เหมือนผมเลยครับ เข้าตลาดเมื่อ 2 ปีที่แล้วตอนset 380 กว่าๆ ไม่เคยรู้จักไม่เคยสนใจเรื่องหุ้นมาก่อน ทำมาหากินงกๆมา 15 ปี หนักเอาเบาสู้ หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน เริ่มงานแต่เช้ากว่าจะเสร็จได้เข้านอนก็ตี 2 ตี 3 ไม่เห็นมันรวยสักที ขนาดรายได้ 6 หลักกลางๆ เลี้ยงดูรอบตัว พ่อแม่พี่น้องลูกเมียยาวไปถึงหลานๆ มองไม่เห็นอนาคตที่จะเป็นไทได้เลย โชคดีได้เจอท่านประธานหมอสามัญชน ชักชวน + ชักลาก ให้เข้ามาสู่วงการบู๊ลิ้มแห่งนี้ ไม่อยากจะเชื่อ 2 ปีกว่าๆ เป็นไทได้เลย ตอนนี้ผมเกษียณแล้ว ไม่ต้องทำงานแล้ว ไม่ต้องดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันให้มันปวดหัว กลางวันพาแฟนเดินห้าง กินสตาร์บัค ชมวิถีชีวิตของผู้คนต่างๆ นึกย้อนหลังกลับไป ถ้าวันนั้นไม่มีวิกฤตแล้วผมจะมีวันนี้ได้หรือ หรือถ้าวันนั้นมีวิกฤตแต่ผมดันขี้กลัวคิดเหมือนคนอื่นๆคือไม่กล้าซื้อหุ้นแล้วผมจะมีวันนี้ได้หรือ เรื่องนี้ทำให้ผมเข้าใจว่าทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส อยู่ที่ว่าใครจะคว้าโอกาสนั้นไว้ให้ได้มากกว่า ( ปล. ผมเกษียณที่ port 9 หลักครับ เริ่มจาก 7 หลัก เมื่อ 2 ปีกว่าๆที่แล้ว )cntclub เขียน:picklife เขียน:สวัสดีครับเพื่อนๆ และพี่ๆ ชาวtviทุกๆท่าน เนื่องด้วยจาก1-2วันมานี้ ตลาดร่วงพอสมควร จึงอยากให้เพื่อนๆช่วยกันวิเคราะห์สาเหตุ ความหนัก และสภาพตลาด ว่าเผาจริงหรือเผาหลอก เป็นช่วงปกติ น่ากลัว หรือโอกาสทอง
ปล.เนื่องด้วยทราบว่าviส่วนมาก ไม่ค่อยชอบสนใจสภาวะตลาดมากนัก แต่ผมก็มองว่ารู้ไว้ใช่ว่า รู้ย่อมดีกว่าไม่รู้ และก็เชื่อว่าจากบทวิเคราะห์จากเพื่อนๆหลายๆท่าน น่าจะมีผลให้นักลงทุนมือใหม่ๆที่ยังไม่เป็นviเต็มตัวนักหายตื่นตระหนกได้^^ ขอบคุณครับ
ผมเริ่มเข้าตลาดเมื่อ2ปีที่แล้วตอนset 380 กว่าๆตอนนั้นเพื่อนๆผมบอกว่าอย่าเพิ่งรีบซื้อหุ้นรอมันลงอีก แต่ผมไม่เชื่อผมทุ่มหมดตัวเลย แล้วเพื่อนๆผมก็รอจิงๆหลังจากนั้นผ่านไป3เดือน set ขึ้นมา 400กว่าๆ เพื่อนผมบอกอีกว่าเดี๋ยวมันก็ลงมา แล้วพอถึงปัจจุบันนี้ผมก็ยังไม่เห็นมันลงเลย ที่ผมซื้อตอนนั้นไม่ใช่ว่ารู้หรือวิเคราะห์ออก แต่พอดีที่สมัครทางโบรกเกอร์เพิ่งผ่านตอนนั้นพอดีก็เลยซื้อเลย แบบมั่วๆ
