ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมคิดว่าทุกๆคนมีเงินเย็นเฉียบ ที่พร้อมจะลงทุนระยะยาว

แต่ความเข้าใจที่ว่าต้องลงทุนมาก ถึงได้กำไรมากเป็นความเข้าใจที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการมองกำไรในระยะสั้นต่างหาก

เช่น ถ้าเราลงทุน 10,000 แล้วซื้อหุ้นที่ดี ขอใบหุ้นใส่ตู้เซพไปเลย ผมคิดว่า คนอีกไม่น้อยกว่า 1,000,000 คน (ตัวเลขนี้เดาเอาครับ) ก็สามารถทำได้

ซื้อ 10,000 ทิ้งไว้ 10 ปี 20 ปี 30 ปี 40 ปี 50 ปี

ก็แล้วแต่ครับว่าจะซื้อตัวไหน

สมมุติซื้อ wacoal ตอนนี้เลย ซื้อแบบคนไม่รู้ แต่เข้ามาถามพี่ครรชิตเล็กน้อย

ซื้อเก็บไปเลย 10 ปี ผมมองไม่เห็นว่าถ้าเราเลือกหุ้นที่ดี แล้วเราจะไม่มีกำไรได้อย่างไร

ทั้งเงินปันผล + ส่วนต่างราคาในอนาคต 10 ปี

ลองคิดดูนะครับสำหรับท่านที่เข้ามาอ่านแล้วอาจจะมีเงินเก็บน้อย ไม่ถึง 2 - 3 หมื่นบาท แล้วคิดว่าเอาเงินน้อยๆเหล่านั้นไปเก็งกำไร ดีกว่า ดีกว่าจริงหรือเปล่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
ripper
Verified User
โพสต์: 51
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมขอตอบ..พี่ jeng..นะครับ...ผมนี้ก็เป็นประเภทที่มีเงินน้อยๆ...ความรู้น้อยๆ...อย่างที่พี่บอกเนี้ยแหละครับ....แล้วก็เก็งกำไร......555ทีแรกได้มาเลยครับ...กำไร 50%...แค่วันเดียว..3 ชั่วโมง..ครับ...ติดใจเก็งกำไรเรื่อยมา....มาดูตอนนี้....ยังดีครับ..ที่เบ็ดเสร็จขาดทุนไปไม่มากนัก.....เงินก็น้อยแล้วมาขาดทุนอีก..เข็ดแล้วครับ..ผมเล่นได้กำไร..แค่ ครั้งหรือสองครั้งเองครับ..ทีเหลือขาดทุนเรื่อยมา..จำขึ้นใจเลยครับ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 3

โพสต์

คุณ ripper ดูคุณ chatchai ลุงขวด พี่ครรชิต เฮียปรัชญา คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ได้กำไรมาก จากการถือยาวทั้งนั้น

สำหรับพี่ยิ่งมีเงินน้อยยิ่งห้ามเก็งกำไร

ไว้มีเงินมาก เก็งสนุกๆเป็นอีกเรื่องครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมก็ได้ยินมาหลายคนเหมือนกันครับ
เค้ามักจะพูดว่า เพราะมีเงินน้อยเล่นยาวไม่ได้
ต้องเก็งกำไร
ผมว่าไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย
ยิ่งเงินน้อยนี่สิยิ่งห้ามขาดทุน
เพราะฉะนั้นก็ต้องเล่นแบบลงทุน
ไม่ผิดหวังครับแนวการลงทุนแบบนี้
สบายใจสบายตัวครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ถ้าถามผม ผมก็แนะนำให้ใช้เงินที่เป็นเงินเย็นมาลงทุนครับ

เงินที่เตรียมไว้ใช้อีกหลายๆปีข้างหน้า ไม่ใช่เงินที่เตรียมไว้ใช้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

การลงทุนต้องมองกันยาวๆ เอาแค่สั้นๆก็ได้บ้างเสียบ้างเป็นธรรมดา

เลือกให้ดีๆ ถือให้ยาวๆ รับผลงานสวยๆครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา1
Verified User
โพสต์: 1092
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 6

