มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
kmphol
Verified User
โพสต์: 417
ผู้ติดตาม: 0

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 31

โพสต์

kornjackrit เขียน:
TDEX กองทุน ETF ดัชนี SET 50 เขาก็มีการ เอาหุ้น เข้าออก ทุก 6 เดือน เหมือน SET 50ครับ แต่เกณฑ์ การคัดเลือกหุ้น คงไม่ใช่เอาหุ้นที่มีผลขาดทุนออก
แต่ดูเกณฑ์ เรื่องสภาพคล่องเป็นหลัก ครับ

บริษัทที่ขาดทุนเรื้อรัง ไม่เคยปันผล อย่าง TRUE ก็ยังอยู่ใน SET 50 มาได้ตลอดครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 32

โพสต์

:D
ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
ภาพประจำตัวสมาชิก
kmphol
Verified User
โพสต์: 417
ผู้ติดตาม: 0

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 33

โพสต์

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

อันนี้ผมคิดว่า ควรเพิ่มเติมให้ถูกต้องสมบูรณ์กว่า ดังนี้

การลงทุนมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนสูงมาก

ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล อย่างละเอียดลึกซึ้งรอบด้านด้วยความรอบคอบ

ก่อนตัดสินใจลงทุน มิฉะนั้นอาจขาดทุนได้อย่างไม่คาดคิด
lam
Verified User
โพสต์: 160
ผู้ติดตาม: 0

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 34

โพสต์

ซื้อหุ้นตามบทวิเคราะห์ :vm:
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 35

โพสต์

:D
ผมขอเสนอความเชื่ออื่นๆเกี่ยวกับตลาดหุ้นบ้างนะครับ


" ตลาดหุ้นเป็นของคนรวย คนจนไม่ควรเข้าไปยุ่ง "

" ตลาดหุ้น คือ บ่อนการพนันที่ถูกกฎหมาย "



ความเชื่อเหล่านี้ ท่านอื่นคิดว่าถูกหรือผิด หรือไม่อย่างไรครับ :?:  :?:
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
ภาพประจำตัวสมาชิก
sai
Verified User
โพสต์: 4090
ผู้ติดตาม: 2

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 36

โพสต์

ของผมเอาไรดี  คนจนเล่นหวย  คนรวยเล่นหุ้น  นายทุนเล่นที่ สุภาพสตรีเล่นตัว  ล่ะกัน
Small Details Make a Big Difference
ภาพประจำตัวสมาชิก
numyak
Verified User
โพสต์: 639
ผู้ติดตาม: 0

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ไทม์มิ่ง :roll:
pat4310
Verified User
โพสต์: 732
ผู้ติดตาม: 0

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 38

โพสต์

ผมว่าทุกข้อสรุปล้วนมีเหตุของมัน ถ้าคนที่เอาข้อสรุปมาใช้ไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นเหตุให้สรุปอย่างนั้น เวลาเอามาใช้อย่างผิดๆ ถูก

ยกตัวอย่างทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ สองทฤษฎีอธิบายเรื่องเดียวกัน แต่มีได้ข้อสรุปไม่เหมือนกัน ถามว่าใครผิด ใครถูกคำตอบคือ ไม่มีเพราะทั้งสองทฤษฎีมีสมมติฐานที่ต่างกัน เมื่อเหตุต่าง ผลก็ต่าง

ทีนี้ก็อยู่ที่คนนำมาใช้แล้วล่ะว่าจะเลือกทฤษฎีใดมาใช้ให้เหมาะกับสภาพปัจจุบันมากที่สุด เลยเป็นเหตุผลที่นักเศรษฐศาสตร์ใช้เวลาเยอะมากในการหาว่าทำไมตัวเองถึงทำนายผิด ก็เพราะเหตุมันเปลี่ยนตลอดเวลานั่นเอง ที่เห็นชัดๆ เลยคือ ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจไม่เคยเกิดด้วยเหตุผลเดิมเลยซักครั้ง แม้ว่าผลจะเหมือนกัน แต่เหตุต่างกัน ทางแก้ย่อมต่างกันไปด้วย