ปล. ที่จะบอกคือ ณ.เวลานั้นขนาดsetอยู่ที่ 380 กว่าๆก็ยังว่าสูงอยู่แต่เวลานี่ set เกือบพันมันถูกหรือสูงคิดต่อเอาเองแล้วกันครับ (ผมชอบที่ท่าน ดร.เขียน คนเราความจำสั้น แต่ความโลภนั้นยาวนาน)
ร่วมวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ตลาด^^
-
- Verified User
- โพสต์: 208
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ร่วมวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ตลาด^^
โพสต์ที่ 31
-
- Verified User
- โพสต์: 737
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ร่วมวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ตลาด^^
โพสต์ที่ 32
7 หลักกลายเป็น 9 หลัก สุดยอดครับพี่ นับถือ ๆ ๆtutinglee เขียน: เหมือนผมเลยครับ เข้าตลาดเมื่อ 2 ปีที่แล้วตอนset 380 กว่าๆ ไม่เคยรู้จักไม่เคยสนใจเรื่องหุ้นมาก่อน ทำมาหากินงกๆมา 15 ปี หนักเอาเบาสู้ หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน เริ่มงานแต่เช้ากว่าจะเสร็จได้เข้านอนก็ตี 2 ตี 3 ไม่เห็นมันรวยสักที ขนาดรายได้ 6 หลักกลางๆ เลี้ยงดูรอบตัว พ่อแม่พี่น้องลูกเมียยาวไปถึงหลานๆ มองไม่เห็นอนาคตที่จะเป็นไทได้เลย โชคดีได้เจอท่านประธานหมอสามัญชน ชักชวน + ชักลาก ให้เข้ามาสู่วงการบู๊ลิ้มแห่งนี้ ไม่อยากจะเชื่อ 2 ปีกว่าๆ เป็นไทได้เลย ตอนนี้ผมเกษียณแล้ว ไม่ต้องทำงานแล้ว ไม่ต้องดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันให้มันปวดหัว กลางวันพาแฟนเดินห้าง กินสตาร์บัค ชมวิถีชีวิตของผู้คนต่างๆ นึกย้อนหลังกลับไป ถ้าวันนั้นไม่มีวิกฤตแล้วผมจะมีวันนี้ได้หรือ หรือถ้าวันนั้นมีวิกฤตแต่ผมดันขี้กลัวคิดเหมือนคนอื่นๆคือไม่กล้าซื้อหุ้นแล้วผมจะมีวันนี้ได้หรือ เรื่องนี้ทำให้ผมเข้าใจว่าทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส อยู่ที่ว่าใครจะคว้าโอกาสนั้นไว้ให้ได้มากกว่า ( ปล. ผมเกษียณที่ port 9 หลักครับ เริ่มจาก 7 หลัก เมื่อ 2 ปีกว่าๆที่แล้ว )
SURE I AM OF THIS
THAT YOU HAVE ONLY TO ENDURE
TO CONQUER
THAT YOU HAVE ONLY TO ENDURE
TO CONQUER
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ร่วมวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ตลาด^^
โพสต์ที่ 33
อย่างที่บอกคับ
มีเงินสด คุณจะซื้อไหมล่ะ
