ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 1
สวัสดีครับ อยากตั้งกระทู้สนธนาเพราะมีพี่ท่านหนึ่งเคยโพสไว้ว่าอีก10ปี พอร์ทคนในTVIจะใหญ่ขนาดไหน แล้วหุ้นในตลาดจะพอซื้อหรือไม่
ผมเอาคำพูดนี้มานั่งคิดๆๆๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งเริ่มจินตนาการอนาคตของเวปเราในอนาคต ที่พอร์ททุกคน(ไม่รวมพวกเกรี๋ยนๆ) ก็น่าจะโตวันโตคืน คนใหม่ก็ทยอยเข้ามาในเวปTVIเรื่อยๆ แม้นจะไม่successทุกคนแต่คนส่วนหนึ่งก็successซึ่งยิ่งนานวันคนก็เยอะ(คนแบบมีคุณภาพ) พอร์ทแต่ละคนก็ยิ่งโตวันโตคืน......
แล้วมันจะไปถึงจุดไหนครับ?????
อยากให้เพื่อนๆร่วมแชร์ความคิดครับ ขอบคุณครับ
ผมเอาคำพูดนี้มานั่งคิดๆๆๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งเริ่มจินตนาการอนาคตของเวปเราในอนาคต ที่พอร์ททุกคน(ไม่รวมพวกเกรี๋ยนๆ) ก็น่าจะโตวันโตคืน คนใหม่ก็ทยอยเข้ามาในเวปTVIเรื่อยๆ แม้นจะไม่successทุกคนแต่คนส่วนหนึ่งก็successซึ่งยิ่งนานวันคนก็เยอะ(คนแบบมีคุณภาพ) พอร์ทแต่ละคนก็ยิ่งโตวันโตคืน......
แล้วมันจะไปถึงจุดไหนครับ?????
อยากให้เพื่อนๆร่วมแชร์ความคิดครับ ขอบคุณครับ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 2
ผมแบ่งวงจรณ์เป็น4ขั้นนะครับ
1.เด็กละอ่อน
ลักษณะจะเกรี๋ยนๆ มั่นใจในตนเองสูง มี่ไม่กล้าโพส กับทั้งกล้าพูดกล้าโพส
(ผมเองน่าจะกึ่งๆขั้นนี้กับขั้นที่สอง )
2.เริ่มเป็นงาน
เริ่มจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร พูดน้อยลง สาระมากขึ้น แน่นขึ้น พอมีความรู้ประดับตัว
3.เซียนมือใหม่
เก่งในระดับเซียนแล้ว แต่ประสบการณ์ยังไม่มาก โพสกระจาย ข้อมูลแน่น
4.เซียนมือเก๋า
เป็นเซียน+ประสบการณ์ที่โชกโชน มุมมองนิ่งมากๆ ยังโพสอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก
5.เซียนขึ้นหิ้ง
คือกลุ่มเซียนรุ่นเก๋าแต่ดังไปแล้ว หรือเเก่งมากแล้วหาหุ้นเองได้ขี้เกียจอ่านกระทู้แล้ว อ่านนานๆครั้ง ส่วนมากกลุ่มนี้จะไม่โพสกันแล้ว
1.เด็กละอ่อน
ลักษณะจะเกรี๋ยนๆ มั่นใจในตนเองสูง มี่ไม่กล้าโพส กับทั้งกล้าพูดกล้าโพส
(ผมเองน่าจะกึ่งๆขั้นนี้กับขั้นที่สอง )
2.เริ่มเป็นงาน
เริ่มจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร พูดน้อยลง สาระมากขึ้น แน่นขึ้น พอมีความรู้ประดับตัว
3.เซียนมือใหม่
เก่งในระดับเซียนแล้ว แต่ประสบการณ์ยังไม่มาก โพสกระจาย ข้อมูลแน่น
4.เซียนมือเก๋า
เป็นเซียน+ประสบการณ์ที่โชกโชน มุมมองนิ่งมากๆ ยังโพสอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก
5.เซียนขึ้นหิ้ง
คือกลุ่มเซียนรุ่นเก๋าแต่ดังไปแล้ว หรือเเก่งมากแล้วหาหุ้นเองได้ขี้เกียจอ่านกระทู้แล้ว อ่านนานๆครั้ง ส่วนมากกลุ่มนี้จะไม่โพสกันแล้ว
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- iluckyhappy
- Verified User
- โพสต์: 72
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 4
ไม่มีใครตอบได้ครับ อยู่ที่ จุดความอิ่มตัว และมุมมอง แต่ละคน
แต่ถ้า ราคาหุ้น มัน over value มาก ๆ หรือ บริษัทที่เราถือหุ้น พื้นฐานธรุกิจเปลี่ยนไป เราก็อาจจะจำเป็น ต้องขายหุ้นทิ้ง
หรือ ถ้าเราเจอ หุ้น under value มาก ๆ และเป็นบริษัทที่พิ้นฐานดี เราก็อาจจะขาย หุ้นที่ over value และ มาซื้อ หุ้น ที่ under value
(ซึ่งอันนี้ต้องใช้ความสามารถในการ วิเคราะห์ วิสัยทัศน์ แนวโน้มเศรษฐกิจ และ ปัจจัย อื่น ๆ อีกมากมาย..)
---------------------------------------------------------
ทุกอย่าง ล้วน อนัตตา
อย่าลืมแบ่งปันคืนสู่สังคมด้วยครับ .........
แต่ถ้า ราคาหุ้น มัน over value มาก ๆ หรือ บริษัทที่เราถือหุ้น พื้นฐานธรุกิจเปลี่ยนไป เราก็อาจจะจำเป็น ต้องขายหุ้นทิ้ง
หรือ ถ้าเราเจอ หุ้น under value มาก ๆ และเป็นบริษัทที่พิ้นฐานดี เราก็อาจจะขาย หุ้นที่ over value และ มาซื้อ หุ้น ที่ under value
(ซึ่งอันนี้ต้องใช้ความสามารถในการ วิเคราะห์ วิสัยทัศน์ แนวโน้มเศรษฐกิจ และ ปัจจัย อื่น ๆ อีกมากมาย..)
---------------------------------------------------------
ทุกอย่าง ล้วน อนัตตา
อย่าลืมแบ่งปันคืนสู่สังคมด้วยครับ .........