สรุปเป็นธรรมนะซะหน่อยว่า เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ก็มี เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้ก็เกิดขึ้น เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็ไม่มี เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้ก็ดับ
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
kmphol
Verified User
โพสต์: 417
ผู้ติดตาม: 0

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 39

โพสต์

การลงทุนก็เหมือนกับการออม แต่เป็นการออมไว้ในหุ้น

ผมคิดว่าการลงทุน ไม่ใช่การออมครับ
การออม คือ การเอาเงิน  ไปเก็บไว้ในที่ซึ่งปลอดภัย โอกาสขาดทุนเงินต้นต่ำ โดยได้รับผลตอบแทนในอัตราที่ค่อนข้างแน่นอน ภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ เช่น ฝากเงิน ซื้อพันธบัตรรัฐบาล

แต่ การลงทุน คือ การเอาเงิน  ไปเก็บไว้ในที่ซึ่งมีความเสี่ยง โอกาสขาดทุนเงินต้นสูง โดยได้รับผลตอบแทนในอัตราที่ไม่แน่นอน ภายในระยะเวลาที่กำหนดไม่ได้ เช่น ซื้อหุ้น ซื้อทอง ซื้อที่ดิน

การออมจึงเป็นเกมแห่งระยะเวลา ยิ่งออมนาน ยิ่งรวย
แต่ การลงทุน เป็น เกมแห่งการเลือกการลงทุน และ จังหวะเวลาในการลงทุน ระยะเวลาลงทุน ยาว สั้น ไม่ใช่ประเด็นในการกำหนดผลตอบแทน

ออมก่อน จึงรวยกว่า ยิ่งออมนาน ยิ่งรวย( แต่รวยมาก รวยน้อย มันคนละประเด็นนะครับ)
ลงทุนก่อน อาจรวยหรือจน กว่าก็ได้ ยิ่งลงทุนยาว อาจรวยหรือจนกว่า ลงทุนสั้น ก็ได้
แต่ถ้าลงทุนถูกประเภทและถูกจังหวะเวลา รวยกว่า การออมแน่นอนครับ
:lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
kmphol
Verified User
โพสต์: 417
ผู้ติดตาม: 0

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 40

โพสต์

[quote="kornjackrit"]:D
ผมขอเสนอความเชื่ออื่นๆเกี่ยวกับตลาดหุ้นบ้างนะครับ


" ตลาดหุ้นเป็นของคนรวย คนจนไม่ควรเข้าไปยุ่ง "

" ตลาดหุ้น คือ บ่อนการพนันที่ถูกกฎหมาย "



ความเชื่อเหล่านี้ ท่านอื่นคิดว่าถูกหรือผิด หรือไม่อย่างไรครับ :?:
ภาพประจำตัวสมาชิก
kmphol
Verified User
โพสต์: 417
ผู้ติดตาม: 0

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 41

โพสต์

lam เขียน:ซื้อหุ้นตามบทวิเคราะห์ :vm:
คติประจำใจ ของโบรกเกอร์ส่วนใหญ่คือ

กำไรหรือขาดทุน มันเรื่องของท่าน  แต่ค่าคอมมิสชั่น มันของของเรา :lol:

เพราะฉะนั้น บทวิเคราะห์ของเขาจึงมีไว้เพื่อ เพิ่มวอลุ่มในการเทรดครับ
ไม่ได้มีไว้เพื่อ กำไรหรือขาดทุนของท่าน

เราจึงควรลงทุนด้วยบทวิเคราะห์ของตัวเราเองครับ เพราะมันเงินของเรา
บทวิเคราะห์เขาเราเอาไว้เป็นข้อมูลประกอบเท่านั้นเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 42

โพสต์

pat4310 เขียน:สรุปเป็นธรรมนะซะหน่อยว่า เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ก็มี เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้ก็เกิดขึ้น เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็ไม่มี เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้ก็ดับ
pat4310 เขียน: ผมว่าทุกข้อสรุปล้วนมีเหตุของมัน ถ้าคนที่เอาข้อสรุปมาใช้ไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นเหตุให้สรุปอย่างนั้น เวลาเอามาใช้อย่างผิดๆ ถูก
:bow:  :bow:  :cool:  :cool:
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 43