โพสต์

:P :arrow: ด้วยประสพการณ์ ที่หมดมา2รอบ
ก็เห็นกับคำว่าถือยาวครับ ถ้าผมไม่เปลี่ยนนโยบายการลงทุน
ป่านนี้คงมีตำนานหมดภาค3 มาเล่าสู่กันฟัง
นี่หมดไป2รอบเล่าหมดแล้วเลยหมดมุกครับ
เด็กใหม่หัดขวิด
Verified User
โพสต์: 67
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ว้าว แล้วพวกที่เล่น day trade แบบ นั่งห้อง VIP นะครับ ใครเคยเจอบ้าง เท่าที่รู้ส่วนใหญ่พวกนี้ ต้องการแค่วันละ 5,000 ขึ้นไปเท่านั้นนะครับ ทุนไม่รู้เท่าไหร่นะครับ แต่คาดว่า ขึ้นช่องเดียวหรือสองช่องก็ทิ้งกันแล้วนะครับ มีความเห็นยังไงกันบ้าง
หุ้น - การลงทุน หรือการพนัน คุณเป็นคนพิจารณา
นายสต็อก
Verified User
โพสต์: 777
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เงินเย็น...ใจเย็น...ลงทุนก็เย็นใจ
เงินร้อน...ใจร้อน...ลงทุนก็ร้อนเป็นไฟ!!! :roll:
milkshaq
Verified User
โพสต์: 127
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ผมกลัวจังเลยครับ เวลามาโพสต์ตอบในเว็ป TVI เพราะส่วนมากผมจะเห็นขัดแย้งประจำเลยครับ ยังไงเก็บผมไว้ดูเล่นนะครับ อย่าว่ากันนะครับ
ผมเห็นด้วยกับคุณเด็กใหม่หัดขวิดครับ ผมไม่เห็นด้วยกับพวก day trade ครับ พวกนี้เท่าที่เจอส่วนมากจะเสียมากกว่าได้ครับ แต่เท่าที่เจอส่วนมากเค้าจะมีอายุมากๆแล้วทั้งนั้น พอไปคุยด้วย เค้ามีความคิดคล้ายๆกับมาเล่นหุ้นเอาสนุก เอามันส์ ไม่คิดมาก ซึ่งส่วนมากเค้าจะมีเงินเยอะกันอยู่แล้ว เอาเงินนิดหน่อยมาเล่นสนุกๆ ผมก็เลยไม่รู้จะแนะนำอะไรเค้าครับ
ส่วนตัวผมจะเล่นแบบลูกผสม บางตัวซื้อมาได้ไม่ถึง 20 นาที ก็ต้องรีบขายก็เคย บางตัวถือไว้ปีครึ่งก็มีครับ ขึ้นอยู่กับสถานะการณ์แล้วก็การตัดสินใจโดยที่เราต้องทำการบ้านกับหุ้นที่เราจะซื้อจะขายมาก่อนครับ ว่าหุ้นตัวนี้มีลักษณะนิสัยเป็นอย่างไร จุดเด่นจุดด้อย จุดที่ต้องควรระวัง จุดที่มีโอกาสทำกำไรคืออะไร ซึ่งปกติผมจะลิสต์หุ้นแต่ละตัวที่อยากจะซื้อ แล้วเขียนสตอรี่ของหุ้นตัวนั้นเก็บไว้ก่อน เพียงแต่อาจจะไม่เขียนเป็นทางการอะไร เอาให้เราเข้าใจก็พอ อย่างบางตัวเช่น VNG ผมศึกษาแล้วเห็นว่าเป็นหุ้นที่ดี เพียงแต่บางช่วงอาจจะมีการเก็งกำไร หุ้นตัวนี้เป็นหุ้นที่ผมคิดจะเก็บยาวเลย แต่ช่วงที่หุ้นแปลงจากวอแรนต์จะเข้า ถ้าผมมีหุ้นอยู่ผมก็ขาย short ออกไปก่อนเพราะอย่างที่เคยให้เหตุผลไว้ในเว็ปตลาดหุ้นว่า ต้นทุนของคนที่แปลงแทบทุกคน จะมีกำไรกันทุกคน ดังนั้นราคาของหุ้นตัวแม่ก่อนที่หุ้นแปลงจะเข้าอยู่ที่ 10 บาทกว่าๆ แต่ผมเป็นคนนึงที่แปลง ผมว่าแค่ 9.50 ผมก็ขายอย่าง แฮปปี้แล้ว ผมคาดว่าจิตวิทยาคนที่แปลง จะต้องมีคนขายออกมาแน่นอน ดังนั้นถ้าผมขายหุ้นตัวแม่ที่มีไปก่อนแล้วค่อยกลับมาซื้อวันที่มันไดลูทเนื่องจากหุ้นใหม่เข้า ผมก็ไม่คิดว่ามันผิดอะไร ผมก็ทำ ถ้าไม่เป็นไปตามที่ผมคิด ผมก็จะได้แนวคิดใหม่เพิ่มว่า ทำไมไม่เป็นไปตามที่คิด มีอะไรผิดพลาด ซึ่งผมก็จะได้แนวความคิดใหม่ๆเพิ่มขึ้น ซึ่งหลังจากหุ้นแปลงเข้าถ้าเราเข้าไปซื้อราคาก็จะอยู่ที่แค่หุ้นละ 8.45 ผมก็เลยมองว่าขอให้ใช้สมองคิด ใช้เหตุผลให้เป็น การเล่นหุ้นของเราไม่ไปทำร้ายหรือเอาเปรียบใคร ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด
milkshaq
Verified User
โพสต์: 127
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ผมมองว่าการเก็งกำไรต่างกับการเล่นการพนันอยู่ตรงที่ว่า การพนันเมื่อคุณเล่น คุณอาศัยดวง แล้วเมื่อเล่นจบตานั้นจะต้องมีการได้เสียทันที แต่เล่นหุ้นคุณไม่ได้ใช้ดวงเป็นหลัก คุณต้องมีข้อมูลด้วย แล้วเมื่อคุณเล่น ไม่ใช่ตลาดหุ้นเป็นบ่อนที่เมื่อปิดตลาดตอนเย็นคือบ่อนปิด หุ้นที่ซื้อมาต้องขายแล้ว ถ้าปิดลบก็ขาดทุน ถ้าปิดบวกก็กำไร แต่ผมมองว่าหุ้นที่คุณเก็งกำไร คุณจะต้องมีเหตุผลที่มากพอที่จะบอกได้ว่าเล่นหุ้นตัวนี้แล้วโอกาสที่คุณจะแพ้มีน้อยมาก เนื่องจาก 1.... ,2....... , 3....... ยิ่งถ้าคุณมีเหตุผลบอกตัวเองได้มากเท่าไหร่ แล้วเป็นเหตุผลที่มีเหตุผลจริงๆ ผมคิดว่าเล่นแบบเก็งกำไรก็ไม่ผิดอะไร แต่อย่าไปปั่นหุ้นเอาเปรียบคนอื่นแค่นั้น ที่นี้ใน

