วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 1
สิ่งที่เจอในปี 2554
เรื่องภายนอกประเทศก่อนล่ะ
1.เรื่องปัจจัยของ QE2
2 เรื่องวิกฤติในยุโรป ว่าต้องถึงขั้นต้องแตกเป็นเงินสองสกุลหรือไม่
3. เรื่องของจีน อินเดียว่ายังคงพยุงการเติบโตของโลกหรือไม่
เรื่องในประเทศ
1. เงินเฟ้อจากการเพิ่มขึ้นของค่าแรง
2. ศก หลังจากการฟื้นฟูัตัว ศก จากแฮมเบอร์เกอร์ไครซิส
3. ความสามารถในการแข่งขันเมื่อน้ำมัีนขยับราคาเพิ่มขึ้น
4. การบ้านการเมืองที่กำลังถึงเวลายุบสภาและเลือกตั้งใหม่
5. ความร้อนแรงของอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
6. เงินโบนัสของพนักงานที่สูงในรอบสองสามปี
พวกนี้เอาไว้พิจารณากันล่ะกัน
เรื่องภายนอกประเทศก่อนล่ะ
1.เรื่องปัจจัยของ QE2
2 เรื่องวิกฤติในยุโรป ว่าต้องถึงขั้นต้องแตกเป็นเงินสองสกุลหรือไม่
3. เรื่องของจีน อินเดียว่ายังคงพยุงการเติบโตของโลกหรือไม่
เรื่องในประเทศ
1. เงินเฟ้อจากการเพิ่มขึ้นของค่าแรง
2. ศก หลังจากการฟื้นฟูัตัว ศก จากแฮมเบอร์เกอร์ไครซิส
3. ความสามารถในการแข่งขันเมื่อน้ำมัีนขยับราคาเพิ่มขึ้น
4. การบ้านการเมืองที่กำลังถึงเวลายุบสภาและเลือกตั้งใหม่
5. ความร้อนแรงของอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
6. เงินโบนัสของพนักงานที่สูงในรอบสองสามปี
พวกนี้เอาไว้พิจารณากันล่ะกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 2
ต่อยอดพี่ miracle อาจไม่ถูกต้องเหมือนพี่ miracle นะครับ และก็เป็นแบบรวม ๆ ด้วย
1. ภัยธรรมชาติที่รู้สึกว่ารุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
2. ราคา commodity ที่มีความผันผวนอย่างรุนแรง (ผมอิงจากข้อที่ 3 ปัจจัยภายนอกของพี่ miracle เพราะผู้ใช้ commodity มาก ๆ คงไม่พ้นสองประเทศนี้)
3. การควบรวมน่าจะเห็นได้มากขึ้นเพราะเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจ อันนี้น่าจะเกิดทั้งภายในภายนอกประเทศ
4. สนธิสัญญาทางการค้าต่าง ๆ ที่ส่งผลให้มีการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนไป เช่น FTA
5. อัตราการบริโภคที่เกินตัวภายในประเทศ เช่นบ้านหนึ่งหลังมี TV 2 - 3 เครื่อง รถยนต์ มีไม่ต่ำกว่าสองคัน
6. แนวโน้มของสุขภาพที่มากแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทุก ๆ ปี เช่นการรณรงค์เรื่องเหล้า บุหรี่ การตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี (ตอนแรกจะอยู่แค่ในบริษัท ผมว่าปีหน้าและปีต่อ ๆ ไปจะขยายออกสู่ชุมชนมากขึ้น)
7. สงครามค่าเงิน (แหมอันนี้มั่วจริง ๆ )
1. ภัยธรรมชาติที่รู้สึกว่ารุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
2. ราคา commodity ที่มีความผันผวนอย่างรุนแรง (ผมอิงจากข้อที่ 3 ปัจจัยภายนอกของพี่ miracle เพราะผู้ใช้ commodity มาก ๆ คงไม่พ้นสองประเทศนี้)
3. การควบรวมน่าจะเห็นได้มากขึ้นเพราะเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจ อันนี้น่าจะเกิดทั้งภายในภายนอกประเทศ
4. สนธิสัญญาทางการค้าต่าง ๆ ที่ส่งผลให้มีการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนไป เช่น FTA
5. อัตราการบริโภคที่เกินตัวภายในประเทศ เช่นบ้านหนึ่งหลังมี TV 2 - 3 เครื่อง รถยนต์ มีไม่ต่ำกว่าสองคัน
6. แนวโน้มของสุขภาพที่มากแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทุก ๆ ปี เช่นการรณรงค์เรื่องเหล้า บุหรี่ การตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี (ตอนแรกจะอยู่แค่ในบริษัท ผมว่าปีหน้าและปีต่อ ๆ ไปจะขยายออกสู่ชุมชนมากขึ้น)
7. สงครามค่าเงิน (แหมอันนี้มั่วจริง ๆ )
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 3
ทำนายเศรษฐกิจกันไปก็เท่านั้น เมื่อปีที่แล้วคนส่วนใหญ่ยังทำนายผิดกันในเรื่องว่า
เศรษฐกิจไทยปีนี้ฟื้นตัวเร็วเกินคาด หุ้นไทยแต่1000จุด
อะไรๆไม่คาดฝันมันมากมาย
เราเป็นนักลงทุนนะ ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ (ขนาดนักเศรษฐศาสตร์หลายๆคนยังทำนายผิดเลย)
ทำหน้าที่ตัวเอง ฝึกฝนในแนวทางตัวเองให้เก่งๆก็พอ จริงไหม ?
