คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 1
คาดว่า หลายๆ คน คงมีหุ้นที่ กำไร 100 %
ใน port
พอหุ้นขึ้นไป แบบนี้ แล้ว
คิดจะขาย เอา เงินสด ส่วนที่ลงทุนไปในหุ้นตัวนั้น
ออกมาไหมครับ
เพื่อที่จะทำให้ ส่วนที่อยู่ใน port เป็น หุ้นต้นทุน 0 บาท :D
อาจเป็นเพราะ เห็นว่า ขึ้นมาก อยากขาย แต่ไม่อยากขายหมด
ใน port
พอหุ้นขึ้นไป แบบนี้ แล้ว
คิดจะขาย เอา เงินสด ส่วนที่ลงทุนไปในหุ้นตัวนั้น
ออกมาไหมครับ
เพื่อที่จะทำให้ ส่วนที่อยู่ใน port เป็น หุ้นต้นทุน 0 บาท :D
อาจเป็นเพราะ เห็นว่า ขึ้นมาก อยากขาย แต่ไม่อยากขายหมด
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
-
- Verified User
- โพสต์: 276
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 3
ไม่เคยคิดครับ
โดยส่วนตัวผมมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล
โดยส่วนตัวผมมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล
- SupachaiZ594
- Verified User
- โพสต์: 834
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 5
ทำคลายเครียดเรโชไปตัวนึงแล้วครับ แต่แค่บางส่วนไม่ทั้งหมด ด้วยเพราะงบน้อยเลยแบ่งไปซื้อตัวอื่นบ้าง
เจอก็ดีอย่างนึงแน่ ๆ คือ พอเมื่อวานราคามันลง เราก็ไม่เครียดเท่าไหร่ พอราคาวันนี้ขึ้น เราก็ยังเฮ
เจอก็ดีอย่างนึงแน่ ๆ คือ พอเมื่อวานราคามันลง เราก็ไม่เครียดเท่าไหร่ พอราคาวันนี้ขึ้น เราก็ยังเฮ
- Jazzman
- Verified User
- โพสต์: 388
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 6
การทำให้ ต้นทุนเป็น 0 นั้น ก็มีข้อดีจริงๆๆ นะคับ ถ้าบริษัทนั้น สามารถคาดการผลประกอบการได้มั่นคง และปันผลสม่ำเสมอ ขอยกตัวอย่างนะคับ
Glow ตอนวิกฤติ เอา ฐานที่ 25 บาท ซื้อ 1 ล้าน ขายตอนนี้ได้กำไร 200 % กว่า ขายเอาทุนคือ 1 ล้าน เหลือมูลค่า ได้หุ้นฟรี อีก 1 ล้าน ที่ทุน 500,000 ตัวนี้ ถ้า เอาปันผล ต่อเนื่อง 8% มาซื้อ แบบ dollar cost average แบบไม่มีต้นทุน มันก็จะทำให้ผลตอบแทน ใน อีก 10 ข้าง หน้าเป็น ก้อนใหญ่ จริงๆ
แบบนี้ถือก็สบายใจ หุ้นขึ้น ก็ มูลค่า เพิ่ม หุ้น ลงก็โชคดี เพราะ ได้เอา ปันผลมาซื้อเฉลี่ยได้ถูกลง ทำให้ผลตอบแทน เพิ่มขึ้นไปอีกถือ เป็นห่านทองคำชั้นดี ไม่รู้ว่าผมคิดถูกคิดผิด :oops:
Glow ตอนวิกฤติ เอา ฐานที่ 25 บาท ซื้อ 1 ล้าน ขายตอนนี้ได้กำไร 200 % กว่า ขายเอาทุนคือ 1 ล้าน เหลือมูลค่า ได้หุ้นฟรี อีก 1 ล้าน ที่ทุน 500,000 ตัวนี้ ถ้า เอาปันผล ต่อเนื่อง 8% มาซื้อ แบบ dollar cost average แบบไม่มีต้นทุน มันก็จะทำให้ผลตอบแทน ใน อีก 10 ข้าง หน้าเป็น ก้อนใหญ่ จริงๆ
