หามูลค่าที่แท้จริงอย่างไร ??
- jek ae
- Verified User
- โพสต์: 899
- ผู้ติดตาม: 0
หามูลค่าที่แท้จริงอย่างไร ??
โพสต์ที่ 2
ผมใช้วิธีประมาณการกำไรในอนาคต (eps) คูณกับค่า p/e เฉลี่ยของอุตสาหกรรม ค่าที่ได้จะเป็นค่า ราคาที่เหมาะสม (ในอนาคต)
ปัญหาคือการประมาณการกำไรในอนาคตนี่แหละที่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าที่ประเมินมานั้นถูกต้องหรือใกล้เคียงความเป็นจริง ผมเลยเลือกลงทุนแต่ธุรกิจที่พอจะคาดเดาการเติบโตและที่มาของรายได้ได้ฃัดเจน
ปัญหาคือการประมาณการกำไรในอนาคตนี่แหละที่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าที่ประเมินมานั้นถูกต้องหรือใกล้เคียงความเป็นจริง ผมเลยเลือกลงทุนแต่ธุรกิจที่พอจะคาดเดาการเติบโตและที่มาของรายได้ได้ฃัดเจน
-
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
หามูลค่าที่แท้จริงอย่างไร ??
โพสต์ที่ 3
ความคิดและวิธีการส่วนตัวนะครับ
ผมจะแบ่งการวิเคราะห์ออกเป็น 2 ส่วนคือ การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ และการวิเคราะห์เชิงปริมาณ
การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ เราจะต้องรู้ให้ได้ว่าบริษัทที่เราสนใจเค้าทำธุรกิจอะไร ผลิตภัฑณ์ของเค้าคืออะไร อะไรเป็นจุดแข็ง อะไรเป็นจุดอ่อน ลองจินตนาการว่าถ้าจะทำให้ธุรกิจนี้เติบโตบริษัทต้องทำอย่างไร เช่นเพิ่มสาขา เพิ่มผลิตภัณฑ์ ลองจิตนการต่อไปว่า เหตุการณ์วิกฤตทางศก. ต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นรอบๆ ตัวเรา ส่งผลอย่างไรกับบ. เช่น ค่าเงินแข็ง สุดท้ายผู้บริหารเป็นอย่างไร ใครถือหุ้นใหญ่
การวิเคราะห์เชิงปริมาณ คือการวิเคราะห์เพื่อหาตัวเลขว่าราคาที่ควรจะเป็นควรอยู่เท่าไหร่ แต่การวิเคราะห์นี้มันจะต้องมีการประมาณการตัวเลขต่างๆ ในอนาคต ผมจะใช้ model ต่างๆ ประมาณนี้ครับ
1. Discounted Free Cast Flow to Firm Model เป็นการคิดหาส่วนลดกระแสเงินสดอิสระ เพื่อประเมินราคา ส่วนที่ต้อง forcast ก็คือ อัตราการเติบโตของกระแสเงินสดอิสระ และ discount rate ตัวเลข 2 ตัวนี้ sensitive มาก เปลี่ยนแค่นิดเดียว ค่าที่ได้จะเปลี่ยนไปมากมาย
2. Discounted Free cast flow to equity Model คล้ายๆ อันแรกครับ
3. Discounted Dividend Model การคิดส่วนลดของเงินปันผล ซึ่งก็ต้อง forcast ตัวเลขเช่นกัน
4. Residual Income ก็ต้องมีการ forcast ค่าต่างๆ อีกเหมือนกัน
5. Price Base พวกนี้ได้แก่ PE , P/BV แต่อาจต้องมีการปรับลดค่าต่างๆ จากงบการเงินอีกด้วย
หลังจากคำนวณราคาได้แล้ว ก็ควรจะเผื่อค่า Margin of Safe ไว้ด้วยนะครับ
ผมจะแบ่งการวิเคราะห์ออกเป็น 2 ส่วนคือ การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ และการวิเคราะห์เชิงปริมาณ
การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ เราจะต้องรู้ให้ได้ว่าบริษัทที่เราสนใจเค้าทำธุรกิจอะไร ผลิตภัฑณ์ของเค้าคืออะไร อะไรเป็นจุดแข็ง อะไรเป็นจุดอ่อน ลองจินตนาการว่าถ้าจะทำให้ธุรกิจนี้เติบโตบริษัทต้องทำอย่างไร เช่นเพิ่มสาขา เพิ่มผลิตภัณฑ์ ลองจิตนการต่อไปว่า เหตุการณ์วิกฤตทางศก. ต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นรอบๆ ตัวเรา ส่งผลอย่างไรกับบ. เช่น ค่าเงินแข็ง สุดท้ายผู้บริหารเป็นอย่างไร ใครถือหุ้นใหญ่
การวิเคราะห์เชิงปริมาณ คือการวิเคราะห์เพื่อหาตัวเลขว่าราคาที่ควรจะเป็นควรอยู่เท่าไหร่ แต่การวิเคราะห์นี้มันจะต้องมีการประมาณการตัวเลขต่างๆ ในอนาคต ผมจะใช้ model ต่างๆ ประมาณนี้ครับ
1. Discounted Free Cast Flow to Firm Model เป็นการคิดหาส่วนลดกระแสเงินสดอิสระ เพื่อประเมินราคา ส่วนที่ต้อง forcast ก็คือ อัตราการเติบโตของกระแสเงินสดอิสระ และ discount rate ตัวเลข 2 ตัวนี้ sensitive มาก เปลี่ยนแค่นิดเดียว ค่าที่ได้จะเปลี่ยนไปมากมาย
2. Discounted Free cast flow to equity Model คล้ายๆ อันแรกครับ
3. Discounted Dividend Model การคิดส่วนลดของเงินปันผล ซึ่งก็ต้อง forcast ตัวเลขเช่นกัน
4. Residual Income ก็ต้องมีการ forcast ค่าต่างๆ อีกเหมือนกัน
5. Price Base พวกนี้ได้แก่ PE , P/BV แต่อาจต้องมีการปรับลดค่าต่างๆ จากงบการเงินอีกด้วย
หลังจากคำนวณราคาได้แล้ว ก็ควรจะเผื่อค่า Margin of Safe ไว้ด้วยนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1160
- ผู้ติดตาม: 0
หามูลค่าที่แท้จริงอย่างไร ??