โพสต์

kmphol เขียน:ตลาดหุ้น คือ บ่อนการพนันที่ถูกกฎหมาย
สำหรับ หุ้นบางตัว และ เจ้ามือบางคน ครับ
:la:  :la:








:mrgreen:
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
ภาพประจำตัวสมาชิก
kmphol
Verified User
โพสต์: 417
ผู้ติดตาม: 0

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 44

โพสต์

ได้อ่านบทความหนึ่งจาก thaidaytrade มา เลยคิดว่าอาจให้มุมมองที่แตกต่างจากความเชื่อเดิมที่เราเคยมีอยู่ ลองอ่านกันดูแล้วกันครับ

#1 ทำเป็นเก่ง เจ๊งสถานเดียว
การเริ่มต้นของหลายๆท่าน จะเริ่มต้นคล้ายๆกัน เอาตำรามาอ่าน, print เอกสารและข้อมูลดิบมากมาย ที่ใครๆ ก็รู้กันทั่วไป เช่น งบการเงิน ค่าพีอี ค่าบีวี และอัตราส่วนทางการเงินต่างๆ มาศึกษา แล้วทำเป็นวิเคราะห์นั่น วิเคราะห์นี่ แล้วก็คิดเองเออเอง ว่าข้าเก่ง วิเคราะห์เก่ง มั่นใจ จนลืมไปว่า ก่อนที่ท่านจะวิเคราะห์ มีกองทุนมากมายหลายกอง นำข้อมูลไปประกอบ การวิเคราะห์ก่อนท่านแล้ว และถ้ามันดี เขาก็ซื้อไปก่อนท่านแล้ว

ไม่ต้องมองใครเลยครับ ผมเองก็เริ่มแบบนั้น แหมๆ ก็จบ เกียรตินิยมทางการบัญชี มานี่ครับ และต่อโทสายตรงทางด้าน Finance ซะด้วย แถมยังมี ประสบการณ์ ทำงานเป็น Financial Consultant สังกัดบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจอีก ดูเหมือน จะได้เปรียบคนอื่น ด้วยซ้ำ หากจะเล่นหุ้น เพราะเราวิเคราะห์เองได้หมด ทั้งงบการเงิน ชำแหละกระแสเงินสดของกิจการ หาอัตราส่วนทางการเงินต่างๆ วิเคราะห์แนวโน้ม เจาะลึกนโยบายธุรกิจ ติดตามกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัท ฮี่โธ่ ซำบายอยู่แล้ว สุดแสนจะชิวๆ

ตอนเริ่มต้น ผมนั่งค้นคว้า สำรวจหุ้นเกือบทุกตัวที่มีอยู่ในตลาด แล้วเลือกเอาเฉพาะหุ้นที่มี พี/อีต่ำๆ ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีมากๆ คัดมาได้ 40 ตัว พร้อมทั้งแปลกใจ ว่าทำไม มีแต่เพียงเราเท่านั้น ที่เป็นผู้ค้นพบแต่เพียงผู้เดียว ว่าหุ้นพวกนี้ เป็นหุ้นราคาถูก เพราะหากเซียนหุ้นคนอื่นหรือกองทุนค้นพบ มันก็น่าจะโดนซื้อ จนราคาแพงไปมากกว่านี้แล้วนะเนี่ยะ

จากหุ้น 40 ตัว ที่เลือกมาอย่างชาญฉลาด ผมก็เอา มาคัดเลือกอีก เลือกเฉพาะที่ปันผลสม่ำเสมอ เงินสดดี หนี้สินน้อย และ ROE สูงๆ

