจุดขายที่เปิดไปแล้ว
ทั้งสิ้น 330 จุดขาย นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับปรุงร้านสาขาเดิม ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันยอด
ขายอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจรับจัดจำหน่ายหนังสือ
บริษัทฯ มีบทบาทเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยรับจัดจำหน่ายให้กับ
สำนักพิมพ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เนชั่นบุ๊คส์,
กู้ดมอร์นิ่ง, โปรวิชั่น, สำนักพิมพ์รักลูก, รีดเดอร์ไดเจสท์, เพียร์สันเอ็ดดูเคชั่น อินโดไชน่า,
เวิร์คพอยท์, สำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก, กันตนาพับลิชชิ่ง เป็นต้น โดยจัดจำหน่ายหนังสือผ่านร้านซี
เอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ Book Variety ร้านหนังสืออื่น และสถาบันการศึกษา โดยบริษัทฯ ได้
คัดเลือกหนังสือรับจัดจำหน่ายปกใหม่ ให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด เพื่อทำให้สินค้า
หลักของบริษัทฯ มีวงจรชีวิตอยู่ในตลาดยาวนาน และสามารถทำกำไรในระยะยาวได้ นอกจากนี้
บริษัทฯ ยังเพิ่มการซื้อขาดสินค้าที่เห็นว่ามีโอกาสการขายสูง เพื่อให้ได้รับส่วนลดจากซัพพลาย
เออร์มากขึ้น
ธุรกิจสำนักพิมพ์
บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการกำหนดทิศทาง การวางแผนผลิตสินค้าให้ตรงตามความ
ต้องการของตลาด มีอายุสินค้ายาวนาน และมีขนาดตลาดมากเพียงพอ โดยไม่เน้นการเพิ่มจำนวนชื่อ
เรื่องที่ผลิต และเน้นการพัฒนาเครื่องมือ และเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สามารถ
กระจายสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เหมาะสมขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าที่บริษัทฯ ผลิตมี
โอกาสประสบความสำเร็จได้สูงขึ้น
3. ผลการดำเนินงาน
3.1 ผลการดำเนินงานของปี 2547 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ตาราง 1 : ผลการดำเนินงานของปี 2547 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
(หน่วย:พันบาท)
ม.ค.-ธ.ค. ม.ค.-ธ.ค. เปลี่ยนแปลง
2547 2546 เพิ่มขึ้น(ลดลง) (%)
รายได้จากการขาย 2,833,648 2,376,739 456,909 19.22
รายได้อื่น 21,116 52,818 (31,702) (60.02)
ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม 1,576 403 1,173 290.93
รวมรายได้ 2,856,340 2,429,960 426,380 17.55
ต้นทุนขาย 1,980,970 1,624,057 356,913 21.98
ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร 708,076 591,678 116,398 19.67
กำไรขั้นต้น 852,678 752,682 99,996 13.28
อัตรากำไรขั้นต้น (%) 30.09 31.67 - (1.58)
กำไรจากการดำเนินงานก่อน
ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่าย
ตัดจ่าย (EBITDA) 240,847 276,430 (35,583) (12.87)
กำไรที่เป็นตัวเงินจากกิจกรรม
ดำเนินงานจากงบกระแสเงินสด 224,171 218,702 5,469 2.50
กำไรสุทธิ 116,962 156,654 (39,692) (25.34)
กำไรสุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.41 0.73 (0.32) (43.83)
รายได้รวมสำหรับ ปี 2547 บริษัทฯ มีรายได้รวมสำหรับปี 2547 เป็นเงิน 2,856.34
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 426.38 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น 17.55% โดยในจำนวนนี้เป็นรายได้จาก
การขาย 2,833.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 456.91 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น 19.22% ซึ่งส่วน
ใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ของร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ Book Variety ซึ่งเพิ่มขึ้น
22.48% แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อันเป็นผลมาจากการขึ้นราคา
น้ำมัน และจากนโยบายประหยัดพลังงานของรัฐบาล ที่กำหนดเวลาปิดดำเนินการของห้างดิส
เคาท์สโตร์เร็วกว่าปกติ ในช่วงไตรมาส 3/2547 และได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิ
ในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม ในปี 2547 ยอดขายของสาขาเดิมมีอัตราการเติบโตประมาณ
10% ส่วนที่เหลือเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้จากสาขาใหม่ ที่เปิดเพิ่มขึ้นในปี 2547 จำนวน 30
สาขา
กำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานในกิจกรรมการดำเนินงานหลัก ไม่รวมรายได้อื่นๆ สำหรับ
ปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2547 เป็นเงิน 144.60 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 16.40 ล้านบาท
หรือคิดเป็นลดลง 10.19% (ปี 2546 กำไรจากการดำเนินงานหลัก เป็นเงิน 161.0 ล้านบาท)
สาเหตุที่ลดลงเนื่องจาก
- ต้นทุนขาย เพิ่มขึ้น 356.91 ล้านบาท คิดเป็น 21.98% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเพิ่มขึ้น
ของยอดขาย สืบเนื่องจากมีสัดส่วนการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นน้อยเป็นจำนวนมาก
ขึ้น เช่น หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อย
- ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 116.40 ล้านบาท
คิดเป็น 19.67% ซึ่งอัตราการเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับอัตราการเพิ่มขึ้นของยอดขายโดย
สาเหตุที่ค่าใช้จ่ายขายและบริหารเพิ่มขึ้น เกิดจาก
o ในปี 2547 มีการขยายสาขาของร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ Book
Variety เพิ่มขึ้นจำนวน 30 สาขา ซึ่งยอดขายของสาขาใหม่ยังต้องใช้
ระยะเวลาหนึ่งกว่าจะเพิ่มขึ้นถึงระดับที่จะทำกำไรได้ จึงทำให้สัดส่วนค่าใช้
จ่ายในการขายและบริหารมีสัดส่วนสูงขึ้นใกล้เคียงกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น
o มีการลงทุนปรับปรุงสาขาเดิมให้ทันสมัยขึ้น และมีการลงทุนกิจกรรม
ทางการตลาดเพื่อสร้างฐานลูกค้าระยะยาว รวมถึงมีการขยายหน่วยงาน
บางส่วน และการลงทุนในระบบฮาร์ดแวร์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการขึ้นระบบงาน
ใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต จึงส่งผลทำให้ค่าใช้จ่ายในการขาย
และบริหารมีสัดส่วนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับยอดขาย
เมื่อนำรายได้อื่นมาพิจารณาด้วยจะพบว่า บริษัทฯ มีรายได้อื่น ที่ไม่เกี่ยวกับการ