บริษัทไหนมันคุ้มค่าที่จะลงทุน
การลงทุนมันสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดได้ในอนาคต
ผู้บริหารเชื่อถือได้
ราคาที่จ่ายมันไม่เกินไป **มีส่วนต่างเพื่อความปลอดภัย**
ก็จงลงทุนไปเถิด
เศรษฐกิจไทยปีนี้ฟื้นตัวเร็วเกินคาด หุ้นไทยแต่1000จุด
อะไรๆไม่คาดฝันมันมากมาย
เราเป็นนักลงทุนนะ ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ (ขนาดนักเศรษฐศาสตร์หลายๆคนยังทำนายผิดเลย)
ทำหน้าที่ตัวเอง ฝึกฝนในแนวทางตัวเองให้เก่งๆก็พอ จริงไหม ?
บริษัทไหนมันคุ้มค่าที่จะลงทุน
การลงทุนมันสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดได้ในอนาคต
ผู้บริหารเชื่อถือได้
ราคาที่จ่ายมันไม่เกินไป **มีส่วนต่างเพื่อความปลอดภัย**
ก็จงลงทุนไปเถิด
ลงทุนเพื่อชีวิต
- tawitin9
- Verified User
- โพสต์: 71
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 4
จริงเลยครับ ผมเห็นนักวิเคราะห์หรือผู้เชี่ยวชาญออกมาทายทีไรผิดทุกทีthaloengsak เขียน:ทำนายเศรษฐกิจกันไปก็เท่านั้น เมื่อปีที่แล้วคนส่วนใหญ่ยังทำนายผิดกันในเรื่องว่า
เศรษฐกิจไทยปีนี้ฟื้นตัวเร็วเกินคาด หุ้นไทยแต่1000จุด
อะไรๆไม่คาดฝันมันมากมาย
เราเป็นนักลงทุนนะ ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ (ขนาดนักเศรษฐศาสตร์หลายๆคนยังทำนายผิดเลย)
ทำหน้าที่ตัวเอง ฝึกฝนในแนวทางตัวเองให้เก่งๆก็พอ จริงไหม ?
บริษัทไหนมันคุ้มค่าที่จะลงทุน
การลงทุนมันสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดได้ในอนาคต
ผู้บริหารเชื่อถือได้
ราคาที่จ่ายมันไม่เกินไป **มีส่วนต่างเพื่อความปลอดภัย**
ก็จงลงทุนไปเถิด
ฝึกฝนแนวทางตัวเองให้เก่งๆ ลงทุนแบบ vi เนี่ยสุดยอดแล้ว
แต่การนั่งวิเคราะห์เศรษฐกิจหรือปัจจัยการลงทุนเล่นๆบ้าง ผมว่าก็น่าสนุกดีนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 5
ถ้าไม่คิดไว้ก่อนว่าเจออะไรไว้บ้างในอนาคต
แล้ววิเคราะห์ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้หรือเปล่า
ความเสี่ยงพวกนี้ถ้าเกิดขึ้นรับมืออย่างไงล่ะ
ถ้าหากเกิดขึ้นมาแล้วเจอของถูกเตรียมเสบียงไว้แล้วหรือยังล่ะ
ความเสี่ยงถ้าปิดได้มากเท่าไร ก็เป็นผลดีไม่ใช่หรือ
แล้ววิเคราะห์ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้หรือเปล่า
ความเสี่ยงพวกนี้ถ้าเกิดขึ้นรับมืออย่างไงล่ะ
ถ้าหากเกิดขึ้นมาแล้วเจอของถูกเตรียมเสบียงไว้แล้วหรือยังล่ะ
ความเสี่ยงถ้าปิดได้มากเท่าไร ก็เป็นผลดีไม่ใช่หรือ
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 6
ถ้าไม่คิดเลย ก็เท่ากับว่าไม่ได้คิด downside risk ไว้เลย แต่ถ้าคิดเพราะคิดว่าจะได้เล็งซื้อกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ก็อาจจะผิดหวังได้ง่ายๆครับ
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 8
พอได้ฟังพยากรณ์อากาศว่า...