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 5
ผมเองไม่ค่อยได้โพสท์แล้ว
แตไม่ใช่เซียนตามข้อ 4-5 นะ
เมื่อก่อนโพสท์เยอะ
ได้ก็เยอะเสียก็เยอะ(เพราะโพสท์เยอะนั่นเอง :lol: )
ที่ว่าได้ๆคือได้ความรู้
1. เพราะก่อนโพสท์ก็ต้องคิด(พอไม่โพสท์เลยไม่ค่อยได้คิด)
คิดไปคิดมาได้ความรู้ใหม่หรือข้อสรุปใหม่ก็มี
2.ระหว่างโพสท์ก็เกิดความรู้ใหม่อีกในขณะนั้นก็มี
(ขณะที่เราเรียบเรียงว่าจะเขียนว่าอย่างไร สมองเราก็เรียบเรียงความคิดไปพร้อมๆกัน พอเรียบเรียงก็เป็นระเบียบ พอเป็นระเบียบก็เลยง่ายที่จะเกิดความคิดดีๆขึ้น)
3.หลังจากเขียนไปแล้วก็มีคนมาวิเคราะห์วิจารณ์แนะนำ เราก็เลยได้ความคิดใหม่อีกนั่นแหละ
ได้ตลอดทางเลย
ทีนี้ที่ว่าเสีย เสียอย่างไร
อืม.....คิดอยู่นานเหมือนกัน
ไม่เห็นเสียอะไรเท่าไหร่
อาจจะไปกระทบคนโน้นคนนี้ทะเลาะคนโน้นคนนี้บ้าง
แต่ถ้าเราโพสท์ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตัวไม่ก้าวร้าวประชดประชันก็คงเสียไม่เท่าไหร่
ผมเห็นผลงานแต่ละคนแล้วอึ้งทึ่งเสียวจริงๆครับ
กลุ่มที่ยึดแนววีไอน่าจะเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลมากขึ้นๆ
แต่มากขนาดไหน ดูไม่ออกเหมือนกันครับ
แต่เท่าที่ฟังๆมาเห็นว่าในอเมริกาเองซึ่งเป็นต้นกำเนิดวีไอ
กลุ่มนี้ก็ไม่ได้มีมากในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญ
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ไม่ทราบเหมือนกันครับ
อาจจะเป็นเพราะว่าหลักการของวีไอนั้นถูกต้องแล้ว
แต่ปัญหาอยู่ที่วิธีปฏิบัติ
วิธีปฏิบัติของวีไอนั้นขัดกันอย่างแรงกับสัญชาติญาณดิบของมนุษย์
มนุษย์นั้นชอบอะไรที่มันส์ ตื่นเต้น ได้เร็วเสียเร็ว ซื้อเช้าขายบ่าย
ไม่ชอบคิดมาก ไม่ชอบวิเคราะห์พื้นฐาน ไม่ชอบของยาก ไม่ชอบอ่านงบการเงิน
ชอบอะไรที่ตอบโจทย์ได้ง่ายๆโดยไม่ต้องลงทุนมาก เช่นเจ้าจะลาก เสี่ยจะทุบ เป็นต้น
แตไม่ใช่เซียนตามข้อ 4-5 นะ
เมื่อก่อนโพสท์เยอะ
ได้ก็เยอะเสียก็เยอะ(เพราะโพสท์เยอะนั่นเอง :lol: )
ที่ว่าได้ๆคือได้ความรู้
1. เพราะก่อนโพสท์ก็ต้องคิด(พอไม่โพสท์เลยไม่ค่อยได้คิด)
คิดไปคิดมาได้ความรู้ใหม่หรือข้อสรุปใหม่ก็มี
2.ระหว่างโพสท์ก็เกิดความรู้ใหม่อีกในขณะนั้นก็มี
(ขณะที่เราเรียบเรียงว่าจะเขียนว่าอย่างไร สมองเราก็เรียบเรียงความคิดไปพร้อมๆกัน พอเรียบเรียงก็เป็นระเบียบ พอเป็นระเบียบก็เลยง่ายที่จะเกิดความคิดดีๆขึ้น)
3.หลังจากเขียนไปแล้วก็มีคนมาวิเคราะห์วิจารณ์แนะนำ เราก็เลยได้ความคิดใหม่อีกนั่นแหละ
ได้ตลอดทางเลย
ทีนี้ที่ว่าเสีย เสียอย่างไร
อืม.....คิดอยู่นานเหมือนกัน
ไม่เห็นเสียอะไรเท่าไหร่
อาจจะไปกระทบคนโน้นคนนี้ทะเลาะคนโน้นคนนี้บ้าง
แต่ถ้าเราโพสท์ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตัวไม่ก้าวร้าวประชดประชันก็คงเสียไม่เท่าไหร่
พอร์ทน่าจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆนะอีก10ปี พอร์ทคนในTVIจะใหญ่ขนาดไหน แล้วหุ้นในตลาดจะพอซื้อหรือไม่
ผมเห็นผลงานแต่ละคนแล้วอึ้งทึ่งเสียวจริงๆครับ
กลุ่มที่ยึดแนววีไอน่าจะเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลมากขึ้นๆ
แต่มากขนาดไหน ดูไม่ออกเหมือนกันครับ
แต่เท่าที่ฟังๆมาเห็นว่าในอเมริกาเองซึ่งเป็นต้นกำเนิดวีไอ
กลุ่มนี้ก็ไม่ได้มีมากในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญ
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ไม่ทราบเหมือนกันครับ
อาจจะเป็นเพราะว่าหลักการของวีไอนั้นถูกต้องแล้ว
แต่ปัญหาอยู่ที่วิธีปฏิบัติ
วิธีปฏิบัติของวีไอนั้นขัดกันอย่างแรงกับสัญชาติญาณดิบของมนุษย์
มนุษย์นั้นชอบอะไรที่มันส์ ตื่นเต้น ได้เร็วเสียเร็ว ซื้อเช้าขายบ่าย
ไม่ชอบคิดมาก ไม่ชอบวิเคราะห์พื้นฐาน ไม่ชอบของยาก ไม่ชอบอ่านงบการเงิน
ชอบอะไรที่ตอบโจทย์ได้ง่ายๆโดยไม่ต้องลงทุนมาก เช่นเจ้าจะลาก เสี่ยจะทุบ เป็นต้น
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- picklife
- Verified User
- โพสต์: 2565
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 6
[quote="สามัญชน"]ผมเองไม่ค่อยได้โพสท์แล้ว
แตไม่ใช่เซียนตามข้อ 4-5 นะ
เมื่อก่อนโพสท์เยอะ
ได้ก็เยอะเสียก็เยอะ(เพราะโพสท์เยอะนั่นเอง :lol: )
ที่ว่าได้ๆคือได้ความรู้
1. เพราะก่อนโพสท์ก็ต้องคิด(พอไม่โพสท์เลยไม่ค่อยได้คิด)
คิดไปคิดมาได้ความรู้ใหม่หรือข้อสรุปใหม่ก็มี
2.ระหว่างโพสท์ก็เกิดความรู้ใหม่อีกในขณะนั้นก็มี
(ขณะที่เราเรียบเรียงว่าจะเขียนว่าอย่างไร
แตไม่ใช่เซียนตามข้อ 4-5 นะ
เมื่อก่อนโพสท์เยอะ
ได้ก็เยอะเสียก็เยอะ(เพราะโพสท์เยอะนั่นเอง :lol: )
ที่ว่าได้ๆคือได้ความรู้
1. เพราะก่อนโพสท์ก็ต้องคิด(พอไม่โพสท์เลยไม่ค่อยได้คิด)
คิดไปคิดมาได้ความรู้ใหม่หรือข้อสรุปใหม่ก็มี
2.ระหว่างโพสท์ก็เกิดความรู้ใหม่อีกในขณะนั้นก็มี
(ขณะที่เราเรียบเรียงว่าจะเขียนว่าอย่างไร
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- jek ae
- Verified User
- โพสต์: 899
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 8
โพสไม่ค่อยเก่ง แต่รัก(vi)หมดใจ
อีก 10 ปีนอกจากอยากมี financial freedom แล้ว อยากให้ตัวเองตกผลึกแนวคิดการลงทุนแบบ vi จะได้คอยถ่ายทอดวิชาให้เหล่านักลงทุนรุ่นใหม่ เหมือนที่ผมได้พยายามเรียนรู้ในตอนนี้ครับ
อีก 10 ปีนอกจากอยากมี financial freedom แล้ว อยากให้ตัวเองตกผลึกแนวคิดการลงทุนแบบ vi จะได้คอยถ่ายทอดวิชาให้เหล่านักลงทุนรุ่นใหม่ เหมือนที่ผมได้พยายามเรียนรู้ในตอนนี้ครับ
- manza125
- Verified User
- โพสต์: 92
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 9
จุดไหนหมายถึงอะไรครับ
ถ้าถามถึงว่า ในเว็บบอร์ดจะเป็นยังไงในอนาคต
คำตอบคือ ไม่ต่างจากวันนี้
เพราะเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก็ต้องมีคนคิดแบบคุณ picklife
คือ คนในบอร์ดก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากไปบ้าง ตามกาลเวลา
เป็นลักษณะวน loop ของธรรมชาติของมนุษย์
คนธรรมดา -> เล่นหุ้น -> เลือกประเภทการลงทุน - รายวัน (daytrade) -> ขาดทุน -> เล่นหุ้น .....