ดำเนินงานตามปกติ (non operation) ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 31.70 ล้านบาท คิด
เป็นลดลง 60.02% รายได้อื่นดังกล่าว ได้แก่
o กำไรจากการขายทรัพย์สินจำนวน 19.42 ล้านบาท
o รายได้เงินปันผลและกำไรจากการขายเงินลงทุนชั่วคราว ลดลงจากปี
ก่อน จำนวน 5.28 ล้านบาท
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้ในปี 2547 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิลดลงจากปี 2546
โดยกำไรสุทธิปี 2547 เป็นเงิน 116.96 ล้านบาท คิดเป็น 4.10% ต่อรายได้รวม หรือคิด
เป็นกำไรต่อหุ้น 0.41บาท (ปี 2546 กำไรสุทธิสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2546 เป็น
156.65 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6.45% ต่อรายได้รวม หรือมีกำไรสุทธิหุ้นละ 0.73 บาท) ซึ่ง
ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 39.69 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 25.34%
กำไรจากกิจกรรมหลักที่เป็นตัวเงินตามงบกระแสเงินสด สำหรับปี 2547 เท่ากับ 224.17
ล้านบาท คิดเป็น 7.85% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.47 ล้านบาท คิดเป็น 2.50%
(กำไรจากกิจกรรมหลักที่เป็นตัวเงินสำหรับปี 2546 เท่ากับ 218.70 ล้านบาท คิดเป็น
9.0%) ในขณะที่รายได้รวมเพิ่มขึ้นถึง 426.38 ล้านบาท คิดเป็น 17.55% แต่กำไรสุทธิลดลง
ซึ่งเกิดจากรายการที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานตามปกติ (non operation) โดยสาเหตุหลัก
เกิดจากในปี 2546 มีรายได้เงินปันผลและกำไรจากการขายเงินลงทุนชั่วคราวลดลงจากปี
ก่อน จำนวน 5.28 ล้านบาท และในปีก่อนมีกำไรจากการขายทรัพย์สินจำนวน 19.42 ล้าน
บาท
3.2 ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี2547 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ตาราง 2: ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี2547 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
(หน่วย : พันบาท)
ต.ค.-ธ.ค. ต.ค.-ธ.ค. เปลี่ยนแปลง
2547 2546 เพิ่มขึ้น (ลดลง) (%)
รายได้จากการขาย 761,879 662,537 99,342 14.99
รายได้อื่น 4,442 23,794 (19,352) (81.33)
รวมรายได้ 766,321 686,331 79,990 11.65
ต้นทุนขาย 533,259 444,014 89,245 20.10
ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร 180,442 159,267 21,175 13.30
ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม 162 1,816 (1,654) (91.08)
กำไรขั้นต้น 228,620 218,522 10,098 (4.62)
อัตรากำไรขั้นต้น (%) 30.01 32.98 - (2.98)
กำไรจากการดำเนินงานก่อน
ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่าย
ตัดจ่าย (EBITDA) 72,012 98,129 (26,117) (26.52)
กำไรที่เป็นตัวเงินจากกิจกรรม
ดำเนินงานจากงบกระแสเงินสด 62,617 63,187 (570) (0.90)
กำไรสุทธิ 36,648 58,766 (22,118) (37.64)
กำไรสุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.12 0.27 (0.15) (55.56)
รายได้รวมสำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2547 เป็นเงิน 766.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.99 ล้าน
บาท หรือเติบโตสูงขึ้น 11.65% โดยในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการขาย 761.88 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 99.34 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น 14.99% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้
ของร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ Book Variety ซึ่งเพิ่มขึ้น 21.34% ซึ่งเกิดจากยอดขายที่
เพิ่มขึ้นของสาขาเดิม ยอดขายจากสาขาที่เปิดใหม่ และยอดขายจากการเปิดจุดขายย่อยเพิ่มขึ้น
และรายได้จากสายงานวารสารของบริษัทฯ รวมเพิ่มขึ้นประมาณ 14.19%
กำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2547 เป็นเงิน 36.65 ล้านบาท คิดเป็น 4.78% ต่อ
รายได้รวม หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.12 บาท (ปี 2546 กำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 4
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2546 เป็น 58.77 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.56% ต่อรายได้รวม
หรือมีกำไรสุทธิหุ้นละ 0.27 บาท) โดยกำไรสำหรับงวดนี้ ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน
22.12 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 37.64% เกิดจากสาเหตุเดียวกันกับงวดปี 2546 มีกำไรจากการ
ขายทรัพย์สิน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ปี 2546
อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 4 ปี 2547 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 2547 เป็น
เงิน 16.98 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 86.33% สืบเนื่องจากบริษัทฯ สามารถขายสินค้าจากการ
รับจัดจำหน่ายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นดีของบริษัทดีขึ้น
4. ฐานะทางการเงิน
4.1 ส่วนประกอบของสินทรัพย์
ตาราง 3: ส่วนประกอบของสินทรัพย์ (บางส่วน)
31 ธันวาคม 2547 31 ธันวาคม 2546 เพิ่มขึ้น (ลดลง)
จำนวนเงิน % ต่อ จำนวนเงิน % ต่อ จำนวนเงิน %
(พันบาท) สินทรัพย์รวม (พันบาท) สินทรัพย์รวม (พันบาท)
เงินสดและรายการ
เทียบเท่าเงินสด 142,825 12.89 146,375 13.24 (3,550) (2.42)
เงินลงทุนชั่วคราว-
สุทธิ 161,939 14.62 257,050 23.26 (95,111) (37.00)
ลูกหนี้การค้าและตั๋ว
เงินรับ-สุทธิ 83,741 7.56 79,114 7.16 4,627 5.85
สินค้าคงเหลือ-สุทธิ 153,489 13.86 137,212 12.42 16,277 11.86
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 569,410 51.40 642,662 58.15 (73,252) (11.40)
เงินลงทุนในบริษัทย่อย
และบริษัทร่วม 34,837 3.14 33,961 3.07 876 2.58
ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์-
สุทธิ 241,943 21.84 221,894 20.08 20,049 9.04
สิทธิการเช่าอาคาร
-สุทธิ 139,969 12.63 118,835 10.75 21,134 17.78
รวมสินทรัพย์ไม่
หมุนเวียน 538,397 48.60 462,513 41.85 75,884 16.41
สินทรัพย์รวม 1,107,807 100.00 1,105,175 100.00 2,632 0.24