วันพรุ่งนี้ฝนจะตกฟ้าคะนอง
คนที่เตรียมจะออกจากบ้าน ก็จะตระเตรียมร่ม
หรือบ้างก็ปรับเปลี่ยนโปรแกรมไปเลยก็มี
แต่สำหรับบางคนก็ไม่ได้ตระเตรียมอะไร
ใช้ชีวิตปกติเหมือนเมื่อวาน
คนที่เตรียมร่มก็บอกคนที่ไม่ได้เตรียมอะไรว่า...
พรุ่งนี้ฝนอาจจะมีตกนะ
คนที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรก็ตอบไปว่า...
ขอบคุณครับ ผมสัมผัสได้ถึงความหวังดีของคุณจริงๆ
และหลังจากนั้น...
ทุกคนต่างก็ใช้ชีวิตตามจังหวะของตัวเองกันต่อไป
วันพรุ่งนี้ฝนจะตกฟ้าคะนอง
คนที่เตรียมจะออกจากบ้าน ก็จะตระเตรียมร่ม
หรือบ้างก็ปรับเปลี่ยนโปรแกรมไปเลยก็มี
แต่สำหรับบางคนก็ไม่ได้ตระเตรียมอะไร
ใช้ชีวิตปกติเหมือนเมื่อวาน
คนที่เตรียมร่มก็บอกคนที่ไม่ได้เตรียมอะไรว่า...
พรุ่งนี้ฝนอาจจะมีตกนะ
คนที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรก็ตอบไปว่า...
ขอบคุณครับ ผมสัมผัสได้ถึงความหวังดีของคุณจริงๆ
และหลังจากนั้น...
ทุกคนต่างก็ใช้ชีวิตตามจังหวะของตัวเองกันต่อไป
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 10
สำคัญทั้งสองอย่างนะผมว่า
แต่สำคัญไม่เท่ากัน
ที่จริงควรจะสำคัญหลายๆอย่าง ไม่ใช่แค่สองหรือสาม
ถ้าเราคิดแบบ all or none.นั่นคือคิดในเชิงคุณภาพ
คุณภาพในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสิ่งที่ดีมีคุณภาพ แต่คือสิ่งที่วัดเป็นตัวเลขไม่ได้
คำตอบจะมีแค่สามอย่างหรือไม่กี่อย่าง คือ ใช่. ไม่ใช่ และกลางๆทั้งใช่และไม่ใช่
คือสีดำ สีขาว และสีเทา
แต่ถ้่าคิดแบบปริมาณ คำตอบจะมีมากกว่าและสอดคล้องกับข้อเม็จจริงมากกว่า เช่น กำไรสิบ กำไรร้อย ขาดทุนยี่สิบห้า ขาดทุนสามร้อยแปดสิบ
คือสีดำ สีขาว สีแดง สีเหลือง สีม่วง สีฟ้าอ่อน สีฟ้าเข้ม สีฟ้าเข้มมาก
ท่านหนึ่งบอกว่าโปรตีนสำคัญกับร่างกาย
อีกท่านบอกว่าซุปไก่สกัดจำเป็นต่อร่างกาย
ที่จริงก็สำคัญทั้งคู่. แต่สำคัญไม่เท่ากัน
ทางที่ดีเราควรจะเรียงลำดับความสำคัญ
เรื่องการวิเคราะห์หุ้นนั้น
ผมเรียงลำดับดังนี้. อาจจะผิดก็ได้ ท่านใดเป็นผู้รู้โปรดช่วยแนะนำผมด้วย
1. มองไปที่ความ. undervalue ของหุ้นเรา
2. มองอนาคตของบริษัทเรา
3. มองอนาคตกลุ่มอุตสาหกรรมของบริษัทเรา
4. มองเศรฐกิจของประเทศเรา
5. มองเศรษฐกิจโลก
อันไหนขึ้นก่อนอันนั้นสำคัญกว่า
ถามว่าถ้าเศรษฐกิจโลกพังหมด. บริษัทเราจะเหลือหรือ
ตอบว่าถ้าโลกพัง ก็พังหมดทุกบริษัทอยู่ดี
หุ้นที่ undervalue ยังพัง
หุ้นที่ overvalue จะเหลือหรือ
อาจจะมีฟลุคๆด้วยเหตุใดก็ตาม. หรือาจจะมีคนปั่น หุ้น over เด้งสวน ก็ปล่อยเขาไป