- ตามข่าว (อาทิตย์ละครั้ง) -> ขาดทุน > คนธรรมดา .....
- ระยะยาว (VI beginning) -> กำไรเยอะ -> ตามข่าว -> ขาดทุน -> คนธรรมดา /
-> กำไรน้อย -> ระยะยาวตลอดชีวิต(Full Value Investor) /
*รายวัน = ขาดทุน ก็หาเงินมาเล่นใหม่ คนมันรวย ขอมาเสียว มาลุ้นด้วยคน
*ตามข่าว = ซื้อตามคนอื่น ซื้อโดยไม่รู้ เห็นเล่นแบบนี้มันได้เยอะ จะไปลงทุนระยะยาวทำไม
(หวังว่าคงเข้าใจในสิ่งที่ผมจะสื่อนะ )
ดังนั้น จึงมาเข้ามาและออกไป
--------------------------------------------------
แต่ถ้าหมายถึง ขนาดพอร์ด จะเป็นยังไง
คำตอบคือ ก็ขยายขึ้นเรื่อยๆถ้ายึดหลัก VI
ปล.ผมขอสมัครเป็นเด็กละอ่อนด้วยคน :D
ทั้งหมดตอบด้วยความเข้าใจของผม
ผิดพลาดอะไรขอโทษด้วยครับ
ถ้าถามถึงว่า ในเว็บบอร์ดจะเป็นยังไงในอนาคต
คำตอบคือ ไม่ต่างจากวันนี้
เพราะเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก็ต้องมีคนคิดแบบคุณ picklife
คือ คนในบอร์ดก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากไปบ้าง ตามกาลเวลา
เป็นลักษณะวน loop ของธรรมชาติของมนุษย์
คนธรรมดา -> เล่นหุ้น -> เลือกประเภทการลงทุน - รายวัน (daytrade) -> ขาดทุน -> เล่นหุ้น .....
- ตามข่าว (อาทิตย์ละครั้ง) -> ขาดทุน > คนธรรมดา .....
- ระยะยาว (VI beginning) -> กำไรเยอะ -> ตามข่าว -> ขาดทุน -> คนธรรมดา /
-> กำไรน้อย -> ระยะยาวตลอดชีวิต(Full Value Investor) /
*รายวัน = ขาดทุน ก็หาเงินมาเล่นใหม่ คนมันรวย ขอมาเสียว มาลุ้นด้วยคน
*ตามข่าว = ซื้อตามคนอื่น ซื้อโดยไม่รู้ เห็นเล่นแบบนี้มันได้เยอะ จะไปลงทุนระยะยาวทำไม
(หวังว่าคงเข้าใจในสิ่งที่ผมจะสื่อนะ )
ดังนั้น จึงมาเข้ามาและออกไป
--------------------------------------------------
แต่ถ้าหมายถึง ขนาดพอร์ด จะเป็นยังไง
คำตอบคือ ก็ขยายขึ้นเรื่อยๆถ้ายึดหลัก VI
ปล.ผมขอสมัครเป็นเด็กละอ่อนด้วยคน :D
ทั้งหมดตอบด้วยความเข้าใจของผม
ผิดพลาดอะไรขอโทษด้วยครับ
------------------------------
การพูด คือ อาหารของนักการเมือง
การวิเคราห์ คือ อาหารของวีไอ
การพูด คือ อาหารของนักการเมือง
การวิเคราห์ คือ อาหารของวีไอ
-
- Verified User
- โพสต์: 72
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 11
คิดว่าเรื่องนิสัยเป็นเรื่องที่แก้ยากที่สุดครับ
นิสัยบางคนอาจเหมาะจะถือแล้วอดทนรอนานๆได้
ถ้านิสัยมาแนวนี้แต่แรก เพียงหาความรู้เพิ่มก็ลงมือทำได้ไม่ยากแล้ว
แต่บางคนก็ไม่ไหวจริงๆ ที่จะถือรอได้นานๆ
ทนความยั่วยวนและความกดดันของราคาที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไม่ได้
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมเจอหลายคน คิดว่าตัวเองพอร์ตเล็ก ไม่เหมาะกับการลงทุนแนวนี้ กะว่ารอพอร์ตใหญ่แล้วค่อยลงทุนแบบนี้ได้
ผมว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเหตุสำคัญเหมือนกันครับ
ที่จะรอเห็นบริษัทค่อยๆโตขึ้นตามผลประกอบการทีละไตรมาศไม่ได้
มองกำไรที่คว้าไว้ได้แน่ๆตรงหน้าจากการซื้อขายในแต่ละวัน เห็นได้ชัดเจนหยิบจับได้ เป็นสิ่งที่แน่นอนกว่า คิดว่าค่อยๆทบต้นทีละนิดก็น่าจะโตได้ไวกว่า
ซึ่งข้อนี้ผมก็ไม่ได้ขัดแย้งเสียทีเดียว และเห็นว่าเป็นไปได้เหมือนกัน
แต่วิธีนี้ผมว่าก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียน่ะครับ ถ้าถูกจังหวะตลาดและจังหวะของตัวหุ้นก็ทำได้ แต่ต้องอาศัยขยันและหมั่นหาข่าวมาก เหนื่อยเป็นพิเศษ
ข้อเสียที่พบเห็นบ่อย บางครั้งก็แยกแยะอารมณ์ตัวเองลำบาก
ตัวที่ต้องถือรอ และตัวที่เทรดบ่อยๆ แยกกันไม่ขาด
ที่ต้องถือยาวๆอาจทนไม่ไหว เอานิสัยที่ใช้กับตัวเทรดสั้นๆมาใช้
อาจทำให้สับสน รวนและเสียจังหวะของตัวเองได้
สำคัญคือ พอถือสั้นเกินไป แล้วบางครั้งก็ขาดทุนบ่อย
ที่เคยกำไร บวกลบกันไป เลยเจ๊ากัน พอเป็นบ่อยๆ พอร์ตก็ไม่ไปไหน
นิสัยบางคนอาจเหมาะจะถือแล้วอดทนรอนานๆได้
ถ้านิสัยมาแนวนี้แต่แรก เพียงหาความรู้เพิ่มก็ลงมือทำได้ไม่ยากแล้ว