หลังจากทุกทฤษฏีในตำรา ได้แปรเป็นการวิเคราะห์ ในที่สุด ผมก็ลงทุนครั้งแรก ด้วยหุ้นชั้นเลิศราคาถูก จำนวน 5 ตัว เป็น 5 ตัว ที่แน่นิ่ง และ มั่นคง ตลอด 2 ไตรมาสเลย ฉันจะขอคงอัตราส่วน พีอี พีบีวี ไว้อย่างงี้แหละ ว่างั้น
ตลอด 2 ไตรมาสของการเริ่มลงทุน มีโอกาส ได้ฟัง นักวิเคราะห์บ่อยขึ้น ได้อ่านบทวิเคราะห์ไทยๆ มากขึ้น ฟังดูเข้าท่าแหะ มันรื่นหูดี ทุกสรรพสิ่งความดีในบริษัท ออกมาอธิบายเป็นฉากๆ อย่ากระนั้นเลย ขายทิ้งชุดเก่า เข้าชุดใหม่ตามนักวิเคราะห์ น่าจะทำให้เงิน งอกเงยงดงาม

สาเหตุที่หุ้นแบ็งค์ใหญ่ BBB ขึ้น เพราะ ปีนี้เป็นปีทองของแบ็งค์ เราแนะนำซื้อหุ้น BBB เพราะ (อย่างนี้อย่างโน้นอย่างนั้น) แหะๆ ลืมแล้วครับ ว่า ไนล์ ฮวงโห แยงซีเกียง มิสซิปซิปปี้ และ เจ้าพระยา ที่ยกแม่น้ำทั้งห้า มาสาธยาย มีอะไรบ้าง จำได้ขึ้นใจอยู่อย่างเดียวว่า เราให้ราคาเป้าหมาย 130 บาท Recommend ซื้อ

โอ้โห ราคาตอนนี้ 102 บาทเอง มีโอกาสงอกเงยขึ้นอีกตั้ง 28 บาทแน๊ะ ซื้อครับซื้อ ปีทองของแบ็งค์เชียวนะ ผมต้องซื้อลงทุนแล้วล่ะ

หลังจากที่ผมซื้อไปแล้ว ราคาไม่ยักกะขึ้น มีหนำซ้ำ ยังลงมาเหลือ 98 บาท ด้วยซ้ำ . นักวิเคราะห์คนเดิมออกทีวี บรรยายว่าดี อย่างนี้อย่างโน้นอย่างนั้น เราให้ราคาเป้าหมาย 130 บาท Recommend ซื้อ นั่นนะซิ ได้ราคาถูกกว่าเดิมตั้ง 4 บาท ทำไมผมจะไม่ซื้อล่ะ

อ้าว 1 สัปดาห์ผ่านไป ไฉนลงมาเหลือ 96 บาทล่ะ แต่ผมก็ คลายกังวล เมื่อนักวิเคราะห์คนเดิม ออกทีวียืนยันความมั่นใจ ในหุ้น BBB พร้อมบรรยายว่าดี อย่างนี้อย่างโน้นอย่างนั้น
เราให้ราคาเป้าหมาย 130 บาท Recommend ซื้อ เอาล่ะ ซื้อก็ซื้อ ถือว่า ถัวเฉลี่ยต้นทุนแล้วกัน

สัปดาห์ที่สอง ราคายังลงต่ออีก เหลือ 92 บาทเอง นักวิเคราะห์คนนั้น หายไปไหนแล้วไม่รู้ ต่อให้โผล่หน้า มาออกทีวี แล้วยืนยันให้ซื้อ เพราะมันดี อย่างนี้อย่างโน้นอย่างนั้น ก็ไม่ซื้อแล้วล่ะ ผมไม่มีเงินซื้อแล้วครับ

สัปดาห์ที่สาม ราคาลงมาเหลือ 88 บาท ผมยังเฉยๆนะ เพราะจำที่นักวิเคราะห์บอกได้ ว่าปีนี้เป็นปีทองของแบ็งค์ ยังไงเดี๋ยวก็ต้องกลับไป 130 บาทอยู่ดี .. แต่แล้ว สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อนักวิเคราะห์คนเดิม โผล่มาทางทีวี แบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้า พร้อมเอื้อนเอ่ย วจีอันโหดร้ายว่า
สาเหตุที่หุ้นแบ็งค์ใหญ่ BBB ลง เพราะ(อย่างนี้อย่างโน้นอย่างนั้น) แหะๆ ลืมแล้วครับ ว่า น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งทั้งห้า ที่สาธยายมา มีอะไรบ้าง จำได้ขึ้นใจ อยู่อย่างเดียวว่า เราปรับประมาณการลง ให้ราคาเป้าหมาย 70 บาท Recommend
ขาย (ฮา) จากที่ผมเฉยๆ ที่หุ้นลง เลยกลายเป็น ความกังวลในทันที อ้าว เป็นปีที่ย่ำแย่ของหุ้นกลุ่มแบ็งค์ซะแล้ว