หุ้นที่อนาคตของอุตสาหกรรมดี ยังพัง
หุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมแย่ จะเหลือหรือ
ถ้ายังดี ผมก็ยอมรับชะตากรรม
ความพยายามเป็นเรื่องของมนุษย์
ความสำเร็จเป็นเรื่องของกรรม
แต่สำคัญไม่เท่ากัน
ที่จริงควรจะสำคัญหลายๆอย่าง ไม่ใช่แค่สองหรือสาม
ถ้าเราคิดแบบ all or none.นั่นคือคิดในเชิงคุณภาพ
คุณภาพในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสิ่งที่ดีมีคุณภาพ แต่คือสิ่งที่วัดเป็นตัวเลขไม่ได้
คำตอบจะมีแค่สามอย่างหรือไม่กี่อย่าง คือ ใช่. ไม่ใช่ และกลางๆทั้งใช่และไม่ใช่
คือสีดำ สีขาว และสีเทา
แต่ถ้่าคิดแบบปริมาณ คำตอบจะมีมากกว่าและสอดคล้องกับข้อเม็จจริงมากกว่า เช่น กำไรสิบ กำไรร้อย ขาดทุนยี่สิบห้า ขาดทุนสามร้อยแปดสิบ
คือสีดำ สีขาว สีแดง สีเหลือง สีม่วง สีฟ้าอ่อน สีฟ้าเข้ม สีฟ้าเข้มมาก
ท่านหนึ่งบอกว่าโปรตีนสำคัญกับร่างกาย
อีกท่านบอกว่าซุปไก่สกัดจำเป็นต่อร่างกาย
ที่จริงก็สำคัญทั้งคู่. แต่สำคัญไม่เท่ากัน
ทางที่ดีเราควรจะเรียงลำดับความสำคัญ
เรื่องการวิเคราะห์หุ้นนั้น
ผมเรียงลำดับดังนี้. อาจจะผิดก็ได้ ท่านใดเป็นผู้รู้โปรดช่วยแนะนำผมด้วย
1. มองไปที่ความ. undervalue ของหุ้นเรา
2. มองอนาคตของบริษัทเรา
3. มองอนาคตกลุ่มอุตสาหกรรมของบริษัทเรา
4. มองเศรฐกิจของประเทศเรา
5. มองเศรษฐกิจโลก
อันไหนขึ้นก่อนอันนั้นสำคัญกว่า
ถามว่าถ้าเศรษฐกิจโลกพังหมด. บริษัทเราจะเหลือหรือ
ตอบว่าถ้าโลกพัง ก็พังหมดทุกบริษัทอยู่ดี
หุ้นที่ undervalue ยังพัง
หุ้นที่ overvalue จะเหลือหรือ
อาจจะมีฟลุคๆด้วยเหตุใดก็ตาม. หรือาจจะมีคนปั่น หุ้น over เด้งสวน ก็ปล่อยเขาไป
หุ้นที่อนาคตของอุตสาหกรรมดี ยังพัง
หุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมแย่ จะเหลือหรือ
ถ้ายังดี ผมก็ยอมรับชะตากรรม
ความพยายามเป็นเรื่องของมนุษย์
ความสำเร็จเป็นเรื่องของกรรม
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 11
[quote="สามัญชน"]
ที่จริงก็สำคัญทั้งคู่. แต่สำคัญไม่เท่ากัน
ทางที่ดีเราควรจะเรียงลำดับความสำคัญ
เรื่องการวิเคราะห์หุ้นนั้น
1. มองไปที่ความ. undervalue ของหุ้นเรา
2. มองอนาคตของบริษัทเรา
3. มองอนาคตกลุ่มอุตสาหกรรมของบริษัทเรา
4. มองเศรฐกิจของประเทศเรา
5. มองเศรษฐกิจโลก
อันไหนขึ้นก่อนอันนั้นสำคัญกว่า
ความพยายามเป็นเรื่องของมนุษย์
ความสำเร็จเป็นเรื่องของกรรม[/quote]
ด้วยความเคารพอย่างสูง คำสอนของท่านเข้าถึงจิตใจของผมได้อย่างลึกล้ำจริงๆ
ที่จริงก็สำคัญทั้งคู่. แต่สำคัญไม่เท่ากัน