ปัจจัยพื้นฐานยังดี ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซื้อเพื่ม
ปรากฏ ลงต่อคับ ฝรั่งไม่เข้า รายย่อยหมดเงิน สภาพคล่องโดยรวมเหือด
force sell กระจาย ราคาไหลลงไปแตะ 800 ต้นๆ
เงินที่ซื้อไปก็ซัดไปเรียบร้อยแล้ว
พอถึงตอนนั้น ก็เหลือแต่เศษเงินไ่ม่เป็นก้อน
อารมณ์ตอนนั้นจะเป็นไงครัุบ (รู้งี้ น่าจะรอก่อน หรือ ทำใจ wait and see เพราะทำอะไรไม่ได้แล้ว)
ปลอบใจตัวเอง ใส่เงินเพิ่ม จากปันผล หรือ แบ่งจากเงินเดือนมาดีนะ
เหตุการณ์ ที่สอง ปัจจัยพื้นฐานยังดี แต่เด๋วรอก่อน
มันอาจจะลงอีกได้
ผล ฝรั่ง บ้าๆ ทุบได้ที่ เริ่ม กลับมาซื้อ
ที่เล็งไว้ ก็ไม่ได้ซื้อ
บ่นกับตัวเอง รู้งี้ ซื้อไปเลยดีกว่า ในวิกฤต มีโอกาส
เห็นมะ ตอนช่วงเหตุการ์ หม่อม นรก หุ้นลงแึ่ึค่วันเดียว อดรวยเลย
ก็แค่ยกตัวอย่าง ใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ก็ลองทดสอบจิตใจกันไป
ใครยังไม่เคยเจอ นรกแล้วแต่ยังมีนรกกว่า
ก็อย่าเพิ่งมั่นใจอะไรจนเกินไป
หุ้นดีๆตอนนี้ลงมา ต่ำำกว่า 10-20% ว่าแต่จะซื้อเลยต่อให้มีเงินสดก็ไม่ง่ายจะตัดสินใจนะ
ผมว่า
มีเงินสด คุณจะซื้อไหมล่ะ
ปัจจัยพื้นฐานยังดี ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซื้อเพื่ม
ปรากฏ ลงต่อคับ ฝรั่งไม่เข้า รายย่อยหมดเงิน สภาพคล่องโดยรวมเหือด
force sell กระจาย ราคาไหลลงไปแตะ 800 ต้นๆ
เงินที่ซื้อไปก็ซัดไปเรียบร้อยแล้ว
พอถึงตอนนั้น ก็เหลือแต่เศษเงินไ่ม่เป็นก้อน
อารมณ์ตอนนั้นจะเป็นไงครัุบ (รู้งี้ น่าจะรอก่อน หรือ ทำใจ wait and see เพราะทำอะไรไม่ได้แล้ว)
ปลอบใจตัวเอง ใส่เงินเพิ่ม จากปันผล หรือ แบ่งจากเงินเดือนมาดีนะ
เหตุการณ์ ที่สอง ปัจจัยพื้นฐานยังดี แต่เด๋วรอก่อน
มันอาจจะลงอีกได้
ผล ฝรั่ง บ้าๆ ทุบได้ที่ เริ่ม กลับมาซื้อ
ที่เล็งไว้ ก็ไม่ได้ซื้อ
บ่นกับตัวเอง รู้งี้ ซื้อไปเลยดีกว่า ในวิกฤต มีโอกาส
เห็นมะ ตอนช่วงเหตุการ์ หม่อม นรก หุ้นลงแึ่ึค่วันเดียว อดรวยเลย
ก็แค่ยกตัวอย่าง ใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ก็ลองทดสอบจิตใจกันไป
ใครยังไม่เคยเจอ นรกแล้วแต่ยังมีนรกกว่า
ก็อย่าเพิ่งมั่นใจอะไรจนเกินไป
หุ้นดีๆตอนนี้ลงมา ต่ำำกว่า 10-20% ว่าแต่จะซื้อเลยต่อให้มีเงินสดก็ไม่ง่ายจะตัดสินใจนะ
ผมว่า
show me money.