ในที่สุด บทเรียนบทที่ 1 ของผมก็เริ่มต้น คอร์สนี้ เสียค่าลงทะเบียนเกือบแสน ขืนผมยังลงทะเบียนเรียนซ้ำ เห็นทีจะพลาดท่า หมดตัวแน่!

เพื่อนๆหน้าใหม่ ที่เข้ามาในตลาดหุ้น คงเคยลงคอร์สเดียว กับผมกันมาแล้วทั้งนั้น ใช่ไหมครับ ไม่จำเป็น ต้องลงทะเบียนเรียนซ้ำอีกนะครับ หากที่เรียนมาแล้วยังไม่เข้าใจ ก็ขอเสนอให้ไปอ่าน ใน Chapter ต่อจากนี้ไป น่าจะดีกว่า นอกจากจะช่วย ให้ท่านประหยัดตังค์ได้เยอะแล้ว ยังแจกเงินให้นักเรียนอีกต่างหาก ถ้าสอบผ่าน!

หลังจากเสียค่าวิชาไปแล้ว ผมถึงเข้าใจว่า ตัวเลขในอดีตที่เรา หรือ ผู้อื่น วิเคราะห์โดยว่าไปตามตำรา เพียงอย่างเดียว มันยังไม่พอเพียง ในการใช้ ประกอบการตัดสินใจลงทุน แต่ต้องนำ แนวโน้มในอนาคต มาร่วมการตัดสินใจด้วย

ในอดีต ผู้ทำธุรกิจเพจเจอร์ รุ่นแรกๆ กำไรกันถ้วนหน้า ใครๆก็หลั่งไหลเข้ามาทำธุรกิจนี้ เพราะเป็นธุรกิจ ที่ทำกำไรงาม แต่เมื่อเทคโนโลยี่ก้าวหน้าขึ้น SMS บนโทรศัพท์มือถือ ก็เข้ามาทดแทน เพจเจอร์ และ ธุรกิจเพจเจอร์ก็ถึงกาลอวสาน

ตัวเลขในอนาคตที่นักวิเคราะห์ทำการประเมินมา มันแปรเปลี่ยนตลอดเวลา ตามปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบกิจการ เช่นกัน

นักวิเคราะห์ไม่ใช่ผู้บริหารกิจการนะครับ เขาจึงไม่รู้ลึกพอ ที่จะวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ และก็คงจะไม่ม ีผู้บริหารกิจการคนไหนเช่นกัน ที่จะบอกนักวิเคราะห์ว่า บริษัทเขา กำลังจะย่ำแย่ ในทางตรงข้าม นักวิเคราะห์โดนผู้บริหารกิจการ หลอกเรื่อยแหละว่า กำไรจะดีขึ้น
จะจ่ายเงินปันผลได้เพิ่มขึ้น

โลกทุกวันนี้ มันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และราคาหุ้นจะแปร ไปตามปัจจัยต่างๆที่กระทบต่อกิจการตลอดเวลา เร็วจนหมดเวลาที่จะมานั่งวิเคราะห์ตามตำรา แล้วคิดเองเออเองแล้วครับ อย่าลืมว่า สิ่งที่ท่านวิเคราะห์อยู่ มีเซียนหุ้น มีกองทุนต่างๆ วิเคราะห์ก่อนท่านหมดเกลี้ยงแล้ว แล้วถ้าเขายังไม่ใส่เงินเข้ามาซื้อ ท่านจะซื้อ รออะไร

หุ้นที่ดีในอดีต อาจจะไม่ใช่หุ้นดีในวันนี้ และ หุ้นที่ดีในวันนี้ อาจจะเป็นหุ้นที่แย่ ในอีก 3 ปีข้างหน้าก็ได้ ใช่ไหมครับ