ทางที่ดีเราควรจะเรียงลำดับความสำคัญ
เรื่องการวิเคราะห์หุ้นนั้น
1. มองไปที่ความ. undervalue ของหุ้นเรา
2. มองอนาคตของบริษัทเรา
3. มองอนาคตกลุ่มอุตสาหกรรมของบริษัทเรา
4. มองเศรฐกิจของประเทศเรา
5. มองเศรษฐกิจโลก
อันไหนขึ้นก่อนอันนั้นสำคัญกว่า
ความพยายามเป็นเรื่องของมนุษย์
ความสำเร็จเป็นเรื่องของกรรม[/quote]
ด้วยความเคารพอย่างสูง คำสอนของท่านเข้าถึงจิตใจของผมได้อย่างลึกล้ำจริงๆ
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 13
มาเดาเล่นๆ ด้วยคน เอาดราม่าหน่อยนะครับ
1. มาตรการ QE 2 จะทำให้เงินเฟ้อขึ้น
2. ราคา Commodity จะขยับสูงขึ้นอีก
3. ผลจากภัยธรรมชาติ หรือ การเมือง จะยิ่งปะทุราคา Commodity ขยับสูงได้อีก
4. USA ทำอย่างอื่นไม่เป็น นอกจากพิมพ์เเบง กงเต็ก อัตราการว่างงานไม่ดีขึ้น บ้านขายไม่ออกเหมือนเดิม
5. เงินเฟ้อสูงขึ้น เเบงค์ชาติประเทศ สารขัณท์ขึ้นดอกเบี้ย ชดเชยเงินเฟ้อ
6. เงินไหลบ่าท่วมตลาดตราสารหนี้ เเละ ทุน เงินบาทเเข็งค่าขึ้นสุดๆ เพราะ bond yield gap ที่กว้าง
7.ผู้ส่งออกไทยร้องครวญครางให้รัฐบาลช่วย
8. คนไทยเห็นหุ้นขึ้น จะโดดเข้ามาเเจมอีกเพียบ
9. โบรคเกอร์จะปรับ ราคาเป้าหมายขึ้นเรื่อยๆ พร้อมหาเหตุผล มาอธิบายราคาเป้าใหม่ได้เสมอ
10. VI เริ่มกระสับ กระส่าย ไม่มีหุ้นถูกให้ซื้อ เริ่มเครียด อยู่เฉยๆอึดอัด
11. นักเก็งกำไรเข้ามาเรื่อยๆ เเละทุกคนพร้อมจะโดดหนี เพราะกำไรกันทุกคน
12. มนุษย์ทองคำจะกลับมาอีกครั้ง เฉิดฉายบนเวทีสัมนาต่างๆ
13. รัฐบาลจะประกาศว่า หุ้นขึ้นเพราะฝีมือการบริหารประเทศของ ตรู
14. เลือกตั้งใหม่ ขั้วเดิมยังคงอยู่
15.ฟุตบอลทีมชาติ ยังตกรอบเเรกทุกรายการเหมือนเดิม
1. มาตรการ QE 2 จะทำให้เงินเฟ้อขึ้น
2. ราคา Commodity จะขยับสูงขึ้นอีก
3. ผลจากภัยธรรมชาติ หรือ การเมือง จะยิ่งปะทุราคา Commodity ขยับสูงได้อีก
4. USA ทำอย่างอื่นไม่เป็น นอกจากพิมพ์เเบง กงเต็ก อัตราการว่างงานไม่ดีขึ้น บ้านขายไม่ออกเหมือนเดิม
5. เงินเฟ้อสูงขึ้น เเบงค์ชาติประเทศ สารขัณท์ขึ้นดอกเบี้ย ชดเชยเงินเฟ้อ
6. เงินไหลบ่าท่วมตลาดตราสารหนี้ เเละ ทุน เงินบาทเเข็งค่าขึ้นสุดๆ เพราะ bond yield gap ที่กว้าง
7.ผู้ส่งออกไทยร้องครวญครางให้รัฐบาลช่วย
8. คนไทยเห็นหุ้นขึ้น จะโดดเข้ามาเเจมอีกเพียบ
9. โบรคเกอร์จะปรับ ราคาเป้าหมายขึ้นเรื่อยๆ พร้อมหาเหตุผล มาอธิบายราคาเป้าใหม่ได้เสมอ
10. VI เริ่มกระสับ กระส่าย ไม่มีหุ้นถูกให้ซื้อ เริ่มเครียด อยู่เฉยๆอึดอัด
11. นักเก็งกำไรเข้ามาเรื่อยๆ เเละทุกคนพร้อมจะโดดหนี เพราะกำไรกันทุกคน