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ร่วมวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ตลาด^^
โพสต์ที่ 34
tutinglee เขียน:เหมือนผมเลยครับ เข้าตลาดเมื่อ 2 ปีที่แล้วตอนset 380 กว่าๆ ไม่เคยรู้จักไม่เคยสนใจเรื่องหุ้นมาก่อน ทำมาหากินงกๆมา 15 ปี หนักเอาเบาสู้ หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน เริ่มงานแต่เช้ากว่าจะเสร็จได้เข้านอนก็ตี 2 ตี 3 ไม่เห็นมันรวยสักที ขนาดรายได้ 6 หลักกลางๆ เลี้ยงดูรอบตัว พ่อแม่พี่น้องลูกเมียยาวไปถึงหลานๆ มองไม่เห็นอนาคตที่จะเป็นไทได้เลย โชคดีได้เจอท่านประธานหมอสามัญชน ชักชวน + ชักลาก ให้เข้ามาสู่วงการบู๊ลิ้มแห่งนี้ ไม่อยากจะเชื่อ 2 ปีกว่าๆ เป็นไทได้เลย ตอนนี้ผมเกษียณแล้ว ไม่ต้องทำงานแล้ว ไม่ต้องดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันให้มันปวดหัว กลางวันพาแฟนเดินห้าง กินสตาร์บัค ชมวิถีชีวิตของผู้คนต่างๆ นึกย้อนหลังกลับไป ถ้าวันนั้นไม่มีวิกฤตแล้วผมจะมีวันนี้ได้หรือ หรือถ้าวันนั้นมีวิกฤตแต่ผมดันขี้กลัวคิดเหมือนคนอื่นๆคือไม่กล้าซื้อหุ้นแล้วผมจะมีวันนี้ได้หรือ เรื่องนี้ทำให้ผมเข้าใจว่าทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส อยู่ที่ว่าใครจะคว้าโอกาสนั้นไว้ให้ได้มากกว่า ( ปล. ผมเกษียณที่ port 9 หลักครับ เริ่มจาก 7 หลัก เมื่อ 2 ปีกว่าๆที่แล้ว )cntclub เขียน:picklife เขียน:สวัสดีครับเพื่อนๆ และพี่ๆ ชาวtviทุกๆท่าน เนื่องด้วยจาก1-2วันมานี้ ตลาดร่วงพอสมควร จึงอยากให้เพื่อนๆช่วยกันวิเคราะห์สาเหตุ ความหนัก และสภาพตลาด ว่าเผาจริงหรือเผาหลอก เป็นช่วงปกติ น่ากลัว หรือโอกาสทอง
ปล.เนื่องด้วยทราบว่าviส่วนมาก ไม่ค่อยชอบสนใจสภาวะตลาดมากนัก แต่ผมก็มองว่ารู้ไว้ใช่ว่า รู้ย่อมดีกว่าไม่รู้ และก็เชื่อว่าจากบทวิเคราะห์จากเพื่อนๆหลายๆท่าน น่าจะมีผลให้นักลงทุนมือใหม่ๆที่ยังไม่เป็นviเต็มตัวนักหายตื่นตระหนกได้^^ ขอบคุณครับ
ผมเริ่มเข้าตลาดเมื่อ2ปีที่แล้วตอนset 380 กว่าๆตอนนั้นเพื่อนๆผมบอกว่าอย่าเพิ่งรีบซื้อหุ้นรอมันลงอีก แต่ผมไม่เชื่อผมทุ่มหมดตัวเลย แล้วเพื่อนๆผมก็รอจิงๆหลังจากนั้นผ่านไป3เดือน set ขึ้นมา 400กว่าๆ เพื่อนผมบอกอีกว่าเดี๋ยวมันก็ลงมา แล้วพอถึงปัจจุบันนี้ผมก็ยังไม่เห็นมันลงเลย ที่ผมซื้อตอนนั้นไม่ใช่ว่ารู้หรือวิเคราะห์ออก แต่พอดีที่สมัครทางโบรกเกอร์เพิ่งผ่านตอนนั้นพอดีก็เลยซื้อเลย แบบมั่วๆ
ปล. ที่จะบอกคือ ณ.เวลานั้นขนาดsetอยู่ที่ 380 กว่าๆก็ยังว่าสูงอยู่แต่เวลานี่ set เกือบพันมันถูกหรือสูงคิดต่อเอาเองแล้วกันครับ (ผมชอบที่ท่าน ดร.เขียน คนเราความจำสั้น แต่ความโลภนั้นยาวนาน)
รบกวน แบ่งปัน ความรู้และประสบการณ์
เพื่อเป็นวิทยาทานด้วยก็ดีนะครับ
เพราะสองปี โตเกือบ 10-100 เท่า
ท่านต้องอบรมน้องๆหน่อยครับ
จักเป็นพระคุณอย่างสูง
อย่างน้อย บอกหุ้นไม่ได้ บอกวิธีการก็ยังดีครับ
อยากฝากตัวเป็นศิษย์แต่เนิ่นๆครับ
show me money.