แต่บางคนก็ไม่ไหวจริงๆ ที่จะถือรอได้นานๆ
ทนความยั่วยวนและความกดดันของราคาที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไม่ได้
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมเจอหลายคน คิดว่าตัวเองพอร์ตเล็ก ไม่เหมาะกับการลงทุนแนวนี้ กะว่ารอพอร์ตใหญ่แล้วค่อยลงทุนแบบนี้ได้
ผมว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเหตุสำคัญเหมือนกันครับ
ที่จะรอเห็นบริษัทค่อยๆโตขึ้นตามผลประกอบการทีละไตรมาศไม่ได้
มองกำไรที่คว้าไว้ได้แน่ๆตรงหน้าจากการซื้อขายในแต่ละวัน เห็นได้ชัดเจนหยิบจับได้ เป็นสิ่งที่แน่นอนกว่า คิดว่าค่อยๆทบต้นทีละนิดก็น่าจะโตได้ไวกว่า
ซึ่งข้อนี้ผมก็ไม่ได้ขัดแย้งเสียทีเดียว และเห็นว่าเป็นไปได้เหมือนกัน
แต่วิธีนี้ผมว่าก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียน่ะครับ ถ้าถูกจังหวะตลาดและจังหวะของตัวหุ้นก็ทำได้ แต่ต้องอาศัยขยันและหมั่นหาข่าวมาก เหนื่อยเป็นพิเศษ
ข้อเสียที่พบเห็นบ่อย บางครั้งก็แยกแยะอารมณ์ตัวเองลำบาก
ตัวที่ต้องถือรอ และตัวที่เทรดบ่อยๆ แยกกันไม่ขาด
ที่ต้องถือยาวๆอาจทนไม่ไหว เอานิสัยที่ใช้กับตัวเทรดสั้นๆมาใช้
อาจทำให้สับสน รวนและเสียจังหวะของตัวเองได้
สำคัญคือ พอถือสั้นเกินไป แล้วบางครั้งก็ขาดทุนบ่อย
ที่เคยกำไร บวกลบกันไป เลยเจ๊ากัน พอเป็นบ่อยๆ พอร์ตก็ไม่ไปไหน
-
- Verified User
- โพสต์: 72
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 12
[quote="สามัญชน"]ผมเองไม่ค่อยได้โพสท์แล้ว
แตไม่ใช่เซียนตามข้อ 4-5 นะ
เมื่อก่อนโพสท์เยอะ
ได้ก็เยอะเสียก็เยอะ(เพราะโพสท์เยอะนั่นเอง :lol: )
ที่ว่าได้ๆคือได้ความรู้
1. เพราะก่อนโพสท์ก็ต้องคิด(พอไม่โพสท์เลยไม่ค่อยได้คิด)
คิดไปคิดมาได้ความรู้ใหม่หรือข้อสรุปใหม่ก็มี
2.ระหว่างโพสท์ก็เกิดความรู้ใหม่อีกในขณะนั้นก็มี
(ขณะที่เราเรียบเรียงว่าจะเขียนว่าอย่างไร
แตไม่ใช่เซียนตามข้อ 4-5 นะ
เมื่อก่อนโพสท์เยอะ
ได้ก็เยอะเสียก็เยอะ(เพราะโพสท์เยอะนั่นเอง :lol: )
ที่ว่าได้ๆคือได้ความรู้
1. เพราะก่อนโพสท์ก็ต้องคิด(พอไม่โพสท์เลยไม่ค่อยได้คิด)
คิดไปคิดมาได้ความรู้ใหม่หรือข้อสรุปใหม่ก็มี
2.ระหว่างโพสท์ก็เกิดความรู้ใหม่อีกในขณะนั้นก็มี
(ขณะที่เราเรียบเรียงว่าจะเขียนว่าอย่างไร
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 13
อนาคต ThaiVI จะเป็นอย่างไร
ผมก็คงไม่รู้ แต่อยากได้อะไรสำหรับ VI ในประเทศไทย
ก็คงอยากได้แบบเป็นที่รวบรวมความรู้ในการลงทุน ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการลงทุน เป็นตัวกลางในการติดต่อกับบริษัทจดทะเบียนเพื่อขอข้อมูล เข้าเยี่ยมชมบริษัท
และมีการเปิดสอนหลักสูตรต่างๆที่ใช้ในการวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม บริษัทในด้านต่างๆ รวมถึงหลักการประเมินราคาหุ้น
มีการอบรมสัมมนาในเรื่องต่างๆ เช่น มาตรฐานบัญชีใหม่
คงจะฝันมากไป :lol: :lol: :lol:
ผมก็คงไม่รู้ แต่อยากได้อะไรสำหรับ VI ในประเทศไทย
ก็คงอยากได้แบบเป็นที่รวบรวมความรู้ในการลงทุน ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการลงทุน เป็นตัวกลางในการติดต่อกับบริษัทจดทะเบียนเพื่อขอข้อมูล เข้าเยี่ยมชมบริษัท
และมีการเปิดสอนหลักสูตรต่างๆที่ใช้ในการวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม บริษัทในด้านต่างๆ รวมถึงหลักการประเมินราคาหุ้น
มีการอบรมสัมมนาในเรื่องต่างๆ เช่น มาตรฐานบัญชีใหม่
คงจะฝันมากไป :lol: :lol: :lol:
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 16
ทุกอย่างมีเกิดก็ต้องมีดับ
THAIVI.COM อาจจะไม่อยู่ยั้งยืนยงถึงตอนนั้นก็เป็นไปได้....ถ้าคุณภาพของผู้โพสท์แลกเปลี่ยนความเห็นไม่เป็นVI....หรือมีการหวังผลประโยชน์แอบแฝงในการโพสท์......หรือมีวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เปิดเสรีทางด้านความคิดให้กับผู้รู้.....