12. มนุษย์ทองคำจะกลับมาอีกครั้ง เฉิดฉายบนเวทีสัมนาต่างๆ
13. รัฐบาลจะประกาศว่า หุ้นขึ้นเพราะฝีมือการบริหารประเทศของ ตรู
14. เลือกตั้งใหม่ ขั้วเดิมยังคงอยู่
15.ฟุตบอลทีมชาติ ยังตกรอบเเรกทุกรายการเหมือนเดิม
สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่ เเละดับไปในที่สุด
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 15
QE2 ผมว่าเป็นตัวส่งให้ตลาดต่างประเทศ (คือรวมทั้ง SET ด้วย) ปรับตัวสูงขึ้นในระยะเวลาที่ผ่านมา เนื่องจากว่า Treasuries บางส่วนถูก Fed ซื้อไป ทำให้เงินลงทุนที่เคยอาจจะ park อยู่ใน Treasuries ก็เลยได้ออกมาวิ่งเล่นนอกบ้านอย่างที่เป็นอยู่นี้
ถ้ามอง QE ในแง่แค่ต้องการกระตุ้นเม็ดเงินแล้วหละก็ มีโอกาสสองทางคือ
1. สภาพคล่อง (การปล่อยกู้) ภายใน U.S. ยังไม่ดีขึ้น ก็จะมี QE3 -> QE4 -> QE5 ต่อไป โอกาสก็คือเงินยิ่งไหลออกมาจาก USD อีก ถ้าไม่มีการแก้ปัญหา deficit USD ก็จะด้อยค่าลงอีก commodities ก็อาจจะมีราคาผันผวนอีกได้ เพราะมีการเข้าเก็งกำไรหนี USD
2. ถ้าสภาพคล่องใน U.S. ดีขึ้น QE2 จบ fed ก็อาจจะปล่อยไปซักพักก่อนจะขาย treasuries คืนออกมา (จนอาจจะล้นตลาด) เท่ากับราคาหน้าตั๋วลด yield เพิ่ม โอกาสที่เงินบางส่วนที่อยู่ในตลาดบ้านเรา จะไหลกลับไปที่การลงทุนที่เสี่ยงน้อยกว่า แต่มีผลตอบแทนสูงขึ้น ก็มีโอกาสเป็นไปได้
เงินเฟ้อ ถ้ามองในแง่ว่า commodity จะราคาสูงขึ้น ก็อาจจะใช่ แต่ไม่ใช่ demand-pull inflation แน่ๆ ตราบใดที่ unemployment rate ยังไม่กลับลงมาในระดับที่น่าพอใจกว่านี้
ถ้ามอง QE ในแง่แค่ต้องการกระตุ้นเม็ดเงินแล้วหละก็ มีโอกาสสองทางคือ
1. สภาพคล่อง (การปล่อยกู้) ภายใน U.S. ยังไม่ดีขึ้น ก็จะมี QE3 -> QE4 -> QE5 ต่อไป โอกาสก็คือเงินยิ่งไหลออกมาจาก USD อีก ถ้าไม่มีการแก้ปัญหา deficit USD ก็จะด้อยค่าลงอีก commodities ก็อาจจะมีราคาผันผวนอีกได้ เพราะมีการเข้าเก็งกำไรหนี USD
2. ถ้าสภาพคล่องใน U.S. ดีขึ้น QE2 จบ fed ก็อาจจะปล่อยไปซักพักก่อนจะขาย treasuries คืนออกมา (จนอาจจะล้นตลาด) เท่ากับราคาหน้าตั๋วลด yield เพิ่ม โอกาสที่เงินบางส่วนที่อยู่ในตลาดบ้านเรา จะไหลกลับไปที่การลงทุนที่เสี่ยงน้อยกว่า แต่มีผลตอบแทนสูงขึ้น ก็มีโอกาสเป็นไปได้
เงินเฟ้อ ถ้ามองในแง่ว่า commodity จะราคาสูงขึ้น ก็อาจจะใช่ แต่ไม่ใช่ demand-pull inflation แน่ๆ ตราบใดที่ unemployment rate ยังไม่กลับลงมาในระดับที่น่าพอใจกว่านี้
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
-
- Verified User