ด้านสินทรัพย์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 บริษัทฯ มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 1,107.81 ล้าน
บาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 2.63 ล้านบาท สาเหตุการเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนของสินทรัพย์รวมดังกล่าว
เป็นผลมาจาก
- เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดคงเหลือ ณ สิ้นปี 2547 เท่ากับ 142.83 ล้านบาท
ลดลง 3.55 ล้านบาท
- เงินลงทุนชั่วคราว-สุทธิ ลดลง 95.11 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ขายเงินลงทุนเพื่อนำ
เงินมาจ่ายเงินปันผล และซื้อหุ้นคืน
- สินค้าคงเหลือ-สุทธิ เพิ่มขึ้น 16.28 ล้านบาท เนื่องจากซื้อขาดสินค้าเพื่อขายที่สาขา
เพิ่มขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นตามจำนวนของสาขาที่เพิ่มขึ้น
- ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ คงเหลือ ณ เพิ่มขึ้น 20.08 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้น
ของ อุปกรณ์ตกแต่ง ชั้นเก็บสินค้าสาขาและ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
- สิทธิการเช่าอาคาร-สุทธิ เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 21.13 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2547 มีการ
ทำสัญญาสิทธิการเช่าของสาขา จำนวน 2 แห่ง
- เงินค้ำประกันการเช่าและเงินมัดจำ เพิ่มขึ้น 33.89 ล้านบาท จากการจ่ายเงินมัดจำสิทธิ
การเช่าของสาขาแห่งหนึ่งมูลค่า 30.22 ล้านบาท
ด้านหนี้สิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 บริษัทฯ มีหนี้สินทั้งสิ้น 592.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
จากสิ้นปีก่อน 53.60 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจาก
- เงินเบิกเกินบัญชี เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 39.76 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงปลายปี
มีการจ่ายเงินมัดจำสิทธิการเช่า ของสาขาแห่งหนึ่ง จำนวน 27.25 ล้านบาท
และเนื่องจากมีการจ่ายเช็คลงวันที่ช่วงปลายปี ซึ่งเป็นวันหยุดติดต่อกันหลาย
วันเจ้าหนี้จึงขึ้นเงินไม่ทัน
- เจ้าหนี้การค้าและตั๋วเงินจ่ายเท่ากับ 432.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.57 ล้าน
บาท เนื่องจาก เนื่องจากมีการซื้อขาดสินค้าขายดีเพื่อจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น และ
มียอดค้างจ่ายของหนังสือขายดีหลายเล่มในช่วงปลายปี
- ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย เท่ากับ 22.63 ล้านบาท ลดลง 13.55 ล้านบาท
เนื่องจากกำไรของ ปี 2547 ลดลง ทำให้ภาษีเงินได้นิติบุคคลของปี 2547 ลดลง
ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม คงเหลือ 515.08 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงลดลงจาก
ต้นปี 50.97 ล้านบาท คิดเป็น 9.00% เนื่องจาก
- มีการซื้อหุ้นคืน จำนวน 19.78 ล้านหุ้น มูลค่าเฉลี่ยต่อหุ้น 6.20 บาท รวมเป็น 122.64
ล้านบาท
- ทุนเรียกชำระแล้วเพิ่มขึ้นจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหุ้นสามัญ โดย
o ผู้ถือหุ้นรายเดิม จำนวน 56.24 ล้านบาท และ
o กรรมการและพนักงาน 2.84 ล้านบาท
- ส่วนเกินมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น 36.56 ล้านบาท จากการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นรายเดิม
4.2 กระแสเงินสด
ตาราง 4: กระแสเงินสดได้มา (ใช้ไป) สำหรับปี 2547 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
(หน่วย : พันบาท)
ม.ค.-ธ.ค. ม.ค.-ธ.ค. เปลี่ยนแปลง
2547 2546 เพิ่มขึ้น (ลดลง) (%)
กำไรสุทธิ 116,962 156,654 (39,692) (25.34)
ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ 64,152 53,709 10,443 19.44
สิทธิการเช่าตัดจ่าย 9,400 8,495 905 10.65
รายการที่ไม่เป็นตัวเงิน 35,378 19,856 15,522 78.17
รายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับ
การดำเนินงาน (1,721) (20,012) 18,291 91.40
กำไรที่เป็นตัวเงินจาก
กิจกรรมดำเนินงาน 224,171 218,702 5,469 2.50
การเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และ
หนี้สินจากการดำเนินงาน (79,285) (53,592) 25,693 47.94
กระแสเงินสดได้มา (ใช้ไป)
ในกิจกรรมดำเนินงาน 144,886 165,110 (20,224) (12.25)
กระแสเงินสดได้มา(ใช้ไป)
ในกิจกรรมการลงทุน (29,372) (10,282) (19,090) 185.67
กระแสเงินสดได้มา(ใช้ไป)
ในกิจกรรมจัดหาเงิน (119,063) (87,339) (31,724) 36.32
กระแสเงินสดเพิ่มขึ้น(ลดลง) (3,549) 67,489 (71,038) (105.26)
กระแสเงินสดได้มาจากการดำเนินงาน ลดลงปีก่อน (20.22) ล้านบาท เนื่องจากใน
ไตรมาส 4 ปี 47 มีการจ่ายเงินมัดจำค่าสิทธิการเช่าสาขาแห่งหนึ่ง จำนวน 27.25 ล้านบาท
กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมการลงทุน ลดลง 19.09 ล้านบาท เนื่องจาก
- ในปี 2547 มีการลงทุนในสิทธิการเช่า จำนวน 2 แห่ง รวมเป็นเงิน 30.53 ล้าน
บาท
- ในปี 2546 มีการขายทรัพย์สินถาวรจำนวน 52.15 ล้านบาท
- เงินสดรับจากการขายเงินลงทุนสุทธิ เพิ่มขึ้น 39.36 ล้านบาท
- ในปี 2546 มีการลงทุนในบริษัทเพลินพัฒน์ จำนวน 23 ล้านบาท
กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน ลดลง 31.72 ล้านบาท เนื่องจาก
- ในปี 2547 จ่ายเงินปันผลรวม 131.82 ล้านบาท (จากผลการดำเนินงานไตรมาส
4/2546 หุ้นละ 0.20 บาท, ไตรมาส 1/2547 หุ้นละ 0.10 บาท, ไตรมาส
2/2547 หุ้นละ 0.10 บาทและไตรมาส 3/2547 หุ้นละ 0.06 บาท) ส่วนในปี
2546 มีการจ่ายเงินปันผลรวม 160.38 ล้านบาท (จากผลการดำเนินงานของปี
2545 ทั้งปี หุ้นละ 0.45 บาท, ไตรมาส 1/2546 หุ้นละ 0.10 บาท, ไตรมาส
2/2546 หุ้นละ 0.10 บาทและไตรมาส 3/2546 หุ้นละ 0.10 บาท) ทำให้ปี
2547 จ่ายเงินปันผลน้อยกว่าปี 2546 รวม 28.56
ล้านบาท
- ในปี 2547 ได้รับเงินจากการแปลงสภาพหุ้นของผู้ถือหุ้นรายเดิมและพนักงาน 95.64
ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากปีก่อน จำนวน 24.77 ล้านบาท โดยในปี 2546 มีการแปลง
สภาพหุ้นของผู้ถือหุ้นรายเดิมและพนักงาน จำนวน 70.87 ล้านบาท
- ในไตรมาส 2/2547 และไตรมาส 3/2547 มีการซื้อหุ้นคืนรวมจำนวน 19.78 ล้านหุ้น
มูลค่าเฉลี่ยต่อหุ้น 6.20 บาท รวมเป็น 122.64 ล้านบาท
ลงลายมือชื่อ.......................