ส่วนประเด็นเรื่องของเงินน้อยเงินมาก แล้วทำให้ไม่สามารถเล่นหุ้นแบบ

ถือลงทุนระยะยาว มันเป็นอย่างนี้ครับ

คือใจจริงของนักลงทุนหลายๆคน ต้องการที่จะเป็นอิสระทางการเงิน

ผมวิเคราะห์ความคิดของเค้าไว้อย่างนี้นะครับ อาจจะถูกหรือผิดก็ได้

ส่วนของคนที่เข้ามาเล่นหุ้นหลายๆคน เค้าคงคิดว่าถ้าจะเป็นอิสระทางการ

เงินคือต้องมีเงินลงทุน

ประมาณ 200 เท่าของเงินที่ต้องการใช้ต่อเดือน(เอามาจากหนังสือของ

ดร. นิเวศ ครับ ไม่รู้จำผิดหรือเปล่า) ทีนี้ถ้าผมมีเงินเริ่มต้นแค่

ห้าแสนบาท การที่ผมจะเป็นอิสระทางการเงิน ผมจะต้องมีเงิน

ประมาณสิบล้านเพื่อมาลงทุนจึงจะเป็นอิสระ ถามว่าผมจะหาเงินสิบ

ล้านมาจากการเล่นหุ้นได้ยังไง บางคนเลยมองว่าการเอาเงินไปซื้อหุ้น

ทิ้งไว้เลยโอกาสที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมายเป็นไปได้ยากมาก โอ

เค ถ้าผมไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลหรือไม่มีเวลาดูข้อมูลหุ้นเรียลไทม์

เนื่องจากต้องทำงานประจำทั้งวัน อย่างนี้ก็คงต้องหาทางได้เงินมาจาก

การทำงาน เก็บเล็กผสมน้อย ส่วนในเรื่องการเล่นหุ้นก็ซื้อเก็บยาว

เพราะไม่มีเวลาไปตาม แต่ถ้าผมมีงานที่ทำอยู่เฉพาะวันเสาร์

อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาผมว่าง แล้วที่นี้หุ้นบางตัวที่คิดจะเอา