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ร่วมวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ตลาด^^
โพสต์ที่ 35
ที่พูดก็เพราะ
ผมก็เป็นคนนึุงที่ทะยอยซื้อช่วงนี้
ถามว่าดีใจไหม
ไม่นะ
ผมว่าถ้าราคามีสวิงให้ได้ทำรอบ เก็บเงินสดบ้าง
เราคงได้ต้นทุนที่ดีกว่านี้
ยิ่งซื้อยิ่งหนาว
เพราะหมดเงินสดเมื่อไหร่
ก็ wait and see
รอปันผล ซึ่งคงdilute ต้นทุนให้ต่ำลงมาได้ไม่เท่าไหร่
เงินก็จมไปกับต้นทุนที่สูงเกิน
ใครจะรู้ว่า ตลาดมัน crack เมื่อไหร่
รายย่อยจะหมดแรงเมื่อไหร่
ที่ผ่านมา มันลงเป็นตัวๆ panic เป็นตัวๆ
มีเวลาได้ switch บ้าง
ตอนนี้ vi ระทม มีแต่จะขายตัวที่กำไรน้อย
หรือขาดทุนน้อย ไปซื้อตัวที่น่าจะมีอัพไซด์เยอะ
(ใครจะรู้ว่า อัพไซด์อาจจะเยอะกว่าเดิมอีกก็ได้ เพราะมันลงต่อ)
โชคดีคับ ทุกท่าน
ยังไง ผมมาร์จิ้น เงินสดตัวเอง ได้อีกหลายเฮือก
แต่ก็ยังหนาวเหมือนกัน
ผมก็เป็นคนนึุงที่ทะยอยซื้อช่วงนี้
ถามว่าดีใจไหม
ไม่นะ
ผมว่าถ้าราคามีสวิงให้ได้ทำรอบ เก็บเงินสดบ้าง
เราคงได้ต้นทุนที่ดีกว่านี้
ยิ่งซื้อยิ่งหนาว
เพราะหมดเงินสดเมื่อไหร่
ก็ wait and see
รอปันผล ซึ่งคงdilute ต้นทุนให้ต่ำลงมาได้ไม่เท่าไหร่
เงินก็จมไปกับต้นทุนที่สูงเกิน
ใครจะรู้ว่า ตลาดมัน crack เมื่อไหร่
รายย่อยจะหมดแรงเมื่อไหร่
ที่ผ่านมา มันลงเป็นตัวๆ panic เป็นตัวๆ
มีเวลาได้ switch บ้าง
ตอนนี้ vi ระทม มีแต่จะขายตัวที่กำไรน้อย
หรือขาดทุนน้อย ไปซื้อตัวที่น่าจะมีอัพไซด์เยอะ
(ใครจะรู้ว่า อัพไซด์อาจจะเยอะกว่าเดิมอีกก็ได้ เพราะมันลงต่อ)
โชคดีคับ ทุกท่าน
ยังไง ผมมาร์จิ้น เงินสดตัวเอง ได้อีกหลายเฮือก
แต่ก็ยังหนาวเหมือนกัน
show me money.
