http://www.businessthai.co.th/content.p ... 973_ข่าวปก
แมกกาซีนไทยขาขึ้น ปี48 โตกว่า 4,000 ล้านบาท
โดย business thai [18-11-2004]
สำรวจทิศทางตลาดแมกกาซีนไทยยังโตไม่หยุด เครือเนชั่น มัลติมีเดียนำทีมประกาศตัววางเป้าหมายขึ้นแท่นยักษ์ผู้ผลิตสื่อแมกกาซีนรายใหญ่ที่สุดในฐานะ Magazine Publisher ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกเซ็กเมนต์ปี 2548 เปิดไม่ต่ำกว่า 5 ฉบับทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อตอบรับการเติบโตของตลาดสื่อแมกกาซีนที่มีอย่างต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา หลังจากที่ค่ายเพลงดัง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ประกาศเดินหน้าบุกตลาดแมกกาซีนมาแล้ว
เมื่อปี 2546 ค่ายเพลงเบอร์ 1 ใน ธุรกิจบันเทิง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ประกาศนโยบายที่จะขยายธุรกิจสิ่งพิมพ์ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้านี้ ทั้งการนำนิตยสารหัวนอกเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย กับการพัฒนานิตยสารหัวไทยและการขยายสิ่งพิมพ์ประเภทพ็อกเกตบุ๊กให้มากยิ่งขึ้น นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัทจีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) กล่าวไว้ว่า จีเอ็มเอ็ม มีเดีย มีการขยายงานดังกล่าวบริษัทจะลงทุนด้านโรงพิมพ์ และการสร้าง ทีมงานสายส่งเองด้วย เพื่อให้การทำธุรกิจเป็นไปอย่างครบวงจร ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 100 ล้านบาท
ล่าสุด ปี 2547 นี้ ค่ายเนชั่น มัลติมีเดีย ผู้นำธุรกิจสิ่งพิมพ์ ได้ประกาศเดินหน้าบุกด้วยการเปิดตัวหนังสือหัวใหม่จากต่างประเทศและในประเทศ ติดต่อกันมา ประเดิมต้นปี ด้วยนิตยสารแฟชั่นผม แฮร์ ตามติดด้วย Sports Illustrated นิตยสารกีฬาด้านกอล์ฟ ต่อมา Livingetc นิตยสารตกแต่งบ้านและการใช้ชีวิต จากนั้นไม่นานได้ออกหนังสือเล่มใหม่เกี่ยวกับLifeStyle ชื่อว่า Flavor เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ประธานกรรมการ บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นายธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ บอกกับบิสิเนสไทยว่า นับจากปีนี้จนถึงปีหน้า กลุ่มเนชั่นฯ จะให้น้ำหนักในการรุกตลาดสื่อสิ่งพิมพ์ นอกเหนือจากธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจกระจายภาพและเสียง โดยสื่อโทรทัศน์ ผลิตรายการโทรทัศน์ Nation Channel ทาง TTV1 สื่อวิทยุ ได้แก่ เนชั่น เรดิโอ เน็ทเวอร์ค ผลิตรายการวิทยุ และธุรกิจสื่อดิจิตอล จัดทำเว็บไซต์และนำเสนอข้อมูลข่าวสาร รวมไปถึงธุรกิจสื่อการศึกษาที่ยังดำเนินต่อไป โดยเฉพาะตลาดแมกกาซีน แนวทางขยายธุรกิจจะเข้าไปร่วมทุนถือหุ้นกับผู้ดำเนินการธุรกิจและทีมงานที่มีประสบการณ์ในสื่อดังกล่าวโดยตรง
การขยายธุรกิจของเนชั่นครั้งนี้ได้จัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ ได้แก่ บริษัทมีเดีย เอกซ์เพอร์ทีส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มเนชั่น ถือหุ้น 20% ที่เหลือจะเป็นหุ้นบุคคล โดยแต่ละแบรนด์จะมุ่งเจาะตลาดแต่ละเซ็กเมนต์และครอบคลุมผู้อ่านทุกกลุ่ม โดยการลงทุนผลิตและสร้างแมกกาซีนหัวใหม่นี้เพื่อรองรับการขยายตัวอีกมากของตลาดสื่อแมกกาซีนที่นับวันยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เขากล่าวด้วยว่า