(นายทนง โชติสรยุทธ์)
กรรมการผู้จัดการ
1. ภาพรวม
ในภาพรวมของธุรกิจหนังสือ ยังคาดว่าน่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องด้วยตัวเลข 2 หลัก
ไปอีกหลายปี ดังนั้นบริษัทฯ จึงยังคงเน้นการเปิดร้านหนังสือเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ และเพิ่มบทบาทใน
ฐานะผู้จัดจำหน่ายหนังสือแก่สำนักพิมพ์อื่นมากขึ้นให้สอดคล้องกัน ส่วนบทบาทของสำนักพิมพ์นั้น
บริษัทฯ ยังคงเน้นการผลิตหนังสือที่มีคุณภาพ มีอายุยาว และมีขนาดตลาดใหญ่เพียงพอ โดยไม่เน้น
การเพิ่มจำนวนชื่อเรื่องมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในทั้งสามส่วนธุรกิจนี้ บริษัทฯ สามารถรักษาความเป็น
รายใหญ่ที่สุดได้อย่างชัดเจนในธุรกิจร้านหนังสือ และผู้จัดจำหน่ายหนังสือ ส่วนในธุรกิจสำนักพิมพ์
บริษัทฯ ยังคงบทบาท 1 ใน 2 รายใหญ่ที่สุดไว้ได้
ในปี 2547 บริษัทฯ เปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 30 สาขา ทำให้สิ้นปี 2547 บริษัทฯ มีร้าน
หนังสือซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ Book Variety และเครือข่ายในรูปแบบต่างๆ กัน ที่ยังเปิดดำเนินการ
อยู่รวม 168 สาขา และมีจุดขายย่อยอีกรวมเป็นจุดขายทั้งสิ้น 330 จุดขาย
จากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ชะลอตัวลงตั้งแต่ช่วงกลางปี 2547 อันเป็น
ผลมาจากการปรับราคาของน้ำมันในประเทศอย่างต่อเนื่อง ภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น การ
กลับมาแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก รวมทั้งปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ และภัยพิบัติจาก
ธรรมชาติคลื่นยักษ์สึนามิ ซึ่งปัจจัยเชิงลบเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของประชาชน
โดยเฉพาะนโยบายการประหยัดพลังงานของรัฐบาล ที่กำหนดเวลาปิดของห้างสรรพสินค้า
และดิสเคาท์สโตร์ ให้เร็วขึ้น ส่งผลให้รายได้จากการขายของสาขาเดิมของซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ
Book Variety ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 เติบโตในอัตราที่ลดลง ส่งผลให้อัตราการเพิ่ม
ขึ้นของรายได้จากการขายทั้งปี ต่ำกว่าประมาณการที่คาดไว้เล็กน้อย
ผลการดำเนินงานสำหรับปี 2547 บริษัทฯ มีกำไรที่เป็นตัวเงินจากกิจกรรมดำเนินงาน
(ตามงบกระแสเงินสด) เป็นเงิน 224.17 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5.47 ล้าน
บาท คิดเป็น 2.50% ขณะที่กำไรสุทธิ (ตามงบกำไรขาดทุน) สำหรับปี 2547 เป็นเงิน 116.96
ล้านบาท คิดเป็น 4.10% ต่อรายได้รวม โดยลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 39.69 ล้านบาท
คิดเป็น 25.34% หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.41 บาท บริษัทฯ มีรายได้รวมสำหรับปี 2547
จำนวน 2,856.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน เท่ากับ 426.38 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น
17.55%
ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ปี 2547 บริษัทฯ มีกำไรที่เป็นตัวเงินจากกิจกรรม
ดำเนินงาน (ตามงบกระแสเงินสด) เป็นเงิน 62.62 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี
ก่อน 0.57 ล้านบาท คิดเป็น 0.90% ขณะที่กำไรสุทธิสำหรับ (ตามงบกำไรขาดทุน) ไตรมาสที่ 4
ปี 2547 เป็นเงิน 36.65 ล้านบาท คิดเป็น 4.78% ต่อรายได้รวม โดยลดลงจากงวดเดียวกัน
ของปีก่อน 22.12 ล้านบาท คิดเป็น 37.64% หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.12 บาท บริษัทฯ มีราย
ได้รวมสำหรับไตรมาส 4/2547 จำนวน 766.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน
79.99 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น 11.65% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ของร้านซี
เอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ Book Variety นอกจากนี้สายงานวารสาร ยังทำรายได้เพิ่มขึ้นอีก
14.19% จากปีก่อน
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2547 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2547 ได้มีมติให้
บริษัทฯ ซื้อหุ้นคืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบริหารทางการเงิน เนื่องจากบริษัทฯ มีสภาพ
คล่องส่วนเกิน ในไตรมาส 3/2547 บริษัทฯ ได้สิ้นสุดการซื้อหุ้นคืน โดยมีการซื้อหุ้นคืนทั้งสิ้น
จำนวน 19.78 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 122.64 ล้านบาท ราคาซื้อหุ้นคืนเฉลี่ย 6.20 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายการจำหน่ายหุ้นสามัญซื้อคืนไว้ไม่เกิน 3 ปี นับจากที่มีการซื้อหุ้นคืน
เสร็จสิ้น
บริษัทฯ ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 มกราคม 2547 ถึง
วันที่ 31 ธันวาคม 2547 ในอัตรา 0.288 บาทต่อหุ้น จากกำไรส่วนที่บริษัทฯ มิได้รับยกเว้นภาษี
เงินได้นิติบุคคล โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานของ 3 ไตร
มาสแรกในปี 2547 ไปแล้วเป็นเงิน 0.26 บาทต่อหุ้น ดังนั้นบริษัทจะจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมอีกใน
อัตราหุ้นละ 0.028 บาท
สืบเนื่องจากเมื่อเดือนตุลาคม 2547 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด
หลักทรัพย์ (สำนักงาน กลต.) ได้มีหนังสือเวียน พร้อมด้วยบันทึกสำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกา ซึ่งพิจารณาประเด็นการซื้อหุ้นคืน และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548 สำนักงาน กลต. ได้มี
หนังสือเวียนพร้อมแนวปฏิบัติจากสภาวิชาชีพบัญชี ให้บริษัทฯ ดำเนินการกันกำไรสะสมไว้เป็น
เงินสำรองเท่ากับจำนวนเงินที่ได้จ่ายซื้อหุ้นคืน จากการตีความและแนวปฏิบัติดังกล่าว ซึ่ง
เกิดขึ้นภายหลังการดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัทฯ ได้แล้วเสร็จแล้วนั้น บริษัทฯ จึง