แบบนี้ถือก็สบายใจ หุ้นขึ้น ก็ มูลค่า เพิ่ม หุ้น ลงก็โชคดี เพราะ ได้เอา ปันผลมาซื้อเฉลี่ยได้ถูกลง ทำให้ผลตอบแทน เพิ่มขึ้นไปอีกถือ เป็นห่านทองคำชั้นดี ไม่รู้ว่าผมคิดถูกคิดผิด :oops:
ลงทุนในสิ่งที่เพิ่ม " ค่า " ไปเรื่อยๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 272
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 8
ขอแค่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ก็พอครับ :D
-
- Verified User
- โพสต์: 3
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 9
วางแผนไว้แล้วก็ทำมาตลอดแต่ไม่รู้ว่าผมทำถูกหรือเปล่า
1.พอหุ้นตัวนั้นๆ กำไรเกิน 1 เท่า จะขายออกครึ่งนึง (เอาทุนออกมา)
2. เอาส่วนที่ขายไปซื้อตัวอื่น แล้วพอมันเกิน 1 เท่า ก็ทำแบบข้อ 1
ปล.เพิ่งลงทุนในหุ้นได้ประมาณ 1 ปี แต่มีหุ้นที่เกิน 1 เท่าแค่ตัวเดียวก็เลยเพิ่งทำไปครั้งเดียว
แบบนี้ทำถูกหรือเปล่าครับ รบกวนพี่ๆ ชี้แนะด้วย ขอบคุณมากครับ
1.พอหุ้นตัวนั้นๆ กำไรเกิน 1 เท่า จะขายออกครึ่งนึง (เอาทุนออกมา)
2. เอาส่วนที่ขายไปซื้อตัวอื่น แล้วพอมันเกิน 1 เท่า ก็ทำแบบข้อ 1
ปล.เพิ่งลงทุนในหุ้นได้ประมาณ 1 ปี แต่มีหุ้นที่เกิน 1 เท่าแค่ตัวเดียวก็เลยเพิ่งทำไปครั้งเดียว
แบบนี้ทำถูกหรือเปล่าครับ รบกวนพี่ๆ ชี้แนะด้วย ขอบคุณมากครับ
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 11
แล้วถ้าเราคิดว่า "กิจการ" ที่เราลงทุนไป ยังทำกำไรไม่ขาดตกบกพร่อง
ยังทำกำไรสูงอยู่เรื่อยๆ
ทำไมต้อง
ทางเลือกที่ 1. ดึงเอาเงินมากองไว้เฉยๆ แล้วคิดว่าลดความเสี่ยง
แต่มัีนกลับมาหลักการดั้งเดิมนะครับ ว่าการเอาเงินมากองมูลค่ามันลดลงทุกวัน เป็นความเสี่ยงมากกว่า
หรือการเสียโอกาสที่จะทำกำไร กับกิจการที่เราวิเคราะห์มาแล้ว ว่ามันดีสุดยอด ทำกำไรอยู่ได้เรื่อยๆ
ทางเลือกที่ 2. เอาเงินไปซื้อหุ้นตัวใหม่ ก็ต้องวิเคราะห์ใหม่ ความเสี่ยงบทใหม่
แน่ใจหรือว่ามันจะดีกว่าเดิม
ดังนั้น ผมว่าหลักการ VI เดิม น่าจะถูกต้อง คืิอถือไว้จนกว่าพื้นฐานเปลี่ยน หรือพบกิจการใหม่ที่ดีกว่าเดิม ระบายเงินจากกิจการเก่าออกไปบ้าง ที่เราชักจะดูว่า มันเริ่มหมดน้ำยาแล้ว หรือกิจการมันชำรุด จึงขายทิ้งทั้งหมดแล้วไปหาตัวใหม่
ถ้าขายออก โดยเหตุผลรองรับเพียงเพราะความเสี่ยง แปลว่า คุณวิเคราะห์กิจการนั้นๆ ไม่ดีตั้งแต่ต้นแล้ว จะมากลัวอะไรตอนมันทำกำไรมหาศาลไปมาก จนคุณมั่นใจว่ามันดีแล้ว