เงินไปลงทุนระยะยาวแต่ผมมองออกว่าบางช่วงต้องขายแล้วเพราะเดี๋ยว

หุ้นน่าจะลงแน่ พอถึงช่วงหุ้นลงผมก็ซื้อกลับ แต่ถ้าไม่เป็นไป

ตามที่คิด หุ้นแพงขึ้น ผมก็ซื้อกลับอยู่ดี เพราะผมมองเป้าหมายตัวนี้อีก

ไกล ซึ่งเท่าที่ทดลองมา ตัวที่ถนัดมักมองไม่ค่อยพลาด เช่น VNG

TFI LPN-W1 ถามว่าผมเป็นนักลงทุนประเภทไหนครับ แล้วผม

ผิดมั๊ย อีกอย่างผมมีความจำเป็นที่จะไม่สามารถรับเงินปันผลได้

(เหตุผลทางภาษีครับ) ผมจึงจำเป็นที่จะต้องขายหุ้นก่อน xd แล้ว

ค่อยกลับไปซื้อใหม่ที่หลัง ซึ่งผมจะดูจังหวะจิตวิทยาของคนก่อนซื้อ

เพื่อหาจังหวะที่เหมาะสมในการซื้อ ดังนั้นจัดผมเป็นนักลงทุนแบบ

ไหนครับ แล้วถ้าผมผิดผมผิดอะไรครับ

ผมมาลงทุนในหุ้นเพราะผมต้องการผลตอบแทนจากการลง

ทุน ดังนั้นถ้าอะไรที่ผมคิดว่าทำแล้วไม่เดือดร้อนใคร ไม่

เอาเปรียบใคร ผมมีเหตุผลที่จะตอบตัวเองว่าทำไปทำไม

ทำแล้วคิดว่าจะทำให้ผลตอบแทนได้กลับมาดีที่สุดผมก็ทำ เล่นหุ้น

day trade ผมเคยทดลองเล่นแล้วพบว่าตามสถิติที่เล่นส่วนมากจะ

เสีย ผมก็เลิก ถึงแม้ผมจะเคยเสียกับการเล่นหุ้น day-trade

แต่อย่างน้อยผมก็ได้ความรู้ว่า อ๋อ เล่นอย่างนี้ไม่เหมาะกับเรานะ

เล่นแล้วมันไม่ค่อยมีเหตุผลรองรับ อย่างนี้ไม่ควรเล่น ผมก็ได้รู้โดย

เกิดจากการทดลองเองโดยใช้เงินแค่นิดหน่อยจากในพอร์ท แต่ผมก็

ภูมิใจที่ได้รับรู้เอง ผมคิดว่าดีกว่าฟังคนอื่นบอกว่าอย่าเล่นมันไม่

ดี แต่ในใจเราค้านว่าทำไมล่ะ ไม่อยากจะเชื่อเลย แต่เห็นว่าผู้ที่

แนะนำเป็นผู้มีความรู้เลยเชื่อไปอย่างนั้น ผมมองว่าการทดลองเล่น

หุ้นในแบบที่เราไม่ถนัดแล้วเราเสีย ไม่ใช่เป็นยาเสพติดครับที่

ทดลองไม่ได้ ผมว่ามันเป็นเหมือนแบบทดสอบที่ทำให้เรารู้เหมือน

ตอนเราเด็กๆ เช่น แม่บอกอย่าเอามือไปใกล้ไฟ เพราะมันร้อน แต่

บางครั้งแม่เผลอเราก็เอามือไปลองแหย่ดู ซึ่งพอเรารู้ว่ามันร้อน ต่อ

ไปเราก็เลิกทำครับ เช่นเดียวกัน พอเราลองเล่นหุ้นแบบที่เราไม่ถนัด

แล้วเราเสีย ส่วนแบบที่เราถนัดเราได้อยู่ประจำ ผมไม่เชื่อว่าเราจะ

ยังทู่ซี้เล่นแบบที่เสียประจำอยู่ได้ครับ ประสบการณ์จะสอนเราเอง

เพียงแต่ควรจะมีหลักยึดอยู่บ้างเท่านั้นครับ

ปล. ผมขอทดลองเว้นบรรทัดดูบ้างนะครับ เพราะพอพิมพ์ยาวๆติดๆกัน ทดลองไปอ่านดู มันตาลายครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 11

โพสต์

คุณ milkshaq เขียนยาวมากเลย สนใจเลยมาขออ่านด้วยและขอแจมความคิดเห็นด้วยคนครับ

ผมก้อเชื่อในการถือยาวววววว แบบยาวจริงๆ แต่ทีนี้เท่าไรถึงเรียกว่ายาวครับ ลองฟังนิทานเรื่องนี้นะครับ

เจ้ท้อ: อ้า คุณฉุย ขา เดี้ยนมีหุ้น ABC อยู่อยากทราบว่าถือยาวได้มั้ยค้า
คุณฉุย: ถือยาวได้ครับ พื้นฐานดีปันผล okay
เจ้ท้อ: ถือยาวได้จริงๆ นะค้า แน่นะค้า
คุณฉุย: คับ
เจ้ท้อ: ค่อยยังชั่ว จะได้ปล่อยทิ้งไว้เลย ไว้พรุ่งนี้ค่อยขายละกัน
คุณฉุย: งงงงงงงงงงงง

เคยได้ยินเรื่องนี้มั้ยครับ เพื่อนบอกว่าเป็นเรื่องจริงเลยแหล่ะ
อ-ริน
Verified User
โพสต์: 222
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ถือยาวหรือเล่นสั้น
คงแล้วแต่ความถนัดน่ะค่ะ
โดยส่วนตัวค่อนข้างเล่นสั้น
ไม่ชอบถือยาว แต่ยังไงก้อยาวกว่าเจ้ท้อค่ะ
55555555555555555555
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 13

โพสต์

คนเล่นสั้นเนี่ย เค้าทำงานกันที่ไหนเหรอครับ เอาเวลาที่ไหนไปเล่นสั้น เล่นสั้นตอนตลาดลงด้วยอะเปล่า

แค่สงสัยนะไม่ได้กวนใคร

ส่วนผมเองคงเล่นสั้นไม่ได้หรอกครับ เล่นไม่เป็นอะ แฟนผมเค้าอยากเล่นสั้นกับเค้าบ้างเห็นได้กำไรดี ผมก้อบอกไปว่า ไปเรียนการเล่นแบบเทคนิคก่อนแล้วกัน เพราะเราไม่มี gut feeling ในการเล่นแบบนี้ กลัวเจ้งครับ

หุ้นที่ถืออยู่ส่วนใหญ่ถือเกิน 2 ปีแล้วครับ มี 2-3 ตัวที่คิดจะเลิกถือ และเริ่มเล่นตัวอื่น ปีนี้ซื้อไปแค่ 3 ตัวเท่านั้นครับเมื่อต้นปี (TR, TCB และ WACOAL) กำลังหาตัวที่ 4 อยู่

เล่นยาวมันก้อเล่นรอบเหมือนกันนั่นแหละ เพียงแต่การตัดสินใจมันอยู่ที่ผลประกอบการปัจจุบันกับแนวโน้มธุรกิจมันไม่ค่อยขึ้นกับการขึ้นลงของราคาหุ้นเท่าไร อันนี้เป็นความคิดและแนวทางของผมเองนะครับ
บุคคลทั่วไป
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 14

โพสต์

:o ส่วนตัวผมก็มีความคิดเห็นว่าต้องเป็นเงินเย็นประเภทเป็นวุ้นได้ยิ่งดีครับ เท่าที่อ่านหนังสือหรือบทความมา เช่น ของคุณ บุญส่ง ที่อยู่ Kimeng แกก็บอกว่าการถือหุ้นระยะยาวหรือการลงทุนเท่านั้นที่จะอยู่รอดได้ คงมีคนส่วนน้อยมากๆ ที่เล่นเก็งกำไรแล้วไม่ขาดทุน
ioport
Verified User
โพสต์: 92
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับการลงทุนระยะยาวในหุ้นของบริษัทที่ดี