จำเป็นต้องกันกำไรสะสมเป็นสำรองเพื่อซื้อหุ้นคืนเป็นจำนวน 122.64 ล้านบาท เพื่อให้เพียงพอ
ต่อมูลค่าที่บริษัทฯได้จ่ายซื้อหุ้นคืนมา ตามหนังสือเวียน กลต. ทำให้บริษัทฯ เหลือกำไรสะสมที่จะ
จ่ายปันผลได้เหลือเพียง 8.69 ล้านบาทเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม เงินสำรองดังกล่าว จะสามารถ
นำกลับมาเป็นกำไรสะสมยังไม่จัดสรรได้ในกรณีต่อไปนี้
1. บริษัทฯ ได้จำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนได้หมดแล้ว หรือ
2. บริษัทฯ ดำเนินการลดทุน หากบริษัทฯ ไม่สามารถจำหน่ายหุ้นซื้อคืนได้หมด
ภายใน 3 ปี (สิ้นสุดวันที่11 กันยายน 2550)
2. ภาพรวมธุรกิจ
บริษัทฯ ประกอบธุรกิจหลัก 3 ส่วน คือ
2.1 ธุรกิจร้านหนังสือ โดยเป็นผู้ดำเนินงานร้าน ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ Book
Variety ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมทั้งการขยายตัวในลักษณะเครือข่าย และการ
บริหารพื้นที่ขายในรูปแบบต่างๆ
2.2 ธุรกิจรับจัดจำหน่ายหนังสือ โดยจัดจำหน่ายให้กับหนังสือของบริษัทฯ เอง และ
สำนักพิมพ์อื่น เพื่อจำหน่ายให้กับร้านหนังสือทั่วไป และช่องทางการขายอื่นๆ
2.3 ธุรกิจสำนักพิมพ์ โดยผลิตหนังสือ และวารสารเชิงวิชาการ และสาระความรู้ รับจ้าง
โฆษณาเพื่อจัดลงในวารสารรายเดือนที่บริษัทฯ ผลิตขึ้น รับจ้างพิมพ์หนังสือ และเป็นผู้จัดงาน
ประจำปี Thailand Electronics & Industrial Technology
ธุรกิจร้านหนังสือ
บริษัทฯ ยังคงขยายร้านหนังสือของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง และรักษาความเป็นร้าน
หนังสือที่มีจำนวนสาขามากที่สุด และมียอดขายรวมสูงสุด ได้อยู่ โดยในไตรมาส 4/2547
บริษัทฯ ได้เปิดสาขาของร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ เพิ่มขึ้นจำนวน 11 สาขา ได้แก่ คาร์ฟูร์
หาดใหญ่, โลตัส สกลนคร, Index Living Mall ภูเก็ต, โลตัส พระราม 1, เสริมไทย
พลาซ่า มหาสารคาม, โอเชี่ยน ชุมพร, แฟรี่แลนด์ นครสวรรค์, เจริญภัณฑ์ พะเยา, ตึกคอม
พัทยา, SK ชอปปิ้ง พาร์ค อุบลราชธานี และตึกคอม โฆษะ ขอนแก่น รวมเป็นสาขาที่เปิดไปแล้ว
รวม 174 สาขา โดยเป็นสาขาที่ยังเปิดดำเนินงานอยู่จำนวน 168 สาขา ซึ่งได้รวมร้านเครือข่ายที่
ยังเปิดดำเนินงาน 6 ร้านเครือข่าย นอกจากนี้ยังมีจุดขายย่อยในโลตัสเอ็กซเพรส โลตัส บิ๊กซี
คาร์ฟูร์ เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2547 อีก จำนวน 15 จุด และอื่นๆ รวมเป็นจุดขายที่เปิดไปแล้ว
ทั้งสิ้น 330 จุดขาย นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับปรุงร้านสาขาเดิม ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันยอด
ขายอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจรับจัดจำหน่ายหนังสือ
บริษัทฯ มีบทบาทเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยรับจัดจำหน่ายให้กับ
สำนักพิมพ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เนชั่นบุ๊คส์,
กู้ดมอร์นิ่ง, โปรวิชั่น, สำนักพิมพ์รักลูก, รีดเดอร์ไดเจสท์, เพียร์สันเอ็ดดูเคชั่น อินโดไชน่า,
เวิร์คพอยท์, สำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก, กันตนาพับลิชชิ่ง เป็นต้น โดยจัดจำหน่ายหนังสือผ่านร้านซี
เอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ Book Variety ร้านหนังสืออื่น และสถาบันการศึกษา โดยบริษัทฯ ได้
คัดเลือกหนังสือรับจัดจำหน่ายปกใหม่ ให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด เพื่อทำให้สินค้า
หลักของบริษัทฯ มีวงจรชีวิตอยู่ในตลาดยาวนาน และสามารถทำกำไรในระยะยาวได้ นอกจากนี้
บริษัทฯ ยังเพิ่มการซื้อขาดสินค้าที่เห็นว่ามีโอกาสการขายสูง เพื่อให้ได้รับส่วนลดจากซัพพลาย
เออร์มากขึ้น
ธุรกิจสำนักพิมพ์
บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการกำหนดทิศทาง การวางแผนผลิตสินค้าให้ตรงตามความ
ต้องการของตลาด มีอายุสินค้ายาวนาน และมีขนาดตลาดมากเพียงพอ โดยไม่เน้นการเพิ่มจำนวนชื่อ
เรื่องที่ผลิต และเน้นการพัฒนาเครื่องมือ และเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สามารถ
กระจายสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เหมาะสมขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าที่บริษัทฯ ผลิตมี
โอกาสประสบความสำเร็จได้สูงขึ้น
3. ผลการดำเนินงาน
3.1 ผลการดำเนินงานของปี 2547 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ตาราง 1 : ผลการดำเนินงานของปี 2547 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
(หน่วย:พันบาท)
ม.ค.-ธ.ค. ม.ค.-ธ.ค. เปลี่ยนแปลง
2547 2546 เพิ่มขึ้น(ลดลง) (%)
รายได้จากการขาย 2,833,648 2,376,739 456,909 19.22
รายได้อื่น 21,116 52,818 (31,702) (60.02)
ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม 1,576 403 1,173 290.93
รวมรายได้ 2,856,340 2,429,960 426,380 17.55
ต้นทุนขาย 1,980,970 1,624,057 356,913 21.98
ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร 708,076 591,678 116,398 19.67
กำไรขั้นต้น 852,678 752,682 99,996 13.28
อัตรากำไรขั้นต้น (%) 30.09 31.67 - (1.58)
กำไรจากการดำเนินงานก่อน
ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่าย
ตัดจ่าย (EBITDA) 240,847 276,430 (35,583) (12.87)
กำไรที่เป็นตัวเงินจากกิจกรรม
ดำเนินงานจากงบกระแสเงินสด 224,171 218,702 5,469 2.50
กำไรสุทธิ 116,962 156,654 (39,692) (25.34)
กำไรสุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.41 0.73 (0.32) (43.83)
รายได้รวมสำหรับ ปี 2547 บริษัทฯ มีรายได้รวมสำหรับปี 2547 เป็นเงิน 2,856.34
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 426.38 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น 17.55% โดยในจำนวนนี้เป็นรายได้จาก