เอาออกมา ความเสี่ยงมากกว่า และมีค่าเสียโอกาส
ยังทำกำไรสูงอยู่เรื่อยๆ
ทำไมต้อง
ทางเลือกที่ 1. ดึงเอาเงินมากองไว้เฉยๆ แล้วคิดว่าลดความเสี่ยง
แต่มัีนกลับมาหลักการดั้งเดิมนะครับ ว่าการเอาเงินมากองมูลค่ามันลดลงทุกวัน เป็นความเสี่ยงมากกว่า
หรือการเสียโอกาสที่จะทำกำไร กับกิจการที่เราวิเคราะห์มาแล้ว ว่ามันดีสุดยอด ทำกำไรอยู่ได้เรื่อยๆ
ทางเลือกที่ 2. เอาเงินไปซื้อหุ้นตัวใหม่ ก็ต้องวิเคราะห์ใหม่ ความเสี่ยงบทใหม่
แน่ใจหรือว่ามันจะดีกว่าเดิม
ดังนั้น ผมว่าหลักการ VI เดิม น่าจะถูกต้อง คืิอถือไว้จนกว่าพื้นฐานเปลี่ยน หรือพบกิจการใหม่ที่ดีกว่าเดิม ระบายเงินจากกิจการเก่าออกไปบ้าง ที่เราชักจะดูว่า มันเริ่มหมดน้ำยาแล้ว หรือกิจการมันชำรุด จึงขายทิ้งทั้งหมดแล้วไปหาตัวใหม่
ถ้าขายออก โดยเหตุผลรองรับเพียงเพราะความเสี่ยง แปลว่า คุณวิเคราะห์กิจการนั้นๆ ไม่ดีตั้งแต่ต้นแล้ว จะมากลัวอะไรตอนมันทำกำไรมหาศาลไปมาก จนคุณมั่นใจว่ามันดีแล้ว
เอาออกมา ความเสี่ยงมากกว่า และมีค่าเสียโอกาส
- watermusic
- Verified User
- โพสต์: 62
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 12
[quote="Ii'8N"]แล้วถ้าเราคิดว่า "กิจการ" ที่เราลงทุนไป ยังทำกำไรไม่ขาดตกบกพร่อง
ยังทำกำไรสูงอยู่เรื่อยๆ
ทำไมต้อง
ทางเลือกที่ 1. ดึงเอาเงินมากองไว้เฉยๆ แล้วคิดว่าลดความเสี่ยง
แต่มัีนกลับมาหลักการดั้งเดิมนะครับ ว่าการเอาเงินมากองมูลค่ามันลดลงทุกวัน
ยังทำกำไรสูงอยู่เรื่อยๆ
ทำไมต้อง
ทางเลือกที่ 1. ดึงเอาเงินมากองไว้เฉยๆ แล้วคิดว่าลดความเสี่ยง
แต่มัีนกลับมาหลักการดั้งเดิมนะครับ ว่าการเอาเงินมากองมูลค่ามันลดลงทุกวัน
สิ่งมีชีวิตซึ่งขับเคลื่อนด้วยความกลัวและความโลภ
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 13
[quote="Ii'8N"]แล้วถ้าเราคิดว่า "กิจการ" ที่เราลงทุนไป ยังทำกำไรไม่ขาดตกบกพร่อง
ยังทำกำไรสูงอยู่เรื่อยๆ
ทำไมต้อง
ทางเลือกที่ 1. ดึงเอาเงินมากองไว้เฉยๆ แล้วคิดว่าลดความเสี่ยง
แต่มัีนกลับมาหลักการดั้งเดิมนะครับ ว่าการเอาเงินมากองมูลค่ามันลดลงทุกวัน
ยังทำกำไรสูงอยู่เรื่อยๆ
ทำไมต้อง
ทางเลือกที่ 1. ดึงเอาเงินมากองไว้เฉยๆ แล้วคิดว่าลดความเสี่ยง
แต่มัีนกลับมาหลักการดั้งเดิมนะครับ ว่าการเอาเงินมากองมูลค่ามันลดลงทุกวัน
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 14