แต่ผมก็คิดว่า การเล่นรอบ หมายถึง รอบใหญ่เป็นเดือนไม่ใช่รายวันรายสัปดาห์ ให้ผลตอบแทนที่ไม่เลวทีเดียว ปีๆหนึ่งไม่ต้องเล่นมากจับรอบใหญ่ให้ได้ปีละครั้งสองครั้ง ก็ได้เนื้อได้หนังพอควรเชียวละ ทุกๆปีจะมีให้เล่น
milkshaq
Verified User
โพสต์: 127
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 16

โพสต์

เรื่องของคุณ Aye เยี่ยมมากครับ 555 ขออนุญาตจำไปเล่าให้เพื่อน

ฟังบ้างนะครับ ส่วนที่ถามว่าคนที่เล่นสั้นเค้าทำงานกันที่ไหน

เท่าที่ผมพบ พวกเล่นสั้นมักจะมีอายุหน่อย เช่นพวกอาซิ้ม พวกนี้

แกไม่ทำงานแล้วครับ ให้ลูกๆทำงาน แล้วตัวเองก็มานั่งเล่นหุ้นแก้

เบื่อ คล้ายๆเล่นไพ่ โดยจะซื้อหุ้นระหว่างวันประมาณวันละสิบกว่าถึง

ยี่สิบตัวครับ ซื้อได้ปั๊บ ตั้งขายปุ๊บเลย พอตอนเย็นหุ้นตัวไหน

ที่ยังไม่ได้ขายก็จะสั่งขาย call market จนหมดทุกตัว พวกนี้เค้าเล่น

เอามันครับ ไม่ได้ซีเรียสอะไร อีกพวกก็จะเป็นพวกหมอหรือ

อาจารย์ พวกนี้งานจะไม่ค่อยเยอะแล้ว เนื่องจากอายุมากพอ

สมควร ถ้าเป็นหมอก็เหลืองานคลีนิคตอนเย็นๆ ส่วนผมทำงาน

สอนเสาร์อาทิตย์ วันธรรมดาผมว่าง ก็เลยเข้าไปนั่งห้องค้าได้ครับ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 17

โพสต์

สอนอะไรครับ เสาร์อาทิตย์ เป็นติวเตอร์หรือครับ คุณ มิล
milkshaq
Verified User
โพสต์: 127
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ครับผม สอนเป็นงานอดิเรกครับ

ขอเสริมนิดนึงที่บอกไปเดี๋ยวจะมีคนเข้าใจผิด เท่าที่ผมพบในห้อง

ค้า จะมีเฉพาะพวกอาซิ้ม อาแปะนะครับ ที่เล่นสั้นแบบ day

trade ส่วนพวกอาจารย์หรือหมอ เค้าจะไม่ค่อยยึดรูปแบบตายตัว

เท่าไหร่ ผมเห็นบางคนเค้าจะดูนิสัยหุ้นแต่ละตัวเป็นหลัก บางตัว

ผมเห็นเค้าถือครึ่งปี หนึ่งปี แล้วก็ยังไม่ขาย บางตัวเค้าเก็งกำไร

ตามตลาดก็มีครับ แต่ไม่ค่อยเห็นซื้อเช้าขายเย็นครับ ส่วนมากจะ

ดูเทคนิคบ้าง ดูจังหวะบ้าง แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคน


แต่สิ่งที่ผมเห็นบ่อยคือ แต่ละคนเค้าจะมีหุ้นที่ตัวเองถนัดอยู่คน

ละตัวสองตัว บางคนถนัด cpf ผมเห็นเค้าเล่นแล้วส่วนมากจะกำไร

ตลอด บางคนถนัด THL บางคนถนัด CAPE โดยเฉพาะ

คนที่ถนัด CAPE นี่สุดยอดจริงๆครับ ที่บอกว่า

สุดยอดเพราะ ร้อยละแปดสิบ พอเค้าซื้อแล้วมักจะไม่ขาด

ทุน ผมเห็นพอเค้าบิดซื้อได้ปั๊บ มันมักจะขึ้นเลย หรือไม่ถ้าลงก็

ลงอีกไม่เกินสองช่อง ก็ขึ้นเลย พอเค้าสั่งขาย แป๊บเดียวมัน

ก็ลงครับ ทั้งที่จำนวนหุ้นที่ซื้อก็ไม่ได้มากอะไร ไม่น่ามีผลต่อหุ้นใน

กระดาน แต่เหมือนเค้ารู้จังหวะจริงๆครับ เวลาหุ้นมันไล่กันอยู่ ยัง

ห่างลิ่งอีกไกลเลยครับ เค้าก็บอกว่า ดูลักษณะการเล่นน่าจะลิ่งแล้ว

ตกเลย ช่วงแรกผมนั่งดูยังคิดในใจว่ามันจะลิ่งได้ไง อีกตั้งไกล

พูดเสร็จแกตั้งขายที่ลิ่งเลย สักแป๊บ หุ้นมันวิ่งยาวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