การขาย 2,833.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 456.91 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น 19.22% ซึ่งส่วน
ใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ของร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ Book Variety ซึ่งเพิ่มขึ้น
22.48% แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อันเป็นผลมาจากการขึ้นราคา
น้ำมัน และจากนโยบายประหยัดพลังงานของรัฐบาล ที่กำหนดเวลาปิดดำเนินการของห้างดิส
เคาท์สโตร์เร็วกว่าปกติ ในช่วงไตรมาส 3/2547 และได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิ
ในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม ในปี 2547 ยอดขายของสาขาเดิมมีอัตราการเติบโตประมาณ
10% ส่วนที่เหลือเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้จากสาขาใหม่ ที่เปิดเพิ่มขึ้นในปี 2547 จำนวน 30
สาขา
กำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานในกิจกรรมการดำเนินงานหลัก ไม่รวมรายได้อื่นๆ สำหรับ
ปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2547 เป็นเงิน 144.60 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 16.40 ล้านบาท
หรือคิดเป็นลดลง 10.19% (ปี 2546 กำไรจากการดำเนินงานหลัก เป็นเงิน 161.0 ล้านบาท)
สาเหตุที่ลดลงเนื่องจาก
- ต้นทุนขาย เพิ่มขึ้น 356.91 ล้านบาท คิดเป็น 21.98% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเพิ่มขึ้น
ของยอดขาย สืบเนื่องจากมีสัดส่วนการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นน้อยเป็นจำนวนมาก
ขึ้น เช่น หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อย
- ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 116.40 ล้านบาท
คิดเป็น 19.67% ซึ่งอัตราการเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับอัตราการเพิ่มขึ้นของยอดขายโดย
สาเหตุที่ค่าใช้จ่ายขายและบริหารเพิ่มขึ้น เกิดจาก
o ในปี 2547 มีการขยายสาขาของร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ Book
Variety เพิ่มขึ้นจำนวน 30 สาขา ซึ่งยอดขายของสาขาใหม่ยังต้องใช้
ระยะเวลาหนึ่งกว่าจะเพิ่มขึ้นถึงระดับที่จะทำกำไรได้ จึงทำให้สัดส่วนค่าใช้
จ่ายในการขายและบริหารมีสัดส่วนสูงขึ้นใกล้เคียงกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น
o มีการลงทุนปรับปรุงสาขาเดิมให้ทันสมัยขึ้น และมีการลงทุนกิจกรรม
ทางการตลาดเพื่อสร้างฐานลูกค้าระยะยาว รวมถึงมีการขยายหน่วยงาน
บางส่วน และการลงทุนในระบบฮาร์ดแวร์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการขึ้นระบบงาน
ใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต จึงส่งผลทำให้ค่าใช้จ่ายในการขาย
และบริหารมีสัดส่วนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับยอดขาย
เมื่อนำรายได้อื่นมาพิจารณาด้วยจะพบว่า บริษัทฯ มีรายได้อื่น ที่ไม่เกี่ยวกับการ
ดำเนินงานตามปกติ (non operation) ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 31.70 ล้านบาท คิด
เป็นลดลง 60.02% รายได้อื่นดังกล่าว ได้แก่
o กำไรจากการขายทรัพย์สินจำนวน 19.42 ล้านบาท
o รายได้เงินปันผลและกำไรจากการขายเงินลงทุนชั่วคราว ลดลงจากปี
ก่อน จำนวน 5.28 ล้านบาท
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้ในปี 2547 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิลดลงจากปี 2546
โดยกำไรสุทธิปี 2547 เป็นเงิน 116.96 ล้านบาท คิดเป็น 4.10% ต่อรายได้รวม หรือคิด
เป็นกำไรต่อหุ้น 0.41บาท (ปี 2546 กำไรสุทธิสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2546 เป็น
156.65 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6.45% ต่อรายได้รวม หรือมีกำไรสุทธิหุ้นละ 0.73 บาท) ซึ่ง
ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 39.69 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 25.34%
กำไรจากกิจกรรมหลักที่เป็นตัวเงินตามงบกระแสเงินสด สำหรับปี 2547 เท่ากับ 224.17
ล้านบาท คิดเป็น 7.85% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.47 ล้านบาท คิดเป็น 2.50%
(กำไรจากกิจกรรมหลักที่เป็นตัวเงินสำหรับปี 2546 เท่ากับ 218.70 ล้านบาท คิดเป็น
9.0%) ในขณะที่รายได้รวมเพิ่มขึ้นถึง 426.38 ล้านบาท คิดเป็น 17.55% แต่กำไรสุทธิลดลง
ซึ่งเกิดจากรายการที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานตามปกติ (non operation) โดยสาเหตุหลัก
เกิดจากในปี 2546 มีรายได้เงินปันผลและกำไรจากการขายเงินลงทุนชั่วคราวลดลงจากปี
ก่อน จำนวน 5.28 ล้านบาท และในปีก่อนมีกำไรจากการขายทรัพย์สินจำนวน 19.42 ล้าน
บาท
3.2 ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี2547 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ตาราง 2: ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี2547 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
(หน่วย : พันบาท)
ต.ค.-ธ.ค. ต.ค.-ธ.ค. เปลี่ยนแปลง
2547 2546 เพิ่มขึ้น (ลดลง) (%)
รายได้จากการขาย 761,879 662,537 99,342 14.99
รายได้อื่น 4,442 23,794 (19,352) (81.33)
รวมรายได้ 766,321 686,331 79,990 11.65
ต้นทุนขาย 533,259 444,014 89,245 20.10
ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร 180,442 159,267 21,175 13.30
ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม 162 1,816 (1,654) (91.08)
กำไรขั้นต้น 228,620 218,522 10,098 (4.62)
อัตรากำไรขั้นต้น (%) 30.01 32.98 - (2.98)
กำไรจากการดำเนินงานก่อน
ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่าย
ตัดจ่าย (EBITDA) 72,012 98,129 (26,117) (26.52)
กำไรที่เป็นตัวเงินจากกิจกรรม
ดำเนินงานจากงบกระแสเงินสด 62,617 63,187 (570) (0.90)