- โพสต์: 1426
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 17
ขออนุญาต
จากการเสพย์ข่าวสารที่ปรากฏตามสื่อทั่วไป ผมสรุปคร่าว ๆ ว่า ภาพใหญ่ของเศรษฐกิจไทยยังเดินหน้าได้ดีอยู่
ไม่น่ามีอะไรรุนแรงน่าห่วง รวมทั้งการเมือง
ในแง่ความเห็นส่วนตัว คิดว่าการทำธุรกิจจะยากขึ้นสำหรับบริษัทขนาดเล็ก
บริษัทขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งจะได้เปรียบ
และจะได้เปรียบมากขึ้นในปีต่อ ๆ ไป
คนรวยซึ่งเป็นส่วนน้อยจะรวยมากขึ้น
ส่วนการลงทุนในหุ้น ผมคิดว่ายังคงให้ผลตอบแทนที่ดีได้ หากใช้ความละเอียดในการเลือกและร่อนบริษัท
สิ่งที่จะพบบ่อยมากขึ้นในการลงทุนในตลาดหุ้น อาจจะเป็นความผันผวน เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง (จนอาจทำให้นักเทคนิคสับสน) เพราะตลาดหลักพันจุด มีการเก็งกำไรสูงกว่าหลักร้อย
ที่สำคัญผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากในช่วงหลัง ยังมีความอ่อนไหวกับภาะตลาด เกิดการ over-react เช่น ขึ้นมากเกินและลงมากเกิน ตกใจซื้อและตกใจขาย
และบางส่วนมักถือคติ TAKE PROFIT และ CUT LOST เป็นหนึ่งในหลักการเอาตัวรอดในตลาด
ทำให้เกิดการเทคกันบ่อย และคัทกันจนเฟ้อ
.......................................................
ไม่ว่าจะปีไหน ๆ ตลาดหุ้นก็เป็นสวรรค์ของนักลงทุนเสมอ
จากการเสพย์ข่าวสารที่ปรากฏตามสื่อทั่วไป ผมสรุปคร่าว ๆ ว่า ภาพใหญ่ของเศรษฐกิจไทยยังเดินหน้าได้ดีอยู่
ไม่น่ามีอะไรรุนแรงน่าห่วง รวมทั้งการเมือง
ในแง่ความเห็นส่วนตัว คิดว่าการทำธุรกิจจะยากขึ้นสำหรับบริษัทขนาดเล็ก
บริษัทขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งจะได้เปรียบ
และจะได้เปรียบมากขึ้นในปีต่อ ๆ ไป
คนรวยซึ่งเป็นส่วนน้อยจะรวยมากขึ้น
ส่วนการลงทุนในหุ้น ผมคิดว่ายังคงให้ผลตอบแทนที่ดีได้ หากใช้ความละเอียดในการเลือกและร่อนบริษัท
สิ่งที่จะพบบ่อยมากขึ้นในการลงทุนในตลาดหุ้น อาจจะเป็นความผันผวน เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง (จนอาจทำให้นักเทคนิคสับสน) เพราะตลาดหลักพันจุด มีการเก็งกำไรสูงกว่าหลักร้อย
ที่สำคัญผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากในช่วงหลัง ยังมีความอ่อนไหวกับภาะตลาด เกิดการ over-react เช่น ขึ้นมากเกินและลงมากเกิน ตกใจซื้อและตกใจขาย
และบางส่วนมักถือคติ TAKE PROFIT และ CUT LOST เป็นหนึ่งในหลักการเอาตัวรอดในตลาด
ทำให้เกิดการเทคกันบ่อย และคัทกันจนเฟ้อ
.......................................................