หลังจากได้ประชุมระดับนานาชาติเมื่อเร็วๆ นี้ ได้พูดถึงตลาดโลกสื่อหนังสือพิมพ์ได้ถูกแบ่ง 3 กลุ่ม ได้แก่ พัฒนาแล้ว กำลังพัฒนา และด้อยพัฒนา โดย ทั้งสามกลุ่มแตกต่างกัน โดยกลุ่มแรกได้ถูกพัฒนาจนอิ่มตัว ขณะที่ไทย จัดอยู่ในกลุ่มกำลังพัฒนา ที่มีอัตราเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดสื่อสิ่งพิมพ์ยังไม่อิ่มตัว และยังมีโอกาสโตอีกมาก โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ยังมียอดจำหน่ายต่ำมากเพียงแค่ 1-2 ล้านฉบับเท่านั้น
ภายใน 1-2 ปี ยังคงมีแมกกาซีน หนังสือพิมพ์หัวใหม่ออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะแมกกาซีนจะมีจำนวนมากในปีหน้า และตำแหน่งทางการตลาด ค่ายเนชั่นจะมุ่งเน้นใช้ Content ต่อยอดธุรกิจ ควบคู่ไปกับการขยายฐานลูกค้า ปรับปรุงคุณภาพเนื้อหาเข้มข้น โดยลงลึกในแต่ละแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดเกือบ 50% ของยอดรายได้ 3,000 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ กรุงเทพธุรกิจ และหนังสือพิมพ์ธุรกิจเนชั่น
ความพร้อมด้านสิ่งพิมพ์ เป็นปัจจัยสำคัญที่เสริมให้ค่ายเนชั่นสามารถสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำตลาดแมกกาซีนได้ไม่ยาก โดยนายธนาชัย กล่าวว่า กลุ่มเนชั่นโรงพิมพ์ที่สามารถรองรับการผลิตนิตยสารใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนใหม่เพิ่มในแง่เนื้อหา เนื่องจากบริษัทในเครือมีประสบการณ์โดยตรงในการผลิตเนื้อหาที่สามารถนำมาต่อยอดและเสริมซึ่งกันและกันได้ ด้านช่องทางจำหน่าย มีสายส่งทั่วประเทศ และมีร้านจำหน่ายหนังสือ ซีเอ็ด ด้านการตลาดสามารถทำตลาดด้วยการจัดแพ็กเกจคู่ได้ โดยลูกค้าสามารถเลือกสื่อและเลือกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างต้องการ อีกทั้งยังมีสื่อโทรทัศน์ผ่านเนชั่นแชนแนลและวิทยุตามคลื่นเอฟเอ็ม และเอเอ็มอีกด้วย
สิ่งพิมพ์อื่นๆ นายธนาชัย กล่าวว่า คมชัดลึก หนังสือพิมพ์รายวันที่ออกสู่ตลาดมาครบ 3 ปีแล้ว ปัจจุบันประสบความสำเร็จอย่างสูง สามารถทำรายได้ให้กับกลุ่มเนชั่นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้รวมบริษัทประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยได้ถูกนำไปเป็นกรณีศึกษาในการประชุมผู้ประกอบการธุรกิจสิ่งพิมพ์โลกเมื่อเร็วๆ นี้ รองลงมา ได้แก่ กรุงเทพธุรกิจ และเนชั่น รายวัน
กรรมการผู้จัดการ บริษัทมีเดีย เอกซ์เพอร์ทีส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด หรือ MEI นายฐิติภูมิ วงศ์เกียรติขจร กล่าวว่า บริษัทวางเป้าหมายเป็นผู้ผลิตแมกกาซีนรายใหญ่ที่สุดในเมืองไทยภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยในปีแรกได้รุกตลาดโดยการเปิดนิตยสารหัวใหม่ที่ซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศไปแล้ว 3 หัว ได้แก่ Hair, Sports Illustrated, Livingetc และ Flavor นิตยสารไลฟ์สไตล์หัวใหม่ Local ที่ตั้งขึ้นมาเอง โดยแต่ละหัวจะมุ่งเจาะตลาดเฉพาะแตกต่างกัน