ขอคิดต่างนิดนึง ถ้าคิดแบบนี้ มันต่างกับ speculate ตรงไหน (speculate คือซื้อเพราะคิดว่าราคามันจะขึ้น แต่นี่ขายเพราะคิดว่ามันจะลง หรืออาจจะลง) ไอ้คำว่าขายทำกำไร ผมว่าขายเริ่มต้นใช้คำนี้คงเป็นพวก broker ที่อยากให้นักลงทุนขายบ่อยๆ จะได้ค่าคอมเยอะๆBelffet เขียน:คือนักลงทุนอาจจะไม่ได้กลัวว่าธุรกิจมันไม่ดี เพียงแค่เกรงว่าอารมณ์ของตลาดจะมองธุรกิจที่ดีของเรากลายเป็นธุรกิจที่กำลังจะเจ๊งเมื่อไหร่ก็ได้ เลยขายดักเอากำไรไว้ก่อน
มองในมุมกลับกัน ถ้าเรามี target ไว้ว่าธุรกิจมันจะโตเท่านั้นเท่านี้ intrinsic value ตอนมันโตแล้วเท่ากับ x เราคิดลดมาได้ราคาหุ้นวันนี้เท่ากับ y ราคาวันนี้ < y ก็น่าซื้อ ถ้าเยอะกว่า y ก็รอก่อน ถ้ามันดันขึ้นไปเกิน y มากๆ เกิน x ไปด้วย เป็นใครก็ควรจะขายครับ หรือในอีกกรณี ก็คือพวกหุ้นวัฎจักรที่มาในลักษณะเดียวกัน คือถ้าคิดถึงตรงจุดพีค ราคาได้เท่านี้ แต่ด้วยรู้ทั้งรู้ว่ากำไรข้างหน้ามันลดแน่ๆ ก็สมควรจะขายครับ
ผมก็เคยแบ่งขายหุ้นไปตอนมันเกินมูลค่าไปเยอะๆ บอกตามตรงถ้าคิดดูดีๆผมว่าไม่มีใครทำใจได้หรอกครับ ถ้าหุ้นมันขึ้นไปเกินนั้นอีกเยอะๆ ไม่ต้องไปคิดถึงต้นทุนหรอกครับว่าเท่าไร ราคาหุ้น x จำนวนหุ้น มันเป็นเงินของเราแล้วครับ ถึงจะขายไปครึ่งนึงเอาเงินต้นคืนมาได้แล้ว เงินที่เหลือก็ยังเป็นเงินเราครับ ไม่ใช่เงินคนอื่น อย่าไปมองเป็นการพนัน
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
-
- Verified User
- โพสต์: 234
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 15
ผมว่า การขายหุ้นบางส่วนออกไป ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
แต่ การคิดต้นทุนให้เป็น 0 มันเป็นการหลอกตัวเองนะครับ
สมมติว่า ทั้งที่รู้ว่า การเติบโตของบริษัทถึงจุดอิ่มตัวแล้ว เนื่องจากได้กำไรมาเยอะ เลยตัดขายส่วนหนึ่งออกไปให้ได้ทุนคืนมา เพื่อจะได้ถือหุ้นส่วนที่เหลืออย่างสบายใจ เหมือนได้มาฟรี
แต่อย่าลืม ว่า ของฟรีไม่มีในโลก การที่เราคิดไปว่าหุ้นนี้ได้มาฟรี มีโอกาสที่เราจะปล่อยหุ้นก้อนนี้ อยู่ในพอร์ทนานเกินไปในช่วงที่มันเต็มมูลค่า หรือ เมื่อมันแพงเกินไป ทำให้มีค่าเสียโอกาสของเงินก้อนนี้ได้
สู้มองมัน ตามสิ่งที่มันเป็น คือ คอยทบทวนเป็นระยะ ว่าด้วยพื้นฐานระดับนี้ เทียบกับราคาเท่านี้ เราควร ซื้อ หรือ ถือ หรือ ขาย น่าจะเลี่ยงกับดักทางจิตวิทยาได้มากกว่า
แต่ การคิดต้นทุนให้เป็น 0 มันเป็นการหลอกตัวเองนะครับ
สมมติว่า ทั้งที่รู้ว่า การเติบโตของบริษัทถึงจุดอิ่มตัวแล้ว เนื่องจากได้กำไรมาเยอะ เลยตัดขายส่วนหนึ่งออกไปให้ได้ทุนคืนมา เพื่อจะได้ถือหุ้นส่วนที่เหลืออย่างสบายใจ เหมือนได้มาฟรี