โพสต์ที่ 4
เป็นวิธีที่เรียบง่ายแต่ใช่ว่าจะอธิบายให้จบได้ง่ายๆ
แนะนำอ่านหนังสือ the intelligent investor ของเบนเกรแฮม
และหนังสือของ ฟิลลิปฟิชเชอร์ เรื่องหุ้นสามัญกับกำไรที่ไม่สามัญ อีกสองเล่ม
จากนั้นทำตามนั้น
อย่าไปสนดิสเคาท์แคชโฟลว์ โบรคมันก็ทำกัน คุณว่าจะทำได้ดีกว่าโบรคเหรอ?
แนะนำอ่านหนังสือ the intelligent investor ของเบนเกรแฮม
และหนังสือของ ฟิลลิปฟิชเชอร์ เรื่องหุ้นสามัญกับกำไรที่ไม่สามัญ อีกสองเล่ม
จากนั้นทำตามนั้น
อย่าไปสนดิสเคาท์แคชโฟลว์ โบรคมันก็ทำกัน คุณว่าจะทำได้ดีกว่าโบรคเหรอ?
-
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
หามูลค่าที่แท้จริงอย่างไร ??
โพสต์ที่ 5
ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ผมเชื่อมันในกระแสเงินสดมากว่าอย่างอื่น การทำ Discounted Free Cash Flow อย่างที่คุณ Warantact ว่าไว้คือโบรก ทุกๆ ที่ก็ทำกัน แต่เราต้องไปดูในรายละเอียดนะครับว่าเค้า forcast ตัวเลขของ Growth Rate และ Discount Rate และ methode ที่เค้าใช้ เค้าใช้อย่างไร วิธีการนี้สามารถใช้ make ราคาปลายทางได้แบบน่าเชื่อถือ แต่เราจะเชื่อเค้าหรือเปล่าเราต้องใช้ความรู้คิดตามเค้าให้ทัน ดังนั้นถ้าเราเข้าใจธุรกิจเราก็สามารถ forcast ค่าต่างๆ ได้แม่นยำกว่า เลือกใช้ methode ที่เหมาะสมกว่า
การใช้วิธีการหามูลค่าด้วยวิธี Discounted ต่างๆ และ Residual Income มันค่อนข้างยุ่งยาก ไม่สำเร็จรูปแบบการหาค่า PE, P/BV
ช่วงแรกที่ผมศึกษาวิธีนี้แบบจริงๆ จังๆ ก็เพื่อตอบคำถามตัวเองว่า ทำไมค่า PE , P/BV ของบ.ต่างๆ ที่เหมาะสมถึงไม่เท่ากัน และอะไรเป็นตัวแยกระหว่างคนที่ลงทุนแล้วประสบความสำเร็จ กับคนที่ลงทุนแล้วไม่ประสบความเร็จ ทั้งที่ 2 คนก็ดู PE เหมือนกัน (อาจจะ dilute earning ต่างกัน)
ขอบคุณครับ
ผมเชื่อมันในกระแสเงินสดมากว่าอย่างอื่น การทำ Discounted Free Cash Flow อย่างที่คุณ Warantact ว่าไว้คือโบรก ทุกๆ ที่ก็ทำกัน แต่เราต้องไปดูในรายละเอียดนะครับว่าเค้า forcast ตัวเลขของ Growth Rate และ Discount Rate และ methode ที่เค้าใช้ เค้าใช้อย่างไร วิธีการนี้สามารถใช้ make ราคาปลายทางได้แบบน่าเชื่อถือ แต่เราจะเชื่อเค้าหรือเปล่าเราต้องใช้ความรู้คิดตามเค้าให้ทัน ดังนั้นถ้าเราเข้าใจธุรกิจเราก็สามารถ forcast ค่าต่างๆ ได้แม่นยำกว่า เลือกใช้ methode ที่เหมาะสมกว่า
การใช้วิธีการหามูลค่าด้วยวิธี Discounted ต่างๆ และ Residual Income มันค่อนข้างยุ่งยาก ไม่สำเร็จรูปแบบการหาค่า PE, P/BV
ช่วงแรกที่ผมศึกษาวิธีนี้แบบจริงๆ จังๆ ก็เพื่อตอบคำถามตัวเองว่า ทำไมค่า PE , P/BV ของบ.ต่างๆ ที่เหมาะสมถึงไม่เท่ากัน และอะไรเป็นตัวแยกระหว่างคนที่ลงทุนแล้วประสบความสำเร็จ กับคนที่ลงทุนแล้วไม่ประสบความเร็จ ทั้งที่ 2 คนก็ดู PE เหมือนกัน (อาจจะ dilute earning ต่างกัน)
ขอบคุณครับ