ปีต่อมา 2548 ประเดิมไตรมาสแรก เดือนกุมภาพันธ์ จะนำแมกกาซีนหัวใหม่จากอเมริกาที่เพิ่งเซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์ไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Harpers BAZAAR ซึ่งเป็นนิตยสารแฟชั่นชื่อดังที่มีอายุเก่าแก่ 100 ปี และประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดออกมาทำตลาด และที่วางไว้ อีก จากนั้นก็จะเป็นนิตยสารผู้ชาย นิตยสารธุรกิจ และนิตยสารญี่ปุ่น รวมประมาณ 4 หัว 4 ประเภท จากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาและกำหนดการเซ็นสัญญา โดยงบประมาณลงทุนนั้น บริษัทได้วางงบประมาณไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท ต่อหัว รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์และการตลาด
เขากล่าวว่า สำหรับนิตยสารใหม่ล่าสุดใช้ชื่อว่า flavor เป็นนิตยสารแนวไลฟ์สไตล์รายเดือน ด้วยการผสมผสานของการใช้ชีวิต การเดินทาง สันทนาการและอาหารไว้ในฉบับเดียว เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตอย่างมีสีสัน ชอบการจับจ่าย แสวงหาสิ่งใหม่ๆ เน้นเจาะผู้อ่านทั้งผู้หญิงและชาย อายุ 24-40 ปี ด้วยยอดพิมพ์ 9 หมื่นฉบับ จะวางจำหน่ายฉบับแรก 8 พฤศจิกายนนี้ ราคาฉบับละ 90 บาท
การตลาดนั้น บริษัทจะใช้งบ 7 ล้านบาท ในช่วง 2 เดือน ในการโฆษณาทั้งในสื่อหนังสือพิมพ์ และวิทยุ รวมถึงฉบับแรกจะมีการส่งเสริมการขายด้วยการแถมกระเป๋า City Chic Bag จากดีไซเนอร์ชื่อดัง ปู ชำนัญ และโก้ ชัยชน 4 สี เพื่อต้องการกระตุ้นให้เกิดการซื้อ เพราะบริษัทใจว่าหากได้อ่านแล้วจะ กลายเป็นลูกค้าประจำ
นิตยสาร Harpers BAZAAR Thailand มีเครือข่ายตีพิมพ์ใน 19 ประเทศทั่วโลก อาทิ อังกฤษ ออสเตรเลีย ไต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลี รัสเซีย สาธารณรัฐเช็ก กรีซ ฮ่องกง อินโดนีเซีย ชิลี ญี่ปุ่น โคลัมเบีย เม็กซิโก เวเนซูเอล่า ลิธัวเนีย ตุรกี และล่าสุดในประเทศไทย จัดเป็นนิตยสารแนวแฟชั่น ที่กลุ่มเนชั่นเลือกมาเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงอายุระหว่าง 28-35 ปี มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไปและมีการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
หลังจากนำแมกกาซีนหัวใหม่ออกสู่ตลาดครบไลน์แล้ว จะเน้นสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและขยายฐานคนอ่านให้กว้างขึ้น โดยมองว่า ตลาดแมกกาซีนปัจจุบันสินค้าและบริการนิยมหันมาใช้มากขึ้นและทำให้ขนาดตลาดเติบโตมากขึ้น
จากกระแสการใช้กลยุทธ์ Below the Line สื่อในแนวราบในการทำกิจการส่งเสริมการขายและการตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ โดยแมกกาซีนสามารถตอบโจทย์ ความต้องการได้อย่างชัดเจนที่สินค้า บริการต้องการสื่อไปยังกลุ่มเป้าหมาย หากเมื่อเปรียบเทียบกับสื่อหลัก อาทิ โทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ที่นับวันยิ่งมีราคาแพง กับผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกัน โดยสื่อแมกกาซีนยังมีราคาต่ำกว่าและได้ผลกว่า
นางสาวลายคราม เลิศวิทยาประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทจีเอ็มเอ็ม อินเตอร์พับลิชชิ่ง จำกัด ในเครือของบริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เจ้าของนิตยสารหัวนอกชั้นนำ มาดามฟิกาโร, Her World ให้ความเห็นว่า ความนิยมของการใช้สื่อแมกกาซีนในปัจจุบันขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งแมกกาซีนจัดเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายสินค้า บริการได้ตรงกลุ่มมากที่สุด อีกทั้งราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับสื่ออื่นๆ ที่มีแนวโน้มปรับราคาสูงต่อเนื่องทุกปี