แต่อย่าลืม ว่า ของฟรีไม่มีในโลก การที่เราคิดไปว่าหุ้นนี้ได้มาฟรี มีโอกาสที่เราจะปล่อยหุ้นก้อนนี้ อยู่ในพอร์ทนานเกินไปในช่วงที่มันเต็มมูลค่า หรือ เมื่อมันแพงเกินไป ทำให้มีค่าเสียโอกาสของเงินก้อนนี้ได้
สู้มองมัน ตามสิ่งที่มันเป็น คือ คอยทบทวนเป็นระยะ ว่าด้วยพื้นฐานระดับนี้ เทียบกับราคาเท่านี้ เราควร ซื้อ หรือ ถือ หรือ ขาย น่าจะเลี่ยงกับดักทางจิตวิทยาได้มากกว่า
"Many shall be restored that are now fallen and many shall fall that are now in honor."
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 16
ผมว่าความคิดที่ยังยึดติดต้นทุน เป็นความคิดที่ไม่สมเหตุสมผล
หลักการขายของผม ไม่เคยมีข้อไหนเลยที่บอกว่า กำไร .... % แล้วต้องขาย
ส่วนใหญ่ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าลงทุนในแต่ละบริษัทได้กำไรมาแล้วเท่าไร หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ผมจำต้นทุนที่ผมซื้อหุ้นไม่ได้ครับ
หลักการขายของผม ไม่เคยมีข้อไหนเลยที่บอกว่า กำไร .... % แล้วต้องขาย
ส่วนใหญ่ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าลงทุนในแต่ละบริษัทได้กำไรมาแล้วเท่าไร หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ผมจำต้นทุนที่ผมซื้อหุ้นไม่ได้ครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 276
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 19
[quote="chatchai"]ผมว่าความคิดที่ยังยึดติดต้นทุน เป็นความคิดที่ไม่สมเหตุสมผล
หลักการขายของผม
หลักการขายของผม
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 20
ไม่ทำครับ เพราะทั้งหมดมันคือเงินจากการลงทุนของเรา ไม่ใช่ไปเล่นพนันได้มาฟรี
ถ้าคิดจะขายก็ขาย ไม่ขายก็ไม่ขาย แค่นั้นครับ
ถ้าคิดจะขายก็ขาย ไม่ขายก็ไม่ขาย แค่นั้นครับ
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
- Jazzman
- Verified User
- โพสต์: 388
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 21
การขายเพื่อ ไปซื้อตัวอื่น ก็เป็น เทคนิคการปรับพอร์ต ถ้า ตัวที่ซื้อมันสามารถให้ผลตอบแทน หรือ upside ที่มากกว่า เหมือนกับ เอา กำไร ไป เพิ่มกำไร
ที่นี่ VI สิ่งสำคัญ คือการความคุมอารมณ์ แม้แต่นักลงทุนระดับโลก ยัง เน้น ถืง ความยาก ในการที่จะ อยู่นิ่งเฉยๆ