ไม่ว่าจะปีไหน ๆ ตลาดหุ้นก็เป็นสวรรค์ของนักลงทุนเสมอ
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 18
สไตล์พี่หมอคงเป็นแบบ Bottom-up บางคนก็เป็นแบบ Top-Down ซึ่งผมเองคงไม่อาจหาญบอกได้ว่าแบบไหนจะดีกว่าเรื่องการวิเคราะห์หุ้นนั้น
ผมเรียงลำดับดังนี้. อาจจะผิดก็ได้ ท่านใดเป็นผู้รู้โปรดช่วยแนะนำผมด้วย
1. มองไปที่ความ. undervalue ของหุ้นเรา
2. มองอนาคตของบริษัทเรา
3. มองอนาคตกลุ่มอุตสาหกรรมของบริษัทเรา
4. มองเศรฐกิจของประเทศเรา
5. มองเศรษฐกิจโลก
อันไหนขึ้นก่อนอันนั้นสำคัญกว่า
แต่สำหรับผม ตอนที่ผมมองหาหุ้นที่เป็นพวกวัฎจักร หรือพวก commodity ผมจะเลือกมอง Top-down แต่ถ้ามองหาหุ้นโตเร็วผมจะชอบมอง Bottom-up
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
-
- Verified User
- โพสต์: 62
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 19
ราคาสินค้าเกตรเพิ่มขึ้น ลูกจ้างรัฐ ข้าราชการได้รับการปรับเงินเดือน ผู้ใช้แรงงาน ลูกจ้างบริษัทห้างร้าน ได้ค่าแรงเพิ่มขึ้นแต่แพ้ค่าครองชีพที่เพิ่ม ธนาคารอยากให้ลูกค้าชั้นดีกู้เงิน แต่ที่เข้าแถวรอกันเป็นเกษตรกร ข้าราชการ และ ผู้ใช้แรงงาน ส่วนผู้ประกอบการก็พอสามารถกู้เงินได้ แต่ต้องมีหลักทรัพย์สูงมากในการนำมาค้ำประกันเงินกู้
ธุรกิจประเภท ขาย Computer และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง, Internet, เกมส์, Delivery, E-comm, อาหารประเภทสำเร็จรูป หรือกึ่งสำเร็จรูปได้รับความนิยม
ธุรกิจประเภท ขาย Computer และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง, Internet, เกมส์, Delivery, E-comm, อาหารประเภทสำเร็จรูป หรือกึ่งสำเร็จรูปได้รับความนิยม
Win Win
-
- Verified User
- โพสต์: 221
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 24
ไม่เจอดี ก็เจอดอย อิ อิ
เอาหละจริงจังและนะ พี่มิตั้งประเด็นว่าปีหน้าจะเจอไร
มองว่าเรื่องดอกเบี้ยจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะมีผลกับเทรนด์ใหญ่ของตลาดของทั้งในและต่างประเทศ
อย่างเรื่องภาวะเสี่ยงสงคราม ไรงี้ จะมีผลกระทบระยะสั้น ยิ่งเรื่องการเมืองยิ่ง no big deal หนูว่า
เอาหละจริงจังและนะ พี่มิตั้งประเด็นว่าปีหน้าจะเจอไร
มองว่าเรื่องดอกเบี้ยจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะมีผลกับเทรนด์ใหญ่ของตลาดของทั้งในและต่างประเทศ
อย่างเรื่องภาวะเสี่ยงสงคราม ไรงี้ จะมีผลกระทบระยะสั้น ยิ่งเรื่องการเมืองยิ่ง no big deal หนูว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิเคราะห์ปี 2554 ว่าเจออะไรบ้าง
โพสต์ที่ 26
เจอหรือไม่เจอต้องเตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัวอย่าง
อย่างเช่นเมื่อวานนี้ได้ฟังข่าวเรื่อง สภาพอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง
อันนี้เตือนมาก็ต้องฟัง เพราะข่าวพวกนี้เราติดตามข้อมูลน้อยมาก
เหตุการณ์ใหญ่ของปีนี้มีตั้งแต่แผ่นดินไหวที่เฺฮติ
ภูเขาไฟระเบิดที่ไอซ์แลนด์ทำให้เครื่องบินบินไม่ได้เป็นอาทิตย์
ซึนามิ ก็มีแถวนี้
น้ำท่วมกันมาก
เป็นต้น
อย่างเช่นเมื่อวานนี้ได้ฟังข่าวเรื่อง สภาพอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง
อันนี้เตือนมาก็ต้องฟัง เพราะข่าวพวกนี้เราติดตามข้อมูลน้อยมาก
เหตุการณ์ใหญ่ของปีนี้มีตั้งแต่แผ่นดินไหวที่เฺฮติ
ภูเขาไฟระเบิดที่ไอซ์แลนด์ทำให้เครื่องบินบินไม่ได้เป็นอาทิตย์
ซึนามิ ก็มีแถวนี้
น้ำท่วมกันมาก
เป็นต้น