แต่VIก็คือVI ในเมื่อเขามีอาวุธอยู่กับตนคือการประเมินมูลค่าของกิจการออก...โอกาสของคนกลุ่มนี้จึงยังมีเสมอๆ....เพียงแต่ถ้าพอร์ตเขาใหญ่ขึ้น เขาก็คงจะไปเล่นในตัวที่ใหญ่ขึ้น หรือต้องการความแน่นอนมากกว่าเดิม เกษียณตนเองจากแนวรุกเป็นแนวรับ....หรือไปตลาดต่างประเทศ เมื่อตลาดในไทยเล็กเกินไป
THAIVI.COM อาจจะไม่อยู่ยั้งยืนยงถึงตอนนั้นก็เป็นไปได้....ถ้าคุณภาพของผู้โพสท์แลกเปลี่ยนความเห็นไม่เป็นVI....หรือมีการหวังผลประโยชน์แอบแฝงในการโพสท์......หรือมีวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เปิดเสรีทางด้านความคิดให้กับผู้รู้.....
แต่VIก็คือVI ในเมื่อเขามีอาวุธอยู่กับตนคือการประเมินมูลค่าของกิจการออก...โอกาสของคนกลุ่มนี้จึงยังมีเสมอๆ....เพียงแต่ถ้าพอร์ตเขาใหญ่ขึ้น เขาก็คงจะไปเล่นในตัวที่ใหญ่ขึ้น หรือต้องการความแน่นอนมากกว่าเดิม เกษียณตนเองจากแนวรุกเป็นแนวรับ....หรือไปตลาดต่างประเทศ เมื่อตลาดในไทยเล็กเกินไป
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 17
สังคมจะยังเป็นสังคมที่ดีอยู่ได้
เมื่อคนที่มีเจตนาดีไม่ท้อถอยต่อคนที่มีเจตนาไม่ดี
เสียอย่างเดียว
พายเรือทวนน้ำมันยาก
ยิ่งเฉพาะเวลาน้ำป่าหลาก ... ดีไม่ดีตอมันจะมาชนเรือคว่ำเอา
หลาย ๆ คนก็เลยเลือกไม่เปลืองตัว รักษาตนเองเพื่อคนใกล้ชิด
สังคมมันก็เลยแย่ลงเรื่อย ๆ
เมื่อคนที่มีเจตนาดีไม่ท้อถอยต่อคนที่มีเจตนาไม่ดี
เสียอย่างเดียว
พายเรือทวนน้ำมันยาก
ยิ่งเฉพาะเวลาน้ำป่าหลาก ... ดีไม่ดีตอมันจะมาชนเรือคว่ำเอา
หลาย ๆ คนก็เลยเลือกไม่เปลืองตัว รักษาตนเองเพื่อคนใกล้ชิด
สังคมมันก็เลยแย่ลงเรื่อย ๆ
- .way
- Verified User
- โพสต์: 271
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 18
ผมสมาชิกใหม่ครับ
อยากรู้จังครับ หากเวป TVI เป็น บริษัทหนึ่ง และนำมาทำเป็นกราฟ จะมีกราฟ เป็นแบบไหน แนวโน้ม ตาม SET ไหม
และพี่ๆช่วยวิเคาระห์หน่อยครับ สมมุติว่า TVI เป็นหุ้น จะจัดเป็นหุ้นประเภทไหน และพี่ๆ จะซื้อหุ้นตัวนี้รึเปล่า
อยากรู้จังครับ หากเวป TVI เป็น บริษัทหนึ่ง และนำมาทำเป็นกราฟ จะมีกราฟ เป็นแบบไหน แนวโน้ม ตาม SET ไหม
และพี่ๆช่วยวิเคาระห์หน่อยครับ สมมุติว่า TVI เป็นหุ้น จะจัดเป็นหุ้นประเภทไหน และพี่ๆ จะซื้อหุ้นตัวนี้รึเปล่า
ความล้มเหลวจะสอนเราให้แข็งเกร่ง"เด็ก18กับตลาดหุ้น"
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4740
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 19
มันก็ต้องเป็นไปตามกฏของธรรมชาติ
"เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป"
มัน"เกิดขึ้น" แล้ว ได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์ และการเสียสละของผู้ก่อตั้ง
มันจะ"ตั้งอยู่"ได้นานขนาดไหน ขึ้นอยู่กับคนรักษา ซึ่งทุกคนมีส่วนร่วม
"ดับไป" แน่ๆวันหนึงมี"คน"มาทำลาย หรือ มันไม่เหลือประโยชน์อีกต่อไป นานเท่าไหร่ไม่รู้
ผมก็อยากให้มัน"ตั้งอยู่"อย่างยั่งยืน
"เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป"
มัน"เกิดขึ้น" แล้ว ได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์ และการเสียสละของผู้ก่อตั้ง
มันจะ"ตั้งอยู่"ได้นานขนาดไหน ขึ้นอยู่กับคนรักษา ซึ่งทุกคนมีส่วนร่วม
"ดับไป" แน่ๆวันหนึงมี"คน"มาทำลาย หรือ มันไม่เหลือประโยชน์อีกต่อไป นานเท่าไหร่ไม่รู้
ผมก็อยากให้มัน"ตั้งอยู่"อย่างยั่งยืน
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 20
เห็นด้วยครับ
นิสัยแก้ยากที่สุด อะไรที่ว่ายากแล้ว พฤติกรรมของมนุษย์นี่แก้ยากมากที่สุด
ผมว่าที่ดูจำนวนเยอะๆ ในที่นี้
-ส่วนหนึ่งไม่ใช่ VI แต่มาหาผลประโยชน์
-พยายามเป็น แต่สุดท้ายก็พ่ายพฤติกรรมเดิมๆ
ข้อที่อาจารย์ศรรามว่า ผมว่าก็คงเพราะเหตุนี้ที่สัดส่วนเพิ่มไม่มาก
(เพราะจำนวนคนบนโลกเพิ่มขึ้นเหมือนกัน คนที่ ลงทุนแนว VI ได้แท้ๆเพิ่มขึ้นสักคน ก็คงน้อยอยู่ดี)
อีก 10 ปี สัดส่วน ผู้ลงทุนแนวทาง VI ในไทยคงเพิ่ม แต่ก็เพิ่มไม่มาก
นิสัยแก้ยากที่สุด อะไรที่ว่ายากแล้ว พฤติกรรมของมนุษย์นี่แก้ยากมากที่สุด
ผมว่าที่ดูจำนวนเยอะๆ ในที่นี้
-ส่วนหนึ่งไม่ใช่ VI แต่มาหาผลประโยชน์
-พยายามเป็น แต่สุดท้ายก็พ่ายพฤติกรรมเดิมๆ
ข้อที่อาจารย์ศรรามว่า ผมว่าก็คงเพราะเหตุนี้ที่สัดส่วนเพิ่มไม่มาก
(เพราะจำนวนคนบนโลกเพิ่มขึ้นเหมือนกัน คนที่ ลงทุนแนว VI ได้แท้ๆเพิ่มขึ้นสักคน ก็คงน้อยอยู่ดี)
อีก 10 ปี สัดส่วน ผู้ลงทุนแนวทาง VI ในไทยคงเพิ่ม แต่ก็เพิ่มไม่มาก
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 22
เคยคิดแบบนี้มานานมากแล้ว
ผมว่าเดี๋ยวถึงจุดนึง
ก็จะ พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
แต่ vi ก็คือ vi