เก็บตำรา จับตาดูความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันดีที่สุดครับ รายใหญ่หรือกองทุน เขาวิเคราะห์มามากแล้ว ในทุกแง่ทุกมุม ก่อนที่จะขนเงินหลายสิบล้าน หรือ หลายร้อยล้านบาท มาลงทุนในหุ้นแต่ละตัว จนเกิด สัญญาณซื้อ ให้เราเห็น

แล้วทำไมเราจะต้องเสียเวลามาวิเคราะห์ถูกๆผิดๆเองล่ะครับ ในเมื่อเราสามารถเกาะกระแสเงินลงทุนของเขาขึ้นไปได้เลย ภายในเวลาไม่นานนัก

อย่าผิดพลาดซ้ำๆ เหมือนกับที่ผมเคยทำมา
เอาตำราไปบริจาคห้องสมุด เถอะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
canuseeme
Verified User
โพสต์: 302
ผู้ติดตาม: 0

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 45

โพสต์

ยังงี้

การลงทุนในตลาดหุ้น ในระยะยาวแล้ว ให้ผลตอบแทนที่ดี


ก็ไม่ใช่สัจจะนิรันด์

ใช่มั้ยครับเพราะสามารถแย้งได้
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา

There is no fate but what we make

https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
chowbe76
Verified User
โพสต์: 1980
ผู้ติดตาม: 0

Re:

โพสต์ที่ 46

โพสต์

pat4310 เขียน:ให้สาวบริสุทธิมาปักตะไคร้แล้วหุ้นจะไม่ตก
เดี๋ยวผมแต่งตัวเป็นสาวแล้วปักให้ก็ได้
แต่สงสัยจะได้เห็นเซอร์กิตเบรกเกอร์
:mrgreen:
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
ภาพประจำตัวสมาชิก
thaloengsak
Verified User
โพสต์: 2716
ผู้ติดตาม: 0

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 47

โพสต์

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
ลงทุนเพื่อชีวิต
ภาพประจำตัวสมาชิก
Flashy
Verified User
โพสต์: 295
ผู้ติดตาม: 0

Re:

โพสต์ที่ 48

โพสต์

sai เขียน:ของผมเอาไรดี  คนจนเล่นหวย  คนรวยเล่นหุ้น  นายทุนเล่นที่ สุภาพสตรีเล่นตัว  ล่ะกัน
:lovl: :lovl: :lovl:
stay calm, stay invest
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
Verified User
โพสต์: 2565
ผู้ติดตาม: 0

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 49

โพสต์

canuseeme เขียน:ยังงี้

การลงทุนในตลาดหุ้น ในระยะยาวแล้ว ให้ผลตอบแทนที่ดี


ก็ไม่ใช่สัจจะนิรันด์

ใช่มั้ยครับเพราะสามารถแย้งได้
ฮีโร่!!! ผู้ดันกระทู้เก่าจากปี08มาปี11 สวัสดีครับพี่^^
เห็นดันแล้วคนไม่ตอบพี่ ผมขอตอบแทนนะครับ

ผมขอนั่งยัน ยืนยัน กระโดดยันเลยครับว่า...มันเป็นสัจจะที่นิรันต์ครับพี่^^

แต่!!!ต้องเอามาใช้ให้ถูกด้วยยยยครับผม

1.ใช้คำว่าตลาดหุ้น หมายถึงค่าเฉลี่ยทุกตัวในตลาด ดังนั้นแค่หยิบตัวเดียวมาคิด แค่คิดก็ผิดแล้วครับ
เพราะค่าเฉลี่ยมาจากทุกตัว(มีทั้งแย่ ปานกลาง และดีมาก) ดังนั้นถ้าเราซื้อทุกตัว!!! นิยามเป็นจริงครับ^^
แต่จะให้ดีกว่าเลือกซักหน่อยและติดตามด้วยจะยิ่งดีกว่าจริงซะอีกครับ