การเข้ามาของแมกกาซีนหัวนอกสะท้อนถึงศักยภาพตลาดที่ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งฐานตลาดยังมีโอกาส โดยเฉพาะกลุ่มประเทศแถบเอเชีย อาทิ คือ จีน ไทย อินเดีย อีกทั้งยังด้วยความได้เปรียบในด้านเครือข่ายการตลาด เนื้อหา รูปภาพยังช่วยเสริมให้นิตยสารหัวนอกมีโอกาสติดตลาดได้เร็วกว่านิตยสารหัวในอีกด้วย
ทางด้านบริษัทมีเดีย ทรานส์เอเซีย ไทยแลนด์ จำกัด เจ้าของนิตยสารวัยรุ่นหัวนอกชื่อดัง เซเว่นทีน โดยรองผู้อำนวยการและผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นางสาวเรซินา อูเบรอย เปิดเผยว่า ในปีหน้าได้เตรียมนำนิตยสารจากต่างประเทศโดยการซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาดำเนินการอีก 2 ฉบับ มีกำหนดเปิดตัวฉบับแรกประมาณเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน และฉบับ 2 ในเดือนตุลาคม โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 65 ล้านบาท มุ่งเจาะกลุ่มคนอ่านเฉพาะกลุ่มเป็นหลัก
เขากล่าวว่า ตลาดนิตยสารในปีหน้า ยังคงแข่งขันสูง เนื่องจากมีการเปิดหัวใหม่ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ขณะที่งบประมาณของสินค้าและบริการยังไม่ขยายตัวมากนัก สำหรับนิตยสารตลาดเฉพาะคาดว่ายังมีโอกาสและช่องทางอยู่อีกมาก เนื่องจากมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนสอดคล้องกับภาวะตลาดที่ลูกค้าเลือกลงโฆษณา
บริษัทสตาร์คอม แอนด์ มีเดีย เวสท์ ดำเนินธุรกิจบริหารและวางแผนสื่อ เปิดเผยว่า สื่อแมกกาซีนปีที่ผ่านมามีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 4,549 ล้านบาท เติบโตจากปี 2545 ประมาณ 6% หรือมีมูลค่าประมาณ 3,639 ล้านบาท จัดเป็นสื่อที่มีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับปีนี้ในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมา ตลาดแมกกาซีนมีมูลค่าสูงถึง 4,903 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีมูลค่า 3,666 ล้านบาท
ไม่ได้เชียร์นะ "แมกกาซีนไทยขาขึ้น ปี48 โตกว่า 4,000 ล้า
-
- Verified User
- โพสต์: 99
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ได้เชียร์นะ "แมกกาซีนไทยขาขึ้น ปี48 โตกว่า 4,000 ล้า
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูล ไม่ทราบคุณคัดท้ายสนใจหุ้นหมวดนี้อยู่หรือครับระหว่าง G3M กับ NMG สำหรับ nation เคยล้มเหลวกับ"ลลนา" มาก่อน เลยทำให้ครั้งนี้ร่วมลงทุน แต่เตรียมงบลิขสิทธิ์และการตลาดไว้ค่อนข้างมาก (ไม่รู้ว่าจะเปิดตัวได้ระเบิดเหมือนกับคมชัดลึกหรือเปล่า) กังวลว่าจะตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเหมือนตอนทำธุรกิจ dot com หลายสิบล้านกับ thailand.com และธุรกิจอื่นๆที่ต้องตัดเป็นหนี้เสีย
ส่วน G3M ข้อมูล pubishing ไม่ค่อยได้ตามครับไม่ทราบว่าธุรกิจจากแกรมมี่ต้นอ้อเป็นอย่างไรบ้าง รบกวนท่านผู้รู้ทั้งหลายครับ เห็นDr T เคยโพสต์ว่าธุรกิจหนังสือเป็นธุรกิจที่ยากผมขอทราบเหตุผลด้วยครับ (เห็นตอบในกระทู้ธุรกิจที่มีความเสี่ยงน้อยหรือธุรกิจที่อยากเป็นเจ้าของนี่หละครับ
ขอบคุณ
ส่วน G3M ข้อมูล pubishing ไม่ค่อยได้ตามครับไม่ทราบว่าธุรกิจจากแกรมมี่ต้นอ้อเป็นอย่างไรบ้าง รบกวนท่านผู้รู้ทั้งหลายครับ เห็นDr T เคยโพสต์ว่าธุรกิจหนังสือเป็นธุรกิจที่ยากผมขอทราบเหตุผลด้วยครับ (เห็นตอบในกระทู้ธุรกิจที่มีความเสี่ยงน้อยหรือธุรกิจที่อยากเป็นเจ้าของนี่หละครับ
ขอบคุณ