การ ปรับพอร์ต ถึงขนาด ต้นทุนเป็น 0 ก็น่าจะถือว่า เป็นเทคนิค ที่ช่วยควบคุมอารมณ์ของเรา ถึงแม้ว่า จะไม่ได้ผลตอบแทน เต็มจำนวน แต่ก็ช่วยให้เราลงทุน อย่างมีความสุขได้ ผมกลับคิดว่า เทคนิคนี้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร
การไม่มีต้นทุน ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ได้ เป็น VI หลักการก็ยังคงเดิม เพียงแต่เราปรับพอร์ต เอามาช่วยรักษา สมดุลอารมณ์ ถ้ามีความสุขมากขึ้น ผลตอบแทนน้อยลง ก็ไม่ได้เสียหายอะไร หุ้นที่ต้นทุน 0 เราก็ยังคงต้องติดตาม ผลงาน ของบริษัทโดยปกติ และวิเคราะความเสี่ยงเหมือนเดิม
ฉะนั้นอยู่ที่ แต่ละคนมากกว่า ว่าจะเอามันมาปรับใช้กับตัวเราอย่างไรมากกว่ากระมัง
ที่นี่ VI สิ่งสำคัญ คือการความคุมอารมณ์ แม้แต่นักลงทุนระดับโลก ยัง เน้น ถืง ความยาก ในการที่จะ อยู่นิ่งเฉยๆ
การ ปรับพอร์ต ถึงขนาด ต้นทุนเป็น 0 ก็น่าจะถือว่า เป็นเทคนิค ที่ช่วยควบคุมอารมณ์ของเรา ถึงแม้ว่า จะไม่ได้ผลตอบแทน เต็มจำนวน แต่ก็ช่วยให้เราลงทุน อย่างมีความสุขได้ ผมกลับคิดว่า เทคนิคนี้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร
การไม่มีต้นทุน ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ได้ เป็น VI หลักการก็ยังคงเดิม เพียงแต่เราปรับพอร์ต เอามาช่วยรักษา สมดุลอารมณ์ ถ้ามีความสุขมากขึ้น ผลตอบแทนน้อยลง ก็ไม่ได้เสียหายอะไร หุ้นที่ต้นทุน 0 เราก็ยังคงต้องติดตาม ผลงาน ของบริษัทโดยปกติ และวิเคราะความเสี่ยงเหมือนเดิม
ฉะนั้นอยู่ที่ แต่ละคนมากกว่า ว่าจะเอามันมาปรับใช้กับตัวเราอย่างไรมากกว่ากระมัง
ลงทุนในสิ่งที่เพิ่ม " ค่า " ไปเรื่อยๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 22
จำนวนเงิน 1 ล้านบาทในส่วนทุน กับ จำนวนเงิน 1 ล้านบาทในส่วนกำไร มีมูลค่าเท่ากันหรือเปล่าครับ
การคิดว่าเป็นเพียงขาดทุนกำไรก็เป็นเพียงคิดที่ทำให้เราไม่เสียดายมากนัก แต่ถ้านำมาซึ่งความประมาทก็ไม่ควร
เพราะบางคนคิดว่า หุ้นของบริษัทนี้ขายเอาทุนคืนมาหมดแล้ว ที่เหลือเป็นกำไร เลยไม่ใส่ใจดูแล ก็ไม่ควรนะครับ
การคิดว่าเป็นเพียงขาดทุนกำไรก็เป็นเพียงคิดที่ทำให้เราไม่เสียดายมากนัก แต่ถ้านำมาซึ่งความประมาทก็ไม่ควร
เพราะบางคนคิดว่า หุ้นของบริษัทนี้ขายเอาทุนคืนมาหมดแล้ว ที่เหลือเป็นกำไร เลยไม่ใส่ใจดูแล ก็ไม่ควรนะครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 24
ยอมรับครับว่าเคยขายจนต้นทุนเหลือ 0
แต่ส่วนคิดว่ามันคือส่วนหนึ่งของการปรับพอร์ต
โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องปรับให้ต้นทุนเหลือ 0 หรือไม่
ประเด็นที่ผมสนใจคือ...