2.ตอนSET1700 PEเท่าไหร่ครับ??? ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ30นะครับ ใครเล่นหุ้นก็บ้ามากๆ
แต่ถ้าคิดจะใช้นิยามมาจับก็ได้ครับ ให้มองว่าPEคือจำนวนปีที่คืนทุน ดังนั้น
ซื้อตอนPE4 นิยามจะเป็นจริงก็รอไม่เกิน4ปี
ซื้อตอนPE10 นิยามจะเป็นจริงก็รอไม่เกิน10ปี
ซื้อตอนPE30(SET1700ก่าๆ) นิยามจะเป็นจริงก็รอไม่เกิน30ปี...ซึ่งนี่เพิ่งผ่านมาครึ่งทางเองนะครับ^^
ดังนั้นนิยามเป็นจริงเสมอ...แต่อยากให้จริงไวๆ ก็อย่าซื้อที่PEสูงๆครับ^^
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
aviruth
Verified User
โพสต์: 334
ผู้ติดตาม: 0

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 50

โพสต์

ผมเชื่อครับ ว่าระยะยาว ยังไงก็เกินสิบเปอร์เซ็น แต่ไม่ใช่ซื้อช่วงหนึ่งแล้ว ถือไปตลอด แต่ต้องมีการนำ ปันผลที่ได้กลับไปลงทุนต่อทั้งในยามที่ตลาดดีและแย่พูดง่ายๆซื้ออย่างเดียวทุกปี แล้วไปขายตอนนู้น 30ปีถัดไป
อย่าคาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่างด้วยการทำแบบเดิม
rakoilnaka
Verified User
โพสต์: 227
ผู้ติดตาม: 0

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 51

โพสต์

ลงทุนได้ผลตอบแทนระยะยาว 10% ต่อปีกับกองดัชนีเนี่ยมันใช้กับตลาดที่มีบริษัทที่แข็งแกร่งมีศักยภาพขยายไปได้ทั่วโลกอย่างอเมริกาหลายบริษัทรึป่าวคับ ธรรมาภิบาลเค้าก็มาตรฐานกว่า ดัชนีของไทยเรามันก็ป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้อ่าคับ ผมว่า
istyle
Verified User
โพสต์: 872
ผู้ติดตาม: 0

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 52

โพสต์

canuseeme เขียน:ยังงี้

การลงทุนในตลาดหุ้น ในระยะยาวแล้ว ให้ผลตอบแทนที่ดี


ก็ไม่ใช่สัจจะนิรันด์

ใช่มั้ยครับเพราะสามารถแย้งได้
ถ้าซื้อตอน 1700 ก็ไม่เรียกว่าการลงทุน (มีใครซื้อเพราะมองพื้นฐานมั้ยครับ.. มีแต่ซื้อเพราะหวังว่าจะมีคนมาซื้อแพงกว่า)

ถ้าซื้อหุ้นเน่าๆ ไม่มีพื้นฐาน ก็ไม่เรียกว่าการลงทุน

ถ้าคุณเลือก"ลงทุน" ระยะยาว

ผมเชื่อว่าเป็นสัจนิรันด์ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
canuseeme
Verified User
โพสต์: 302
ผู้ติดตาม: 0

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 53

โพสต์

y=sin(x)

ค่า y จะมีค่าเพิ่มขึ้นในระยะยาว เป็นจริงรึเปล่าไม่แน่

แต่ผลตอบแทนจากตลาดหุ้นยังไม่มีสมการมาเป็นตัวแทนได้ เหมือน
มันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆรึเปล่า



และเพราะไอ้คำว่าระยะยาว นี่มันๆไม่บอกที่เริ่มที่จบ ใช่มั้ยครับ

และคำว่าการลงทุนยังแปลได้กว้างออกไปอีก

สรุปการพูดประโยค การลงทุนในตลาดหุ้นระยะยาวให้ผลตอบแทนที่ดีนี่

ต้องเพิ่มเงื่อไขหรือบริบท อีกหน่อย รึเปล่าครับ

งง ผมก็ งง


สรุปคำพูดนี่ไม่เป็น ประพจน์(บอกค่าความจริงไม่ได้)
แต่เป็นประโยคเปิด ที่มีตัวแปร มากมาย

แบบ Vx[x+y=2]