สุดท้ายก็เปลี่ยนสไตล์การลงทุนให้เหมาะสมนั่นเอง
ผมว่าเดี๋ยวถึงจุดนึง
ก็จะ พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
แต่ vi ก็คือ vi
สุดท้ายก็เปลี่ยนสไตล์การลงทุนให้เหมาะสมนั่นเอง
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 23
ตอนนี้พี่ๆเขาเป็นเซียนกันหมด ก็ไม่ค่อยโพสท์กันแล้ว
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 24
ถ้ามีสังคมวีไอแบบตอนประชุม ผู้ถือหุ้นเบิร์กชายร์ น่าจะดี
(อยากให้มีกองทุนคล้ายเบิร์กชายร์ด้วย)
รู้สึกอยู่ว่า อ.ไพบูลย์ +อ.อีกหลายท่าน และสมาชิกในเวปนี้
พยามช่วยกันสร้างบรรยากาศอยู่ครับ
(อยากให้มีกองทุนคล้ายเบิร์กชายร์ด้วย)
รู้สึกอยู่ว่า อ.ไพบูลย์ +อ.อีกหลายท่าน และสมาชิกในเวปนี้
พยามช่วยกันสร้างบรรยากาศอยู่ครับ
samatah
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 25
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
ผมชอบคิด ตั้งคำถาม ตั้งถามแบบเชิงลึก ผมไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ผมสามารถมีชีวิตทุกลมหายใจอยู๋กับความสงสัยในเรื่องต่างๆได้สบายมาก อยู๋แบบไม่ต้องฟันธงในเรื่องต่างๆ อยู๋กับความไม่แน่นอน อยู๋กับความไม่รู้อะไรเลย ผมอยู่ได้ ชีวิตผมจึงน่าสนใจกว่า
การที่จะมีชีวิตแบบไม่ต้องรู็อะไรเลยนั้นน่าสนใจกว่าที่จะมีชีวิตแบบมีคำตอบไปทุกเรื่อง ซึ่งผมว่าเราอาจเข้าใจผิดว่านั่นคือคำตอบก็เป็นก็ได้ ถ้าเราเลือกที่จะมีชีวิตอย่างนั้น อีกด้าน เราจะอยู๋กับความไม่แน่ใจ แต่อีกด้าน เราจะเปิดโอกาสให้กับทางเลือกใหม่ๆ ที่อาจเข้ามาตอนไหนก็ได้ เราจะไม่ตื้นเต้นกับหลักฐานความจริง ตื่นเต้นกับความรู้ใหม่ หรือ ตื่นเต้นกับ ความจริงที่ปรากฏอย่างชัดเจน ผมไม่เคยตื่นเต้นอย่างนั้นเลย ผมชอบที่จะยังสงสัยต่อไปมากกว่า ว่าความจริงที่ผมเข้าใจว่าจริงอาจจะไม่จริงเสมอไปทุกกรณี โดยเปิดพื้นที่ความสงสัยของเราเอาไว้ให้กว้างอยู่เสมอเพื่อรอโอกาสให้สิ่งที่เราไม่เคยรู้มาเยือน
ความตื่นเต้นผมเกิดจากตรงนี้
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
ผมคิดเล่นๆ ตามประสาคนที่ชอบอ่านประวัติศาสตร์ ไปอ่านดูความเจริญรุ่งเรืองในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ อย่างอาณาจักรโรมัน หรือ ใกล้ตัวหน่อย อาณาจักรสุโขทัย ก็ยังมีวันล่มสลาย แต่ล่มสลายเพราะอาณาจักรเป็นของคนเพียงกลุ่มเดียว ผมเคยสงสัยว่าทำไมศานาพุทธถึงอยู๋มานานขนาดสองพันปี ทำไมถึงไม่ล่มสลายไปตามคำสอนของศาสนาพุทธเองที่ว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป คำสอนนี้กลับไม่เป้นจริงกับตัวมันเอง
สำหรับคำสอนเรื่องการลงทุนเน้นคุณค่านั้น ปัญญาน้อยนิดอย่างผมคิดไม่ออกเช่นกันว่าจะอยู๋นานแคาไหน แต่นักปราชญ์อย่างอาจารย์ ชาลี มังเกอร์ได้เคยบอกว่าอย่างนี้ครับ
“The idea of a margin of safety, a Graham precept, will never be obsolete. The idea of making the market your servant (Mr.Market) will never be obsolete. The idea of being objective and dispassionate (realistic without emotionly decision-making involved ) will never be obsolete. ”
ปรัชญาการลงทุนเน้นคุณค่า กับ ปรัชญาชีวิตเริ่มมีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกัน และสามารถเอาไปปรับใช้ในเรื่องต่างๆ ในประจำวันๆได้เหมือนสองอยางหลอมเป็นหนึ่งเดียวกันจนแยกไม่ออก ความคิดเรื่อง margin of safety, Mr. market, และ biased-free decision making จะอยู๋นานขนาดศาสนาพุทธหรือปล่าว ผมว่าไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งที่น่าตั้งคำถามคือ value investing เป็นสัจธรรมเหมือนศาสนาพุทธหรือปล่าว
แต่ถ้าถามว่าทั้ง value investment และ Buddism ตั้งอยู๊๋ในเมื่อความคิดที่เหมือนกันอย่างไร ผมมีคำตอบที่ไม่อาจยืนยันได้ว่าจะจริงแท้ตลอดไป รู้แต่ว่า ทั้งสอง wisdoms อยู่บนรากฐานของความเป้น science หรือ เป้นวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้และสามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดในตัวเองได้
มีคนพยายามล้มศาสนาพุทธมานานหลายพันปี ถ้าไปอ่านประวัติศาสตร์ศาสนา ศาสนาอื่นๆล้มกันมามากมายทีเดียวครับเพราะไม่ได้ตั้งอยู๋บนรากฐานของความจริงที่เป้นวิทยาศาสตร์
ศาสนาล้มได้ แต่วิทยาศาสตร์ล้มยาก โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ที่อยู๋บนรากฐานของการตัดความเชื่อที่ผิดๆ ออกจากตัวของมันเอง และผ่านช่วงยากลำบากมาอย่างยาวนาน
ผมคิดว่า Thaivi เป็นวิทยาศาสตร์มากพอๆ กับกับคำสอนเรื่องการลงทุนเน้นคุณค่า สมกับชื่อในตัวมันเองอยู่แล้วที่สอนโดยเบน เกรแฮม สมาชิกที่ดูแล Thaivi ก็เป็น Vi ที่แท้จริง ที่มี margin of safety, Mr. market, และ biased-free decision making อยู่ในสายเลือด