ผมเจอหุ้นตัวใหม่ที่น่าสนใจ
ในขณะที่ตัวเก่าผมว่ามันก็ยังดีอยู่ กิจการเติบโตไปได้เรื่อยๆ ครับ
แต่ราคาน่าจะแพงไปหน่อย
แต่ส่วนคิดว่ามันคือส่วนหนึ่งของการปรับพอร์ต
โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องปรับให้ต้นทุนเหลือ 0 หรือไม่
ประเด็นที่ผมสนใจคือ...
ผมเจอหุ้นตัวใหม่ที่น่าสนใจ
ในขณะที่ตัวเก่าผมว่ามันก็ยังดีอยู่ กิจการเติบโตไปได้เรื่อยๆ ครับ
แต่ราคาน่าจะแพงไปหน่อย
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 25
ความคิดผมนะครับ
หุ้นยังดีอยู่ แต่ราคาสูงมากเกินไป
จะขายหมดก็เสียดาย
จะไม่ขายเลย ก็กลัวลง อดขาย
ก็เลย ขาย เอาต้นทุนออกมาก่อน
ไปซื้อ ตัวที่ ยังไม่สูงเกินไป
หุ้นยังดีอยู่ แต่ราคาสูงมากเกินไป
จะขายหมดก็เสียดาย
จะไม่ขายเลย ก็กลัวลง อดขาย
ก็เลย ขาย เอาต้นทุนออกมาก่อน
ไปซื้อ ตัวที่ ยังไม่สูงเกินไป
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 26
การขายเพิ่มลดต้นทุนหุ้น ไม่เคยทำครับ ไม่ใช่เหตุผลในการขายของผม
แต่ถ้าบางคนขายเพื่อบริหารอารมณ์ตัวเอง ก็ทำเถอะ ถึงแม้ว่าผมคิดว่ามันไม่ใช่้
เหตุผลการลงทุนที่ดีนัก
แต่ถ้าบางคนขายเพื่อบริหารอารมณ์ตัวเอง ก็ทำเถอะ ถึงแม้ว่าผมคิดว่ามันไม่ใช่้
เหตุผลการลงทุนที่ดีนัก
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
- satantuey
- Verified User
- โพสต์: 743
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 27
:8) ถ้ายังมั่นใจว่าตัวนั้นๆที่เราถืออยู่ มันยังจะโตต่อ แล้วจะไปแบ่งขายทำให้ต้นทุนเป็น 0 ไปทำไม สู้ให้มันโตต่อไปเรื่อยๆไม่ดีกว่ารึ เพราะเอาทุนออกมา เราก็ต้องไปหาเข้าตัวอื่น ถ้าตัวใหม่ที่เข้าไปมันไปได้ดีก็ถือว่าดีไป แต่ถ้าเอาไปลงตัวใหม่แล้วมันขาดทุน อ้ายที่เราทำคลายเครียดไปก็ต้องไปเครียดกับตัวใหม่นั้นแทน......
:8) ถ้าไม่เห็นโอกาสงามๆจากตัวใหม่จริงๆ ปล่อยต้นทุนมันอยู่กับตัวที่เราเลือกมาแล้วและได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเราเลือกถูกต้อง จะดีกว่า ออกรบน้อยๆครั้ง โอกาสแพ้สงครามก็น้อยลงไปด้วย :)
:8) ถ้าไม่เห็นโอกาสงามๆจากตัวใหม่จริงๆ ปล่อยต้นทุนมันอยู่กับตัวที่เราเลือกมาแล้วและได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเราเลือกถูกต้อง จะดีกว่า ออกรบน้อยๆครั้ง โอกาสแพ้สงครามก็น้อยลงไปด้วย :)
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 28
[quote="chatchai"]จำนวนเงิน 1 ล้านบาทในส่วนทุน
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==