ประมาณนั้นไม่ครับ

งง งง งงง
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา

There is no fate but what we make

https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
Verified User
โพสต์: 2565
ผู้ติดตาม: 0

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 54

โพสต์

ผมมองอีกแบบนะครับพี่.....ผมมองว่าการมองสมการ
y=sin(x) จริงอย่างที่พี่พูด บางช่วงอาจจะจริง บางช่วงอาจจะไม่จริง
y=f(x) f=functionอะไรซักอย่างที่ยาวมั๊กๆแทนตลาดหุ้น ค่าที่ได้มาอาจจะขึ้นๆลงๆ

แต่!!!หากเราลองถอยหลังออกมาดู เราจะรู้ว่ากำลังเล่นกับอะไร ดังนั้นผมแนะนำว่าบางครั้งเราสับสน
ไม่แน่ใจ ลังเล เพราะเรามองอะไรที่สั้นไป.....

y=sin(x)มองใกล้ๆอาจจะกำลังขึ้น หรือกำลังลง
y=sin(x)มองระยะ1ฟุต จะเห็นLoopที่โค้งขึ้นโค้งลงเหมือนเคลื่อนเสียง
y=sin(x)มองระยะ10เมตร จะเห็นเส้นตรง แต่ผิวขรุขระ
y=sin(x)มองระยะ50เมตร จะเห็นเส้นตรงที่เรียบกริบ

ส่วนy=f(x)ที่แสดงถึงตลาดหุ้น ผมเชื่อว่าไม่แค่เป็นเส้นตรง แต่เป็นโค้งหงายพาราโบราเลยด้วยซ้ำครับ
ปล.ความเชื่อนี้เชื่อแบบมีหลักการณ์นะครับไม่ได้เชื่อมั่วๆ เหมือนกันผมรู้ว่ามีเงินบาทผมก็เชื่อว่ามีเงินพันล้านเป็นต้น
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 55

โพสต์

ความเชื่อว่าค่าพีอีนั้นไม่สำคัญ. เป็นความเชื่อที่ผิด
และความเชื่อว่าค่าพีอีในอนาคตก็ไม่สำคัญ. เป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
ลูกเนียง
Verified User
โพสต์: 51
ผู้ติดตาม: 0

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 56

โพสต์

หุ้นขาลงเหมือนมีดหล่น อย่าเข้าไปรับตอนที่มันยังไม่หยุดตก มันจะเสียบ อกทะลุหลัง
จินตนาการ สำคัญกว่า ความรู้
tentza
Verified User
โพสต์: 137
ผู้ติดตาม: 0

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 57

โพสต์

วันพุธสีเขียวครับ
วันนี้มาดูกัน
KimVi
Verified User
โพสต์: 984
ผู้ติดตาม: 0

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 58

โพสต์

สามัญชน เขียน:ความเชื่อว่าค่าพีอีนั้นไม่สำคัญ. เป็นความเชื่อที่ผิด
และความเชื่อว่าค่าพีอีในอนาคตก็ไม่สำคัญ. เป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์
ขอคำอธิบายขยายความให้มือใหม่ได้เข้าใจมากขึ้น เปิดห้องบรรยายกันเลยนะครับ พี่หมอกรุณาด้วยครับ บรรยากาศตอนนี้น่าจะมีบทเรียนในอดีตที่น่าสนใจนำมาขบคิดเปรียบเทียบให้เป็นข้อคิดกับรุ่นใหม่ๆ ได้รู้สติเตือนตัวเองว่าเรากำลังอยู่ในช่วงอะไรกันอยู่ครับ ขอบคุณครับ
"Look at market fluctuations as your friend rather than your enemy; profit from folly rather than participate in it." – Warren Buffett
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 59

โพสต์

ต้องมีศรัทธา
แม้คนจะว่างมงาย
show me money.
ภาพประจำตัวสมาชิก
newbie_12
Verified User
โพสต์: 2904
ผู้ติดตาม: 0

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์ที่ 60

โพสต์

อันนี้ผมว่ากำลังฮิต

"VI เชิงเส้น" advance กว่า "Pure VI" ไปอีกหนึ่งขั้น
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง

----------------------------