มากพอใกล้จะลิ่ง แกรีบบอกมาร์ว่า เดี๋ยวพอลิ่งปั๊บ ให้เตรียมไปตั้ง

รับที่ราคาประมาณนี้เลย แล้วมันก็เป็นไปตามที่แกบอกจริงๆครับ

ลิ่งปั๊บตกลงมาแถวราคาที่แกบอก แล้วแกก็ช้อนหุ้นกลับมาได้อีกครั้ง พอแกก็ได้หุ้นตัวนั้นกลับมาอีกครั้ง แกก็สั่งไปตั้งขายที่ราคาต่ำกว่าลิ่งนิดหน่อย สักพักราคามันก็วิ่งไปให้แกขายได้อีกรอบ ช่วงแรกที่เห็น ตกใจเลยครับ

โอ้โห เล่นไงเนี่ย เหลือเชื่อจริงๆเลย แต่ตอนหลังเห็น

เป็นประจำก็เลย เฉยๆ วันไหนถ้าแกไม่เข้ามาห้องค้าหรือถ้าเข้า

แล้วไม่พูดถึงหรือเล่นหุ้นตัวนี้ วันนั้นก็จะไม่ค่อยเห็นหุ้นตัวนี้

ปรากฏตัวบนหน้าจอ เห็นแล้วก็แปลกใจเหมือนกันครับ ถ้าไม่เห็น

ด้วยตาไม่เชื่อนะครับ
นายสต็อก
Verified User
โพสต์: 777
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 19

โพสต์

เดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา....
ผมมีโอกาสแวะที่ห้องค้าหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ในห้างใหญ่ของกรุงเทพฯ
แวะไปเอาใบหุ้นที่ระลึก ของ ร.พ. สมิติเวช กับ การบินไทย และ ขอเพิ่มบริษัทอื่นๆไปอีกสองใบ
มาร์เก็ตติ้ง สาวหน้าจิ้มลิ้มของผม เค้ายุ่งคุยโทรศัพท์พอดี จึงไม่ได้ทักทายนัก

คิดๆ ดูผมเห็นหน้าเค้า มาก็เกือบสิบปี ทั้งๆที่บางช่วง ผมไม่เคยแวะไปที่ห้องค้าเลยเป็นปีๆ พอเวลาเจอหน้าแกก็คุยกันไม่กี่คำ (แต่เป็นเรื่องเงินๆ-ทองๆทุกที)

บริษัทหลักทรัพย์แห่งนี้เปลี่ยนจากชื่อเดิมจนออกจากตลาด ไปเป็นชื่อบริษัทใหม่ ไปแล้วหล่อนก็ยังนั่งทำงานอยู่เหมือนเดิม เก้าอี้ตัวเดิม มุมเดิม (ขยันและอึดจริงๆ!) 8)

ภาคบ่าย...
นักเล่นหุ้นชายหญิง รุ่นเล็กใหญ่ นั่งจ้องกระดานตาเขม็ง ไฟกระดานกระพริบ แวบๆ ตลอดเวลาก่อนกลับ ผมเดินไปยืนกดเจ้าจอคอมพิวเตอร์ดู กราฟหุ้น...เพลินๆ

ช่วงนี้เผอิญมีนักลงทุนชายสูงวัยร่างเล็กเชื้อจีนท่านหนึ่ง แกสั่งซื้อ-ขายหุ้นทางโทรศัพท์มือถือ มือป้องปากพร้อมกับกระซิบเบาๆ ท่าทางคล้ายพวกสืบราชการลับ ยังไงยังงั้น

"...เอาไอ้หุ้นนี้...สี่แสนนะ!..." ผมได้แต่เดิมผ่านแกตาปริบๆ

"ขอให้รวยสมใจครับพี่!!!" ผมนึกในใจ ก่อนเดินกลับจากห้องค้าฯ แห่งนั้น ไปขึ้นรถกลับบ้านที่ลานจอดรถใกล้ๆ :roll:
milkshaq
Verified User
โพสต์: 127
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 20

โพสต์

คุณสต๊อกครับ อ่านแล้วเหมือนกับจะมีตอนต่อไปนะครับ เขียนมาให้อ่านอีกสิครับ ชอบครับ สนุกดี
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 21

โพสต์

วันก่อนมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง บ่นเสียดายไม่ได้ซื้อ mida ท่านบอกว่าจะซื้อ 600,000 หุ้น ท่านถามผมว่า ผมซื้อหุ้นนานแค่ไหน ผมบอกว่า พยายามจะถือให้นานซัก 2 ปี ท่านบอกว่า อะไร ถือตั้ง 2 ปี

2 เดือนก็มากเกินไปแล้ว

ผมถามกลับไปว่า mida กำไรเท่าไร ท่านตอบกลับมาว่า ซื้อขายแบบท่านไม่ต้องดูกำไร

ท่านถามผมว่า ปตท ดีหรือไม่

ผมถามกลับว่าท่านคิดอย่างไร ท่านว่าก็น่าจะดี

ผมถามว่า ปตทกำไรเท่าไร

ท่านเงียบ

สรุปเราไม่ได้คุยกันต่อเรื่องหุ้นเลย

อิอิ :evil:
milkshaq
Verified User
โพสต์: 127
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ดีครับท่านเจ๋ง ผมชอบอ่านประสบการณ์คนอื่นมากๆเลย มีอะไรจะเล่าให้ฟังอีก เล่ามาเยอะๆเลยนะครับ ชอบมาก แล้วนี่ไม่นอนอีกหรือครับ ผมชักง่วงเหมือนกัน แต่มีภาระต้องล้างขวดนมลูกครับ ว่าเดี๋ยวจะไปล้างขวดนมก่อน เดี๋ยวจะกลับมาอ่านกระทู้อีกครั้งครับ ใครมีประสบการณ์ดีๆ ก็มาเล่ากันหน่อยนะครับ
milkshaq
Verified User
โพสต์: 127
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 23