กำไรสุทธิ 36,648 58,766 (22,118) (37.64)
กำไรสุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.12 0.27 (0.15) (55.56)
รายได้รวมสำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2547 เป็นเงิน 766.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.99 ล้าน
บาท หรือเติบโตสูงขึ้น 11.65% โดยในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการขาย 761.88 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 99.34 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น 14.99% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้
ของร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ Book Variety ซึ่งเพิ่มขึ้น 21.34% ซึ่งเกิดจากยอดขายที่
เพิ่มขึ้นของสาขาเดิม ยอดขายจากสาขาที่เปิดใหม่ และยอดขายจากการเปิดจุดขายย่อยเพิ่มขึ้น
และรายได้จากสายงานวารสารของบริษัทฯ รวมเพิ่มขึ้นประมาณ 14.19%
กำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2547 เป็นเงิน 36.65 ล้านบาท คิดเป็น 4.78% ต่อ
รายได้รวม หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.12 บาท (ปี 2546 กำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 4
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2546 เป็น 58.77 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.56% ต่อรายได้รวม
หรือมีกำไรสุทธิหุ้นละ 0.27 บาท) โดยกำไรสำหรับงวดนี้ ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน
22.12 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 37.64% เกิดจากสาเหตุเดียวกันกับงวดปี 2546 มีกำไรจากการ
ขายทรัพย์สิน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ปี 2546
อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 4 ปี 2547 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 2547 เป็น
เงิน 16.98 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 86.33% สืบเนื่องจากบริษัทฯ สามารถขายสินค้าจากการ
รับจัดจำหน่ายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นดีของบริษัทดีขึ้น
4. ฐานะทางการเงิน
4.1 ส่วนประกอบของสินทรัพย์
ตาราง 3: ส่วนประกอบของสินทรัพย์ (บางส่วน)
31 ธันวาคม 2547 31 ธันวาคม 2546 เพิ่มขึ้น (ลดลง)
จำนวนเงิน % ต่อ จำนวนเงิน % ต่อ จำนวนเงิน %
(พันบาท) สินทรัพย์รวม (พันบาท) สินทรัพย์รวม (พันบาท)
เงินสดและรายการ
เทียบเท่าเงินสด 142,825 12.89 146,375 13.24 (3,550) (2.42)
เงินลงทุนชั่วคราว-
สุทธิ 161,939 14.62 257,050 23.26 (95,111) (37.00)
ลูกหนี้การค้าและตั๋ว
เงินรับ-สุทธิ 83,741 7.56 79,114 7.16 4,627 5.85
สินค้าคงเหลือ-สุทธิ 153,489 13.86 137,212 12.42 16,277 11.86
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 569,410 51.40 642,662 58.15 (73,252) (11.40)
เงินลงทุนในบริษัทย่อย
และบริษัทร่วม 34,837 3.14 33,961 3.07 876 2.58
ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์-
สุทธิ 241,943 21.84 221,894 20.08 20,049 9.04
สิทธิการเช่าอาคาร
-สุทธิ 139,969 12.63 118,835 10.75 21,134 17.78
รวมสินทรัพย์ไม่
หมุนเวียน 538,397 48.60 462,513 41.85 75,884 16.41
สินทรัพย์รวม 1,107,807 100.00 1,105,175 100.00 2,632 0.24
ด้านสินทรัพย์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 บริษัทฯ มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 1,107.81 ล้าน
บาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 2.63 ล้านบาท สาเหตุการเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนของสินทรัพย์รวมดังกล่าว
เป็นผลมาจาก
- เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดคงเหลือ ณ สิ้นปี 2547 เท่ากับ 142.83 ล้านบาท
ลดลง 3.55 ล้านบาท
- เงินลงทุนชั่วคราว-สุทธิ ลดลง 95.11 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ขายเงินลงทุนเพื่อนำ
เงินมาจ่ายเงินปันผล และซื้อหุ้นคืน
- สินค้าคงเหลือ-สุทธิ เพิ่มขึ้น 16.28 ล้านบาท เนื่องจากซื้อขาดสินค้าเพื่อขายที่สาขา
เพิ่มขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นตามจำนวนของสาขาที่เพิ่มขึ้น
- ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ คงเหลือ ณ เพิ่มขึ้น 20.08 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้น
ของ อุปกรณ์ตกแต่ง ชั้นเก็บสินค้าสาขาและ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
- สิทธิการเช่าอาคาร-สุทธิ เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 21.13 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2547 มีการ
ทำสัญญาสิทธิการเช่าของสาขา จำนวน 2 แห่ง
- เงินค้ำประกันการเช่าและเงินมัดจำ เพิ่มขึ้น 33.89 ล้านบาท จากการจ่ายเงินมัดจำสิทธิ
การเช่าของสาขาแห่งหนึ่งมูลค่า 30.22 ล้านบาท
ด้านหนี้สิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 บริษัทฯ มีหนี้สินทั้งสิ้น 592.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
จากสิ้นปีก่อน 53.60 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจาก
- เงินเบิกเกินบัญชี เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 39.76 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงปลายปี
มีการจ่ายเงินมัดจำสิทธิการเช่า ของสาขาแห่งหนึ่ง จำนวน 27.25 ล้านบาท
และเนื่องจากมีการจ่ายเช็คลงวันที่ช่วงปลายปี ซึ่งเป็นวันหยุดติดต่อกันหลาย
วันเจ้าหนี้จึงขึ้นเงินไม่ทัน
- เจ้าหนี้การค้าและตั๋วเงินจ่ายเท่ากับ 432.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.57 ล้าน
บาท เนื่องจาก เนื่องจากมีการซื้อขาดสินค้าขายดีเพื่อจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น และ
มียอดค้างจ่ายของหนังสือขายดีหลายเล่มในช่วงปลายปี
- ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย เท่ากับ 22.63 ล้านบาท ลดลง 13.55 ล้านบาท
เนื่องจากกำไรของ ปี 2547 ลดลง ทำให้ภาษีเงินได้นิติบุคคลของปี 2547 ลดลง
ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม คงเหลือ 515.08 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงลดลงจาก
ต้นปี 50.97 ล้านบาท คิดเป็น 9.00% เนื่องจาก
- มีการซื้อหุ้นคืน จำนวน 19.78 ล้านหุ้น มูลค่าเฉลี่ยต่อหุ้น 6.20 บาท รวมเป็น 122.64
ล้านบาท
- ทุนเรียกชำระแล้วเพิ่มขึ้นจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหุ้นสามัญ โดย
o ผู้ถือหุ้นรายเดิม จำนวน 56.24 ล้านบาท และ
o กรรมการและพนักงาน 2.84 ล้านบาท
- ส่วนเกินมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น 36.56 ล้านบาท จากการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นรายเดิม
4.2 กระแสเงินสด
ตาราง 4: กระแสเงินสดได้มา (ใช้ไป) สำหรับปี 2547 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
(หน่วย : พันบาท)
ม.ค.-ธ.ค. ม.ค.-ธ.ค. เปลี่ยนแปลง
2547 2546 เพิ่มขึ้น (ลดลง) (%)
กำไรสุทธิ 116,962 156,654 (39,692) (25.34)
ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ 64,152 53,709 10,443 19.44
สิทธิการเช่าตัดจ่าย 9,400 8,495 905 10.65
รายการที่ไม่เป็นตัวเงิน 35,378 19,856 15,522 78.17
รายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับ
การดำเนินงาน (1,721) (20,012) 18,291 91.40
กำไรที่เป็นตัวเงินจาก
กิจกรรมดำเนินงาน 224,171 218,702 5,469 2.50
การเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และ
หนี้สินจากการดำเนินงาน (79,285) (53,592) 25,693 47.94
กระแสเงินสดได้มา (ใช้ไป)
ในกิจกรรมดำเนินงาน 144,886 165,110 (20,224) (12.25)
กระแสเงินสดได้มา(ใช้ไป)
ในกิจกรรมการลงทุน (29,372) (10,282) (19,090) 185.67
กระแสเงินสดได้มา(ใช้ไป)
ในกิจกรรมจัดหาเงิน (119,063) (87,339) (31,724) 36.32
กระแสเงินสดเพิ่มขึ้น(ลดลง) (3,549) 67,489 (71,038) (105.26)
กระแสเงินสดได้มาจากการดำเนินงาน ลดลงปีก่อน (20.22) ล้านบาท เนื่องจากใน
ไตรมาส 4 ปี 47 มีการจ่ายเงินมัดจำค่าสิทธิการเช่าสาขาแห่งหนึ่ง จำนวน 27.25 ล้านบาท
กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมการลงทุน ลดลง 19.09 ล้านบาท เนื่องจาก
- ในปี 2547 มีการลงทุนในสิทธิการเช่า จำนวน 2 แห่ง รวมเป็นเงิน 30.53 ล้าน
บาท
- ในปี 2546 มีการขายทรัพย์สินถาวรจำนวน 52.15 ล้านบาท
- เงินสดรับจากการขายเงินลงทุนสุทธิ เพิ่มขึ้น 39.36 ล้านบาท
- ในปี 2546 มีการลงทุนในบริษัทเพลินพัฒน์ จำนวน 23 ล้านบาท
กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน ลดลง 31.72 ล้านบาท เนื่องจาก
- ในปี 2547 จ่ายเงินปันผลรวม 131.82 ล้านบาท (จากผลการดำเนินงานไตรมาส
4/2546 หุ้นละ 0.20 บาท, ไตรมาส 1/2547 หุ้นละ 0.10 บาท, ไตรมาส
2/2547 หุ้นละ 0.10 บาทและไตรมาส 3/2547 หุ้นละ 0.06 บาท) ส่วนในปี
2546 มีการจ่ายเงินปันผลรวม 160.38 ล้านบาท (จากผลการดำเนินงานของปี
2545 ทั้งปี หุ้นละ 0.45 บาท, ไตรมาส 1/2546 หุ้นละ 0.10 บาท, ไตรมาส
2/2546 หุ้นละ 0.10 บาทและไตรมาส 3/2546 หุ้นละ 0.10 บาท) ทำให้ปี
2547 จ่ายเงินปันผลน้อยกว่าปี 2546 รวม 28.56
ล้านบาท
- ในปี 2547 ได้รับเงินจากการแปลงสภาพหุ้นของผู้ถือหุ้นรายเดิมและพนักงาน 95.64
ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากปีก่อน จำนวน 24.77 ล้านบาท โดยในปี 2546 มีการแปลง
สภาพหุ้นของผู้ถือหุ้นรายเดิมและพนักงาน จำนวน 70.87 ล้านบาท
- ในไตรมาส 2/2547 และไตรมาส 3/2547 มีการซื้อหุ้นคืนรวมจำนวน 19.78 ล้านหุ้น
มูลค่าเฉลี่ยต่อหุ้น 6.20 บาท รวมเป็น 122.64 ล้านบาท
ลงลายมือชื่อ.......................
(นายทนง โชติสรยุทธ์)
กรรมการผู้จัดการ
- อึ้งกิมกี่
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 23
-
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 24
ผมเล็งไว้นานแล้วครับเห็นราคาลงมาพอสมควรก็เลยเก็บไว้ส่วนหนึ่ง แต่ถามว่ามี margin of safety ไหม..ผมว่ายังไม่มากพอ แต่เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตได้อีกมาก
และรายได้น่าจะดีขึ้นจากการขยายสาขา ถ้าไม่ขยายคงสู้พวก B2S ไม่ได้
และรายได้น่าจะดีขึ้นจากการขยายสาขา ถ้าไม่ขยายคงสู้พวก B2S ไม่ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 26
ผมขายทิ้งหมดตั้งแต่Q2ที่6บาท
เริ่มซื้อที่5.05 เพราะQ4กำไรเริ่มใช้ได้
ถ้าQ1กำไรดี ซื้อเพิ่มอีกไม่ว่าราคาจะสูงหรือต่ำกว่า5บาท
เริ่มซื้อที่5.05 เพราะQ4กำไรเริ่มใช้ได้
ถ้าQ1กำไรดี ซื้อเพิ่มอีกไม่ว่าราคาจะสูงหรือต่ำกว่า5บาท
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
- อึ้งกิมกี่
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 27
หุหุหุ หุ้นดีแต่ตลาดไม่เป็นใจ รออีกหน่อยก็ดีครับ จะได้ของถูกกว่า (รอคุณมือเก่าฯมาให้สัญญาณ )
-
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 28
ผมคิดว่ารายใหญ่ส่วนมากได้วอร์ฟรี แปลว่าต้นทุนยังต่ำกว่าราคาตลาดมาก
กองทุนชื่อไทย แต่เล่นให้ฝรั่งรายหนึ่งก็เน้นชักชวนให้บริษัทออกวอร์ครับ
กองทุนชื่อไทย แต่เล่นให้ฝรั่งรายหนึ่งก็เน้นชักชวนให้บริษัทออกวอร์ครับ
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 29
ของดีมีที่ไหน ก็ต้องไปไขว่คว้ามากอดไว้ครับjaychou เขียน:อ้าว ท่านซีอีโอ อยู่ละแวกนี้เหรอครับ โดนเป๊ะเลย
เอ...เคยอ่านว่าท่านอยู่ย่านแจ้งวัฒนะ
นี่แค่ไปพิสูจน์เฉยๆครับ
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
-
- Verified User
- โพสต์: 160
- ผู้ติดตาม: 0
มีใคร favor SE-ED ที่แถวๆ 5-5.05บาทนี้บ้างครับ
โพสต์ที่ 30
FEAR FACTOR OF SE-ED = REMAINING WARRANTS