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ร่วมวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ตลาด^^
โพสต์ที่ 36
พรุ่งนี้ผมก็จะซื้อเพิ่มครับ
ถามว่าถ้าตลาดลงผมคงไม่เซ็งเท่าไร เพราะทยอยซื้อ ปีละ3-4 ครั้งอยู่แล้วครับ
ถามว่าถ้าตลาดลงผมคงไม่เซ็งเท่าไร เพราะทยอยซื้อ ปีละ3-4 ครั้งอยู่แล้วครับ
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 208
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ร่วมวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ตลาด^^
โพสต์ที่ 37
รบกวน แบ่งปัน ความรู้และประสบการณ์
เพื่อเป็นวิทยาทานด้วยก็ดีนะครับ
เพราะสองปี โตเกือบ 10-100 เท่า
ท่านต้องอบรมน้องๆหน่อยครับ
จักเป็นพระคุณอย่างสูง
อย่างน้อย บอกหุ้นไม่ได้ บอกวิธีการก็ยังดีครับ
อยากฝากตัวเป็นศิษย์แต่เนิ่นๆครับ[/quote]ผมอธิบายไม่ค่อยเก่งนะครับ เอาเป็นคร่าวๆนะครับ เริ่มแรกมาก็ stpi เลยครับ ตั้งแต่ราคา 7 บาทกว่าๆ ก็พยายามวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆของทั้งตัวบริษัทเอง งบดุลบัญชี (แบบงูงู ปลาปลานะครับ เพราะมือใหม่ ) ดู backlog คาดการณ์ margin ที่ควรจะได้ เสร็จแล้วก็สืบลึกลงไปถึงไซด์งานเลยครับดูว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่า ตอนนั้นพบว่านายจ้างพอใจผลงานที่ได้มาก งานส่วนใหญ่ก็เสร็จตามแผน อัตรา margin ก็สูงมากประมาณ 20% คิดแล้ว eps น่าจะประมาณ 4 บาท เลยมั่นใจหุ้นตัวแรกนี้มากๆ ก็เริ่มซื้อเท่าที่เงินสดจะมีตอนนั้น (เกือบ 7 หลัก ) ต่อมาเนื่องจากวิกฤติ subprime หุ้นราคาลงมาเรื่อยๆ จนถึง 5 บาทกว่าๆ ก็เข้าใจนะครับว่าหุ้นมันลงตามตลาด แต่ก็กลับไปทำการบ้านมาใหม่ พบว่ายัง ok ดีเหมือนเดิม แล้วบริษัทนายจ้างล่ะประสบปัญหาอะไรหรือเปล่ามีเงินจ่ายค่างานหรือเปล่า พบว่าทางนั้นก็ ok ดี ( บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งของออสเตรเลีย อยู่ในตลาดหุ้นด้วย เลยพอหาข้อมูลมาได้ ) ก็เลยมานั่งคิดๆว่า หุ้นอะไร eps ก็ตั้ง 4 บาท แต่ราคาหุ้นแค่ 5 กว่าๆถึง 6 บาทนิดๆ พื้นฐานก็ดี ปัจจัยต่างๆก็ดี เอาล่ะคนอื่นเค้ากลัวกันแต่เราไม่กลัว โอกาสมาถึงแล้ว แล้วจะทำยังไงล่ะอยากได้แต่เงินไม่มี เลยหันกลับมาดูทรัพย์สินที่พอมีทั้งบ้านทั้งรถยนต์ ก็กำลังผ่อนอยู่แต่ก็ผ่อนไปได้พอสมควรแล้ว แต่ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้มันก็คือหนี้สินดีๆนั่นเอง เลยเกิดความคิดที่ว่าทำไมเราไม่แปลงทรัพย์สินให้เป็นทุนซะล่ะ จะปล่อยให้มันเป็นแค่หนี้สินคอยแต่จะฉุดเราอย่างนั้นหรือ ไหนๆโอกาสก็มาแล้ว ก็เลยจัดการเอาไปรีไฟแนนซ์ซะ ได้เงินมาอีก 7 หลักปลายๆ เอามาซื้อ stpi ตัวเดียว ได้มาเกือบหนึ่งล้านสามแสนหุ้น ( เงินกู้ล้วนๆครับแต่ไม่แนะนำให้เสี่ยงแบบผมนะครับเพราะผมมีแผนการที่ทำให้มันเป็นเงินเย็นได้ถ้าเหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิด ) จากนั้นไม่นาน บริษัทก็ประกาศปันผล 2.4 บาท หุ้นก็ upside ขึ้นเป็น 10 กว่าบาท สรุปรวมปันผลได้เด้งแรกแล้วในเวลาไม่ถึงปี นี่คือ story แรกๆของผมครับ ขอบคุณหมอสามัญชน ขอบคุณเวป thaivi ไว้ถ้ามีโอกาสจะมาเล่า story ตอนต่อไป ตอนนี้ง่วงแล้วครับขอพักผ่อนก่อนครับ