โพสต์

พอดีไปอ่านเจอกระทู้ท่านอยากเชือกในเว็ปพันทิพย์ เห็นว่าน่าสนใจ ก็เลยก๊อปเอามาให้อ่านกันเล่นๆครับ ผมไม่ได้สนับสนุนแนวคิดแบบนี้นะครับ เพียงแต่ชอบอ่านประสบการณ์การเล่นหุ้นของคนอื่น อ่านแล้วรู้สึกสนุกดี ก็เลย ก๊อปมาให้อ่านกันครับ

ถามเซียนหุ้นฮ่องกง
ที่โน้นมีคนเล่นหุ้น หลายสัญชาติ แต่ส่วนใหญ่ พวกที่เขี้ยวยาวจริงๆ มือหนัก มือใหญ่จริงๆ กลับเป็นลูกมังกรท้องถิ่น ที่ผ่านการเรียนรู้จากอังกฤษ หรือ เมกา ดังนั้นพวกนี้อ่านหนังสือออกทั้ง จีน และอังกฤษ และเข้าใจความหมายแตกฉานทั้งสองภาษา ซึ่งเป็นภาษาหลักของโลก เรื่องอินเตอร์เนต เรื่องสื่อต่างๆ เขาทันการณ์ โดยเฉลี่ยก็จะตอบได้ว่า พวกมันฉลาดเป็นกรด การเล่นหุ้นย่อมมี แนวคิดรวบยอดที่ร้ายกาจ (คอนเซป)
ผมถามนาย หลี่ เพื่อนชาวหุ้นอายุน้อยกว่านายฝู่ นายหลี่ อายุแค่ ประมาณ 45 นายฝู่ 66 )ว่า เขาเล่นหุ้นดูปัจจัยพื้นฐานของกิจการเป็นหลักแล้วถือยาวๆ เหมือนที่เมืองไทยเราหรือเปล่า
นายหลี่บอกว่า --- ขอถามกลับว่าคุณจะเล่นหุ้นเพื่อเป้าหมายอะไร
ถ้าอยากเข้าไปเท็คโอเวอร์ ก็ต้องดูปัจจัยพื้นฐาน ไปรู้จักกับผู้บริหาร เหมือนนักลงทุนยิ่งใหญ่ของโลกอย่างคุณ ลินท์ คุณ บัพเฟอร์ เขาทำ แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในความคิดคุณ เป้าหมายสำคัญที่สุดคือ กำไรมากมายในเวลารวดเร็ว คุณก็ต้องค้นวิธีการแล้วทำให้ได้ มันเหมือนการทำมาหากินแบบหนึ่ง เหมือนคุณวางแผนทำกิจการ 2 ปีต้องกำไรเท่าใด 5 ปีต้องมีกำไร 8 เท่าของทุนเริ่มต้น การวางแผนเป็นเรื่องใหญ่ระดับมืออาชีพจริงๆ พวกเพ้อฝันมักไม่สำเร็จ ก็เหมือนทำการค้าแล้วขาดทุน เขาเล่าว่า อย่าเห็นการเล่นหุ้นเป็นเรื่องเล่นๆ จงคิดและทำอย่างอาชีพ อย่าเล่นแบบสนุกไปวันๆ รอวันที่หุ้นตนเองซื้อขึ้นแล้วก็ขาย เขาว่าพวกนี้เอาเปรียบคนร่วมวงการเดียวกัน เหมือนทำธุรกิจอย่างหนึ่ง เจ้าหนึ่งซื้อของตุนโดยรู้ของนั้นดี แต่ไม่รู้ว่าราคาที่ตุนจะขายได้กำไรสักเท่าใดใน ปีหน้า รอให้เป็นเรื่องโชคดวงกันไป แทนที่จะร่วมขบวนการทำโปรโมชั่น แล้วให้ราคาสินค้าตัวนั้นรีบขึ้น จะได้ขายเอากำไร แล้วซื้อสินค้าตัวใหม่มารอขายต่อ เขาว่าตลาดหุ้นเหมือนขายของในร้าน เซเว่น ถ้าตุนของนานเกินไปก็เสี่ยงต่อการบุดเน่าได้ คุณรู้จักเจ้าของธุรกิจที่คุณซื้อได้ลึกซึ้งอย่างไรว่าเขามือดี บริหารไม่พลาดไม่โกง อย่างเร็วๆนี้ ขนาดบริษัทยักษ์ของเมกา เอมรอน ยังโกงบัญชีสะเทือนทั่วโลก เขาว่ายิ่งใหญ่ยิ่งซ่อนเร้น ยิ่งเชื่อมั่นเขายิ่งถูกหลอกง่ายและเจ้งมาก
แหม...ความจริงมีเรื่องมาก เป็นความคิดของคนที่นั่นหลายมุมหลายแบบ เขายังบอกว่า ถ้าตลาดหุ้นทั้งตลาดมีแต่การเก็งกำไร แน่นอนความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจของชาติอาจถูกกระทบ แต่นั่นไม่ใช่หน้าที่ที่เราต้องมาถือหุ้นนานๆ มันเป็นภาระหน้าที่ของผู้บริหารตลาดต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาของชาติ ไม่ใช่คนเล่นหุ้น แต่คนเล่นหุ้นมีหน้าที่ทำตามกติกาที่ผู้บริหารวางไว้ ก็ถือว่าเหลือเฟือแล้ว
นี่คือประเด็นเล็กๆที่ผมเปิดมาให้เพื่อนชาวหุ้นออกความเห็น ตามประสาบ้านเราครับ
แล้วจะค่อยๆเพิ่มเรื่องราวต่อไป แค่นี้ก่อนครับ