ผมคิดว่า คนที่หัวเป็น vi ที่แท้จริง พอฟังเรื่อง Vi จากปากคนที่รู็จริง เขาฟังแค่ห้านาทีก็เข้าใจแล้ว ไม่ต้องรอนานถึง 10 ปี กว่าจะเข้าใจ
ผมชอบคิด ตั้งคำถาม ตั้งถามแบบเชิงลึก ผมไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ผมสามารถมีชีวิตทุกลมหายใจอยู๋กับความสงสัยในเรื่องต่างๆได้สบายมาก อยู๋แบบไม่ต้องฟันธงในเรื่องต่างๆ อยู๋กับความไม่แน่นอน อยู๋กับความไม่รู้อะไรเลย ผมอยู่ได้ ชีวิตผมจึงน่าสนใจกว่า
การที่จะมีชีวิตแบบไม่ต้องรู็อะไรเลยนั้นน่าสนใจกว่าที่จะมีชีวิตแบบมีคำตอบไปทุกเรื่อง ซึ่งผมว่าเราอาจเข้าใจผิดว่านั่นคือคำตอบก็เป็นก็ได้ ถ้าเราเลือกที่จะมีชีวิตอย่างนั้น อีกด้าน เราจะอยู๋กับความไม่แน่ใจ แต่อีกด้าน เราจะเปิดโอกาสให้กับทางเลือกใหม่ๆ ที่อาจเข้ามาตอนไหนก็ได้ เราจะไม่ตื้นเต้นกับหลักฐานความจริง ตื่นเต้นกับความรู้ใหม่ หรือ ตื่นเต้นกับ ความจริงที่ปรากฏอย่างชัดเจน ผมไม่เคยตื่นเต้นอย่างนั้นเลย ผมชอบที่จะยังสงสัยต่อไปมากกว่า ว่าความจริงที่ผมเข้าใจว่าจริงอาจจะไม่จริงเสมอไปทุกกรณี โดยเปิดพื้นที่ความสงสัยของเราเอาไว้ให้กว้างอยู่เสมอเพื่อรอโอกาสให้สิ่งที่เราไม่เคยรู้มาเยือน
ความตื่นเต้นผมเกิดจากตรงนี้
ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
ผมคิดเล่นๆ ตามประสาคนที่ชอบอ่านประวัติศาสตร์ ไปอ่านดูความเจริญรุ่งเรืองในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ อย่างอาณาจักรโรมัน หรือ ใกล้ตัวหน่อย อาณาจักรสุโขทัย ก็ยังมีวันล่มสลาย แต่ล่มสลายเพราะอาณาจักรเป็นของคนเพียงกลุ่มเดียว ผมเคยสงสัยว่าทำไมศานาพุทธถึงอยู๋มานานขนาดสองพันปี ทำไมถึงไม่ล่มสลายไปตามคำสอนของศาสนาพุทธเองที่ว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป คำสอนนี้กลับไม่เป้นจริงกับตัวมันเอง
สำหรับคำสอนเรื่องการลงทุนเน้นคุณค่านั้น ปัญญาน้อยนิดอย่างผมคิดไม่ออกเช่นกันว่าจะอยู๋นานแคาไหน แต่นักปราชญ์อย่างอาจารย์ ชาลี มังเกอร์ได้เคยบอกว่าอย่างนี้ครับ
“The idea of a margin of safety, a Graham precept, will never be obsolete. The idea of making the market your servant (Mr.Market) will never be obsolete. The idea of being objective and dispassionate (realistic without emotionly decision-making involved ) will never be obsolete. ”
ปรัชญาการลงทุนเน้นคุณค่า กับ ปรัชญาชีวิตเริ่มมีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกัน และสามารถเอาไปปรับใช้ในเรื่องต่างๆ ในประจำวันๆได้เหมือนสองอยางหลอมเป็นหนึ่งเดียวกันจนแยกไม่ออก ความคิดเรื่อง margin of safety, Mr. market, และ biased-free decision making จะอยู๋นานขนาดศาสนาพุทธหรือปล่าว ผมว่าไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งที่น่าตั้งคำถามคือ value investing เป็นสัจธรรมเหมือนศาสนาพุทธหรือปล่าว
แต่ถ้าถามว่าทั้ง value investment และ Buddism ตั้งอยู๊๋ในเมื่อความคิดที่เหมือนกันอย่างไร ผมมีคำตอบที่ไม่อาจยืนยันได้ว่าจะจริงแท้ตลอดไป รู้แต่ว่า ทั้งสอง wisdoms อยู่บนรากฐานของความเป้น science หรือ เป้นวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้และสามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดในตัวเองได้
มีคนพยายามล้มศาสนาพุทธมานานหลายพันปี ถ้าไปอ่านประวัติศาสตร์ศาสนา ศาสนาอื่นๆล้มกันมามากมายทีเดียวครับเพราะไม่ได้ตั้งอยู๋บนรากฐานของความจริงที่เป้นวิทยาศาสตร์
ศาสนาล้มได้ แต่วิทยาศาสตร์ล้มยาก โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ที่อยู๋บนรากฐานของการตัดความเชื่อที่ผิดๆ ออกจากตัวของมันเอง และผ่านช่วงยากลำบากมาอย่างยาวนาน
ผมคิดว่า Thaivi เป็นวิทยาศาสตร์มากพอๆ กับกับคำสอนเรื่องการลงทุนเน้นคุณค่า สมกับชื่อในตัวมันเองอยู่แล้วที่สอนโดยเบน เกรแฮม สมาชิกที่ดูแล Thaivi ก็เป็น Vi ที่แท้จริง ที่มี margin of safety, Mr. market, และ biased-free decision making อยู่ในสายเลือด
ผมคิดว่า คนที่หัวเป็น vi ที่แท้จริง พอฟังเรื่อง Vi จากปากคนที่รู็จริง เขาฟังแค่ห้านาทีก็เข้าใจแล้ว ไม่ต้องรอนานถึง 10 ปี กว่าจะเข้าใจ
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4214
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 26
แต่สำหรับคำถามที่ว่า อีกหน่อยถ้านักลงทุนแนว VI พอร์ตโตขึ้นๆๆ จนอาจไม่มีหุ้นให้ซื้อ
เรื่องนี้พุทธศาสนาก็พอจะให้แนวทางได้..
ทั้งที่พุทธศาสนาเป็นของจริง คนที่พอจะได้ศึกษาจำนวนมากก็ยอมรับ แล้วในโลกมีอริยบุคคลกี่คน
เรื่องนี้พุทธศาสนาก็พอจะให้แนวทางได้..