เพื่อเป็นวิทยาทานด้วยก็ดีนะครับ
เพราะสองปี โตเกือบ 10-100 เท่า
ท่านต้องอบรมน้องๆหน่อยครับ
จักเป็นพระคุณอย่างสูง
อย่างน้อย บอกหุ้นไม่ได้ บอกวิธีการก็ยังดีครับ
อยากฝากตัวเป็นศิษย์แต่เนิ่นๆครับ[/quote]ผมอธิบายไม่ค่อยเก่งนะครับ เอาเป็นคร่าวๆนะครับ เริ่มแรกมาก็ stpi เลยครับ ตั้งแต่ราคา 7 บาทกว่าๆ ก็พยายามวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆของทั้งตัวบริษัทเอง งบดุลบัญชี (แบบงูงู ปลาปลานะครับ เพราะมือใหม่ ) ดู backlog คาดการณ์ margin ที่ควรจะได้ เสร็จแล้วก็สืบลึกลงไปถึงไซด์งานเลยครับดูว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่า ตอนนั้นพบว่านายจ้างพอใจผลงานที่ได้มาก งานส่วนใหญ่ก็เสร็จตามแผน อัตรา margin ก็สูงมากประมาณ 20% คิดแล้ว eps น่าจะประมาณ 4 บาท เลยมั่นใจหุ้นตัวแรกนี้มากๆ ก็เริ่มซื้อเท่าที่เงินสดจะมีตอนนั้น (เกือบ 7 หลัก ) ต่อมาเนื่องจากวิกฤติ subprime หุ้นราคาลงมาเรื่อยๆ จนถึง 5 บาทกว่าๆ ก็เข้าใจนะครับว่าหุ้นมันลงตามตลาด แต่ก็กลับไปทำการบ้านมาใหม่ พบว่ายัง ok ดีเหมือนเดิม แล้วบริษัทนายจ้างล่ะประสบปัญหาอะไรหรือเปล่ามีเงินจ่ายค่างานหรือเปล่า พบว่าทางนั้นก็ ok ดี ( บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งของออสเตรเลีย อยู่ในตลาดหุ้นด้วย เลยพอหาข้อมูลมาได้ ) ก็เลยมานั่งคิดๆว่า หุ้นอะไร eps ก็ตั้ง 4 บาท แต่ราคาหุ้นแค่ 5 กว่าๆถึง 6 บาทนิดๆ พื้นฐานก็ดี ปัจจัยต่างๆก็ดี เอาล่ะคนอื่นเค้ากลัวกันแต่เราไม่กลัว โอกาสมาถึงแล้ว แล้วจะทำยังไงล่ะอยากได้แต่เงินไม่มี เลยหันกลับมาดูทรัพย์สินที่พอมีทั้งบ้านทั้งรถยนต์ ก็กำลังผ่อนอยู่แต่ก็ผ่อนไปได้พอสมควรแล้ว แต่ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้มันก็คือหนี้สินดีๆนั่นเอง เลยเกิดความคิดที่ว่าทำไมเราไม่แปลงทรัพย์สินให้เป็นทุนซะล่ะ จะปล่อยให้มันเป็นแค่หนี้สินคอยแต่จะฉุดเราอย่างนั้นหรือ ไหนๆโอกาสก็มาแล้ว ก็เลยจัดการเอาไปรีไฟแนนซ์ซะ ได้เงินมาอีก 7 หลักปลายๆ เอามาซื้อ stpi ตัวเดียว ได้มาเกือบหนึ่งล้านสามแสนหุ้น ( เงินกู้ล้วนๆครับแต่ไม่แนะนำให้เสี่ยงแบบผมนะครับเพราะผมมีแผนการที่ทำให้มันเป็นเงินเย็นได้ถ้าเหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิด ) จากนั้นไม่นาน บริษัทก็ประกาศปันผล 2.4 บาท หุ้นก็ upside ขึ้นเป็น 10 กว่าบาท สรุปรวมปันผลได้เด้งแรกแล้วในเวลาไม่ถึงปี นี่คือ story แรกๆของผมครับ ขอบคุณหมอสามัญชน ขอบคุณเวป thaivi ไว้ถ้ามีโอกาสจะมาเล่า story ตอนต่อไป ตอนนี้ง่วงแล้วครับขอพักผ่อนก่อนครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2606
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ร่วมวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ตลาด^^
โพสต์ที่ 38
เยี่ยมครับ ในวิกฤติ มีโอกาสจริงๆ