จากคุณ : อยากเชือก - [ 16 ส.ค. 46 19:31:36 A:203.148.252.235 X:210.203.181.229 ]
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 24

โพสต์

เรื่องที่ไม่น่าเชื่อคือผู้ใหญ่ท่านนั้นเป็นประธานบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง แต่ไม่ขอเอ่ยนามนะครับ เพราะท่านอาจจะมีมุมมองการลงทุนที่ผมไม่ค่อยเข้าใจ ผมก็เลยไม่กล้าคุยกับท่านต่อไป

ไปนอนแล้ว พรุ่งนี้ประชุม 11.00 น.

ราตรีสวัสครับ คุณครู
milkshaq
Verified User
โพสต์: 127
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 25

โพสต์

โชคดีคร๊าบ คุณหมอเจ๋ง
ลุค
Verified User
โพสต์: 14
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 26

โพสต์

++++ ขอร่วมวงด้วยคนครับ (อาจจะนานๆได้มีเวลามาแวะพูดคุยกับท่านผู้รู้หลายๆท่านในนี้)

++++ ในกรณีที่ว่าเงินเย็น+ลงทุนระยะยาว ผมว่ามันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ.ขณะนั้นมากกว่า เพราะว่า
1. ถ้าคนที่มีเงินเย็น+ลงทุนระยะยาวได้เมื่อ set อยู่ที่ 1700 ถ้าไม่ cut loss ถือผ่านมากว่า 10 ปีไม่แน่ใจว่าราคาเวลานี้จะถึงทุนแล้วหรือยัง หลายปีที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยมีปันผลด้วย
2. ตัวอย่างคนเดิมนี่แหละ ถ้าเขา cut loss แล้วมาตั้งต้นใหม่อันไหนจะดีกว่า(ขอโทษครับไม่มีเจตนาจะขัดกับใครนะครับ เพียงอยากจะเสริมแง่มุมให้มองมากขึ้น)
ใดๆในโลกนี้ล้วนอนิจจัง !
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

ผมว่าทุกคนมีเงินเย็น

โพสต์ที่ 27

โพสต์

ผมขอใช้สิทธิพาดพิงนะครับ สำหรับผมแล้วระยะเวลาในการถือนั้นไม่สำหรับครับ สำคัญที่ว่าคุณลงทุนในบริษัทนั้นเพราะอะไร คุณได้ศึกษาเพียงพอหรือไม่ คุณคิดว่าราคาพื้นฐานควรอยู่ที่เท่าไรครับ บางครั้งซื้อเพียงอาทิตย์เดียวราคาขึ้นสูงกว่าราคาพื้นฐาน เราก็ควรที่จะขาย แต่บางที่ซื้อมาตั้งนานราคาไม่ไปไหนก็ไม่ขาย จากประสบการณ์ผมเคยถือหุ้นนานสุดก็เพียงประมาณ ปี 3 เดือน คือ WG (ปัจจุบันก็ยังถืออยู่ ไม่รู้จะได้ขายเมื่อไร ต้นทุนที่ 13.25 บาท) บางคนอาจจะประสบความสำเร็จในการเล่นสั้น บางคนอาจจะดีในการเล่นยาว แล้วแต่บุคคลครับ สำหรับผมในอดีตเคยเล่นสั้นแบบเก็งกำไร ซึ่งก็ประสบความสำเร็จมากครับ ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ แต่ผมก็เปลี่ยนวิธีการลงทุนครับ เพราะผมรู้สึกว่าการเก็งกำไรนั้นไม่มีอะไรที่แน่นอน ยิ่งอายุมากขึ้น Port มูลค่าสูงขึ้น ถ้าพลาดก็จะตั้งต้นใหม่ลำบาก การเก็งกำไรอาจทำให้คุณเสียหายสูงถึง 50% ก็ได้ แต่ถ้าคุณลงทุนแบบ VI โอกาสที่จะขาดทุนมากๆนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือว่า การเก็งกำไรนั้นทำให้ผมเป็นกังวล จิตใจไม่สงบ แต่การลงทุนในแบบ VI ที่เราศึกษาบริษัทมาอย่างดี ทำให้เราสามารถ sleep well ชีวิตมีความสุข ไม่ต้องนั่งเฝ้ากระดาน ไม่ต้องติดตามข่าวมากนัก มีชีวตส่วนตัวครับ และผมคิดว่าดีสำหรับครอบครัวผม ที่มีลูกเล็กๆ 2 คนครับ
ล็อคหัวข้อ