ทั้งที่พุทธศาสนาเป็นของจริง คนที่พอจะได้ศึกษาจำนวนมากก็ยอมรับ แล้วในโลกมีอริยบุคคลกี่คน
กราฟที่มองไม่เห็นกับกราฟที่มองเห็น
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 27
ตอนนี้ ปัญหาตลาดไม่พอให้ซื้ออาจหมดไปในระยะเวลาที่ใกล้เป็นจริงนี้ก็ได้ ถ้าเปิด AEC รวมตลาดเข้าด้วยกันสำเร็จจริง ที่ว่า 2-3 เดือนข้างหน้านี้
สงสัย (ไม่เคยมีข้อมูล) ว่าประเทศอย่างมาเลย์ สิงคโปร์ อินโด VI ที่นั่นมีขนาดไหน? เราอาจไม่ต้องจำกัดตัวอยู่แค่ Thai VI อาจแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเป็น AEC VI หรือ ASEAN VI ก็ได้
สงสัย... ดังนั้น เดี๋ยวต้องเริ่มหาข้อมูลตั้งแต่วันนี้แล้ว
สงสัย (ไม่เคยมีข้อมูล) ว่าประเทศอย่างมาเลย์ สิงคโปร์ อินโด VI ที่นั่นมีขนาดไหน? เราอาจไม่ต้องจำกัดตัวอยู่แค่ Thai VI อาจแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเป็น AEC VI หรือ ASEAN VI ก็ได้
สงสัย... ดังนั้น เดี๋ยวต้องเริ่มหาข้อมูลตั้งแต่วันนี้แล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 2595
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 28
คมมากครับhumdrum เขียน:ผมคิดว่า คนที่หัวเป็น vi ที่แท้จริง พอฟังเรื่อง Vi จากปากคนที่รู็จริง เขาฟังแค่ห้านาทีก็เข้าใจแล้ว ไม่ต้องรอนานถึง 10 ปี กว่าจะเข้าใจ
การเปิดเสรีอาเซียน น่าจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้Board ThaiVI กลับมาDiscuss หุ้นในอาเซียนกันได้อย่างไม่เม้มเพราะตลาดใหญ่ขึ้น ลดความรุนเเรงของคำว่า"ชี้นำ" เเต่เป็นการ"ศึกษาหุ้นร่วมกัน" บอกกันได้ตรงๆว่าซื้อเพราะอะไร ขายเพราะอะไร ผมมองว่า ThaiVIเป็นเหมือนทีมชาติไทยครับ ผมไม่ได้สนใจMalayหรือสิงคโปร์ เเต่เราเป็นทีมชาติเดียวกันที่คอย"ล่า"ซื้อกิจการต่ำกว่ามูลค่าของAsean เหมือนทีมชาติThaiVIมองออกก่อนชาติอื่นเเละช่วยกันสร้างWealthIi'8N เขียน:ตอนนี้ ปัญหาตลาดไม่พอให้ซื้ออาจหมดไปในระยะเวลาที่ใกล้เป็นจริงนี้ก็ได้ ถ้าเปิด AEC รวมตลาดเข้าด้วยกันสำเร็จจริง ที่ว่า 2-3 เดือนข้างหน้านี้ สงสัย (ไม่เคยมีข้อมูล) ว่าประเทศอย่างมาเลย์ สิงคโปร์ อินโด VI ที่นั่นมีขนาดไหน? เราอาจไม่ต้องจำกัดตัวอยู่แค่ Thai VI อาจแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเป็น AEC VI หรือ ASEAN VI ก็ได้ สงสัย... ดังนั้น เดี๋ยวต้องเริ่มหาข้อมูลตั้งแต่วันนี้แล้ว
สูงสุดเลยคือพัฒนา Thai VI ให้เป็นสถาบัน...มีกิจกรรมเหมือนที่พี่chatchaiบอก ที่สำคัญต้องเป็นสถาบันที่สง่างาม ปั้นนักลงทุนที่ดี+เก่ง(ดีต้องมาก่อนเก่ง) ไม่มีผลประโยชน์เเฝง
ขอบคุณThaiVIเเละสู้ต่อไปนะ มวลมิตรสมาชิกเเละทีมงานModerater
ปล. เดือนที่เเล้วว่างๆผมลองไล่เเกะThaiVI.com พบว่าขุมทรัพย์ยังมีอยู่มากที่ThaiVI.com บทความดีๆเพียบ
http://www.thaivi.com/2010/02/430/
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
-
- Verified User
- โพสต์: 469
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 29
ตราบใดที่ตลาดยังไม่มีประสิทธิภาพสมบูรณ์ หาหุ้นได้แน่นอน
ส่วนจะหาหุ้นยากหรือง่าย อยู่ที่ความเฉียบคม ความขยัน
ส่วนจะได้กำไรมากหรือน้อย อยู่ที่ความหนักแน่นของจิตใจ
วีไอมันไม่ได้บอกว่าจะเป็นก็เป็นได้นะครับ
แล้วมันก็ไม่ได้เป็นกันสำเร็จ ทุกคน
ถ้าคนที่ไม่สำเร็จแล้วยังจะอยู่ในตลาดหุ้น ยังมีไหม
ถ้ามี ถามว่า แล้วเขาจะเป็นอะไร ... (นั่นสิ)
นักลงทุนสถาบัน ต่างชาติ เจ้า นักพนัน เขายังอยู่ไหม
ตลาดก็ยังเป็นตลาด นายตลาดก็ยังเป็นนายตลาด
เราอาจจะบอกว่านายตลาดเก่งขึ้น อาจจะใช่
แต่เขายังเจ้าอารมณ์เหมือนเดิม เราหากินตรงจุดนั้น
ยึดมั่นในหลักการ และอดทน แล้วมุ่งมั่นในการลงทุนของตัวเอง
สบายๆในการลงทุนนะครับทุกท่าน
ส่วนจะหาหุ้นยากหรือง่าย อยู่ที่ความเฉียบคม ความขยัน
ส่วนจะได้กำไรมากหรือน้อย อยู่ที่ความหนักแน่นของจิตใจ
วีไอมันไม่ได้บอกว่าจะเป็นก็เป็นได้นะครับ
แล้วมันก็ไม่ได้เป็นกันสำเร็จ ทุกคน
ถ้าคนที่ไม่สำเร็จแล้วยังจะอยู่ในตลาดหุ้น ยังมีไหม
ถ้ามี ถามว่า แล้วเขาจะเป็นอะไร ... (นั่นสิ)
นักลงทุนสถาบัน ต่างชาติ เจ้า นักพนัน เขายังอยู่ไหม
ตลาดก็ยังเป็นตลาด นายตลาดก็ยังเป็นนายตลาด
เราอาจจะบอกว่านายตลาดเก่งขึ้น อาจจะใช่
แต่เขายังเจ้าอารมณ์เหมือนเดิม เราหากินตรงจุดนั้น
ยึดมั่นในหลักการ และอดทน แล้วมุ่งมั่นในการลงทุนของตัวเอง
สบายๆในการลงทุนนะครับทุกท่าน
Sixth Sense Investor
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในอนาคตอีก10ปี!!! จุดยืนของThaiVIจะอยู่จุดไหน?????
โพสต์ที่ 30
ตรงนี้สุดยอดครับ ถ้าเก่งแต่ไม่ดี มันก็คงเหมือนบ.ที่ดูเหมือนดี แต่ไม่มีธรรมาภิบาลครับtorpongpak เขียน: สูงสุดเลยคือพัฒนา Thai VI ให้เป็นสถาบัน...มีกิจกรรมเหมือนที่พี่chatchaiบอก ที่สำคัญต้องเป็นสถาบันที่สง่างาม ปั้นนักลงทุนที่ดี+เก่ง(ดีต้องมาก่อนเก่ง) ไม่มีผลประโยชน์เเฝง
"Become a risk taker, not a risk maker"